ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 63 จากทั้งหมด 81 หน้า แสดงรายการที่ 1241 - 1260 จากข้อมูลทั้งหมด 1601 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1241 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงคมนาคม) | คค. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง
ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๖ คณะ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๓ เมษายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อประสานงานกับองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ๒. คณะกรรมการร่วมถาวรไทย-มาเลเซีย
ว่าด้วยการขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายผ่านแดนมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ ๓. คณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงเกี่ยวกับการขนส่งทางบกกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ ๔. คณะกรรมการแทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศ ๕. คณะกรรมการอำนวยความสะดวกการขนส่งแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1242 | การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี | นร. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ให้กับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๗
เกี่ยวกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น ปัญหาการพนันออนไลน์ ปัญหาการหลอกลวงผ่านคอลเซ็นเตอร์
และปัญหาข่าวปลอม (Fake News) ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นทำให้ปัญหาดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่เศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างกว้างขวาง
ต่อเนื่อง และหลากหลายรูปแบบ จึงขอกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดยเฉพาะกองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเร่งบูรณาการการปฏิบัติงานตามหน้าที่และอำนาจร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่าง
ๆ ดังกล่าวข้างต้นอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ให้เกิดผลงานที่เป็นรูปธรรมภายใน ๓๐
วัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
รวมถึงการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1243 | ข้อเสนอเชิงนโยบายวิกฤตประชากรและสังคมสูงวัย | พม. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบข้อเสนอเชิงนโยบายวิกฤตประชากรและสังคมผู้สูงวัย
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนเชิงนโยบาย เพื่อสื่อสารให้สังคมตระหนักถึงประเด็นท้าทายของประชากรที่ส่งผลสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชากรทุกช่วงวัยและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ
ตลอดจนการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ไปสู่การดำเนินงานแบบองค์รวมเพื่อให้ทุกคนในสังคมมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาความมั่นคงของครอบครัวไปสู่ความมั่นคงของมนุษย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
โดยมีมาตรการสำคัญเร่งด่วน ดังนี้ ข้อเสนอที่ ๑ เสริมพลังวัยทำงาน : ตั้งตัวได้
สร้างและดูแลครอบครัวได้ และพร้อมที่จะสูงอายุอย่างมีคุณภาพในอนาคต ข้อเสนอที่ ๒
เพิ่มคุณภาพและผลิตภาพของเด็กและเยาวชน : เด็กน้อย แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ข้อเสนอที่
๓ สร้างพลังผู้สูงอายุ ผ่อนหนักให้เป็นเบา พลิกวิกฤตทางประชากรให้เป็นโอกาส
ข้อเสนอที่ ๔ เพิ่มโอกาสและสร้างเสริมคุณค่าของคนพิการ และข้อเสนอที่ ๕
สร้างระบบนิเวศ (Eco-System) ที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาความมั่นคงของครอบครัว
ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเสนอ และให้คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรพิจารณาให้มีการบูรณาการร่วมกับแผนระดับที่
๓ ที่เกี่ยวข้อง ของหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมด้วย อาทิ แผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ
ระยะที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๘๐) แผนปฏิบัติการด้านครอบครัว พ.ศ. ๒๕๖๖–๒๕๗๐ แผนพัฒนาเด็กปฐมวัย
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗o แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙
แผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐
ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ (ร่าง) แผนพัฒนางานสวัสดิการสังคมไทย ระยะ ๕ ปี (พ.ศ.
