สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กรมอุตุ
นิยมวิทยา) เกี่ยวกับสรุปสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์ (ระหว่างวันที่ 19 - 25 กันยายน 2548) ลักษณะ
อากาศโดยทั่วไปของประเทศไทยมีฝนลดลง  หลังจากที่พายุโซนร้อน  "วีเซเต"  ได้อ่อนกำลังลงและสลายตัวใน
ประเทศพม่า ส่วนพายุดอมเรย (DAMREY) ที่มีแนวโน้มไปยังเกาะไต้หวันในระยะแรกเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อน
ตัวมาทางตะวันตกมากขึ้น  มีทิศทางการคเลื่อนตัวมุ่งเข้าหาเกาะไหหลำ  และชายฝั่งประเทศเวียดนาม สำหรับ
สภาวะอากาศ 7 วันข้างหน้า (ระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 2 ตุลาคม 2548) พายุ "ดอมเรย" มีศูนย์กลางอยู่
ที่เกาะไหหลำ คาดว่าจะเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และยังคงเคลื่อนตัวมาทางตะวันตก และจะขึ้นฝั่งประเทศเวียด
นามทางตอนใต้ของกรุงฮานอย ก่อนที่จะเคลื่อนตัวมาทางตะวันตกเข้าสู่ประเทศลาว และจะอ่อนกำลังลงอย่าง
รวดเร็ว โดยคาดว่าจะสลายตัวบริเวณเมืองหลวงพระบางทางด้านตะวันออกของจังหวัดน่าน

            คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ (งบกลาง) ตามแผนการช่วยเหลือ
เกษตรกรที่ประสบภาวะภัยแล้งหรือประสบอุทกภัยในช่วงสิงหาคม-กันยายน  2548  ของกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ (กรมชลประทาน) โดยให้ปรับแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับในปี
งบประมาณ พ.ศ. 2548  จากรายการที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2548  ของกรม
ชลประทานตามมาตรการและแนวทางเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ  (รายจ่ายลงทุน)  ที่คณะรัฐมนตรีได้
มีมติอนุมัติไปดำเนินการตามแผนการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภาวะภัยแล้ง  หรือประสบอุทกภัย  ตาม
ความเห็นของสำนักงบประมาณก่อน  ทั้งนี้  หากไม่เพียงพอ ให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
งบประมาณที่ได้รับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และขออนุมัติงบประมาณปี พ.ศ. 2549 (งบกลาง) ในส่วน
ที่ขาดต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) รายงานสรุปผลการ
ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรณีพิบัติ จังหวัดกระบี่ โดยได้เดินทางไปตรวจราชการและติดตามผลการ
ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ฯ  เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2548  ได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการ
ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ฯ   และได้สั่งการในการให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบภัย ฯ  โดยแนะนำให้ส่ง
เสริมอาชีพการเลี้ยงหอยมุก การร้อยสร้อยไข่มุก หรืองานอาชีพอื่น ๆ  ที่ใช้เทคโนโลยีส่วนการให้ความช่วย
เหลือผู้ประกอบอาชีพการประมง  กลุ่มเลี้ยงปลากระชัง   ควรพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามความเสียหาย
จริงตามที่ผู้ประกอบการร้องขอแต่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน  และกลุ่มเรือ Speed Boat  บริการนักท่องเที่ยว
ให้จังหวัดรวบรวมข้อมูลส่งรายงานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม การควบคุมแผงลอยบนเกาะพีพี
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมอย่างใกล้ชิด และให้ดูแลความสะอาดบนเกาะพีพีให้มากขึ้น รวมทั้งให้เร่งรัด
การของบประมาณค่าเรือบรรทุกขยะ   ตลอดจนควบคุมการออกเลขที่บ้านบนเกาะพีพี โดยห้ามมิให้มีการ
ออกเลขที่บ้านเพิ่มเติมโดยเด็ดขาดจนกว่าจะมีรูปแบบลงตัวและให้เร่งรัดการปลูกต้นไม้ให้มีความร่มรื่นสวย
งามทั้วบริเวณเกาะพีพี    ให้คณะกรรมการของจังหวัดกระบี่พิจารณาทบทวนสถานที่ก่อสร้างโรงเรียนเกาะ
พีพีและพิจารณาแบบแปลนที่เหมาะสมตามสภาพพื้นที่อีกครั้ง  สำหรับการสร้างแนวถนนเพื่อเป็นเส้นทาง
ปลอดภัยบนเกาะพีพี    ให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเร่งออกแบบ
และดำเนินการ     โดยยกเลิกแบบแปลนของโยธาธิการไปก่อน    นอกจากนี้    ได้สั่งกำชับให้ผู้ว่าราชการ
จังหวัดกระบี่   จัดกำลังชุดเฉพาะกิจตรวจสอบเรื่องเสื้อชูชีพประจำเรือตามที่กฎหมายกำหนดให้มีไว้บริการ
นักท่องเที่ยว สำหรับเรือทุกลำทุกประเภท ให้จับกุมปราบปรามกรณีทิ้งขยะลงในทะเล  การกระทำให้เกิด
มลภาวะ การบรรทุกนักท่องเที่ยวเกินพิกัด และไม่มีใบอนุญาตขับขี่เรือ ผู้ฝ่าฝืนให้จับกุม  และให้นำออกไป
จากเกาะ   โดยที่จังหวัดเห็นว่า  ควรเร่งรัดการออกแบบและดำเนินการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์บนเกาะพีพี
โดยเร่งด่วนเพื่อรองรับฤดูกาลท่องเที่ยวที่ใกล้จะถึง สำหรับเรื่องอุทธรณ์ของกลุ่มเลี้ยงปลาในกระชัง  เนื่อง
จากคณะกรรมการของจังหวัดเห็นว่า  ความเสียหายด้านพันธุ์ปลาไม่สามารถตรวจสอบได้  จึงให้ความช่วย
เหลือเฉพาะอุปกรณ์เท่านั้น

              สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กรม
อุตุนิยมวิทยา)  เกี่ยวกับสรุปสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์ (ระหว่างวันที่ 12-18 กันยายน 2548) พายุ
ดีเปรสชั่นที่ก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามผ่านประเทศลาวตอนล่างเข้าสู่ประเทศไทย
ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน ภาคกลาง 
และกรุงเทพมหานคร  อิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นส่งผลให้สถานการณ์ภัยแล้งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอนล่างและภาคตะวันออกเริ่มคลี่คลาย สำหรับสภาวะอากาศ 7 วันข้างหน้า (ระหว่างวันที่ 19-25 กันยายน 
2548)  พายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้ที่คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในระยะต่อไป   และคาดว่าจะ
เคลื่อนตัวมาทางตะวันตกขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามก่อนเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

              สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสถานการณ์
เศรษฐกิจอุตสาหกรรมประจำเดือนสิงหาคม  2548  ดังนี้  การผลิตอุตสาหกรรมอาหารเพื่อส่งออก
เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน  ในขณะที่แนวโน้มการส่งออกอาหารยังขยายตัวได้ เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น   
การผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม  มีการเติบโตขยายตัวต่อเนื่อง  การผลิตเหล็กมีการชะลอตัวลง เนื่อง
จากราคาเหล็กส่วนใหญ่ในตลาดโลกยังคงทรงตัวอยู่      ทำให้ผู้ซื้อชะลอการซื้อเพราะคาดการณ์ว่า
ราคาจะลดลงอีก  ส่วนอุตสาหกรรมรถยนต์ ในเดือนสิงหาคม  2548 ค่อนข้างทรงตัว อุตสาหกรรม
ปูนซีเมนต์ในเดือนกรกฎาคม 2548 การผลิตและการจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นตามภาวะธุรกิจก่อ
สร้าง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัว   แต่เดือนสิงหาคมและเดือนกันยายน  คาดว่า  การผลิต
และการจำหน่ายในประเทศมีแนวโน้มทรงตัว   เนื่องจากการชะลอการลงทุนของธุรกิจการก่อสร้าง
ในภาคเอกชน สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า คาดว่า อาจจะปรับตัวลดลงจากเดือนกรกฎาคม
จากปัจจัยราคาน้ำมัน  แต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตัวที่น่าจะยังมีการขยายตัว  ได้แก่  Semiconductor
ที่ใช้กับเครื่องเล่น MP3 และกล้องดิจิตอล ซึ่งยังมีความต้องการในตลาดสูง

