ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 58 จากทั้งหมด 84 หน้า แสดงรายการที่ 1141 - 1160 จากข้อมูลทั้งหมด 1664 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1141 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (นายสัญญา มิตรเอม) | สพร. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสัญญา มิตรเอม เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล) ในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากได้ถึงแก่กรรม ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๖ เมษายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1142 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (นางสาวประชุม ตันติประเสริฐสุข) | นร.04 | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
นางสาวประชุม ตันติประเสริฐสุข เป็นกรรมการผู้แทนสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ
(ไทย) ในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
แทนกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากมีอายุครบ ๗๐ ปีบริบูรณ์
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ เมษายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนั้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1143 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง “การบริหารราชการกรุงเทพมหานคร กรณีสภาเขตและสมาชิกสภาเขต” ของคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง “การบริหารราชการกรุงเทพมหานคร กรณีสภาเขตและสมาชิกสภาเขต”
ของคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น
และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยมีข้อเสนอแนะและข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า การกำหนดให้มีสภาเขตและสมาชิกสภาเขต
หากจะมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร
ควรกำหนดโครงสร้าง ที่มา องค์ประกอบ บทบาท
และอำนาจหน้าที่ของสภาเขตและสมาชิกสภาเขตให้มีความชัดเจน
รวมถึงต้องสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ แผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศ
เกี่ยวกับประเด็นปัญหาในเชิงพื้นที่ที่มีความหลากหลาย
เพื่อให้การบริหารราชการกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และกรุงเทพมหานครมีข้อสังเกตว่า ควรยกเลิกสภาเขต เนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านมามีผู้ไปใช้สิทธิลงคะแนนค่อนข้างน้อย
สมาชิกสภาเขตส่วนใหญ่สังกัดพรรคการเมือง จึงเป็นอุปสรรคในการพัฒนาพื้นที่
ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ไม่รู้จักสมาชิกสภาเขต และเหตุแห่งที่มา อำนาจหน้าที่
และสิทธิประโยชน์ระหว่างผู้แทนประชาคมเขตและสมาชิกสภาเขตมีความแตกต่างกัน
รวมทั้งกรุงเทพมหานครมีสภากรุงเทพมหานครทำหน้าที่ในทางนิติบัญญัติการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารและพิจารณางบประมาณประจำปีอยู่แล้ว
จึงไม่จำเป็นต้องมีสมาชิกสภาเขตเข้ามาทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกันอีก
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1144 | เงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับ COVID-19 Crisis Response Emergency Support Loan | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1145 | ขอเพิ่มเติมองค์ประกอบในคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอุทยานธรณี | ทส. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเพิ่มตำแหน่งปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม เป็นกรรมการในคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอุทยานธรณี
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖ เมษายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1146 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ. .... | ดศ. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับอัตราไปรษณียากรสำหรับบริการไปรษณียภัณฑ์ในประเทศใหม่
ให้สอดคล้องกับกิจการไปรษณีย์ในปัจจุบัน และเพื่อมิให้เกิดการขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นว่า การกำหนดให้กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับย้อนหลังไม่สามารถทำได้
และการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขกรณีส่วนลดสำหรับไปรษณียภัณฑ์เป็นการมอบอำนาจช่วงไม่อาจทำได้
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ.ร.
