ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 64 จากทั้งหมด 81 หน้า แสดงรายการที่ 1261 - 1280 จากข้อมูลทั้งหมด 1601 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1261 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายกิตติ กรรภิรมย์) | สธ. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายกิตติ กรรภิรมย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1262 | แต่งตั้งกรรมการอื่น (ผู้แทนกองทัพอากาศและผู้ทรงคุณวุฒิ) ในคณะกรรมการกำกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (1. พลอากาศตรี นาถวุฒิ หยูทอง ฯลฯ จำนวน 5 คน) | คค. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่น
(ผู้แทนกองทัพอากาศและผู้ทรงคุณวุฒิ)
ในคณะกรรมการกำกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จำนวน ๕ คน เพื่อแทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์
ขอลาออก และดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖
มีนาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑. พลอากาศตรี นาถวุฒิ หยูทอง ผู้แทนกองทัพอากาศ ๒. นางชาริตา ลีลายุทธ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารกิจการการบินพาณิชย์ ๓. นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๔. นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินหรือการคลัง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1263 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | วธ. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขลักษณะ
ชนิด ประเภทของส่วนประกอบครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และส่วนประกอบครุยประจำตำแหน่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
รวมถึงกำหนดสีประจำวิทยาลัยนาฏศิลปและวิทยาลัยช่างศิลปทุกแห่งที่มีการเปิดสอนระดับปริญญาเพิ่มขึ้น
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1264 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พม. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยกำหนดให้เด็กที่ใช้พืชกระท่อม กัญชา
กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหรือสารสกัดจากพืชกระท่อม กัญชา กัญชง
เพื่อนันทนาการเป็นพฤติกรรมเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด
ตามร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1265 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2567) | ปสส. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๗ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา
ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(ฉบับที่. ..) พ.ศ. .... และญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี
โดยไม่มีการลงมติ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๓๐ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๒๗
มีนาคม ๒๕๖๗ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๓๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง)
วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๗ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง)
วันศุกร์ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๗ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1266 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการขับเคลื่อนภายใต้แนวคิดภูมิภาษาและปัญญาแผ่นดิน ของคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา | อว. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
แนวทางการขับเคลื่อนภายใต้แนวคิดภูมิภาษาและปัญญาแผ่นดิน ของคณะกรรมาธิการการศาสนา
คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วสรุปผลการพิจารณาว่าการจัดตั้งสถาบันภูมิภาษาและปัญญาแผ่นดิน
(องค์การมหาชน) มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูล ค้นคว้า เผยแพร่
ส่งเสริมและสนับสนุนเกี่ยวกับภูมิภาษาและปัญญาแผ่นดิน รวมทั้งทำหน้าที่บูรณาการขับเคลื่อนงานกับภาคส่วนต่าง
ๆ เพื่อวางกรอบนโยบายเกี่ยวกับภูมิภาษาและปัญญาแผ่นดิน ซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่มีภารกิจดังกล่าว
เช่น กระทรวงวัฒนธรรม (กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย)
สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยภาษาและนวัตกรรมเอเชีย
มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันภาษาไทยสิรินธรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังนั้น
เพื่อไม่ให้เกิดความทับซ้อนของภารกิจ
จึงเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นในการจัดตั้งสถาบันภูมิภาษาและปัญญาแผ่นดินเป็นองค์การมหาชน
อย่างไรก็ตาม ควรจัดตั้งสถาบันฯ ให้เป็นหนึ่งในสถาบันภายใต้วิทยสถานด้านสังคมศาสตร์
มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย (Thailand Academy of Social Sciences, Humanities and Art :
TASSHA) หรือ “ธัชชา” ร่วมกับสถาบันที่มีอยู่แล้ว ได้แก่
สถาบันสุวรรณภูมิศึกษา สถาบันโลกคดีศึกษา สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง
สถาบันพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ และสถาบันช่างศิลป์ท้องถิ่น เนื่องจากบทบาทและพันธกิจของธัชชาเป็นไปในลักษณะเดียวกับบทบาทของสถาบันฯ
เพื่อไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณในระยะยาวอันเนื่องมาจากการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ที่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจากการเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงาน
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1267 | ขออนุมัติขยายกรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 4 ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 - 2569 | ศธ. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายกรอบระยะเวลาในการดำเนินโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน
รุ่นที่ ๔ ออกไปอีก ๓ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๖๙ ภายในกรอบวงเงิน ๕,๕๐๙,๕๐๐ บาท
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สำหรับงบประมาณในการดำเนินโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๗
ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ไปดำเนินการในโอกาสแรกก่อน และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๘-พ.ศ. ๒๕๖๙
ตามความจำเป็นของภารกิจอย่างเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างเป็นระบบเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินโครงการ
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศ
รวมทั้งข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด กระทรวงศึกษาธิการอาจพิจารณาทบทวนผลการดำเนินการของโครงการที่ผ่านมาในภาพรวมเพื่อให้สอดคล้องต่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดและเกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินโครงการดังกล่าว
และเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต และหากในอนาคตจะมีการดำเนินโครงการให้ทุนเพื่อศึกษาต่อสาขาวิชาที่ขาดแคลนด้านวิทยาศาสตร์
ควรพิจารณาถึงความซ้ำช้อนกับการให้ทุนอื่น ๆ ของภาครัฐ อาทิ
ทุนรัฐบาลทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยควรรวมหน่วยการให้ทุนในสาขาดังกล่าวไว้ในแหล่งเดียวกัน
เพื่อให้สามารถบริหารจัดการโครงการให้ทุนด้านวิทยาศาสตร์ในภาพรวมได้อย่างมีเอกภาพ
ทั้งในเรื่องการประมาณความต้องการกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ในสาขาที่ขาดแคลน
การใช้ทรัพยากรในการบริหารจัดการโครงการร่วมกัน
และการกำหนดแนวทางติดตามและประเมินผล ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1268 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (นางวิเรขา สันตะพันธ์ุ) | กค. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางวิเรขา สันตะพันธุ์ ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย
เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๖ มีนาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1269 | รายงานผลการดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทาน | นร.01 | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทาน ประจำเดือน ตุลาคม-ธันวาคม
๒๕๖๖ โดยมีผลการดำเนินการของส่วนราชการต่าง ๆ เช่น ๑) การรายงานผลการลงทะเบียนเป็นจิตอาสาพระราชทาน
(มท.) โดยมีประชาชนลงทะเบียนแล้ว ๗,๑๒๗,๕๓๕ คน ๒)
การจัดกิจกรรมจิตอาสาของส่วนราชการต่าง ๆ ๑๕ หน่วยงาน ประกอบด้วย จิตอาสาพัฒนา จิตอาสาภัยพิบัติ
จิตอาสาเฉพาะกิจ และวิทยากรจิตอาสา ๙๐๔ มีการจัดกิจกรรม ๒๕,๑๒๙
ครั้ง ๓) การติดตามความก้าวหน้าโครงการในภารกิจของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน
เช่น โครงการที่ได้รับเงินพระราชทานบริจาคช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติภาคใต้
โครงการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1270 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบียบที่เป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการปฏิบัติงานหรือการใช้ชีวิตของประชาชน (กระทรวงพลังงาน) | พน. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓
กันยายน ๒๕๖๖ (เรื่อง
การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบียบที่เป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการปฏิบัติงานหรือการใช้ชีวิตของประชาชน)
ซึ่งแจ้งว่าไม่มีมติคณะรัฐมนตรีในความรับผิดชอบที่จะต้องยืนยันการคงอยู่ต่อไป
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1271 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2567)] | ปสส. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๕
มีนาคม ๒๕๖๗ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่. ..)
พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1272 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณสำหรับจ้างเหมาบริการนักการภารโรง | ศธ. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการจ้างนักการภารโรงให้ครบทุกโรงเรียนในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ และให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน)
จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามภารกิจ ความจำเป็นและเหมาะสม
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป สำหรับการดำเนินงานในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ และปีต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงศึกษาธิการ
(สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน)
พิจารณาทางเลือกอื่นที่เป็นเทคโนโลยีทันสมัย เช่น
ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดมาใช้ในการรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมด้านทรัพยากรและงบประมาณที่สามารถนำครุภัณฑ์และเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในการดูแลความปลอดภัยของอาคารสถานที่และทรัพย์สินของโรงเรียนได้
ทั้งนี้ ให้นำผลการติดตามและประเมินผลการจ้างนักการภารโรงในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
มาประกอบการพิจารณาความจำเป็น เหมาะสม คุ้มค่า
และเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการในการกำหนดทางเลือกดังกล่าวด้วย