๒๕๖๖-๒๕๗๐) และควรมีการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวมีความสอดคล้องกับบริบทปัจจุบันและลักษณะงานของภาคราชการที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
รวมทั้งเกิดความสมดุลระหว่างการขยายโอกาสทางเศรษฐกิจให้ผู้สูงอายุ
ประสิทธิภาพภาครัฐ และความยั่งยืนทางการคลังต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1244 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายเกษม เวชสุทธานนท์) | สธ. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเกษม
เวชสุทธานนท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน
(แพทย์) สูง] ศูนย์อนามัยที่ ๔ สระบุรี กรมอนามัย
ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านอนามัยผู้สูงอายุ) กรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๖
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1245 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางภาวิณา อัศวมณีกุล) | นร.11 สศช | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางภาวิณา อัศวมณีกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง (ผู้อำนวยการสูง) กองยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๔
ตุลาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1246 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 11 | กค. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๑๑ (Joint Statement of the 11th ASEAN
Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ เป็นเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๑๑ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๗ ณ เมืองหลวงพระบาง
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียนในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในประเด็นทางด้านเศรษฐกิจและการเงินในเรื่องต่าง
ๆ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1247 | ขอความเห็นชอบกู้ยืมเงินเพื่อสำรองเผื่อสภาพคล่องขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย | กษ. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกู้ยืมเงินเบิกเกินบัญชีเพื่อสำรองเผื่อสภาพคล่องทางการเงินขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน ๒๕๐ ล้านบาท
ระยะเวลา ๓ ปี ตั้งแต่วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๗๐ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๕/๒๔๖๖ ลงวันที่ ๘ มกราคม
๒๕๖๗) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๑๒๔/๗๒๙๐
ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๖) เช่น การกู้เงินจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย และอยู่ภายใต้ขอบวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐผู้กู้
เพื่อประโยชน์ของประเทศและของหน่วยงานของรัฐ โดยต้องกระทำด้วยความรอบคอบ
และคำนึงถึงความคุ้มค่า ความสามารถในการชำระหนี้ การกระจายภาระการชำระหนี้
เสถียรภาพ และความยั่งยืนทางการเงินการคลัง ตลอดจนความน่าเชื่อถือของประเทศ และของหน่วยงานของรัฐผู้กู้
รวมถึงให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะโดยเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา
๔๙ และ ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทยพิจารณาการเบิกจ่ายเงินกู้ตามความจำเป็นของสถานการณ์การเงินในแต่ละช่วงเวลา
รวมทั้งดำเนินการตามแผนวิสาหกิจโดยเฉพาะการสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ตามแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจประเด็นสุขภาพและความปลอดภัยผลิตภัณฑ์นมให้ได้ตามเป้าหมาย
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1248 | ขอความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่ของการไฟฟ้านครหลวง จำนวน 6 แผนงาน | มท. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่ของการไฟฟ้านครหลวง
จำนวน ๖ แผนงาน ภายในกรอบวงเงินรวม ๓๘,๙๐๐ ล้านบาท
โดยให้ทยอยดำเนินการกู้เงินตามความจำเป็นรายปีจนกว่าการดำเนินงานจะแล้วเสร็จ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้านครหลวง) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
เช่น คำนึงถึงความคุ้มค่า ความสามารถในการชำระหนี้ และการกระจายภาระการชำระหนี้
ตามมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมาย
ระเบียบและหลักเกณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
และจัดทำแผนการกู้เงินส่งให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะเพื่อบรรจุวงเงินกู้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณตามระเบียบคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะว่าด้วยหลักเกณฑ์การบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยขอให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน
เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป ควรคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
และหากได้รับอนุมัติให้กู้เงินแล้วควรดำเนินโครงการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
และข้อบังคับให้ถูกต้อง ครบถ้วน
โดยคำนึงถึงความประหยัดและประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญด้วย เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1249 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นายอรรถสิทธิ์ ศรีสุบัติ ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | สธ. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายอรรถสิทธิ์ ศรีสุบัติ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่
๒๓ มีนาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ๒. นายสืบสาย คงแสงดาว ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๖ มิถุนายน
๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ๓. นางสาวจินตาหรา ติณหภัทร ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม โรงพยาบาลหนองคาย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ และเป็นวันที่ตำแหน่งว่างลงเนื่องจากผู้ครองตำแหน่งอยู่เดิมเกษียณอายุราชการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1250 | ข้อเสนอแนะกรณีร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ขาดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน | สม. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะกรณีร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒
ขาดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1251 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานบริหารอวกาศแห่งชาติจีน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการสำรวจและการใช้อวกาศส่วนนอกเพื่อสันติ | อว. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย กับสำนักงานบริหารอวกาศแห่งชาติจีน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการสำรวจและการใช้อวกาศส่วนนอกเพื่อสันติ (Memorandum of Understanding between the Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation of the Kingdom of Thailand and China National Space Administration on Cooperation in the Exploration and Use of Outer Space for Peaceful Purposes) และอนุมัติให้ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อวางรากฐานสำหรับการพัฒนาและดำเนินความร่วมมือที่ก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันในการสำรวจและการใช้อวกาศส่วนนอกเพื่อสันติ โดยมีสาระสำคัญในการพัฒนาอย่างสันติในสาขาวิทยาศาสตร์อวกาศ เทคโนโลยีอวกาศ และการประยุกต์ใช้อวกาศเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ รวมถึงเพื่อกระชับความร่วมมือไทย-จีนในด้านอวกาศอย่างยั่งยืน ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรพิจารณาปรับแก้ถ้อยคำบางประการในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1252 | ร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกฝ่ายหนึ่งกับราชอาณาจักรไทยอีกฝ่ายหนึ่ง (Framework Agreement on Comprehensive Partnership and Cooperation between the European Union and its Member States, of the one part, and the Kingdom of Thailand, of the other part) | กต. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกฝ่ายหนึ่งกับราชอาณาจักรไทยอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งได้มีการลงนามแล้วตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๖ ธันวาคม ๒๕๖๕ โดยร่างกรอบความตกลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแผนความร่วมมืออย่างรอบด้าน
อีกทั้งมีการกำหนดกลไกระงับข้อพิพาทที่มีความเกี่ยวข้องกับความตกลงเฉพาะอื่น ๆ
ระหว่างสองฝ่าย ซึ่งรวมถึงความตกลงการค้าเสรีที่จะมีการจัดทำขึ้นในอนาคต โดยมีการกำหนดสิทธิและหน้าที่ให้คู่ภาคีต้องปฏิบัติ
และมีการใช้ถ้อยคำที่มุ่งหมายให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ
และร่างกรอบความตกลงฯ มีเนื้อหาครอบคลุมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน
โดยให้มีการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนส่งเสริมให้มีการแข่งขันทางการค้า
และส่งเสริมการเข้าสู่ตลาดการค้าบริการซึ่งกันและกัน
อีกทั้งได้กำหนดกลไกระงับข้อพิพาทที่เชื่อมโยงไปถึงความตกลงการค้าเสรีที่จะจัดทำขึ้นในอนาคต
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้ส่งร่างกรอบความตกลงฯ ดังกล่าวให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
แล้วเสนอรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และพิจารณาให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการดำเนินการไปพลางก่อน (provisional application)
ตามร่างกรอบความตกลงฯ ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันต่อไป ทั้งนี้
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ (เรื่อง
แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการเสนอหนังสือสัญญาตามบทบัญญัติมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1253 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 พ.ศ. .... | สธ. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า
ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต
นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร.
และสำนักงานอัยการสูงสุด เช่น มีความเห็นเพิ่มเติมในส่วนของร่างกฎกระทรวงฯ ข้อ ๑๑
และข้อ ๑๒
ซึ่งกำหนดกรณีที่ไม่อาจพิจารณาได้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดอาจขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปได้อีกไม่เกินสองครั้ง
ครั้งละไม่เกิน ๓๐ วัน โดยการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวอาจก่อให้เกิดการพิจารณาอนุญาตที่ใช้ระยะเวลามากหรือล่าช้าได้
ควรพิจารณาความจำเป็นในการกำหนดเงื่อนไขการขยายระยะเวลาให้มีความเหมาะสม
ไม่ก่อให้เกิดการดำเนินการที่ล่าช้าเกินสมควร อีกทั้งการกำหนดระยะเวลาการแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตให้ผู้ขออนุญาตทราบ
ควรกำหนดระยะเวลาเป็นภายใน ๗ วัน เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรา ๗ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๘ และร่างข้อ ๙ วรรคหนึ่ง (๑) ควรแก้ไขถ้อยคำว่า “วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑”
เป็น “ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑”
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
เนื่องจากร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษในประเภท
๑ ร่างข้อ ๑๑ วรรคหนึ่ง
กำหนดให้พิจารณาคำขอรับใบอนุญาตให้แล้วเสร็จภายใน ๙๐ วัน ให้แก่ผู้ขออนุญาต
และสามารถขยายระยะเวลาออกไปได้อีกไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกิน ๓๐ วัน
เห็นว่าระยะเวลาดังกล่าวเป็นระยะเวลาที่พอสมควรที่ผู้มีอำนาจอนุญาตจะได้พิจารณาคำขอและอนุญาตให้แล้วเสร็จได้แต่มีข้อสังเกตว่าหากผู้มีอำนาจอนุญาตไม่สามารถพิจารณาคำขอให้เสร็จสิ้นได้ภายในกำหนดจะมีมาตรการอย่างไรในระหว่างที่พิจารณาคำขอ
ควรกำหนดมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบดังกล่าวด้วย เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1254 | การดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับสาธารณรัฐเฮติ | กต. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับสาธารณรัฐเฮติ
(ข้อมติ UNSC) ที่
๒๖๙๙ (ค.ศ. ๒๐๒๓) เกี่ยวกับสาธารณรัฐเฮติเพิ่มเติมจากข้อมติ UNSC ที่ ๒๖๕๓ (ค.ศ. ๒๐๒๒) จนกว่า UNSC จะรับรองข้อมติเพื่อเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญหรือยกเลิกมาตรการลงโทษกรณีสาธารณรัฐเฮติ
ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเมื่อมีการรับรองข้อมติที่เปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกมาตรการลงโทษกรณีสาธารณรัฐเฮติต่อไป
และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติและปรับปรุงฐานข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการลงโทษต่อสาธารณรัฐเฮติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งแจ้งผลให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ เพื่อประโยชน์ในการรายงานต่อสหประชาชาติ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าการดำเนินการตามข้อมติ UNSC ที่ ๒๖๙๙ (ค.ศ. ๒๐๒๓) จะต้องเป็นไปตามกฎหมายภายในของไทย
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจำเป็นต้องวิเคราะห์และติดตามประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์การดำเนินงานตามข้อมติฯ ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วน
ได้รับทราบถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1255 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ
(ฉบับที่) พ. ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ
พ.ศ. ๒๕๒๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยปรับปรุงอัตราเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ
เพื่อกำหนดให้ผู้ได้รับหรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัดหรือบำนาญ
ซึ่งเมื่อรวมกับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญแล้วต่ำกว่าเดือนละ ๑๑,๐๐๐ บาท
ให้ได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญเพิ่มขึ้นจนครบเดือนละ ๑๑,๐๐๐ บาท
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพในปัจจุบันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นอันเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับหรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัดหรือบำนาญในการครองชีพ
ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1256 | นายกรัฐมนตรีลากิจในวันที่ 5 เมษายน 2567 | นร. | 02/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่า
นายกรัฐมนตรีจะลากิจในวันศุกร์ที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๗ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐-๑๒.๐๐ น. ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้จัดทำหนังสือเวียนแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบแล้ว
ทั้งนี้ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๔๑
กำหนดให้การลาทุกประเภทของนายกรัฐมนตรี ให้อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี
และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1257 | ร่างกฎกระทรวงความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. .... | อว. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนในการจัดการศึกษา
การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม และด้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1258 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงองค์ประกอบ
หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ
ให้เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการยิ่งขึ้น
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1259 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอการสร้างเสริมสุขภาวะระยะสุดท้ายของชีวิตรองรับสังคมสูงวัย ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา | สธ. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
ข้อเสนอการสร้างเสริมสุขภาวะระยะสุดท้ายของชีวิตรองรับสังคมสูงวัย
ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ
และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วสรุปผลการพิจารณาว่ากระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายสถานชีวาภิบาล
รองรับผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงติดบ้านติดเตียง
ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแบบประคับประคอง
เป็นการดูแลต่อเนื่องตั้งแต่ระยะแรกจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
รวมถึงการดูแลผู้ป่วยแบบ Hospital at Home/Home Ward
ด้วยการดูแลอย่างเป็นระบบ อีกทั้งมี caregiver care manager ทีมสหวิชาชีพ จิตอาสาในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
และมีการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรที่ไม่ใช่บุคลากรด้านสุขภาพที่ทำงานเกี่ยวกับการดูแลแบบประคับประคองในสถานรับดูแลต่าง
ๆ อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้อภิบาลผู้สูงอายุ
ผู้ให้คำแนะนำปรึกษา อาสาสมัคร เพื่อให้ระบบการดูแลแบบประคับประคอง
มีบุคลากรที่มีศักยภาพ มีความรู้ ความสามารถ และขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1260 | ภาคผนวกที่ 1 และภาคผนวกที่ 2 ที่ปรับปรุงแก้ไขของข้อตกลงการยอมรับร่วมรายสาขาว่าด้วยระบบการตรวจสอบและการให้การรับรองด้านสุขลักษณะอาหารสําหรับผลิตภัณฑ์อาหารสําเร็จรูปของอาเซียน (ASEAN Sectoral Mutual Recognition Arrangement for Inspection and Certification Systems on Food Hygiene for Prepared Foodstuff Products; MRA on PF) | กษ. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงแก้ไขภาคผนวกที่ ๑ และภาคผนวกที่ ๒
ที่ปรับปรุงแก้ไขของข้อตกลงการยอมรับร่วมรายสาขาว่าด้วยระบบการตรวจสอบและการให้การรับรองด้านสุขลักษณะอาหารสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปของอาเซียน
[ASEAN Sectoral Mutual Recognition Arrangement for Inspection and Certification
Systems on Food Hygiene for Prepared Foodstuff Products
(MRA on PF)] เพื่อให้สามารถร่วมให้การรับรองการแก้ไขดังกล่าวในการประชุมคณะทำงานด้านผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป [Prepared Foodstuff Product Working Group (PFPWG)] ครั้งที่
๓๘ ซึ่งจะมีการรับรองการปรับปรุงแก้ไขภาคผนวกที่ ๑ และภาคผนวกที่ ๒ ของข้อตกลงฯ
ในการประชุมคณะทำงานด้านผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป ครั้งที่ ๓๘ ระหว่างวันที่ ๑-๒
เมษายน ๒๕๖๗ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน ครบถ้วน เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาคผนวกที่ ๑
และภาคผนวกที่ ๒ ที่ได้ปรับปรุงแก้ไขใหม่ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
|