ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 76 จากทั้งหมด 84 หน้า แสดงรายการที่ 1501 - 1520 จากข้อมูลทั้งหมด 1664 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1501 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 สภาผู้เเทนราษฎร และวุฒิสภา | นร.07 | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
สภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย ๑) ภาพรวมการจัดการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ และ ๒) การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จำแนกตามกระทรวงและหน่วยงาน
และรายงานสรุปผลการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
วุฒิสภา ประกอบด้วย ๑)
นโยบายการจัดการและภาพรวมการจัดการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และ
๒) การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จำแนกตามกระทรวงและหน่วยงาน
และแผนบูรณาการ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1502 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 12 (The 12th ASEAN Ministers Meeting on Rural Development and Poverty Eradication) และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | มท. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนครั้งที่
๑๒ (The 12th ASEAN Ministers Meeting on
Rural Development and Poverty Eradication : การประชุม AMRDPE
ครั้งที่ ๑๒) และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเห็นชอบต่อเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมฯ
ประกอบด้วย (๑)
รายงานของประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนเสนอต่อการประชุม
AMRDPE ครั้งที่ ๑๒ และ (๒) แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุม AMRDPE ครั้งที่ ๑๒ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยนำผลการประชุมฯ
ไปปฏิบัติเพื่อติดตามความคืบหน้าต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒.
ในการดำเนินการจัดทำเอกสารใด ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศในครั้งต่อไปที่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป
ให้กระทรวงมหาดไทยถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๕ (เรื่อง
การทำความตกลงกับต่างประเทศ การทำอนุสัญญา และสนธิสัญญาต่าง ๆ) และวันที่ ๓๐
มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
อย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1503 | ขอความเห็นชอบกู้ยืมเงินเพื่อสำรองเผื่อสภาพคล่องขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย | กษ. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกู้ยืมเงินเบิกเกินบัญชีเพื่อสำรองเผื่อสภาพคล่องทางการเงินขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย
โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกันจำนวน ๒๕๐ ล้านบาท ระยะเวลา ๑ ปี
นับตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๒๗/๖๐๓
ลงวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๔) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ นร ๑๑๒๔/๖๗๗๒ ลงวันที่ ๑๗
พฤศจิกายน ๒๕๖๔) ที่จะต้องกระทำด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงความคุ้มค่า
ความสามารถในการชำระหนี้ รวมถึงให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะโดยเคร่งครัด
เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๒
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1504 | รายงานเสนอต่อคณะรัฐมนตรีกรณีหน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 | สผผ. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานกรณีหน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด
๕หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
เรื่องคุณภาพและการคุ้มครองอาชีพมัคคุเทศก์ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในประเด็นปัญหา
เช่น กรณีการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพรางหรือนอมินีเข้ามาประกอบธุรกิจนำเที่ยว
เนื่องจากช่องว่างและการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลัง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) กระทรวงแรงงาน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินรับข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินและความเห็นของกระทรวงยุติธรรม
กระทรวงแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ที่เห็นว่า หากร่างพระราชบัญญัติการข้อมูลผู้ที่ได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง พ.ศ.
....
มีผลใช้บังคับจะสามารถช่วยแก้ปัญหาที่คนต่างด้าวใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพรางหรือนอมินีประกอบธุรกิจนำเที่ยว
เพื่อหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจนำเที่ยวของคนต่างด้าว พ.ศ.