และให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ. เช่น ควรจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามภารกิจความจำเป็นและเหมาะสม
รวมถึงกำหนดมาตรการและแนวทางการบริหารจัดการงบประมาณอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ควรพิจารณาแนวทางอื่น ๆ
ควบคู่กันไป โดยเฉพาะในกลุ่มโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมด้านทรัพยากรและงบประมาณ
ซึ่งสามารถนำครุภัณฑ์และ/หรือเทคโนโลยี เช่น กล้องวงจรปิด
มาช่วยดูแลความปลอดภัยของอาคาร สถานที่ และทรัพย์สินของโรงเรียน ซึ่งจะช่วยลดค่าเสียโอกาสต่อการใช้งบประมาณของภาครัฐในระยะยาว
การใช้อัตรากำลังควรพิจารณาความเหมาะสมให้สอดคล้องกับปริมาณงานโดยนำข้อมูลในส่วนของจำนวนนักเรียน
ขนาดโรงเรียน แผนการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก และข้อมูลอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาอย่างรอบคอบ รวมทั้งควรพิจารณาปรับปรุงรูปแบบและวิธีการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกำลังคนสำหรับรองรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1273 | การจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ | ศธ. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดให้จังหวัดบุรีรัมย์เป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมการศึกษา
โดยมีวัตถุประสงค์ ๔ ประการ ดังนี้ (๑)
คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมการศึกษาและการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียน
รวมทั้งเพื่อให้มีการขยายผลไปปรับใช้ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอื่น (๒)
ลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา (๓) กระจายอำนาจและให้อิสระแก่หน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษานำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารและการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
และ (๔) สร้างและพัฒนากลไกการจัดการศึกษาร่วมกันระหว่างภาครัฐ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
ตามที่คณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาเสนอ และให้คณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น ให้หน่วยงานดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
การขอรับจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงานตามมาตรา ๒๘
ของพระราชบัญญัติดังกล่าว ให้นำผลการประเมินผลการดำเนินงานในช่วง ๓ ปี ตามมาตรา ๔๐
มาประกอบการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม
สอดคล้องกับข้อเท็จจริง โดยคำนึงถึงศักยภาพและความพร้อมของสถานศึกษาแต่ละพื้นที่
ความคุ้มค่า ความซ้ำซ้อน ความครอบคลุมทุกแหล่งเงิน
รวมถึงการสร้างความรับรู้และความเข้าใจในทุกมิติถึงประโยชน์ที่ทุกภาคส่วนจะได้รับเป็นสำคัญ
ต่อไปเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด กระทรวงศึกษาธิการควรพิจารณาเร่งรัดการดำเนินงานสำคัญตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
พ.ศ. ๒๕๖๒ อาทิ
การออกกฎคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเกี่ยวกับการคัดเลือก
การบรรจุแต่งตั้ง การโยกย้าย การเลื่อนเงินเดือน และการประเมินวิทยฐานะของบุคลากรการศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาเพื่อให้การบริหารงานบุคคลมีความคล่องตัวและต่อเนื่อง
การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของสถานศึกษานำร่องในพื้นที่ต่าง ๆ ควรมีการแสดงข้อมูลและรายละเอียดหลักสูตรว่า
มุ่งเน้นการปรับหลักสูตรไปในทิศทางใด
หลักสูตรดังกล่าวมีความสอดคล้องกับบริบทในเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาของภูมิภาคนั้นอย่างไร
รวมทั้ง
ควรพิจารณาการสร้างและพัฒนากลไกในการจัดการศึกษาร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน
โดยการสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงฐานข้อมูลนวัตกรรมการศึกษาของแต่ละพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1274 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐมอลตาประจำประเทศไทย และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐมอลตาประจำประเทศไทยในฐานะหัวหน้าสถานทำการทางกงสุล (นายวราทิตย์ เบ็ญจวิลาส) | กต. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. รับทราบการสิ้นสุดหน้าที่ของ นายนิพันธ์ เบ็ญจวิลาส
กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐมอลตาประจำประเทศไทย เนื่องจากถึงแก่กรรม
เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๙
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1275 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติทดแทนตำแหน่งที่ว่าง (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปฐมพร ศิรประภาศิริ) | อว. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปฐมพร ศิรประภาศิริ
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (สาขาแพทยศาสตร์) ในคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖ มีนาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1276 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน | สผผ. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
ได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1277 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสาม ปี 2566 | นร.11 สศช | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสสาม ปี ๒๕๖๖ สรุปได้ ดังนี้ (๑) ความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสสาม
ปี ๒๕๖๖ เช่น ๑) ด้านแรงงาน การจ้างงาน มีจำนวนผู้มีงานทำทั้งสิ้น ๔๐.๑ ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ ๑.๓