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย
จำกัด ควรยกระดับคุณภาพการให้บริการ
โดยอาจนำเทคโนโลยีหรือรูปแบบการบริการอื่นมาสนับสนุน และประชาสัมพันธ์การปรับอัตราค่าบริการขั้นสูงสุดและยังคงมีส่วนลดค่าบริการให้แก่ลูกค้า
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งให้รับความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี (นายจุรินทร์
ลักษณวิศิษฏ์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอขอให้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ลดอัตราค่าบริการฝากส่งสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย
ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และเกษตรกร ไปพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสมด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1147 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การปฏิรูปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบทั่วไปตามร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... และร่างประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา | สว. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง
การปฏิรูปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบทั่วไปตามร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พ.ศ. .... และร่างประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
แล้ว สรุปว่า เห็นด้วยกับการให้มีระบบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๒ ระดับ คือ
ระดับจังหวัด ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด และระดับพื้นที่ ได้แก่ เทศบาล
โดยควรเปลี่ยนแปลงองค์การบริหารส่วนตำบลให้เป็นเทศบาลทั้งหมด
เพื่อให้มีรูปแบบการปกครองท้องถิ่นที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้
ในส่วนการรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้คำนึงถึงพื้นที่ในเขตตำบลเป็นลำดับแรก
โดยให้มี ๑ ตำบล ๑ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
การกำหนดเงื่อนไขในการรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรคำนึงถึงจำนวนประชากรและรายได้
และเจตนารมณ์ของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ด้วยเช่นเดียวกับกฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปัจจุบัน
และการแก้ไขปัญหาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็กมีงบประมาณไม่เพียงพอที่จะจัดทำบริการสาธารณะหรือจัดทำบริการสาธารณะไม่มีประสิทธิภาพ
อาจใช้แนวทางการร่วมมือกันจัดทำบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
โดยควรแบ่งตามเกณฑ์ประชากรเพื่อให้มีจำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นสอดคล้องกับจำนวนประชากรในแต่ละพื้นที่และสะท้อนความต้องการที่แท้จริงของประชาชน
ควรกำหนดหน้าที่และอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ครอบคลุมเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศและลดความซ้ำซ้อนของอำนาจหน้าที่ที่กำหนดสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบต่าง
ๆ ตามกฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกฎหมายอื่น ควรพัฒนาปรับปรุงหรือกำหนดระเบียบว่าด้วยการคลัง
การเงิน การพัสดุ
และการจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินให้เป็นมาตรฐานและสอดคล้องกับระเบียบและแนวปฏิบัติของภาครัฐ
ควรกำหนดให้มีการส่งเสริมการดำเนินการสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในร่างประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ควรกำหนดให้ประชาคมท้องถิ่นในพื้นที่มีอำนาจหน้าที่ เช่น ให้ข้อคิดเห็น
ข้อเสนอแนะหรือคำปรึกษาในการจัดทำแผนงาน งบประมาณการอนุรักษ์ ฟื้นฟู
หรือส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี
ให้ความร่วมมือในการดำเนินงานและการอื่นใดเพื่อพัฒนา
ปรับปรุงและแก้ไขปัญหาเมืองและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1148 | ขอความเห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย - ภูฏาน ครั้งที่ 4 และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | พณ. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า
(Joint Trade Committee : JTC) ไทย-ภูฏาน ครั้งที่ ๔
และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่
๒๖-๒๙ เมษายน ๒๕๖๕ ณ จังหวัดภูเก็ต
เพื่อให้ผู้แทนไทยซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนเป็นประธานฝ่ายไทยใช้หารือกับฝ่ายภูฏาน
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันพิจารณาและเสนอประเด็นที่ฝ่ายไทยประสงค์จะผลักดันต่อเนื่องจากการประชุม
JTC ไทย-ภูฏาน ครั้งที่ ๓ เช่น ความร่วมมือการค้าและการลงทุน
การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างกัน การพัฒนาระบบ e-Commerce และการพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมและรายย่อย (MSMEs)
ทั้งนี้
หากในการประชุมดังกล่าวมีผลให้มีการตกลงเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าในประเด็นอื่น
ๆ
อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยกับภูฏาน
ขอให้ผู้แทนไทยสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในประเด็นเกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๗๘ หรือไม่ และหากในการประชุมดังกล่าวมีผลให้มีการตกลงเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าในประเด็นอื่น
ๆ นอกเหนือจากกิจกรรมที่เสนอ
อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยกับภูฏาน
เห็นควรให้ผู้แทนไทยสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
รวมทั้งควรติดตามประเมินความก้าวหน้าความร่วมมือ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1149 | การเพิ่มสวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | พม. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1150 | ร่างพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแยกสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์เพื่อไปรวมกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์
เพื่อให้การบริหารงานของสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์มีประสิทธิภาพ คล่องตัว
มีความเป็นอิสระทางวิชาการ การบริหารงาน และการบริหารงบประมาณ
อันจะส่งผลให้สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์สามารถบูรณาการการบริหาร การเรียนการสอน
การวิจัยและนวัตกรรมได้อย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด
และสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒.