                 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  
(กรมอุตุนิยมวิทยา)  สรุปสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์  (ระหว่างวันที่  5-10 กันยายน 2548)
ลักษณะอากาศโดยทั่วไปของประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะประเทศไทยตอนบน สำหรับ
สภาวะอากาศ  7 วันข้างหน้า (ระหว่างวันที่ 12-18 กันยายน 2548) พายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้จะ
เคลื่อนตัวขึ้นสู่ฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ลาว  และจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ของประเทศไทยจะทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับภาวะราคาขายปลีกสินค้า
อุปโภคประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนสิงหาคม 2548  (วันที่ 15-19 สิงหาคม 2548)  โดยสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น 
ได้แก่  ไก่สด  ราคาขายปลีกสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ  5.50  เนื่องจากความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น ส่วนสินค้าที่มี
ราคาลดลง ได้แก่ เหล็กแผ่นเรียบดำ ราคาขายปลีกลดลงเฉลี่ยร้อยละ 3.85  เนื่องจากมีการแข่งขันในด้าน
ราคา   และไข่ไก่  ราคาขายปลีกลดลงเฉลี่ยร้อยละ  6.78 มีสาเหตุมาจากปริมาณไข่ไก่ที่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น  
สำหรับสินค้าที่มีราคาทรงตัว  ได้แก่ ข้าวสารบรรจุถุง ผลิตภัณฑ์นม  น้ำมันพืช  น้ำส้มสายชูกลั่น  น้ำปลา  
น้ำซีอิ๊วผงชูรส ผลิตภัณฑ์ชำระล้าง แป้งผงโรยตัว ผ้าอนามัย และผักสด

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รายงานภาวะเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2/2548 และแนวโน้มปี 2548 สรุปดังนี้ เศรษฐกิจไตรมาสที่สองขยาย
ตัวร้อยละ 4.4  สูงกว่าการขยายตัวร้อยละ 3.2  ในไตรมาสแรก  โดยรวมในครึ่งปีแรกปี 2548  เศรษฐกิจ
ไทยขยายตัวร้อยละ 3.9 อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงเป็นร้อยละ 3.3  ในครึ่งปีแรกของปี  อุปสงค์ภายในประเทศ
เป็นส่วนประกอบสำคัญของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในครึ่งปีแรก การส่งออกแสดงแนวโน้มการปรับตัว
ดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้ากุ้งและไก่   สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปี  2548  การขยายตัว
ของเศรษฐกิจถึงจุดต่ำสุดในไตรมาสแรก และมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง มาตรการที่ช่วยสนับ
สนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลัง ได้แก่ การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบรัฐบาล กองทุน SML การ
เพิ่มค่าจ้างแรงงานและเงินเดือนข้าราชการ  การสนับสนุนการใช้  NGV   การปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันดี
เซล  และจัดศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix Center) จำนวน 2,000 หมู่บ้าน ส่วนปัจจัยเสี่ยง/ข้อจำกัดต่อ
เศรษฐกิจที่ต้องระมัดระวังในช่วงครึ่งหลังของปี ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยมีปัญหาการขาด
ดุลบัญชีเดินสะพัด และการขาดดุลการคลังของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบที่สูบขึ้นมาก การเพิ่มขึ้น
ของอัตราดอกเบี้ยในครึ่งหลังของปี   น้ำแล้ง  การสะสมสินค้าคงคลัง    และจากการทบทวนเงื่อนไขทาง
เศรษฐกิจทั้งที่เป็นบวกและลบ  จึงได้ปรับประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจปี  2548 จากร้อยละ 4.5-
5.5 เป็นร้อยละ 3.8-4.3  อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในช่วงร้อยละ 4.0-4.4  และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
ประมาณร้อยละ 1.9-2.4 ของ GDP

