ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 86 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 1701 - 1720 จากข้อมูลทั้งหมด 2031 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1701 | การยกเลิกการใช้บังคับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 39/2559 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม พุทธศักราช 2559 แก่สถาบันอุดมศึกษา 3 แห่ง | อว. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการยกเลิกการใช้บังคับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๓๙/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๑๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ แก่สถาบันอุดมศึกษา ๓ แห่ง
ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ มหาวิทยาลัยบูรพา
และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ซึ่งคำสั่ง คสช ดังกล่าวเป็นการแก้ไขสถานการณ์ความไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรมของการดำเนินการของสถาบันอุดมศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพและสร้างความมั่นใจให้สังคมโดยรวม
และมหาวิทยาลัยดังกล่าวได้มีการแก้ไขปัญหาอันเป็นเหตุในการบังคับใช้คำสั่งนี้แล้ว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ๒.
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมดำเนินการเสนอร่างประกาศกำหนดการยกเลิกการใช้บังคับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๓๙/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๑๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ต่อคณะรัฐมนตรี
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1702 | ผลการประชุมสมัยสามัญของยูเนสโก ครั้งที่ 41 | ศธ. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมสมัยสามัญของยูเนสโก ครั้งที่ ๔๑ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่
๙-๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ณ องค์การยูเนสโกสำนักงานใหญ่ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ในฐานะประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์
และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ
เข้าร่วมการประชุมฯ มีสาระสำคัญ ได้แก่ (๑) การรับรองร่างแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะกลาง
ปี ๒๕๖๕-๒๕๗๒ และร่างโครงการและงบประมาณ ปี ๒๕๖๕-๒๕๖๘ (๒)
ผลการประชุมคณะกรรมาธิการทั้ง ๖ ด้าน ของยูเนสโก (ด้านการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์
ด้านวัฒนธรรม ด้านสังคมศาสตร์ ด้านสื่อสารมวลชน และด้านการเงิน การบริหาร
และความร่วมมือกับต่างประเทศ) ซึ่งคณะกรรมาธิการทุกด้านได้มีมติเห็นชอบแผนงาน
โครงการ และงบประมาณ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงาน รวมถึงได้อนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปี ๒๕๖๕-๒๕๖๖ เพื่อนำไปใช้จ่ายในโครงการด้านต่าง ๆ ของยูเนสโก
และในส่วนของเงินบำรุงค่าสมาชิกที่ต้องจ่ายให้ตรงเวลาและเต็มจำนวน (ภายในวันที่ ๓๐
มิถุนายน ของทุกปี) โดยไทยจะจ่ายค่าสมาชิกจากเดิมร้อยละ ๐.๓๙๖ เป็น ๐.๔๗๕
ของงบประมาณยูเนสโก หากจ่ายไม่ครบหรือช้ากว่ากำหนดจะมีความเสี่ยงต่อสิทธิในการโหวตช่วงการประชุมคณะกรรมการยูเนสโก
และการประชุมสมัยสามัญของยูเนสโก และ (๓)
ผลการเลือกตั้งผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก
และผลการเลือกตั้งคณะกรรมการสภาประสานงานระหว่างชาติว่าด้วยโครงการมนุษย์และชีวมณฑล
วาระ ๔ ปี (ปี ๒๕๖๔-๒๕๖๘) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1703 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 11 | กต. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา
ครั้งที่ ๑๑ ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๔ ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งกัมพูชา
(นายปรัก สุคน) เป็นประธานร่วมกัน โดยที่ประชุมฯ ได้หารือในประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ
ได้แก่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมโดยเร็วจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙
การรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดนและการส่งเสริมมิตรภาพอันใกล้ชิดระหว่างประชาชนไทยและกัมพูชา
ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในประเด็นอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและอาเซียน และมอบหมายให้ส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามผลการประชุมฯ
ต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เช่น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด และให้ความสำคัญในการหารือด้านเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา
ปรับปรุงถ้อยคำในบันทึกการประชุมฯ
ฉบับภาษาไทยและประเด็นการดำเนินการตามตารางติดตามผลการประชุมฯ
เพื่อให้เนื้อหาในเอกสารดังกล่าวมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1704 | แผนปฏิบัติการด้านระบบสุขภาพปฐมภูมิ (พ.ศ. 2564 - 2575) | สธ. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านระบบสุขภาพปฐมภูมิ
