ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 90 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 1781 - 1800 จากข้อมูลทั้งหมด 2031 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1781 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองซัปโปโร ญี่ปุ่น (นายอาราอิ อิซาโอะ) | กต. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอาราอิ อิซาโอะ (Mr. ARAI Isao) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น คนใหม่
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม จังหวักฮอกไกโด สืบแทน นายมะซะอะอิ โอะซะวะ (Mr. Masaaki Ozawa) ซึ่งถึงแก่กรรม
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1782 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ 5 (The Fifth APEC Meeting of Ministers Responsible for Forestry: MMRF5) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี พ.ศ. 2565 | ทส. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้
เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ ๕ (The Fifth APEC Meeting of Ministers
Responsible for Forestry : MMRF5)
และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี
พ.ศ. ๒๕๖๕ ซึ่งมีกำหนดจัดการประชุมระหว่างวันที่ ๑๔-๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ในรูปแบบ Virtual
Meeting ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้กรมป่าไม้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
งบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ หรือโอนเงินจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร
แล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ในโอกาสแรกก่อน
โดยคำนึงถึงความประหยัดและประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1783 | ผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของพื้นที่กลุ่มที่ 1 จำนวน 11 จังหวัด | นร16 | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบการเพิ่มเติม “วนอุทยาน” “สวนพฤกษศาสตร์” “สวนรุกขชาติ”
ในหลักเกณฑ์การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙
ธันวาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง หลักเกณฑ์การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ) ๒.
เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน ๑ :
๔๐๐๐ (One Map)
และรับรองเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐ กลุ่มจังหวัดที่ ๑ จำนวน ๑๑ จังหวัด และให้หน่วยงานที่มีที่ดินของรัฐอยู่ในความรับผิดชอบปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) โดยใช้แผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐดังกล่าวที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้วแทนแผนที่แนบท้ายกฎหมาย
และใช้เป็นแนวเขตที่ดินของรัฐตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายในสามร้อยหกสิบวัน
โดยอาจขอขยายระยะเวลาการดำเนินการต่อคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติได้ตามเหตุผล ความจำเป็น
แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ รวมทั้งให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้อง
หรือให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้รวดเร็ว เหมาะสมตามแต่กรณี
โดยดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ การคุ้มครองและรับรองการดำเนินการของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1784 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายวัลลพ สงวนนาม ฯลฯ จำนวน 7 ราย) | ศธ. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๗ ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน และทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑. นายวัลลพ สงวนนาม ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสุรศักดิ์ อินศรีไกร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายพัฒนะ พัฒนทวีดล ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน ๔. นางสุปราณี นฤนาทนโรดม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นางสาวเจริญวรรณ หนูนาค ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายศัจธร วัฒนะมงคล ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค
สำนักงานศึกษาธิการภาค ๑ สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. ว่าที่ร้อยตรี เจษฎาภรณ์ พรหนองแสน ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค
๑๗ สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1785 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (1.นายโชติชัย เจริญงาม ฯลฯ รวม 6 คน) | นร.12 | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง รวม ๖ คน ตามความในมาตรา ๔๗
แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) พ.ศ.
๒๕๖๔ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนเสนอ ดังนี้ ๑. นายโชติชัย เจริญงาม ประธานกรรมการ ๒. นายถาวร ชลัษเฐียร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นางสาวเพียงออ เลาหะวิไลย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายพิศิษฐ์ แสง-ชูโต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายสมโภชน์ อาหุนัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายสุเมธ องกิตติกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1786 | การขอขยายระยะเวลาการดำเนินการศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราว (The Temporary Data Collection Centre : TDCC) ของทางการเมียนมา และการได้มาซึ่งเอกสารประจำตัวของคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 | รง. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการดำเนินการศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราว
(The Temporary Data
Collection Centre : TDCC) ของทางการเมียนมา ณ จังหวัดสมุทรสาคร
ออกไปอีก ๑ ปี และการดำเนินการให้ได้มาซึ่งหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางของคนต่างด้าว
๓ สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงแรงงานและกระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการจัดหางาน
และกรมการกงสุล หารือร่วมกันในโอกาสแรก
ในการมอบอำนาจการตรวจลงตราให้สอดคล้องกับขอบเขตการดำเนินการของศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล
(Certificate of identity
: CI) ของทางการเมียนมา และควรมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดสมุทรสาครและหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เพื่อกำกับติดตาม
และตรวจสอบการดำเนินการของศูนย์ TDCC ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งและเงื่อนไขที่ทางการไทยกำหนด
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1787 | การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2563/2564 | อก. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น
ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔ เป็นรายเขต ๙ เขตคำนวณราคาอ้อย
โดยมีอัตราเฉลี่ยทั่วประเทศ ดังนี้ (๑)
ราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ฤดูกาลผลิตปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔ เฉลี่ยทั่วประเทศ ในอัตราตันอ้อยละ ๑,๐๐๒.๒๐ บาท ณ ระดับความหวานที่ ๑๐ ซี.ซี.เอส.
และกำหนดอัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อยเฉลี่ยทั่วประเทศ เท่ากับ ๖๐.๑๓ บาท ต่อ ๑ หน่วย ซี.ซี.เอส. และ (๒)
ผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔ เฉลี่ยทั่วประเทศ
เท่ากับ ๔๒๙.๕๑ บาทต่อตันอ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กระทรวงอุตสาหกรรม
โดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายดำเนินการให้โรงงานน้ำตาลนำส่งเงินส่วนต่างระหว่างรายได้สุทธิและราคาอ้อยขั้นสุดท้าย
ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๓/๒๕๖๔
ให้กับกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ตามมาตรา ๕๗
แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗ เพื่อรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายต่อไป
กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเพื่อประโยชน์ของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในภาพรวม
และเร่งชดเชยราคาค่าส่วนต่างราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย
และพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้สามารถลดต้นทุนการผลิตและผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1788 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายวีรศักดิ์ ทิพย์มณเฑียร) | นร.06 | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวีรศักดิ์ ทิพย์มณเฑียร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก (ผู้อำนวยการระดับสูง) สำนักอำนวยการ
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบงานการข่าว (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ)
กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่
๒๙ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1789 | รายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2564 | นร.02 | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง
โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์
ประจำเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ๒๕๖๔ และมอบหมายให้โฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี
แถลงข่าวและชี้แจงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์
ซึ่งคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ
ได้มีการประชาสัมพันธ์และชี้แจงในประเด็นมาตรการการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) และสถานการณ์อุทกภัยและการช่วยเหลือประชาชน ตามที่คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1790 | การพิจารณารับรองร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุม OECD SEARP ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 | กต. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุม
Organisation for Economic Co-operation and
Development (OECD) Southeast Asia Regional Programme (SEARP) [OECD SEARP] ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๙-๑๐ กุมภาพันธ์
๒๕๖๕ ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ในรูปแบบผสมผสาน
และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้รับรองร่างแถลงการณ์ดังกล่าว
โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ มีวัตถุประสงค์เป็นการแสดงความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศสมาชิกภายใต้โครงการ
SEARP
เพื่อการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนและทั่วถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจดิจิทัล การฟื้นฟูที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างโครงการ SEARP
กับอาเซียนและองค์กรระดับภูมิภาคอื่น ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนกับ
OECD ในอนาคต ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุม OECD SEARP ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1791 | การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2564/2565 | อก. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น
ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๔/๒๕๖๕ ทั้ง ๙ เขตคำนวณราคาอ้อย
เป็นราคาเดียวทั่วประเทศ ดังนี้ (๑) ราคาอ้อยขั้นต้นฤดูกาลผลิตปี
๒๕๖๔/๒๕๖๕
ในอัตราตันอ้อยละ ๑,๐๗๐ บาท ณ ระดับความหวานที่ ๑๐
ซี.ซี.เอส. หรือเท่ากับร้อยละ ๙๖.๓๔
ของประมาณการราคาอ้อยเฉลี่ยทั่วประเทศ ๑,๑๑๐.๖๖ บาทต่อตันอ้อย
และกำหนดอัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อยเท่ากับ ๖๔.๒๐ บาท ต่อ ๑ หน่วย ซี.ซี.เอส. และ (๒)
ผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๔/๒๕๖๕ เท่ากับ
๔๕๘.๕๗ บาทต่อตันอ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ควรดำเนินการทบทวนระเบียบมาตรการต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้อง
และแนวทางการจัดเก็บรายได้เพื่อให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายมีรายได้เพิ่มขึ้นเพียงพอในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
และควรเร่งรัดมาตรการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
ลดต้นทุนและสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1792 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ปปง. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
พ.ศ. ๒๕๕๙
เกี่ยวกับการประกาศและเพิกถอนรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้ที่มีการกระทำอันเป็นการก่อการร้ายหรือเป็นผู้ที่มีการกระทำอันเป็นการแพร่ขยายอาวุธมีอานุภาพทำลายล้างสูง
การระงับการดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้ที่ถูกประกาศรายชื่อดังกล่าว
การเข้าถึงทรัพย์สินที่ถูกระงับการดำเนินการกับทรัพย์สิน และอำนาจหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายมากยิ่งขึ้น
ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ควรมีกลไกในการตรวจสอบเทียบเคียงได้กับมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่กำหนดให้มีขั้นตอนการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อมีคำสั่งในเรื่องดังกล่าว
รวมทั้งควรกำหนดเรื่องคณะกรรมการพิจารณากำหนดรายชื่อให้มีความสอดคล้องกับมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วย
และการมีบทบัญญัติรองรับการดำเนินการตามภาระผูกพันสำหรับการซื้อขายดังกล่าวที่เกิดขึ้นก่อนวันที่บัญชีถูกระงับอย่างชัดเจนหรือหากสามารถเร่งรัดกระบวนการขอรับชำระหนี้จากผู้ที่ถูกระงับการดำเนินการกับทรัพย์สินอันเนื่องมาจากมีการกำหนดอันเป็นบุคคลที่ถูกกำหนดตามมาตรา
๗ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
พ.ศ. ๒๕๕๙
ย่อมเป็นการลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับความเชื่อมั่นต่อระบบตลาดทุนโดยรวมได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญ
ของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1793 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายดิสทัต คำประกอบ) | นร.04 | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายดิสทัต คำประกอบ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1794 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์
สาขาวิชาศึกษาศาสตร์เพิ่มขึ้น
และกำหนดปริญญาชั้นปริญญาโทเพิ่มขึ้นในสาขาวิชาอุตสาหกรรมศาสตร์ รวมทั้งกำหนดสีประจำสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์
และสาขาวิชาศึกษาศาสตร์ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1795 | รายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2564 | กค. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่
๔ ปี ๒๕๖๔ ประกอบด้วย (๑)
การดำเนินนโยบายการเงินในช่วงไตรมาสที่ ๔ ปี ๒๕๖๔ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน
เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน และ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ
๐.๕๐ ต่อปี โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาสที่ ๓ ปี ๒๕๖๔
และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง (๒) การประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจการเงินเพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงิน ประเมินว่าเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
แต่ชะลอตัวลงจากการระบาดของโรควิด-๑๙ และภาวะการเงินและเสถียรภาพระบบการเงินไทย
โดยรวมยังผ่อนคลาย
ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐและดัชนีค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจากไตรมาสก่อน
และเสถียรภาพระบบการเงินยังเปราะบาง โดยเฉพาะฐานะทางการเงินของภาคครัวเรือน
และภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ และ (๓)
แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของไทย คาดว่าในปี ๒๕๖๔ เศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ ๐.๙ ส่วนปี
๒๕๖๕ คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ ๓.๔ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
สายพันธุ์โอไมครอน ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
และมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยปี ๒๕๖๔ มีแนวโน้มขยายตัวที่ร้อยละ ๑๘
โดยเป็นผลจากปริมาณขยายตัวดีและราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาสินค้าโลกและต้นทุนการขนส่งสินค้า
ส่วนปี ๒๕๖๕ มีแนวโน้มขยายตัวที่ร้อยละ ๓.๕ ต่ำกว่าประมาณการเดิม
เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ สายพันธุ์โอไมครอน ประมาณจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี
๒๕๖๔ กลับมาฟื้นตัวจากที่คาดการณ์ไว้ ๑.๕ แสนคน เป็น ๒.๘ แสนคน
เนื่องจากนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว ส่วนปี ๒๕๖๕
คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว ๕.๖ ล้านคน และอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี ๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕
ปรับเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ ๑.๒ และ ๑.๗ ตามลำดับ
เนื่องจากเงินเฟ้อหมวดพลังงานมีแนวโน้มสูงขึ้นชั่วคราวตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1796 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน 12 เดือน ซึ่งดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | กค. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน
๑๒ เดือน ซึ่งดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ของรัฐบาลภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ วงเงินรวม ๑,๑๓๖,๖๒๖.๔๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๖ ของวงเงินตามแผนฯ ซึ่งเป็นการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน
๑๒ เดือน รวม ๖๘๑,๒๓๓.๙๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๖๐
ของวงเงินที่ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ (๒) การปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการหนี้ดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการหนี้ของรัฐบาลซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้และลดการกระจุกตัวของหนี้ระยะสั้น
