ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 57 จากทั้งหมด 84 หน้า แสดงรายการที่ 1121 - 1140 จากข้อมูลทั้งหมด 1664 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1121 | กรอบการเจรจาของประเทศไทยและองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย สมัยที่ 15 | กษ. | 03/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1122 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมภาชนะและเครื่องใช้โลหะเคลือบฟลูออโรพอลิเมอร์สำหรับอาหารต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 03/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมภาชนะและเครื่องใช้โลหะเคลือบฟลูออโรพอลิเมอร์สำหรับอาหารต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมภาชนะและเครื่องใช้โลหะเคลือบฟลูออโรพอลิเมอร์สำหรับอาหารต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความปลอดภัยจากสารเคมีปนเปื้อนที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1123 | โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2565 | กค. | 03/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑.การดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี
ปีการผลิต ๒๕๖๕ ตามสาระสำคัญที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.)
มีมติให้ความเห็นชอบการดำเนินโครงการฯ ปีการผลิต ๒๕๖๕ ซึ่งมีพื้นที่เป้าหมายรวม Tier 1 และ Tier 2 จำนวน
๒๙ ล้านไร่ ภายใต้วงเงินงบประมาณจำนวน ๑,๙๒๕,๐๖๕,๐๐๐ บาท ๑.๒. ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธ.ก.ส.) ทดรองจ่าย เงินอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยแทนรัฐบาล
และเบิกเงินชดเชยจากรัฐบาลตามจำนวนที่จ่ายจริงรวมกับต้นทุนเงิน
ในอัตราต้นทุนทางการเงินของ ธ.ก.ส. ประจำไตรมาสบวก ๑ ต่อปี (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ
๑.๙๘) ในปีงบประมาณถัดไป
โดยให้มีการปรับเปลี่ยนอัตราต้นทุนทางการเงินตามอัตราที่แท้จริงทุกไตรมาส
ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินรวม ๑,๙๖๓,๑๘๑,๒๘๗ บาท ๑.๓. มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการ ดังนี้ ๑.๓.๑ ขายกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี
ปีการผลิต ๒๕๖๕ ให้ได้ตามเป้าหมายและตามกำหนดเวลาการเอาประกันภัยของเกษตรกรทั้งในส่วน
Tier 1 และ Tier
2 ๑.๓.๒
บริหารจัดการความเสี่ยงในแต่ละพื้นที่ให้สอดคล้องกับหลักการประกันภัย ๑.๓.๓
ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์โครงการฯ อย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งให้ความรู้ด้านการประกันภัยให้แก่เกษตรกรและบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในความสำคัญของการประกันภัย ๑.๔. มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานงานกับ ธ.ก.ส. และสมาคมฯ
ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลเอกสารทะเบียนเกษตรกร แบบประมวลรวบรวมความเสียหายและการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย
(แบบ กษ ๐๒) แบบรายงานข้อมูลความเสียหายจริงของเกษตรกร (แบบ กษ ๐๒
เพื่อการประกันภัย) และข้อมูลผังแปลงเกษตรกรรมดิจิทัลที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร
ตลอดจนดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบฐานข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ
เพื่อรองรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้รวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น
พร้อมทั้งเก็บข้อมูลพื้นที่ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๖๒ และรายงานข้อมูลดังกล่าวให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป ๑.๕. มอบหมายให้สมาคมฯ
พิจารณากำหนดรูปแบบการประเมินความเสียหายแก่เกษตรกรที่ได้รับความเสียหายแต่มิได้อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ร่วมกับ ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
ทั้งนี้
ให้พิจารณานำวิธีการประเมินความเสียหายในรูปแบบเชิงวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีมาใช้ร่วมด้วย ๑.๖.
มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีให้เป็นไปตามรูปแบบและหลักเกณฑ์ของการรับประกันภัยของโครงการฯ
ปีการผลิต ๒๕๖๕
รวมทั้งอนุมัติกรมธรรม์และอัตราเบี้ยประกันภัยให้แล้วเสร็จและสามารถเริ่มรับประกันภัยในปีการผลิต
๒๕๖๕
ได้ทันทีภายหลังคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบรวมทั้งดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจและประชาสัมพันธ์โครงการฯ
ปีการผลิต ๒๕๖๕ และในปีการผลิตต่อ ๆ ไป
ในภาพรวมแบบเชิงรุกอย่างต่อเนื่องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณา
ที่ควรมีการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการ
รวมทั้งการศึกษาต้นทุนการประกันภัยที่สะท้อนความเสี่ยงจริง
ตลอดจนการพิจารณานำข้อมูลความเสี่ยงภาคเกษตรอื่น ๆ และมีการสร้างความรู้ความเข้าใจให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของการมีหลักประกันภัย
และพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลสารสนเทศทางการเกษตร เช่น สภาพภูมิอากาศ
โรคระบาด ศัตรูพืช เป็นต้น ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ในการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปีในปีต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการเสนอโครงการฯ
ต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จทันก่อนเริ่มฤดูกาลเพาะปลูก
เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าร่วมโครงการฯ อย่างทั่วถึง ทันเวลา
และได้รับการคุ้มครองตลอดระยะเวลาการเพาะปลูก ๓.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1124 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การพัฒนาด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวกับการบิน รวมถึงการจัดการจราจรทางอากาศตามมาตรฐานสากล ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา | สว. | 03/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การพัฒนาด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวกับการบิน
รวมถึงการจัดการจราจรทางอากาศตามมาตรฐานสากล ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยได้สรุปความเห็นในภาพรวม เช่น
ปัจจัยการประเมินและปรับปรุงโครงสร้างกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ของประเทศ
ซึ่งได้มีการปรับปรุงและข้อกำหนดต่าง ๆ ด้านเทคนิคอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจข้อกำหนดต่าง
ๆ เป็นไปตามที่กำหนด โดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) โดยมีการดำเนินการปรับปรุงและทบทวนข้อแตกต่างระหว่างข้อกำหนดต่าง ๆ
ด้านเทคนิคของประเทศไทย กับข้อกำหนดองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
ในระบบออนไลน์ ICAO
อีกทั้งยังอยู่ในระหว่างการปรับเปลี่ยนรูปแบบ โครงสร้างกฎหมายด้านเทคนิคทั้งหมด
ให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยประยุกต์ใช้รูปแบบ Model โครงสร้างกฎหมายของสหภาพยุโรป
สำหรับปัจจัยการพัฒนาขีดความสามารถและการสร้างความเข้มแข็ง
ในการตรวจประเมินและการทบทวนด้านความปลอดภัยและด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อจัดให้มีระบบประกันคุณภาพ โดยได้มีการจัดตั้งหน่วยงานภายใน คือ
ฝ่ายประกันคุณภาพ ทำหน้าที่ประกันคุณภาพ ของสำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
ซึ่งได้รับการรับรอง ISO 9001 : 2015 ตั้งแต่ปี
๒๕๖๒ และมีการปรับปรุงระบบการตรวจประเมินอย่างต่อเนื่อง
ทั้งในส่วนของการปฏิบัติตามมาตรฐานของ ICAO ต่าง ๆ รวมถึงการดำเนินงานอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ
และตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการตามข้อกำหนดของ ISO 9001 : 2015 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1125 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 7/2565 | นร.04 | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019
(โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๗/๒๕๖๕ เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๒ เมษายน
๒๕๖๕ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ (๑)
รายงานสถานการณ์และแนวโน้มการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒) รับทราบแนวทางการรักษาและการให้ยาแก่ผู้ป่วยโควิด-19
รวมทั้งการจัดการผู้ป่วยในกลุ่มเด็ก (๓) รับทราบความก้าวหน้าการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19
ในประเทศไทย (๔) การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมโรคแบบบูรณาการ
(๕) การปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร (๖) การเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขสำหรับการเปิดภาคเรียนในเดือนพฤษภาคม
๒๕๖๕ (๗) แผนการให้บริการวัคซีนเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕ และ (๘) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1126 | ผลการเยือนกรุงโตเกียวและจังหวัดคานากาวะ ประเทศญี่ปุ่น ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) ระหว่างวันที่ 19 - 23 เมษายน 2565 | นร.13 | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1127 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen test self - test kits)] | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง
(COVID-19 Antigen test self-test kits)] โดยมีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละ ๕๐
ของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าซื้อชุดตรวจโควิด-๑๙ แบบเร่งด่วน
เพื่อให้สำหรับพนักงานหรือลูกจ้างของตนเอง ออกไปอีก ๙ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑
เมษายน ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่ควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว รวมถึงสถานการณ์
ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1128 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุข) | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุข) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
โดยให้หักลดหย่อนหรือหักเป็นรายจ่ายได้ ๒
เท่าของจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาค
สำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร ให้แก่มูลนิธิต่าง ๆ
รวม ๖ แห่ง ได้แก่ (๑) มูลนิธิโรคมะเร็ง โรงพยาบาลศิริราช (๒) มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี
(๓) มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า (๔) มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (๕)
มูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และ (๖)
มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
และยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์
สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สินหรือการขายสินค้า
หรือสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาคให้แก่มูลนิธิดังกล่าวที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่
๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว รวมถึงสถานการณ์
ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตาม ประเมินผลสัมฤทธิ์ และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการ ๒๗
ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และกฎหมายอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1129 | รัฐบาลเนการาบรูไนดารุสซาลามเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งเนการาบรูไนดารุสซาลามประจำประเทศไทย (นายเปองีรัน ฮาจี ซาฮารี บิน เปองีรัน ฮาจี ซัลเละฮ์) | กต. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายเปองีรัน ฮาจี ซาฮารี บิน
เปองีรัน ฮาจี ซัลเละฮ์ (Mr. Pengiran Haji Sahari bin Pengiran Haji Salleh) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งเนการาบรูไนดารุสซาลามประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายฮาจี อิซมาอิล บิน ฮาจี อับดุล มานัป (Mr. Haji Ismail bin Haji Abd Manap) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1130 | รายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ รับทราบรายงานการเงินรวมภาครัฐ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และรายงานการเงินรวมภาครัฐ (บทวิเคราะห์) ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ๑.๒ ให้หน่วยงานของรัฐตามบัญชีชื่อหน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ พร้อมทั้งรายงานเหตุผล หรือปัญหาอุปสรรค และแนวทางแก้ไขให้กระทรวงเจ้าสังกัดและกระทรวงการคลังภายใน
๖๐ วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
และให้หน่วยงานของรัฐส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณถัดไปให้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด
เพื่อให้การจัดทำรายงานการเงินรวมภาครัฐมีความครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1131 | สารบาหลี (Bali Message) ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการทูตดิจิทัล | กต. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบสารบาหลี (Bali
Message) ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการทูตดิจิทัล
“ถอดหน้ากากการทูตดิจิทัลในยุค New Normal” (Bali Message on International
Cooperation in Digital Diplomacy “Unmasking Digital Diplomacy in the New
Normal”) เพื่อที่จะได้นำผลการพิจารณาแจ้งฝ่ายอินโดนีเซียทราบในโอกาสแรก
โดยสารบาหลีฯ เป็นเอกสารสารผลลัพธ์การประชุม International Conference on
Digital Diplomacy ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ณ
เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในรูปแบบกึ่งออนไลน์ เพื่อให้เกิดการตระหนักร่วมกันเกี่ยวกับความสำคัญของการทูตดิจิทัลที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงและมีส่วนช่วยในการปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งในกระบวนการกำหนดนโยบาย การนำนโยบายไปปฏิบัติ
และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยจะใช้ ๕
ประเด็นหลักในการขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเติบโตที่สร้างสรรค์ ครอบคลุม
และยั่งยืน ไปพร้อมกับการเชื่อมโยงความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลระหว่างประเทศต่าง ๆ
ได้แก่ (๑) การพัฒนากรอบนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนการทูตดิจิทัล (๒)
การจัดการวิกฤตผ่านการทูตดิจิทัล (การแลกเปลี่ยนข้อมูล) (๓)
การจัดการข้อมูลเพื่อสนับสนุนการทูตดิจิทัล
(การยกระดับการใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกต่าง ๆ) (๔)
นวัตกรรมเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และ (๕)
การเสริมสร้างขีดความสามารถและการมีส่วนร่วมทางดิจิทัลให้แก่สตรี เด็ก คนชรา
ผู้พิการ และผู้ที่อยู่ชายขอบของทุกประเทศ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ขอแก้ไขถ้อยคำในสารบาหลี
(Bali Message) ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการทูตดิจิทัล
“ถอดหน้ากากการทูตดิจิทัลในยุค New Normal” บาหลี, ๑๖
พฤศจิกายน ค.ศ. ๒๐๒๑ ฉบับภาษาไทย ในหน้าที่ ๒ และ ๔ จากคำว่า “ผู้พิการ” เป็น
“คนพิการ” ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1132 | รัฐบาลราชรัฐลักเซมเบิร์กเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย (นายแพทริก เฮมเมอร์) | กต. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายแพทริก เฮมเมอร์ (Mr. Patrick Hemmer) ให้ดำรงตำแหน่ง
เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายฌ็อง-ปอล
เซนนิงเกอร์ (Mr. Jean-Paul
Senninger) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1133 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร.09 | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ.