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ๓. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นว่า ควรพิจารณากำหนดข้อบังคับ
ระเบียบ หรือประกาศเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลแต่ละประเภทให้มีความชัดเจน
และสอดคล้องกับรูปแบบการจัดโครงสร้างองค์กร โดยคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ของพนักงานหรือลูกจ้างในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
เพื่อให้การดำเนินการของสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1151 | การจัดทำโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน ระหว่างปี 2565-2569 | วธ. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1152 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบริภัณฑ์เสียง วีดิทัศน์ บริภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบริภัณฑ์เสียง
วีดิทัศน์ บริภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบริภัณฑ์เสียง วีดิทัศน์
บริภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จำนวน ๒๐ ผลิตภัณฑ์ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีคุณภาพ มีความปลอดภัย และป้องกันความเสียหายอันเกิดแก่ประชาชน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1153 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณกรรมการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (1. นายจักรชัย บุญยะวัตร ฯลฯ จำนวน 3 คน) | อว. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ รวม ๓ คน เพื่อแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
และแต่งตั้งเพิ่มเติมจากตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมติ (๒๖
เมษายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นายจักรชัย บุญยะวัตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๒. นายวิทยา อมรกิจบำรุง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายสรนิต ศิลธรรม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1154 | รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตในการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 ครั้งที่ 2 | ตช. | 19/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตในการดำเนินงานโครงการต่าง
ๆ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ครั้งที่ ๒ โดยระหว่างวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๔-๑ มกราคม ๒๕๖๕
มีการดำเนินคดีทั้งสิ้น ๔๓๕ คดี
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อหา/ฐานความผิดเกี่ยวกับร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น
ฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ได้แก่ (๑) แยกเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ๓๒๓ คดี
โครงการคนละครึ่ง ๑๑๐ คดี และโครงการเราชนะ ๒ คดี และ (๒)
แยกเป็นคดีที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ๓๖๓ คดี สอบสวนเสร็จส่งพนักงานอัยการ ๓๗ คดี
และอื่น ๆ ๓๕ คดี เช่น ชดเชยค่าเสียหายก่อนร้องทุกข์ และถอนคำร้องทุกข์ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1155 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายสมชาย มรกตศรีวรรณ และนางต้องใจ สุทัศน์ ณ อยุธยา) | รง. | 19/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงแรงงาน
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑. นายสมชาย มรกตศรีวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางต้องใจ สุทัศน์ ณ อยุธยา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1156 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. | กค. | 19/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้หน่วยงานของรัฐที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง
ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนการออมแห่งชาติ
กองทุนประกันชีวิต กองทุนประกันวินาศภัย
สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน)
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ธนาคารอาคารสงเคราะห์
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การยาสูบแห่งประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา รวม ๑๖ หน่วยงาน เป็นหน่วยงานของรัฐ ตามมาตรา
๖๓/๑๕ เพื่อให้สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครองแทนได้
อันจะทำให้การบังคับตามคำสั่งทางปกครองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1157 | ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าภายใต้แผนงาน The Programme for COVID-19 Crisis Response Emergency Support จากรัฐบาลญี่ปุ่น | กต. | 19/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1158 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 | นร16 | 19/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
(คทช.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม
๒๕๖๕ ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบและพิจารณาผลการดำเนินงานในเรื่องต่าง ๆ เช่น (๑)
ผลการดำเนินงานของฝ่ายเลขานุการ คทช. และคณะอนุกรรมการภายใต้ คทช. (๒) ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง
(๓) ร่างนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๘๐)
(๔) การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน ๑:๔๐๐๐ (One Map) และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐของพื้นที่กลุ่มจังหวัดที่
๒ จำนวน ๑๑ จังหวัด และ (๕) การรับเรื่องร้องเรียนและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1159 | ท่าทีไทยสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย - เวียดนาม ครั้งที่ 4 | พณ. | 19/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑
เห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint
Trade Committee : JTC) ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ ๔
ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว ในระหว่างวันที่ ๑๙-๒๐ เมษายน ๒๕๖๕
ณ กรุงเทพมหานคร
โดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนไทยที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันพิจารณาและเสนอประเด็นที่ประสงค์จะผลักดันในการประชุมดังกล่าว
โดยมีประเด็นที่สำคัญ เช่น
การหารือแนวทางการเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกันเพื่อให้การค้าสองฝ่ายบรรลุเป้าหมาย
๒๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ๒๕๖๘
แนวทางการอำนวยความสะดวกนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตร
การพัฒนาความร่วมมือในสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพร่วมกัน แนวทางการพัฒนาความเชื่อมโยงของการขนส่งระหว่างสองประเทศ
และแนวทางการขยายความร่วมมือด้านแรงงาน ๑.๒ หากในการประชุมดังกล่าว
มีผลให้มีการตกลงเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าในประเด็นอื่น ๆ
อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าสองฝ่ายระหว่างไทยกับเวียดนาม
โดยไม่มีการจัดทำเป็นความตกลงหรือหนังสือสัญญาขึ้นมา
ขอให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนไทยที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1160 | รัฐบาลสาธารณรัฐเช็กเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย (นายปาเวล ปีเตล) | กต. | 19/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปาเวล ปีเตล (Mr. Pavel
Pitel) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายมาเร็ก ลิบชีตซกี (Mr. Marek Libricky) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|