โดย ณ สิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ หนี้เงินกู้คงค้างของรัฐบาลมีจำนวนรวม ๘.๒๐ ล้านล้านบาท
โดยเป็นหนี้ระยะสั้น (อายุไม่เกิน ๑ ปี) ร้อยละ ๖.๖ และหนี้ระยะยาว (อายุ ๑ ปี
ขึ้นไป) ร้อยละ ๙๓.๔ มีอายุเฉลี่ยของหนี้อยู่ที่ ๙ ปี ๕ เดือน ทั้งนี้
สัดส่วนหนี้ดังกล่าวเมื่อร่วมกับหนี้เงินกู้ของรัฐวิสาหกิจที่รัฐรับภาระ
ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการให้เป็นไปตามตัวชี้วัดความเสี่ยงด้านการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้กลยุทธ์การบริหารหนี้สาธารณะระยะปานกลางในระยะ
๕ ปี ข้างหน้าได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1797 | (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. 2564 - 2570 | อว. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู
จัดการการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพและวัฒนธรรม การสร้างคุณค่า (Value Chain) จากทรัพยากรชีวภาพและวัฒนธรรม
และการสร้างความสามารถในการพึ่งตนเอง ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ทั้งนี้
ในส่วนของการขับเคลื่อนกิจการเกี่ยวกับเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน
และเศรษฐกิจสีเขียว ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นกับการส่งเสริมกิจการสมุนไพรไทยทั้งระบบ
ตั้งแต่การเพาะปลูก การแปรรูป การวิจัยและพัฒนา (R & D)
และการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการแพทย์ สุขภาพ
และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ๒.
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
และข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศและธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น
ควรพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของกิจการ โดยอาจเน้นการขับเคลื่อนกิจการเกี่ยวกับ BCG โดยตรงก่อน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓.
มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมเป็นหน่วยงานในการดำเนินการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ
BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ เพิ่มเติมด้วย ๔.
มอบหมายให้สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ
BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ อย่างต่อเนื่อง
และรายงานผลให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1798 | สรุปผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2565 | นร.10 | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๕ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
โดยมีข้อสั่งการสำคัญ ๑๐ ประเด็น เช่น
ให้ทุกส่วนราชการจัดทำคำของบประมาณให้สอดคล้องกับเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ
แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และดำเนินภารกิจ
โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ ศูนย์ข้อมูล และระบบคลาวด์
เพื่อให้การปฏิบัติงานตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
โดยให้พิจารณาใช้ระบบคลาวด์กลางภาครัฐเพื่อประหยัดงบประมาณ
และเกิดความปลอดภัยของข้อมูล และให้ทุกส่วนราชการให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง (PM2.5) ให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงแรงงาน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
แรงงานประมง และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
ให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
รวมถึงสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวัฒนธรรม พัฒนา บูรณะ
ฟื้นฟูมรดกและสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม และทรัพยากรทางธรรมชาติเพื่อให้เกิดแหล่งการท่องเที่ยวใหม่โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลักด้วย
ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1799 | ร่างกฎกระทรวงออกตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 รวม 3 ฉบับ | กษ. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงออกตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์
พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๓ ฉบับ ได้แก่ ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทของโรงฆ่าสัตว์ พ.ศ. ....
ร่างกฎกระทรวงกำหนดวันฆ่าสัตว์ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการขึ้นทะเบียน
การเพิกถอนการขึ้นทะเบียน และคุณสมบัติของบุคคลซึ่งจะได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานตรวจโรคสัตว์
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทของโรงฆ่าสัตว์ กำหนดวันและเวลาฆ่าสัตว์ วันและเวลาเปิดและปิดโรงฆ่าสัตว์และโรงพักสัตว์
รวมทั้งการขึ้นทะเบียน และคุณสมบัติของบุคคลซึ่งจะได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานตรวจโรคสัตว์
เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.
๒๕๕๙ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1800 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำหนดสาขาวิชา ปริญญา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. .... | สธ. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำหนดสาขาวิชา ปริญญา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันพระบรมราชชนก
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ
เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งสถาบันพระบรมราชชนก ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|