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 
(กรมอุตุนิยมวิทยา) เกี่ยวกับสรุปสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์ (ระหว่างวันที่  29  สิงหาคม - 4  
กันยายน 2548) ลักษณะอากาศโดยทั่วไปของประเทศไทยมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป กับมีฝนหนักถึง
หนักมากบางพื้นที่  สำหรับสภาวะอากาศ 7 วันข้างหน้า (ระหว่างวันที่ 5 - 11 กันยายน  2548) ร่อง
ความกดอากาศต่ำ หรือร่องฝนพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียง
เหนือทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางพื้นที่  และให้
ระมัดระวังอันตรายจากพายุใต้ฝุ่น "นาบี" (Nabi) ซึ่งกำลังจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศญี่ปุ่น

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือ 3 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย มาตรการให้ความช่วยเหลือด้านภาษีและค่าธรรมเนียม อาทิ ลดค่าธรรม
เนียมในการจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจดจำนองอสังหาริม
ทรัพย์ เป็นต้น  มาตรการยกเว้นเบี้ยปรับให้แก่ผู้ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง โดยยกเว้นเบี้ยปรับให้
แก่ผู้ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างกรณีที่รับเหมาก่อสร้างให้ส่วนราชการ  รัฐวิสาหกิจ  และหน่วยงาน
อื่นของรัฐ  ที่ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามระยะเวลาที่กำหนด  และมาตรการให้ความช่วยเหลือ
ด้านการเงิน  โดยให้บริการทางการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม  และมอบให้กระทรวงมหาดไทยดำเนิน
การตามมาตรการดังกล่าวในส่วนที่เกี่ยวข้อง และให้รับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้  มาตรการช่วยเหลือดังกล่าวที่กระทรวงการคลังเสนอเกี่ยวข้องกับการ
ดำเนินงานของหน่วยงานภายในกระทรวงการคลัง  และกระทรวงมหาดไทย   จึงควรมีการประสานงาน
และเร่งรัดการปฏิบัติให้เห็นผลโดยเร็ว และมีการติดตามประเมินผลการปฏิบัติเพื่อนำมาปรับปรุงมาตร
การและแนวทางปฏิบัติให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมและสถานการณ์ในพื้นที่ นอกจาก
นี้ ให้เร่งรัดการประชาสัมพันธ์ให้ภาคเอกชนและภาคประชาชนได้รับทราบมาตรการขยายการให้ความ
ช่วยเหลือดังกล่าว  เพื่อกระตุ้นให้เข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนและการประกอบการให้เห็นผล  รวมทั้ง
ให้เห็นถึงความจริงจังของรัฐบาลและทางราชการในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมในพื้นที่

               สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลภาวะราคาขายสินค้าอุปโภคบริโภค ประจำสัปดาห์ที่ 2
เดือนสิงหาคม 2548  (วันที่ 8-11 สิงหาคม 2548)  ของกระทรวงพาณิชย์  โดยสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น  ได้แก่
ไก่สด  ราคาขายปลีกสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.81  เนื่องจากผู้เลี้ยงชะลอการจำหน่าย  โดยคาดหวังว่าราคาจะสูง
ขึ้นในช่วงเทศกาลสารทจีน และเส้นหมี่อบแห้ง ราคาขายปลีกสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5.17 มีสาเหตุจากราคาวัตถุ
ดิบปรับตัวสูงขึ้น  ส่วนสินค้าที่มีราคาลดลง  ได้แก่ ไ ข่ไก่  ราคาขายปลีกลดลงเฉลี่ยร้อยละ 3.28  เนื่องจากมี
ปริมาณไข่ไก่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น  สำหรับสินค้าที่มีราคาทรงตัว ได้แก่ ข้าวสารบรรจุถุง  ผลิตภัณฑ์นม  น้ำปลา
น้ำซีอิ๊ว ผลิตภัณฑ์ชำระล้าง แป้งผงโรยตัว และผักสด