(พ.ศ. ๒๕๖๔–๒๕๗๕) จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบทิศทาง เป้าหมาย และกลไกการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิให้มีประสิทธิภาพ
เน้นการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน และภาคเอกชน
ครอบคลุมการพัฒนาในมิติต่าง ๆ
ทั้งในเรื่องการเพิ่มศักยภาพบริการสุขภาพปฐมภูมิที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่และประชากร
ระบบบริหารจัดการกำลังแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและคณะผู้ให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ การสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่าง
ๆ การสร้างความรู้ในการดูแลสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชนให้แก่ประชาชน
รวมถึงการพัฒนาระบบสารสนเทศและนวัตกรรมเพื่อการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ
ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคนได้อย่างยั่งยืน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงบประมาณ
ที่ควรมีระบบการส่งเสริมสนับสนุนการสืบทอดและต่อยอดการนวดไทยที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้จัดสรร
หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือโอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร
หรือค่าใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ แล้วแต่กรณี โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า
ผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่จะได้รับเป็นสำคัญ สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป
ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายปี
เพื่อเสนอขอตั้งบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1705 | ร่างพระราชบัญญัติความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. .... | ทส. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
โดยกำหนดพื้นที่ในการบังคับใช้กฎหมาย กำหนดให้มีแผนจัดการความหลากหลายทางชีวภาพทุก
๕ ปี เพื่อใช้บริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพในภาพรวมของประเทศ
กำหนดให้มีคณะกรรมการความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ กำหนดให้มีการสร้างสมรรถนะและแรงจูงใจในการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ
กำหนดวิธีการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ กำหนดกลไกในการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรชีวภาพรวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
กำหนดกลไกการกำกับดูแลกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (Living Modified Organisms : LMOs) กำหนดโทษทางแพ่ง
โทษทางปกครอง โทษทางอาญา และกำหนดบทเฉพาะกาล ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด
และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เช่น ควรพิจารณาความครอบคลุมของกฎหมาย
ในประเด็นการปกป้องคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศจากการใช้ประโยชน์ในรูปแบบของการเอารัดเอาเปรียบทางการค้าจากต่างชาติ
กำหนดเพิ่มเติมในอนุบัญญัติให้บุคคลที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อนการเข้าถึงทรัพยากรทางชีวภาพตั้งแต่แรกสามารถยื่นคำขออนุญาตก่อนการเข้าถึงและทำข้อตกลงแบ่งปันผลประโยชน์ในภายหลังได้
ควรมีความนิยามเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายการด้านเทคนิค อาทิ
รายงานการประเมินความปลอดภัยทางชีวภาพ (มาตรา ๔๔) บัญชีปลดปล่อยต่อสิ่งแวดล้อม
(มาตรา ๔๖) แนวทางการระมัดระวังล่วงหน้า (มาตรา ๕๑) และสิ่งมีชีวิตดัดแปลงทางพันธุกรรม
(มาตรา ๕๓) เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอรัฐสภาต่อไป
และให้แจ้งประธานรัฐสภาทราบด้วยว่าร่างพระราชบัญญัตินี้เป็นร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด
๑๖ การปฏิรูปประเทศ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีระบบความเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กรมวิชาการเกษตร กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เพื่อให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ครอบคลุมถึงสิ่งมีชีวิตดัดแปลงทางพันธุกรรมที่ได้มาจากการพัฒนาขึ้นทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร
และให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลเกิดผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1706 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2565 | นร.11 สศช | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ขอให้เลื่อนเรื่องนี้ไปพิจารณาในการประชุมคราวต่อไป
ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว ลงมติเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ไปก่อนได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1707 | สรุปผลการหารือทวิภาคีระหว่างรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น | พน. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการหารือทวิภาคีระหว่างรองนายกรัฐมนตรี
(นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ
การค้า และอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๕ สรุปสาระสำคัญได้
ดังนี้ (๑) ผลการหารือทวิภาคีระหว่างรองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า
และอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น โดยมีประเด็นที่สำคัญ เช่น ความร่วมมือด้านพลังงาน
ความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน (๒) การลงนามเอกสารต่าง ๆ จำนวน ๓ ฉบับ เช่น
บันทึกความร่วมมือว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนด้านพลังงานระหว่างกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงเศรษฐกิจ
การค้า และอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น บันทึกแสดงเจตจำนงด้านความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนกับองค์กรส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น
เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากบริษัทญี่ปุ่นในพื้นที่ EEC
และ (๓)
ถ้อยแถลงข่าวร่วมการประชุมหารือทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของฝ่ายญี่ปุ่นและฝ่ายไทยเกี่ยวกับข้อริเริ่มการเป็นหุ้นส่วนการร่วมสร้างสรรค์เพื่อนำไปสู่การลงทุนในอนาคต
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1708 | กรอบท่าทีไทยเอกสารผลลัพธ์การประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 5 ช่วงที่ 2 และการประชุมสมัยพิเศษ เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ | ทส. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบกรอบท่าทีไทยสำหรับการประชุม UNEA 5.2 และการประชุมสมัยพิเศษ UNEP@50 ๑.๒
เห็นชอบในหลักการร่างข้อมติและข้อตัดสินใจ ๑๗ เรื่อง
เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับนานาประเทศและโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก ๑.๓
เห็นชอบในหลักการให้ประเทศไทยร่วมอุปถัมภ์ (Co-sponsor)
ข้อมติที่ประเทศไทยได้มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวอย่างโดดเด่นทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
ดังนี้ (๑) Draft resolution on the Sound Management of Chemicals and
Waste (๒) Draft resolution for a Science-Policy Panel to
support action on chemicals, waste and pollution (๓) Draft
resolution on Green recovery และ (๔) Draft resolution on
Circular Economy ๑.๔ เห็นชอบในหลักการร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรี
(Ministerial Declaration) และร่างปฏิญญาทางการเมือง
(Political Declaration) ๑.๕ อนุมัติให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทย หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้การรับรองร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรี
(Draft Ministerial Declaration) และร่างปฏิญญาทางการเมือง (Draft Political Declaration) ๒.
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อมติและข้อตัดสินใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1709 | ร่างกฎกระทรวงอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเป็นเครื่องกำเนิดรังสีเป็นเครื่องกำเนิดรังสี พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงอัตราความเข้มข้นของวัสดุที่ประกอบอยู่ในแร่หรือสินแร่เพื่อให้แร่หรือสินแร่นั้นเป็นวัสดุต้นกำลัง พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาต พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ | อว. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเป็นเครื่องกำเนิดรังสีเป็นเครื่องกำเนิดรังสี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเป็นเครื่องกำเนิดรังสีเป็นเครื่องกำเนิดรังสี
และร่างกฎกระทรวงอัตราความเข้มข้นของวัสดุที่ประกอบอยู่ในแร่หรือสินแร่เพื่อให้แร่หรือสินแร่นั้นเป็นวัสดุต้นกำลัง
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราความเข้มข้นของวัสดุที่ประกอบอยู่ในแร่หรือสินแร่ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาต
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ขอรับใบอนุญาต
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติควรเร่งดำเนินการบังคับใช้ร่างกฎกระทรวงทั้ง
๓ ฉบับดังกล่าวโดยเร็ว รวมถึงสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชนและประชาชนโดยส่วนรวม
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1710 | รัฐบาลสาธารณรัฐอุซเบกิสถานเสนอขอเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา และแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา (นางนภา จามิกรณ์) | กต. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. เปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ณ
จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1711 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 เรื่อง การรับรายงานผลดำเนินการกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต | ปปท. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๘ มกราคม ๒๕๖๓ เรื่อง
การรับรายงานผลดำเนินการกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต
(ศปท.) โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐได้รับรายงานจาก
ศปท. ทั้ง ๓๙ หน่วยงาน
ซึ่งได้รายงานผลการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในสังกัดหรือกำกับ ประกอบด้วย
ส่วนราชการ ๓๖๔ หน่วยงาน รวมรัฐวิสาหกิจ ๕๓ หน่วยงาน และองค์การมหาชน ๒๖ หน่วยงาน รวมทั้งสิ้น
๔๔๓ หน่วยงาน ตั้งแต่วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗-๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ รวม ๒,๔๒๓ เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ ๑,๐๕๓ เรื่อง (ร้อยละ ๔๓.๔๖) และอยู่ระหว่างดำเนินการ ๑,๓๗๐ เรื่อง (ร้อยละ ๕๖.๕๔)
และยังได้รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๑
(ที่กำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติในกรณีที่มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบให้แล้วเสร็จภายใน
๗ วัน และให้ดำเนินการทางวินัยหรือทางอาญาโดยเร็ว ให้แล้วเสร็จภายใน ๓๐ วัน)
โดยมีรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นไม่แล้วเสร็จภายใน ๗ วัน ๑,๑๒๙ เรื่อง รายงานผลการดำเนินการทางวินัยหรือทางอาญาไม่แล้วเสร็จภายใน ๓๐
วัน ๑,๐๐๕ เรื่อง
และมีหน่วยงานที่ดำเนินการเสร็จตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๑ คือ
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1712 | การจัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่ให้กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี | นร.10 | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติจัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่ให้กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งสิ้น ๖๕ อัตรา
ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๒๔ ตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1713 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา (วุฒิสภา) | สว. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติหอการค้า
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ซึ่งได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยได้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านพาณิชย์เพื่อเพิ่มศักยภาพของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้แก่ผู้ประกอบการ
SMEs ไทยขยายสู่ตลาดต่างประเทศ
มีการจัดคณะผู้แทนการค้าระดับสูง (goodwill mission)
เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนกับประเทศเป้าหมาย
ซึ่งมีผู้แทนหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยร่วมเป็นองค์ประกอบ
การกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่ผู้บริจาคเงินช่วยเหลือโครงการและกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะของหอการค้า
กระทรวงการคลังเห็นว่าอาจจะก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับการบริจาคกรณีอื่น ๆ
และการวางแผนและการจัดสรรงบประมาณ
หอการค้าจังหวัดสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำแผน ผ่านกลไกคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ
และคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง
ๆ กับหอการค้าจังหวัด โดยการตั้งงบประมาณงบเงินอุดหนุนแก่หอการค้าจังหวัด
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1714 | ปรับปรุงองค์ประกอบในคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ | กษ. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบปรับปรุงองค์ประกอบในคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์)
ประธานกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. แต่งตั้ง นายสุวิทย์ สุขชิต ผู้แทนกลุ่มเกษตรกรทำไร่พงศ์ประศาสน์
อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นกรรมการ แทนกรรมการเดิมที่ลาออก ๒. แต่งตั้ง นายศราวุฎ เรืองเอี่ยม เกษตรกรจากจังหวัดระยอง
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ลาออก ๓. แต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม และปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นกรรมการเพิ่มเติม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1715 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] | สธ. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องนี้เป็นไปอย่างรอบคอบ เหมาะสม
สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในปัจจุบัน
รวมทั้งเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและประชาชนในทุกภาคส่วนได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างถูกต้อง
ชัดเจน ทั่วถึง และมีความมั่นใจในการรบริหารจัดการการสาธารณสุขของประเทศ
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติ ดังนี้ ๑. ให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน
กระทรวงการคลัง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องนี้ต่อสาธารณชนให้ถูกต้อง
ชัดเจน ครบถ้วน และทั่วถึง โดยด่วน ๓.
ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งประสานกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดเตรียมความพร้อมของสถานพยาบาลรูปแบบต่าง ๆ อาทิ
ศูนย์กักกันแยกในชุมชน (Community Isolation) และโรงพยาบาลสนาม
เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยในแต่ละกรณีให้เพียงพอ ๔. ให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเพิ่มศักยภาพของช่องทางการติดต่อสื่อสารของระบบบริการรักษาพยาบาล (เช่น
โทรสายด่วน สปสช. ๑๓๓๐)
และเพิ่มจำนวนบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ
เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถติดต่อและได้รับการดูแลรักษาได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็ว
ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร)
พิจารณาใช้กลไกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานครในการชี้แจงทำความเข้าใจ
รวมทั้งติดต่อประสานงานในการเข้ารับบริการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยในแต่ละท้องที่ด้วย ๕. ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาชะลอการบังคับใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
กำหนดผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิ 19 [Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19)]
และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติอต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 19 [Coronavirus Disease
2019 (COVID-19)] การระดมทรัพยากร
และมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเยียวยาและการจัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่น
ไว้ก่อน ๖.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1716 | การขอความเห็นชอบต่อร่างแผนงานอาเซียนด้านเยาวชน พ.ศ. 2564-2568 (Draft ASEAN Work Plan on Youth 2021-2025) | พม. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างแผนงานอาเซียนด้านเยาวชน
พ.ศ. ๒๕๖๔–๒๕๖๘ (Draft ASEAN Work Plan on Youth
2021-2025) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบงานด้านเยาวชนของประเทศไทยมีหนังสือแจ้งการรับรองร่างแผนงานอาเซียนด้านเยาวชนฯ
ไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียน [ASEAN Secretariat (ASEC)] ในโอกาสแรกภายหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้ว
โดยร่างแผนงานอาเซียนด้านเยาวชนฯ มีความสอดคล้องกับมาตรการเชิงกลยุทธ์และผลลัพธ์ของแผนงานประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
๒๐๒๕ และมีวิสัยทัศน์ คือ
มุ่งสู่เยาวชนอาเซียนที่พร้อมรับอนาคตโดยเสริมทักษะสำหรับศตวรรษที่ ๒๑
และทักษะดิจิทัล และการสร้างสถาบันกลไกของการมีส่วนร่วมของเยาวชน
รวมถึงการกำหนดนโนบายระดับภูมิภาค ซึ่งร่างแผนงานอาเซียนด้านเยาวชนฯ ประกอบด้วย
ผลลัพธ์ขั้นสุดท้าย ๕ ประเด็นหลัก ๕ ผลลัพธ์ระยะสั้น ๑๓ ผลผลิต และ ๑๔ โครงการ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแผนงานอาเซียนด้านเยาวชน พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนทุกกลุ่มได้มีโอกาสเข้าถึง
มีส่วนร่วม และได้รับประโยชน์จากกิจกรรม/โครงการอย่างทั่วถึง
ซึ่งจะช่วยลดช่องว่างของเยาวชนอาเซียน และก่อให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างเท่าเทียมและยั่งยืน
ให้ความสำคัญในการติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการภายใต้ร่างแผนงานอาเซียนด้านเยาวชนฯ
เพื่อให้การขับเคลื่อนแผนสามารถบรรลุตามผลลัพธ์และผลผลิตที่กำหนดไว้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1717 | ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565)] | ปสส. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง
พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1718 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงวุฒิ | สธ. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย
ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. นายอนุวัตร พงษ์คุณากร ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) โรงพยาบาลลำปาง
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง
สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๔ ๒. นางผลิน กมลวัทน์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรมป้องกันสาขาวัณโรค) กรมควบคุมโรค
ตั้งแต่วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1719 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565) | ปสส. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง
พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่
๓๓ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1720 | ขออนุมัติดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ครั้งที่ 1/2564 | กษ. | 22/02/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบกิจการยาง
(ยางแห้ง) เพื่อรับซื้อยางจากเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง อนุมัติทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๒ เกี่ยวกับการมอบหมายหน่วยงานขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อชดเชยดอกเบี้ยของผู้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง
(ยางแห้ง) วงเงินสินเชื่อ ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท อนุมัติปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์
และอนุมัติเพิ่มองค์ประกอบในคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
(หนังสือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด่วนที่สุด ที่ กษ ๒๙๐๘.๐๒/๔๕๔๖ ลงวันที่ ๒๒ ธันวาคม
๒๕๖๔ และหนังสือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด่วนที่สุด ที่ กษ ๒๙๐๘.๐๒/๕๘๑ ลงวันที่ ๗
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕) ทั้งนี้
ในส่วนค่าชดเชยดอกเบี้ยและค่าบริหารโครงการของโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง)
เพื่อรับซื้อยางจากเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง
ให้การยางแห่งประเทศไทยดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การยางแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (การยางแห่งประเทศไทย) กำกับดูแล
และติดตามการดำเนินโครงการ และการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
รวมทั้งพิจารณาจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยอย่างถูกต้องโปร่งใส และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาการปลูกยางในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |