ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 945 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 18881 - 18900 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
18881 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 29/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์ในที่ดินของจังหวัดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสำหรับการพัฒนาโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development) ให้เกิดความเหมาะสมสอดคล้องกับการจัดทำผังเมืองรวมจังหวัดและสามารถดำเนินการได้ด้วยความรวดเร็ว ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ด้วย ๑.๒ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเร่งรัดดำเนินการขับเคลื่อนงานในความรับผิดชอบให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๐ รวม ๔ เรื่อง ได้แก่ (๑) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล (๒) การขับเคลื่อนประเทศในด้านต่าง ๆ ด้วยระบบดิจิทัล (๓) การฟื้นฟูองค์กรรัฐวิสาหกิจที่อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เช่น บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และ (๔) ความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ ๑.๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามนโยบายในการแปรรูปยางพาราให้เป็นผลิตภัณฑ์หรือใช้เป็นส่วนผสมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำยางพาราไปใช้เป็นส่วนผสมในการทำถนน นั้น ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีดังกล่าวโดยให้พิจารณารวมไปถึงการใช้ยางพาราเป็นส่วนผสมในการซ่อมแซมถนนด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมประสานการดำเนินการกับสถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประโยชน์จากผลการศึกษาหรืองานวิจัยที่เกี่ยวกับยางพาราต่อไป ๑.๔ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยสำรวจความเหมาะสมในการจัดให้มีพื้นที่รองรับการจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น เช่น ตลาดชุมชนในระดับตำบลและอำเภอ ตลาดกลางระดับจังหวัด โดยให้นำเสนอข้อมูลและแผนการดำเนินงานดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป นั้น ในการดำเนินการดังกล่าวให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแนวทางการจัดตลาดคลองผดุงกรุงเกษมที่เป็นการให้หน่วยงานต่าง ๆ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการให้วิสาหกิจชุมชน กลุ่มสหกรณ์ หรือผู้ประกอบการในพื้นที่จัดสินค้าผลิตภัณฑ์ในชุมชนมาจำหน่ายเป็นรายเดือน ๒. ด้านสังคม ให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือร่วมกันเกี่ยวกับการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนดีใกล้บ้าน (โรงเรียนแม่เหล็ก) และมิได้จัดการเรียนการสอนแล้ว เพื่อให้การใช้พื้นที่ของโรงเรียนขนาดเล็กดังกล่าวเกิดประโยชน์แก่ประชาชนในชุมชน เช่น นำไปใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ทั้งนี้ ให้พิจารณาถึงงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินการ โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องการจัดระเบียบสังคมด้านต่าง ๆ การบุกรุกพื้นที่ริมทางรถไฟ หรือการค้าขายบริเวณริมทางเท้าที่ได้มีการดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้มีการกำกับ ติดตามการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อมิให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก ส่วนเรื่องใดที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ให้เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๖๐ ๓.๒ ให้ทุกส่วนราชการนำข้อเสนอแนะต่าง ๆ ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและสภานิติบัญญัติแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ แผนบูรณาการ หรือแผนปฏิบัติการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงและมีผลสัมฤทธิ์ที่สอดคล้องไปในทางเดียวกัน ๓.๓ เนื่องจากในปัจจุบันผักตบชวาในแม่น้ำ คูคลองต่าง ๆ มีจำนวนมากและเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการสัญจรทางน้ำ การระบายน้ำ และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและป้องกันปัญหาน้ำท่วมในอนาคต จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ๓.๓.๑ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๙ (เรื่อง รายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนการกำจัดผักตบชวา ประจำปี ๒๕๕๙) ที่ให้ศึกษา ค้นคว้า และวิจัยวิธีการในการกำจัดวัชพืชในแหล่งน้ำ โดยเฉพาะผักตบชวาเพื่อยับยั้งไม่ให้มีการแพร่พันธุ์เพิ่มขึ้นต่อไป โดยให้รายงานผลการดำเนินการต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ๓.๓.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระบบการกำจัดผักตบชวาให้เป็นรูปธรรม จัดหาเครื่องมือ เครื่องจักร กำลังคน และสถานที่ทิ้งผักตบชวาให้เพียงพอต่อการใช้งาน รวมทั้งสร้างความตระหนักรู้ในปัญหาดังกล่าวให้แก่ภาคเอกชนและประชาชนเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาผักตบชวาให้มีความต่อเนื่องและยั่งยืนโดยอาจพิจารณาจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ภาคเอกชนและประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนได้ร่วมกันกำจัดผักตบชวาในบริเวณแหล่งน้ำคูคลองที่อยู่ใกล้ถิ่นที่อยู่อาศัยอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่ผักตบชวาในพื้นที่มีจำนวนน้อย เพื่อป้องกันการขยายและแพร่พันธุ์ เพิ่มจำนวนมากขึ้นจนเป็นปัญหาดังเช่นปัจจุบัน ๓.๔ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. ....) มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลธุรกิจโรงแรมให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็กและเกสต์เฮาส์ (Guest House) เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมที่อาจมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว นั้น ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวโดยเคร่งครัด รวมทั้งให้จัดระเบียบและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการธุรกิจการจัดสถานที่พักเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวทั่วประเทศ เช่น โรงแรมขนาดเล็ก อาคารที่อยู่อาศัย อะพาร์ตเม้นต์ เป็นต้น ให้ถูกต้องครบถ้วนโดยเร็วด้วย ๓.๕ ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน นั้น ให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดกระบี่ต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18882 | การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย โครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำประมงไทยก้าวไกลสู่สากล | นร | 29/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ ๕ (ด้านความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเรื่องที่เป็นวาระเร่งด่วนและการแก้ไขปัญหาการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้เพิ่มเติมวัตถุประสงค์การกู้เงินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำประมงไทยก้าวไกลสู่สากลให้ครอบคลุมกรณีชาวประมงที่ขอเปลี่ยนอาชีพ ภายใต้เงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวงเงินในโครงการฯ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๘ มีนาคม ๒๕๕๙) เห็นชอบไว้ ๑.๒ ให้ขยายเวลาในการดำเนินโครงการฯ จากสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ เป็น ๓๐ เมษายน ๒๕๖๐ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้การสนับสนุนข้อมูลและองค์ความรู้ด้านการผลิต การแปรรูป และการตลาด รวมทั้งร่วมกับภาคเอกชนในการสนับสนุนและเชื่อมโยงด้านการตลาดในระดับพื้นที่และตลาดเพื่อการส่งออก พร้อมทั้งมีกระบวนการติดตามดูแลให้การประกอบอาชีพใหม่ของชาวประมงที่เข้าร่วมโครงการฯ ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ สามารถสร้างความมั่นคงในด้านรายได้และความเป็นอยู่ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18883 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อให้บริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถใช้สกุลเงินต่างประเทศในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล และมาตรการกำหนดให้ใช้สกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่สกุลเงินไทยในการคำนวณรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม [ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อให้บริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถใช้สกุลเงินต่างประเทศในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล] | กค | 29/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เพื่อให้บริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถใช้สกุลเงินต่างประเทศในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล) และร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการกำหนดให้ใช้สกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่สกุลเงินไทยในการคำนวณรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียม) รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการแก้ไขพระราชบัญญัติฯอาจจะส่งผลกระทบให้การจัดเก็บรายได้ของภาษีนิติบุคคล แตกต่างจากวิธีการคำนวณแบบเดิม จึงต้องติดตามและประเมินผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ และกำหนดแนวทางในการรองรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งการอนุญาตให้ใช้และการอนุมัติให้มีการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงาน (Functional Currency : FC) ควรให้ความสำคัญกับการกำหนดหลักเกณฑ์ที่มีความโปร่งใส และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิของผู้ประกอบการภายใต้พระราชบัญญัติฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. รับทราบแผนการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติรวม ๒ ฉบับดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18884 | ร่างพระราชบัญญัติสถาบันภูมิราชธรรม พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 29/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันภูมิราชธรรม พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18885 | รายงานการปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ประจำปี 2558 | ศป | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ประจำปี ๒๕๕๘ มีสาระสำคัญประกอบด้วยสถิติคดีปกครองในภาพรวม การส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้แก่ทุกภาคในส่วนสังคม ความเชื่อมั่นต่อการอำนวยความยุติธรรมของศาลปกครอง การเสริมสร้างวัฒนธรรมศาลปกครอง การวางหลักกฎหมายและแนวทางการปฏิบัติราชการที่ดี นโยบายและทิศทางการดำเนินงานของศาลปกครอง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18886 | รายงานประจำปี 2558 คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร01 | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๕๘ คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ มีสาระสำคัญแบ่งเป็น ๔ ส่วน ดังนี้
๑. ส่วนที่ ๑ องค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของ ก.ก.ถ. รวมทั้งคณะอนุกรรมการคณะต่าง ๆ ที่ ก.ก.ถ. ได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือ กำกับ ดูแล ในภารกิจสำคัญก่อนที่จะเสนอ ก.ก.ถ. พิจารณา รวมทั้งอำนาจหน้าที่และบทบาทภารกิจของสำนักงาน ก.ก.ถ. ๒. ส่วนที่ ๒ ผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ประกอบด้วย (๑) ผลการประชุมของ ก.ก.ถ. (๒) การกระจายอำนาจด้านการถ่ายโอนภารกิจและอำนาจหน้าที่ให้แก่ อปท. (๓) การกระจายอำนาจด้านการเงิน การคลัง และงบประมาณ (๔) การแก้ไขกฎหมาย (๕) การส่งเสริมการบริหารงานท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของประชาชน และ (๖) การติดตามและประเมินผล ๓. ส่วนที่ ๓ การเสนอความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ๔. ส่วนที่ ๔ ภาคผนวก ประกอบด้วย กฎหมาย คำสั่ง และประกาศที่เกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ได้แก่ คำสั่ง ก.ก.ถ. แต่งตั้งคณะกรรมการ/คณะอนุกรรมการ ประกาศ ก.ก.ถ.
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18887 | รายงานตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรง ในครอบครัว พ.ศ. 2550 ประจำปี 2558 | พม | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ ประจำปี ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นการรายงานข้อมูลสถานการณ์ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว รายงานความรุนแรงในครอบครัว และข้อเสนอแนะเชิงมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและต่อการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ ในปี ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18888 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2559 (เพิ่มเติม) และ ครั้งที่ 4/2559 | ทส | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๙ (เพิ่มเติม) และครั้งที่ ๔/๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
๑. การประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ (เพิ่มเติม) ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารตะกั่วบริเวณห้วยคลิตี้ (จังหวัดกาญจนบุรี) ระยะที่ ๒ ปี พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔ ๒. การประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๙ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ๒.๑ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. .... ๒.๒ ร่างแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ๒.๓ ร่างกรอบทิศทางการสนับสนุนเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมตามมาตรา ๒๓ (๔) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ๒.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่อำเภอปลวกแดง อำเภอบ้านค่าย และอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ๒.๕ โครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนและหินดินดานเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ของบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) รวมจำนวน ๓๕ แปลง ใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารเกี่ยวกับการทำเหมือง และจัดตั้งสถานที่เพื่อการแต่งแร่นอกเขตเหมืองแร่ จำนวน ๔ แปลง และคำขอใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารเกี่ยวกับการทำเหมือง และจัดตั้งสถานที่เพื่อการแต่งแร่นอกเขตเหมืองแร่ จำนวน ๑ แปลง ตั้งอยู่ที่ตำบลทับกวาง และตำบลท่าคล้อ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ๒.๖ โครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และเพื่อทำปูนขาว คำขอประทานบัตรที่ ๒/๒๕๕๒ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนชาติแคลเซี่ยม 888 ร่วมแผนผังโครงการทำเหมืองเดียวกันกับประทานบัตรที่ ๒๘๐๔๔/๑๔๘๘๐ ของบริษัท เซเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ๒.๗ การปรับปรุงประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการลำดับที่ ๓ โครงการระบบขนส่งปิโตรเลียมและน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อ ๒.๘ การขอยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประสานงานการให้ความเห็นชอบขององค์การอิสระในโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง พ.ศ. ๒๕๕๓ และบรรดาอนุบัญญัติทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18889 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแล้ง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแล้ง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแล้ง ในท้องที่ตำบลเมืองหงส์ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด และตำบลหนองไฮ อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน โดยเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำสำหรับกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำและการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18890 | รายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | วท | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ มีประเด็นสำคัญ ดังนี้
๑. การเดินทางไปราชการ ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ ๒๘-๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๙ ๑.๑ การเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ ๙ โดยมีประเด็นสำคัญ อาทิ การรับรองแผนดำเนินการตามแผนปฏิบัติการอาเซียนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ระหว่างปี ๒๕๕๙-๒๕๖๘ การจัดทำปฏิญญาอาเซียนด้านนวัตกรรมเพื่อให้มีการรับรองโดยผู้นำอาเซียนในปี ๒๕๖๐ การสนับสนุนข้อริเริ่มของประเทศไทยในการขับเคลื่อน ASEAN Open Innovation and Entrepreneurship Platform เพื่อพัฒนานวัตกรรม สตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของภูมิภาค การสนับสนุนข้อเสนอเรื่องทุนการศึกษาของประเทศไทยที่จะให้นักศึกษาในอาเซียนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมีโอกาสได้มาศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศไทย ๑.๒ การหารือระดับทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งประเทศมาเลเซีย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อให้เกิดความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย และประเทศไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา ๒. การเดินทางไปราชการ ณ มหานครปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ๒.๑ การเข้าร่วมประชุมผู้นำ G20 ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยได้นำเสนอข้อมูลความก้าวหน้าของประเทศไทยใน ๒ ปีที่ผ่านมาใน ๔ ประเด็นที่สอดคล้องกับ 4I (Invigoration, Interconnectivity, Innovation และ Inclusiveness) ซึ่งเป็นหัวข้อของการประชุม G20 โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ (๑) ความมีชีวิตชีวา (Invigoration) อยู่ระหว่างการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี พร้อมทั้งขับเคลื่อนไปสู่ไทยแลนด์ ๔.๐ โดยใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม (๒) การเชื่อมโยง (Interconnectivity) ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทุนของกลุ่มความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา และกลุ่มการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ของสหประชาชาติ (๓) นวัตกรรม (Innovation) ได้สนับสนุนสตาร์ทอัพ (Start Up) เพื่อสร้างผู้ประกอบการใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นฐาน และ (๔) การให้โอกาสที่เท่าเทียม (Inclusiveness) ในสังคมและเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมที่ประเทศไทยกำลังผลักดันอยู่ โดยใช้กลไกของสตาร์ทอัพในการดึงคนรุ่นใหม่ให้มาสนใจในอาชีพเกษตรกร และการแปรรูปที่เกี่ยวเนื่องกับผลผลิตทางการเกษตรมากขึ้น ๒.๒ การหารือกับสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ การเปิดสำนักงานของสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีนในประเทศไทย แผนการดำเนินงานของสำนักงานของสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีนในประเทศไทยในด้านความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านทุนการศึกษา และด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี ทั้งนี้ ทางสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์ได้ขอให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นแกนหลักในการดำเนินการร่วมกับประเทศไทย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18891 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กรณีขอให้ตรวจสอบ การละเมิดสิทธิมนุษยชนภายหลังเหตุการณ์รัฐประหาร | กห | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กรณีขอให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนภายหลังเหตุการณ์รัฐประหาร ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สรุปได้ว่า การประกาศกฎอัยการศึกอาศัยอำนาจตามมาตรา ๒ และมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ โดยมีเหตุผลและความจำเป็นของการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ เนื่องด้วยปรากฏสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ตลอดจนพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ การปรากฏกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่มุ่งสร้างสถานการณ์ความรุนแรงด้วยการใช้อาวุธสงครามต่อประชาชน และสถานที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ยังคงใช้กฎหมายปกติเป็นหลัก และจะใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษเฉพาะเท่าที่จำเป็นต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยเท่านั้น โดยดำเนินการตามหลักสากลในการยึดถือกฎหมายและกฎการใช้กำลังอย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอนตามกฎหมายอยู่แล้ว ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18892 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 68/2559 เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐ และการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว | สลธ.คสช. | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๘/๒๕๕๙ เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐ และการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว สั่ง ณ วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18893 | สรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 23 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2558 - 31 สิงหาคม 2559) | นร | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๒๓ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๘-๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๙) ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) เสนอ มีผลงานสำคัญโดยสรุป ดังนี้