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 
เลขานุการคณะกรรมการติดตามมาตรการเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2548   รายงานผลการประชุม
คณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 2/2548 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2548  สรุปดังนี้ การดำเนินงานในส่วนของกลุ่มที่
1  ดำเนินการแล้วและมีผลเป็นรูปธรรม  โดยที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ  ที่เกี่ยวข้องรับ
ไปดำเนินการ  อาทิเช่น  การปรับราคาน้ำมันดีเซลให้สะท้อนต้นทุนราคาน้ำมันที่แท้จริง  (มาตรการที่ 1)
ให้กระทรวงพลังงานประเมิน และรายงานผลกระทบของมาตรการปรับราคาน้ำมันดีเซล การสนับสนุนให้
ภาคเอกชนปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้เหมาะสมกับภาวะค่าครองชีพ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย การเพิ่ม
รายได้จากสินค้าเกษตร โดยการขยายตลาดต่างประเทศและส่งเสริมการบริโภค  โดยให้กระทรวงพาณิชย์
ติดตาม  และรายงานความคืบหน้าแผนการผลิตสินค้าเกษตรที่จะนำมาทำการค้าแบบแลกเปลี่ยนในระยะ
5  ปีข้างหน้า  และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดตามรายงานสถานการณ์ผลผลิตยางพารา  และผลิต
ภัณฑ์ยาง  และพืชผลไม้สำคัญ  ๆ สำหรับฤดูกาลต่อไป  เป็นต้น  สำหรับกลุ่มที่  2  ต้องเร่งรัดดำเนินการ 
อาทิเช่น  การปรับเพิ่มฐานเงินเดือนข้าราชการขึ้นร้อยละ 5  โดยยังคงเงินค่าส่วนเพิ่มที่รัฐบาลได้ปรับเพิ่ม
ให้ก่อนหน้านี้แล้ว    และรวมถึงการปรับฐานเงินเดือนของข้าราชการบำนาญ ร้อยละ 5  (มาตรการที่ 2)
ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการพิจารณาร่างกฎหมาย เกี่ยวกับการปรับฐานเงินเดือน และเงินช่วยเหลือค่า
ครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) ของผู้รับบำนา ญ ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ดำเนินการในส่วนของการปรับเพิ่มฐานเงินเดือนข้าราชการ  เป็นต้น  และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอเพิ่มเติมว่า  ในการดำเนินการตามมาตรการสร้างเสถียรภาพ
ทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2548 กลุ่มที่ 1  ขยายการให้เบี้ยยังชีพคนชราผู้ยากไร้ 300 บาท/คน
/เดือนให้ครบทุกคน  (จาก  530,000  คน เป็น  1.07  ล้านคน)  ในมาตรการที่ 15 นั้น  กระทรวงการ
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ถ่ายโอนภารกิจดังกล่าวให้กระทรวงมหาดไทยแล้ว และเห็นชอบ
ให้กระทรวงที่รับผิดชอบแต่ละมาตรการทั้งในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่  2  เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จและมี
ผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วภายในเดือนธันวาคม 2548

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 22-28
สิงหาคม 2548 ของกรมอุตุนิยมวิทยา  โดยช่วงดังกล่าวลักษณะอากาศทั่วไปของประเทศไทยมีฝนตกชุก โดย
เฉพาะในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก  สำหรับสภาวะอากาศ
7  วันข้างหน้า  ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม-4  กันยายน  2548  พายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้จะเคลื่อนขึ้นฝั่ง
เหนือเมืองดานังประเทศเวียดนาม  และจะอ่อนกำลังลงเป็นความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอน
บน และประเทศลาว ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนัก

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลการตรวจราชการเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและ
การช่วยเหลือราษฎรในเขตตรวจราชการที่ 1 (จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย  แม่ฮ่องสอน  ลำพูน  ลำปาง  แพร่
น่าน และพะเยา) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2548 ของรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ) สรุปได้ดังนี้
จังหวัดเชียงใหม่  สถานการณ์โดยรวมอยู่ในภาวะปกติ  สามารถระบายน้ำออกจากบริเวณน้ำท่วม โดยเฉพาะ
ไนท์บาร์ซาร์  และตลาดวโรรส  เป็นต้น  โดยทางจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ประสบอุทกภัยทุก
รายแล้ว  และกำลังเร่งสำรวจความเสียหายทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้ความช่วยเหลือในระยะ
ต่อไป  ส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน  สถานการณ์โดยรวมเข้าสู่ภาวะปกติ  ถนนทุกสายสามารถใช้การได้เป็นปกติ
ในกรณีที่มีผู้เสียชีวิต ได้ให้ความช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว   ส่วนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง จำนวน
40 หลังคาเรือน  หรือเสียหายบางส่วน จำนวน 120 หลังคาเรือน ทางราชการได้ให้ความช่วยเหลือหมดแล้ว
สำหรับจังหวัดเชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา  แพร่  และน่าน  สถานการณ์อยู่ในภาวะปกติ ระดับน้ำตามแม่
น้ำสายต่าง ๆ  ยังอยู่ในระดับปกติ  โดยจังหวัดที่เกิดน้ำท่วมเล็กน้อยได้ให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องอุปโภค บริโภค
ต่าง ๆ ไปแจกจ่ายแก่ราษฎรแล้ว รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือกรณีที่เกิดอุทกภัย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้กรมชลประทาน
ใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง  รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ
จำเป็น   ในวงเงิน  284.70  ล้านบาท    เพื่อดำเนินโครงการตามมาตรการเสริมเพื่อแก้ไขปัญหาการขาด
แคลนน้ำภาคตะวันออก  ทั้งนี้  ให้กรมชลประทานตรวจสอบและทบทวนความเป็นไปได้ของโครงการ ตาม
ความเห็นของคณะรัฐมนตรีให้ชัดเจนก่อนแล้วให้ขอตกลงในรายละเอียดด้านการเงินกับสำนักงบประมาณ
เพื่อดำเนินการตามความจำเป็นต่อไป  ดังนี้ กรมชลประทานจะต้องคำนวณและตรวจวัดปริมาณน้ำในอ่าง
เก็บน้ำหนองปลาไหล และอ่างเก็บน้ำดอกกรายให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากที่สุด  เช่น  ปริมาณน้ำไหล
เข้าในอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่ง   จากภาวะฝนตก   และระยะเวลาที่จะมีน้ำใช้ต่อไปได้จนถึงจุดวิกฤติ  เป็นต้น
เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องต่อไป    ส่วนน้ำในแม่น้ำระยองไหล
มาจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล  และดอกกราย   แต่ก็ได้มีการสูบน้ำไปใช้ระหว่างทางที่คลองทับมา และ
มาบข่าอยู่ก่อนแล้วส่วนหนึ่ง     หากจะดำเนินโครงการเพื่อสูบน้ำจากลำน้ำดังกล่าวกลับไปเติมในอ่างเก็บ
น้ำเพิ่มขึ้นอีก    อาจจะทำให้เกิดปัญหาปริมาณน้ำไม่พอเพียงสำหรับการสูบกลับได้   รวมทั้งต้องคำนึงถึง
ความต้องการใช้น้ำจากลำน้ำดังกล่าวของเกษตรกรและประชาชนโดยทั่วไปด้วย  และการดำเนินโครงการ
ต่าง ๆ   ของกรมชลประทานในครั้งนี้จะต้องพิจารณาให้สอดคล้องเชื่อมโยงกับแนวทางการดำเนินการแก้
ไขปัญหาน้ำภาคตะวันออก ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2548 (เรื่อง  การบริหารจัดการ
น้ำ การแก้วิกฤติน้ำภาคตะวันออก) ไว้แล้วด้วย  และอนุมัติในหลักการให้กรมชลประทานสามารถดำเนิน
การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีกรณีพิเศษ เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยา
ยน 2548

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15-21
สิงหาคม 2548 ของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยช่วงดังกล่าวลักษณะอากาศทั่วไปของประเทศไทยมีฝนตกหนักถึง
หนักมาก โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สำหรับสภาวะอากาศ  7  วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่  1-7  สิงหาคม  2548   ร่องความกดอากาศต่ำ หรือร่องฝนจะยังคงพาดผ่านตอนบนของภาค
เหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเกือบตลอดสัปดาห์ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเล
อันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

          สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัย
ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ณ  วันที่  22  สิงหาคม  2548   โดยสถานการณ์น้ำท่วมในหลาย ๆ 
จังหวัดของลุ่มน้ำสาละวิน ลุ่มน้ำกก ลุ่มน้ำวัง ลุ่มน้ำปิง ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำน่านและลุ่มน้ำชี ได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว  
ในส่วนของลุ่มน้ำโขงยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่  แม่น้ำโขงมีระดับน้ำหนุนสูงทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วม
พื้นที่เกษตรกรรมสองฝั่งลำห้วยสาขาต่าง ๆ  กรมชลประทาน  โดยโครงการชลประทานจังหวัดได้ประสานงาน
กับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามสถานการณ์   การแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังและป้องกัน
ปัญหาล่วงหน้าแล้ว  สำหรับพื้นที่ประสบภัยด้านการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ และกรมประ
มง   ได้รายงานความเสียหายจากการสำรวจเบื้องต้น   (ยังไม่ครบทุกพื้นที่)   มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม   18  
จังหวัด   แบ่งเป็นภาคเหนือ 10 จังหวัด  และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  8  จังหวัด  พื้นที่การเกษตรประสบภัย 
356,879.50  ไร่  ด้านพืช  เกษตรกร  47,567  ไร่   พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย  304,309.50  ไร่   ด้านปศุสัตว์  
เกษตรกร 10,924 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 250,248 ตัว ด้านประมง เกษตรกร 4,009 ราย พื้นที่ 1,301.25  
ไร่  1,044  บ่อ   เมื่อสถานการณ์อุทกภัยเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  ได้สั่งการให้หน่วยงานในระดับจังหวัดเร่งสำรวจ
ความเสียหายที่แท้จริงเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรตามขั้นตอนต่อไป    ทั้งนี้  ได้มอบหมายผู้ตรวจราชการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในเขตรับผิดชอบ ดำเนินการซักซ้อมความเข้าใจในการให้ความช่วยเหลือ การวาง
แผนปฏิบัติและแผนการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น แผนระยะกลาง และระยะยาวกับจังหวัดที่เกี่ยวข้องและเมื่อ
น้ำลดลงแล้วให้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือโดยใช้เงินทดรองราชการเป็นอันดับแรกแล้ว

              ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2548 นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาเกี่ยวกับกรณี
ที่มีใบปลิวข่มขู่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ให้หยุดประกอบอาชีพในวันศุกร์ ซึ่งเหตุ
การณ์ดังกล่าว  ทำให้เกิดผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพปกติของประชาชนในพื้นที่จังหวัด
ดังกล่าว  ดังนั้น  เพื่อให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกลับคืนสู่ภาวะปกติดโดยเร็วที่สุด  จึงควรมีรัฐมนตรีผลัดเปลี่ยน
หมุนเวียนไปตรวจราชการ โดยเฉพาะการตรวจดูสถานการณ์การค้าขายของตลาดในพื้นที่  3  จังหวัดภาคใต้
ในวันศุกร์ ทั้งนี้ ให้ประสานงานกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเนวิน ชิดชอบ) ต่อไปด้วย

               สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 
(กรมอุตุนิยมวิทยา)  เกี่ยวกับสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์  (ระหว่างวันที่ 8-14 สิงหาคม 2548) 
ลักษณะอากาศโดยทั่วไปของประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมาก    โดยเฉพาะในภาคเหนือ    และภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่  สำหรับสภาวะอากาศ 7 วันข้างหน้า 
(ระหว่างวันที่ 15-21 สิงหาคม 2548)  คาดว่าร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนจะพาดผ่านภาคเหนือ
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    ยังคงมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์เกือบทั่วไป   กับมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอด
สัปดาห์

              สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลภาวะราคาขายสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 3
เดือนกรกฎาคม 2548  (วันที่ 18-20 กรกฎาคม 2548)  ของกระทรวงพาณิชย์  โดยสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น
ได้แก่ ไข่เป็ด ราคาขายปลีกสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5.19 เนื่องจากปริมาณไข่เป็ดเข้าสู่ตลาดลดลง  ส่วนสินค้าที่
มีราคาลดลง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เหล็ก  (เหล็กเส้น  เหล็กแผ่นเรียบดำ  และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ)  ราคา
ขายปลีกลดลงเฉลี่ยร้อยละ 0.21-1.47 เนื่องจากราคาวัตถุดิบปรับตัวลดล และความต้องการใช้ลดลง และ
สินค้าที่มีราคาทรงตัว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำซีอิ๊ว สบู่ แชมพู และผักสด เป็นต้น