๒๕๔๒ ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากจะมีการกำหนดบทลงโทษผู้ที่แจ้งขอข้อมูลอันเป็นเท็จเพิ่มขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ตามหน้าที่และอำนาจให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วภายในปี ๒๕๖๕ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1505 | ร่างกฎกระทรวงการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน บุคลากร หน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อดำเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. .... | รง. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวงการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน
บุคลากร หน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อดำเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ
พ.ศ. .... ของกระทรวงแรงงาน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขสำหรับนายจ้างในการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน บุคลากร
หน่วยงาน หรือคณะบุคคล เพื่อดำเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ
โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเป็นกลไกในการกำกับ ดูแล
และบริหารจัดการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพลังงาน ที่เห็นว่ากำหนดให้นายจ้างแต่งตั้งผู้แทนนายจ้างระดับบังคับบัญชาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับเทคนิคชั้นสูงหรือระดับวิชาชีพ
จำนวนหนึ่งคน แล้วแต่กรณี เป็นกรรมการความปลอดภัยและเลขานุการนั้น
อาจทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ในทางปฏิบัติ และการกำหนดให้มีการทบทวนคู่มือว่าด้วยความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของหน่วยงานอย่างน้อยทุกหกเดือนเป็นช่วงเวลาที่ถี่เกินไป
และการกำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างซึ่งผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรผู้บริหารความปลอดภัยและต้องไม่เป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพ
เป็นผู้บริหารหน่วยความปลอดภัยนี้
อาจส่งผลกระทบต่อสถานประกอบกิจการปิโตรเลียมที่มีจำนวนพนักงานน้อย ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับมติที่ประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่
๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๔ รวมทั้งความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สภาคณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์แห่งประเทศไทย
และสภาสถาบันการศึกษาและเครือข่ายวิชาชีพอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ที่เห็นควรให้ดำเนินการตามมติที่ประชุมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับข้อคัดค้านร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้
เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๔ ตามข้อ ๓
และการควบคุมคุณภาพของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานตามร่างข้อ ๒๑ (๓)
ต้องเป็นอย่างเข้มงวด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานมีคุณภาพ
และเกิดประโยชน์สูงสุดตามเป้าประสงค์ของพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
พ.ศ. ๒๕๕๔ ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1506 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำและเศรษฐกิจชุมชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา | สว. | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง
แนวทางส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำและเศรษฐกิจชุมชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน
ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
แล้ว
สรุปว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดสรรงบประมาณสำหรับการเข้าร่วมประสานงานและข้อมูลประกอบการดำเนินงานของชุมชน
รวมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเพิ่มสัดส่วนงบประมาณสำหรับการบริหารจัดการน้ำเพื่อกระจายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านแหล่งน้ำให้กับชุมน
โดยมีการนำเสนอแผนงานผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการลุ่มน้ำเพื่อให้มีความสอดคล้องกับการพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำในภาพรวม
และได้ดำเนินการจัดทำคู่มือด้านการบริหารทรัพยากรน้ำ
การพัฒนาแหล่งน้ำที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ที่สภาพภูมิประเทศต่าง ๆ
สำหรับใช้เป็นแนวทางในการถ่ายทอด/ขยายผลองค์ความรู้สู่ชุมชนที่อยู่นอกเขตพื้นที่ชลประทาน
รวมทั้งกรมพัฒนาที่ดินได้ดำเนินโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทานดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๔๘ –ปัจจุบัน โดยเป็นการขุดสระน้ำขนาด ๑,๒๖๐ ลูกบาศก์เมตรในพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในช่วงฝนทิ้งช่วง
โดยได้ดำเนินการมากกว่า ๖๑๓,๒๒๐ ครัวเรือน
ตลอดจนกรมชลประทานได้มีแผนการพัฒนาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน
ตามยุทธศาสตร์กรมชลประทาน ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1507 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง บทบาทตลาดทุน (Capital Market) ต่อเศรษฐกิจประเทศไทย ของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา | สว. | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
บทบาทตลาดทุน (Capital Market) ต่อเศรษฐกิจประเทศไทย ของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง
วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงการคลังได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ
การเงิน และการคลัง วุฒิสภา เรื่อง บทบาทตลาดทุน (Capital Market) ต่อเศรษฐกิจประเทศไทยแล้ว โดยผลการพิจารณาสรุปได้ว่าปัจจุบันการดำเนินการของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับบทบาทตลาดทุน
(Capital Market) ต่อเศรษฐกิจประเทศไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
แล้ว เช่น
ผลักดันให้ภาคธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์มีระบบดิจิทัลเป็นความปกติใหม่ตลอดกระบวนทางธุรกิจ
ส่งเสริมความรอบรู้ทางการเงิน (Financial Literacy)
ผลักดันให้ภาคประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการออมที่มีภาคปฏิบัติอย่างจริงจังและผลักดันให้ภาครัฐระดมทุนผ่าน
Infrastructure Fund และทรัสต์ เพื่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1508 | ร่างกฎหมายการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินเยียวยา เงินช่วยเหลือ เงินสนับสนุน เงินอุดหนุน และประโยชน์อื่นใดที่ได้รับจากโครงการภาครัฐอันเนื่องมาจากการบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | กค. | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา ๓๓
ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
และโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ของกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ๒. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่
.. พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้เงินได้ที่ผู้มีเงินได้ได้รับเป็นเงินเยียวยา
เงินช่วยเหลือ เงินสนับสนุน เงินอุดหนุน
หรือประโยชน์อื่นใดที่ได้รับจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการกำลังใจ
โครงการทัวร์เที่ยวไทย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ระยะที่ ๓ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ ๑ ระยะที่ ๒ และระยะที่ ๓ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
โครงการเราชนะ โครงการ ม๓๓ เรารักกัน โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา ๓๓
ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ของกระทรวงศึกษาธิการ และโครงการส่งเสริมรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ของกรมการจัดหางานกระทรวงแรงงาน
เป็นเงินได้พึ่งประเมินที่ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ รวม ๒ ฉบับ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่ควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ..ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1509 | รัฐบาลสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานประจำประเทศไทย (นายอีร์ฟัน ชากีร์ โอกลู ดาวูดอฟ) | กต. | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายอีร์ฟัน ชากีร์ โอกลู
ดาวูดอฟ (Mr. Irfan Shakir oglu Davudov) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจแห่งสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย สืบแทน นายกาเลย์ อะลีเยวิช
อัลลาห์เวียร์ดีเยฟ (Mr. Galey Aliyevich
Allahverdiyev) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1510 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตร พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | พณ. | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่ม
(ค่าปรับ) ร้อยละยี่สิบของค่าธรรมเนียมการต่ออายุการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง และเครื่องหมายร่วม
ซึ่งเจ้าของเครื่องหมายดังกล่าวต้องชำระเพิ่มในกรณีที่ไม่ได้ต่ออายุการจดทะเบียนภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
และร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตร
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่ม (ค่าปรับ) ร้อยละสามสิบของค่าธรรมนียมรายปี
ซึ่งรียกเก็บจากผู้ทรงสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรซึ่งไม่ได้ชำระค่าธรรมเนียมรายปีภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งแจ้งกระทรวงการคลังจัดทำประมาณการรายได้
เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน ตลอดจนรายงานและติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานเป็นระยะ
ๆ และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1511 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 3/2565 | นร.11 สศช | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติและเห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุมครั้งที่
๓/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๕ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ระยะที่ ๔ ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง กรอบวงเงิน ๘,๐๗๐.๗๒๔๒ ล้านบาท
และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ ๒
กรอบวงเงิน ๑,๓๕๑.๙๘๑๒ ล้านบาท อนุมัติโครงการคนละครึ่ง
ระยะที่ ๔ ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง กรอบวงเงิน ๓๔,๘๐๐ ล้านบาท และมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ดำเนินการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความเข้าใจและรับทราบถึงวัตถุประสงค์ของโครงการฯ
พิจารณาปรับปรุงจำนวนกลุ่มเป้าหมายและวงเงินของโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
ระยะที่ ๒ พิจารณากำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการกำกับและติดตามการดำเนินโครงการ เพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากการดำเนินโครงการโดยมิชอบได้
รวมทั้งอนุมัติโครงการเราเที่ยวด้วยกันของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรอบวงเงิน ๙,๐๐๐ ล้านบาท โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ระยะที่ ๔ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
ระยะที่ ๒ และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ ๔ และให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายสัปดาห์ เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะสามารถจัดหาเงินกู้
พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ ๑๕ ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
อย่างเคร่งครัดตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
และพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
ดำเนินการประชาสัมพันธ์การดำเนินโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
และพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยเฉพาะในส่วนของผลลัพธ์และผลสัมฤทธิ์ เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีความเข้าใจและรับทราบถึงข้อมูลของโครงการอย่างชัดเจนและทั่วถึง
ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการกำกับติดตามการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าหน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์
ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้ถูกต้องครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกณฑ์อัตราค่าใช้จ่าย
และมาตรฐานของทางราชการอย่างประหยัด เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรับรู้
ความเข้าใจ ในมาตรการที่ถูกต้องให้กับประชาชน
ตลอดจนให้ความสำคัญกับการติดตามและประเมินผลโครงการ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1512 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1/2565 | นร.11 สศช | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบ
ของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕
เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๕ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ (๒) สถานการณ์เศรษฐกิจล่าสุด (๓) สถานการณ์การท่องเที่ยวและความคืบหน้าในการเปิดรับนักท่องเที่ยว และ (๔) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี และมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการตามมติคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเร็วต่อไป
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) เสนอ ๒.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1513 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา | สว. | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค
ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณารายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา โดยเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว
และรายงานว่าได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่ง คสช. ๑๙/๒๕๖๐
เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๐
เพื่อกำหนดให้อำนาจในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามกฎหมาย
ว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัด
รวมถึงการจัดกรอบอัตรากำลังที่เหมาะสม
และมีการบูรณาการฐานข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการการศึกษา
โดยรวบรวมข้อมูลพื้นฐานด้านการศึกษา เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ
และมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางและความเหมาะสมพร้อมให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในเรื่องของการจัดการโครงสร้างองค์กรทางการศึกษาโดยมุ่งเน้นการจัดโครงสร้างที่มีบทบาท
ภารกิจ หน้าที่และอำนาจที่มีความเหมาะสมขับเคลื่อนการบริหารและการจัดการศึกษาทุกระดับ
และรัฐบาลควรมีมาตรการส่งเสริมความร่วมมือในการบูรณาการฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และควรกำหนดนโยบายในการสร้างความร่วมมือในการบริหารจัดการศึกษาที่สอดรับกับทักษะอาชีพที่เป็นไปตามความต้องการของตลาดงาน
รวมทั้งควรพิจารณาให้มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย
เพื่อความเป็นธรรมและเป็นมาตรฐานแห่งวิชาชีพ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1514 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 2/2565 | นร.04 | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๕ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๕ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์และแนวโน้มการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒) มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19
สำหรับการจัดงานในช่วงเทศกาลตรุษจีน (๓) รายงานความก้าวหน้าการนำเข้าแรงงาน ๓ สัญชาติ (๔) การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร
และมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด (๕) การปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร
(๖) แผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ (๗)
การขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ ๑๖) และ (๘)
ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1515 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามรายงานคู่ขนานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ตามกระบวนการ Universal Periodic Review รอบที่ 3 | สนง. กสม. | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามรายงานคู่ขนานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทย
ตามกระบวนการ Universal Periodic Review รอบที่ ๓ เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๒๔๗ วรรคสอง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔๓ วรรคหนึ่ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1516 | การขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร | นร.08 | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ จนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ๒. เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่
๑๖) และร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง การให้ข้อกำหนด ประกาศ
และคำสั่งนายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ รวม ๓ ฉบับ
ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1517 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 | กษ. | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรสำหรับปีสิ้นสุดวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบกระแสเงินสด
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองงบการเงินดังกล่าวแล้ว
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดดำเนินการเพื่อนำเสนอรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรสำหรับปีสิ้นสุดวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ และวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔
ต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1518 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการค่าก่อสร้างอาคารสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดสตูล พร้อมอาคารชุดพักอาศัยและสิ่งก่อสร้างประกอบ | ตผ. | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการค่าก่อสร้างอาคารสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดสตูล
พร้อมอาคารชุดพักอาศัยและสิ่งก่อสร้างประกอบที่ผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕ ณ
สถานที่ดำเนินการก่อสร้าง ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล เป็น
“รายการค่าก่อสร้างอาคารสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดสตูล
พร้อมอาคารชุดพักอาศัยและสิ่งก่อสร้างประกอบ ผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖ ณ
สถานที่ดำเนินการก่อสร้าง ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล” ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ
และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ควรปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน ไปดำเนินการด้วย ๒.
ในการดำเนินแผนงาน/โครงการของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินในครั้งต่อไปขอความร่วมมือให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง
การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ)
และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง การตรวจสอบและจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ)
อย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1519 | การขออนุญาตทำไม้บริเวณป่าที่เปิดใช้ที่ดินเพื่อทำประโยชน์ กรณีการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช (ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 เรื่อง ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2513 เพื่อขอกันพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบริเวณที่กรมป่าไม้อนุมัติให้องค์การสวนยางเข้าทำประโยชน์เพื่อใช้ในกิจการสวนยาง จังหวัดนครศรีธรรมราช) | กษ. | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เพิ่มข้อความดังต่อไปนี้เป็นข้อ
๓ ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๒ (เรื่อง ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๓
เพื่อขอกันพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบริเวณที่กรมป่าไม้อนุมัติให้องค์การสวนยางเข้าทำประโยชน์
จังหวัดนครศรีธรรมราช สำหรับดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช) “๓.
เห็นชอบให้การยางแห่งประเทศไทยเป็นผู้นำไม้ยางพาราที่การยางแห่งประเทศไทยได้ปลูกขึ้นเองออกจากพื้นที่ดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
แล้วส่งมอบพื้นที่ให้กับกรมชลประทานโดยเร็วเพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ ต่อไป” ทั้งนี้
ให้การยางแห่งประเทศไทยดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(หนังสือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด่วนที่สุด ที่ ทส ๐๒๒๐.๒/๑๑๑
ลงวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๕) ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1520 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 | รง. | 24/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนเงินทดแทน
สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ประกอบด้วย
งบแสดงฐานะทางการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงาน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้วเห็นว่า ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|