จากการขยายตัวของการจ้างงานทั้งในภาคเกษตรกรรม ร้อยละ ๒.๐
และนอกภาคเกษตรกรรมร้อยละ ๑๐ ๒) หนี้สินครัวเรือน โดยไตรมาสสอง ปี ๒๕๖๖ มีมูลค่า
๑๖.๐๗ ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๖ จากไตรมาสเดียวกันของปี ๒๕๖๕ ๓)
การเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นร้อยละ ๙๙.๙ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ ๔)
การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๒ ๕)
คดีอาญาโดยรวมลดลงร้อยละ ๑๓.๗ จากการลดลงของคดียาเสพติดที่ร้อยละ ๒๐.๕ และ ๖) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ
๔.๓ โดยได้รับการร้องเรียนด้านการขายตรงและตลาดแบบตรงมากที่สุด (๒)
สถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ เช่น บริการผ่อนชำระที่เรียกว่าซื้อก่อนจ่ายทีหลัง
ซึ่งเป็นความนิยมในการเข้าถึงสินเชื่อยุคใหม่ โดยพบว่า
บริการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยแต่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้จ่ายเกินตัวของผู้บริโภคและก่อให้เกิดหนี้เสียตามมา
และ (๓) ข้อมูลงบประมาณด้านสังคม (Social Budgeting) โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเครื่องมืองบประมาณด้านสังคม
ซึ่งช่วยให้เห็นกระแสการเงินของงบประมาณที่ใช้ในการจัดสวัสดิการสังคมให้มีประสิทธิภาพ
และพบว่าภาครัฐต้องใช้จ่ายในโครงการด้านสังคมเพิ่มขึ้น ขณะที่การจัดเก็บรายได้ยังทำได้ไม่เต็มศักยภาพ
ซึ่งจะส่งผลให้ช่องว่างทางการคลังมีแนวโน้มแคบลง
และรายจ่ายของโครงการด้านสังคมที่เป็นตัวเงินนอกเหนือจากการเกษียณและเสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ดังนั้น เพื่อรักษาสถานะทางการคลังไม่ให้ตึงตัวมากเกินไป
และสร้างสมดุลระหว่างการจัดสวัสดิการแต่ละด้าน ภาครัฐต้องตระหนักถึงปัจจัยต่าง ๆ
เช่น เน้นการดำเนินนโยบายในรูปแบบร่วมจ่ายมากขึ้น
และปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีให้มากขึ้น ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1278 | การนำพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ในส่วนที่เกี่ยวกับวินัยและโทษผิดวินัยมาใช้บังคับกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ โดยอนุโลม | มท. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมการปกครองในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของกำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
นำพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.๒๕๕๑
ในส่วนที่เกี่ยวกับวินัยและโทษผิดวินัยมาใช้บังคับกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
แพทย์ประจำตำบล และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโดยอนุโลม นับแต่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ
โดยไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการทางวินัยที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง
ให้นำพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕
มาใช้บังคับก่อนคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรคำนึงถึงลักษณะของการกระทำผิดและผลกระทบที่จะเกิดแก่ราชการในกรณีที่ไม่อาจดำเนินการทางวินัยและสั่งลงโทษกำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ เนื่องจากเกษียณหรือพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว และกรณีมีมติชี้มูลความผิดข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ซึ่งออกจากราชการแล้ว
ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ไปประกอบการพิจารณาด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1279 | การเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ | นร. | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายนที่กำลังจะมาถึง
คาดว่าจะมีประชาชนใช้เส้นทางคมนาคมและบริการรถขนส่งสาธารณะเดินทางไป-กลับจากภูมิลำเนาหรือเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ต่าง
ๆ ทั่วประเทศมากกว่าปกติเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงขอมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
ดังนี้ ๑. ให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ
แก่ประชาชนให้สามารถเดินทางได้อย่างคล่องตัวและปลอดภัย
รวมตลอดถึงการจัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนเพื่อมิให้เกิดความแออัด
และการบริหารจัดการการจราจรและการใช้สายทางต่าง ๆ ให้เกิดความเรียบร้อย เหมาะสม
เพื่อมิให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดคับคั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางสายหลักต่าง ๆ
ที่ประชาชนจำเป็นต้องใช้และอยู่ในระหว่างการก่อสร้างทำให้ไม่สามารถใช้ผิวทางจราจรได้อย่างเต็มศักยภาพ
เช่น ถนนพระราม ๒
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1280 | การติดตามสถานะร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี | นร.04 | 26/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน)
ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๗/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๗
ที่ประชุมได้พิจารณาการติดตามสถานะร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี ข้อมูล ณ
วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๗ มีจำนวน ๑๐๒ ฉบับ ตามบัญชีแนบท้าย
แล้วมีมติเห็นควรมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งเสนอกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ๒.
ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งเสนอกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล
|