๒๕๖๐ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมการแบ่งส่วนราชการและหน้าที่และอำนาจของส่วนราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ตามพระราชบัญญัติสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๒
และพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ จาก
“สำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอยู่ในสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
เป็น สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์” ซึ่งเป็นองค์การมหาชนตามกฎหมายเฉพาะ
โดยปรับปรุงหน้าที่และอำนาจ และเปลี่ยนชื่อจากสำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
เป็น “กองการสื่อสารโทรคมนาคม” ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1134 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเพื่อแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)] | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเพื่อแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19)] มีสาระสำคัญเป็นการการขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
(สปน.) ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร
และยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการสำหรับการบริจาคสินค้าให้แก่ สปน.
เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่
๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ
ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ตลอดจนติดตาม ประเมินผลสัมฤทธิ์ และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการ ๒๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1135 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกระทรวงการคลังได้ดำเนินการ เช่น
จัดทำกฎหมายในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางด้านภาษีของประเทศสมาชิกโดยเป็นไปตามมาตรฐานสากล
จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการตามพันธกรณีระหว่างประเทศเพื่อปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับภารกิจระหว่างประเทศโดยเฉพาะ
แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ
โดยมีอธิบดีกรมสรรพากรเป็นประธาน เพื่อเตรียมการด้านต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความลับของข้อมูลในการแลกเปลี่ยนให้เป็นมาตรฐานสากล
และจัดอบรมสัมมนาเชิงวิชาการและเชิงปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติที่ต้องดำเนินการเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์สูงสุดในการบริหารการจัดเก็บภาษี
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1136 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการนำเข้ายา เวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์ต้าน COVID-19 สำหรับบริจาคเป็นสาธารณกุศล) | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... (การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการนำเข้ายา เวชภัณฑ์
และเครื่องมือแพทย์ต้าน COVID-19 สำหรับบริจาคเป็นสาธารณกุศล)
มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการนำเข้าสินค้าที่ใช้รักษา
วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
เพื่อบริจาคเป็นสาธารณกุศลให้แก่สถานพยาบาลของทางราชการ
หน่วยงานของรัฐ และองค์การหรือสถานสาธารณกุศลหรือสถานพยาบาล ตามมาตรา ๔๗ (๗) (ข)
แห่งประมวลรัษฎากร ตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
โดยไม่นำต้นทุนของทรัพย์สินหรือสินค้าซึ่งได้รับยกเว้นภาษีดังกล่าวมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สำหรับการนำเข้าและบริจาคที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑
ธันวาคม ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้
เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1137 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของสำนักงานศาลปกครอง | ศป. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ของสำนักงานศาลปกครอง ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินการทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1138 | ข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.07 | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1139 | ขออนุมัติดำเนินโครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคมของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินโครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคม
ในกรอบวงเงิน ๑,๔๕๘.๗๗ ล้านบาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๗) ๒.
เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้ยืมเงินตามนัยมาตรา ๓๙ (๔)
แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๔๓
ภายใต้กรอบวงเงิน ๑,๔๕๘.๗๗ ล้านบาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๗) เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้น ๓.
ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขอปรับเพิ่มเงินลงทุน
(Cost Overrun) ในอนาคต
ซึ่งอาจกระทบต่อผลการดำเนินงานและผลตอบแทนการลงทุน รวมทั้งอาจเกิดความล่าช้าในการให้บริการและไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ๔.
ให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น
ควรคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้และจำเป็นต้องติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๕.
ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับแนวโน้มการประกอบกิจการของรัฐวิสาหกิจต่าง
ๆ ในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1140 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (1. นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ฯลฯ รวม 5 คน) | กสศ. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา รวม ๕ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิม จะครบวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปี
ในวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ทั้งนี้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑๐ กรกฎาคม๒๕๖๕
เป็นต้นไป ตามที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเสนอ ดังนี้ ๑. นายประสาน
ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ ๒. นางสาววลัยรัตน์ ศรีอรุณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปารีณา ศรีวนิชย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกฎหมาย
ภาควิชาการ ๔. นายชาลี จันทนยิ่งยง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ภาคเอกชน ๕. รองศาสตราจารย์ดารณี อุทัยรัตนกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ภาคประชาสังคม
|