๑. การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เช่น โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์โดยผ่านกลไกระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น การจัดงานประเพณี กิจกรรมทางศาสนา และกิจกรรมพัฒนาต่าง ๆ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ ๒. การปฏิรูปประเทศ กขร. ได้ติดตามขับเคลื่อนความคืบหน้าการดำเนินการตามประเด็นปฏิรูป โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงศึกษาธิการได้รายงานผลการดำเนินงานตามข้อเสนอประเด็นปฏิรูปที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้วในเรื่องที่เกี่ยวกับด้านการท่องเที่ยวและการศึกษา เช่น การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาครู : กรณีการแก้ปัญหาวิกฤตผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) มีแนวโน้มลดต่ำลง และการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก ๓. การบริหารราชการแผ่นดิน ๓.๑ ด้านความมั่นคง เช่น การใช้มาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศในการดำเนินการและเฝ้าระวังเว็บไซต์ที่เข้าข่ายละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ การจัดบรรยายสรุปเกี่ยวกับผลการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแก่คณะทูต ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และหอการค้าต่างประเทศในไทย ๓.๒ ด้านสังคมจิตวิทยา เช่น การจัดหาที่ดินทำกินโดยการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลน จังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการเผยแพร่ป่าไม้อย่างยั่งยืนเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การมอบขาเทียมคนพิการทั่วไทย โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาท้องถิ่น โดยมีสถาบันอุดมศึกษาเป็นพี่เลี้ยง และการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายประเทศไทย ๔.๐ ด้านวัฒนธรรม ๓.๓ ด้านเศรษฐกิจ เช่น โครงการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยาง มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของ SMEs (มาตรการพี่ช่วยน้อง) และมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในชนบท การเปิดเดินขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่เที่ยวปฐมฤกษ์ เส้นทางกรุงเทพ-นครปฐม และการจัดงานมหกรรม Startup Thailand & Digital Thailand ภูมิภาค ๒๐๑๖ ใน ๓ ภูมิภาค ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต ๓.๔ ด้านการต่างประเทศ เช่น การเข้าร่วมการประชุม Blue Ocean Conference ของนายกรัฐมนตรีเพื่อส่งเสริมบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ และการจัดเวที MFA CEO Forum ครั้งที่ ๕ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการไทย ๓.๕ ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เช่น การจัดกิจกรรม TICA Connect ครั้งที่ ๑ การให้บริการการชำระค่าปรับโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์บัตรเครดิต หรือวิธีการอื่น โดยผ่านธนาคาร หรือหน่วยบริการชำระเงิน การขายทอดตลาด ณ คลองผดุงกรุงเกษม การจัดงานกระทรวงแรงงานรวมพลังต้านทุจริต และการปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัย ไม่เป็นธรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18894 | ขออนุมัติเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเซเนกัลประจำประเทศไทยและแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเซเนกัลประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายวิชิต แย้มบุญเรือง) | กต | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเซเนกัลประจำประเทศไทย และแต่งตั้ง นายวิชิต แย้มบุญเรือง ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเซเนกัลประจำประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18895 | การยุติการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | อส | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้พิจารณาตัดสินชี้ขาดการดำเนินคดีระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ กับเอกชน และข้อพิพาทระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจด้วยกันเอง รวม ๑๐ เรื่อง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะประธานกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอ และแจ้งให้สำนักงานอัยการสูงสุดส่งเรื่องคืนตัวความหรือส่งคำตัดสินชี้ขาดและมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ให้คู่กรณีทราบและถือปฏิบัติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18896 | เครือรัฐออสเตรเลียขอเพิ่มจังหวัดลำปางเป็นเขตกงสุลให้กงสุลกิตติมศักดิ์เครือรัฐออสเตรเลียประจำจังหวัดเชียงใหม่ (กระทรวงการต่างประเทศ) | กต | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๙ โดยกำหนดเขตกงสุลของสถานกงสุลกิตติมศักดิ์เครือรัฐออสเตรเลียประจำจังหวัดเชียงใหม่ จากเดิม มีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ และตาก เป็น มีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ และตาก เพื่อให้เป็นไปตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18897 | ผลการประชุมเวทีหารือระดับสูงระหว่างหน่วยงานวางแผนระดับประเทศในสมาชิกอาเซียน (ASEAN High - Level Development Planning Conference) | นร11 | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมเวทีหารือระดับสูงระหว่างหน่วยงานวางแผนระดับประเทศในสมาชิกอาเซียน (ASEAN High-Level Development Planning Conference) ระหว่างวันที่ ๒๙-๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. ประเทศสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่มีการจัดทำวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะยาว โดยมีช่วงเวลาระหว่างวันที่ ๒๐-๕๐ ปี ทั้งนี้ เกณฑ์การกำหนดระยะเวลาของยุทธศาสตร์จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละประเทศ สำหรับแนวทางการกำหนดวิสัยทัศน์ระยะยาว ส่วนใหญ่จะกำหนดเป็นเป้าหมายสั้น ๆ ที่สะท้อนเฉพาะบางมิติของการพัฒนาที่ต้องการมุ่งเน้นให้เด่นชัด และใช้แผนพัฒนาประเทศระยะสั้น (๕ ปี) เป็นเครื่องมือในการดำเนินการไปสู่เป้าหมาย อาทิ การกำหนดเป็นประเทศพัฒนาแล้วของมาเลเซียภายในปี ๒๕๖๓ การพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นจากการเป็นประเทศพัฒนาน้อยที่สุดภายในปี ๒๕๖๓ ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นต้น ประเทศต่าง ๆ ใช้กลไกในลักษณะของกรรมการระดับชาติ หรือสภาระดับชาติ ในการจัดทำยุทธศาสตร์ระยะยาว โดยไม่มีกฎหมายรองรับการนำแผนพัฒนาฯ ระยะสั้นไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และมีเพียงกัมพูชาที่ยังไม่เคยมีการจัดทำยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศระยะยาว แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเริ่มดำเนินการ ๒. การหารือเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาประเทศในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และบริบทการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาค ในภาพรวม แต่ละประเทศได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาให้บรรลุตามเป้าหมาย SDGs ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อกำกับดูแลและรับผิดชอบการขับเคลื่อนตามเป้าหมาย SDGs (ยกเว้นเมียนมาที่ยังให้ความสำคัญเฉพาะเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) โดยคณะกรรมการที่รับผิดชอบจะประกอบด้วยผู้แทนจากทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และมีหน่วยงานวางแผนเป็นผู้ประสานงานหลัก โดยปัจจุบันทุกประเทศยังอยู่ในช่วงการเริ่มต้นการดำเนินงาน และอยู่ในขั้นตอนการหารือเพื่อกำหนดตัวชี้วัดที่เหมาะสมสำหรับใช้ในประเทศตนเอง ๓. แนวทางการดำเนินงานต่อไป สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจะประสานและสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวางแผนของสมาชิกอาเซียนเพื่อเรียนรู้ร่วมกัน และสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาตามเป้าหมาย SDGs และวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ๒๐๒๕ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมถึงแนวปฏิบัติที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการผลักดันให้การขับเคลื่อนการพัฒนาตามกรอบยุทธศาสตร์เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยในระยะต่อไปการแลกเปลี่ยนและความร่วมมืออาจมุ่งเน้นไปที่ประเด็นเฉพาะเจาะจงที่เป็นประเด็นหลักของการพัฒนาในแต่ละช่วงเวลา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18898 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง ข้อเสนอแนะนโยบายการคุ้มครองสิทธิที่จะมีชีวิตอย่างปลอดภัยบนท้องถนน | มท | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง ข้อเสนอแนะนโยบายการคุ้มครองสิทธิที่จะมีชีวิตอย่างปลอดภัยบนท้องถนนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้จัดซื้อเครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ จำนวน ๒,๙๓๐ เครื่อง เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ และได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งให้นำนโยบาย “ประชารัฐ” เป็นแนวทางในการสร้างความตระหนักจิตสำนึกและวัฒนธรรมความปลอดภัยให้กับประชาชน และมีการจัดเก็บข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน โดยบูรณาการข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน ๓ ฐาน ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18899 | ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. .... | พศ | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับร่างพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. .... ไปหารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้ได้ข้อยุติ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18900 | ร่างหนังสือความตกลงว่าด้วยการดำเนินโครงการการใช้สารสนเทศจากดาวเทียมและการประกันภัยพืชผลเพื่อเศรษฐกิจยุคใหม่ ระยะที่ 2 (RIICE Phase II) ในประเทศไทย | กษ | 22/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างหนังสือความตกลงว่าด้วยการดำเนินโครงการการใช้สารสนเทศจากดาวเทียมและการประกันภัยพืชผลเพื่อเศรษฐกิจยุคใหม่ ระยะที่ ๒ (RIICE Phase II) ในประเทศไทย โดยการดำเนินโครงการ RIICE Phase II เป็นการพัฒนาข้อมูลสารสนเทศจากดาวเทียมแบบ Synthetic Aperture Radar (SAR) ในการประเมินผลผลิตข้าว รวมทั้งจัดทำแผนที่ภูมิศาสตร์พื้นที่ปลูกข้าวและประเมินความเสียหายจากธรรมชาติในการผลิตข้าวของเกษตรกรระดับแปลงนาเพื่อปรับปรุงและพัฒนาระบบการประกันภัยพืชผลในอนาคต มีขั้นตอนการดำเนินงานต่าง ๆ ได้แก่ การจัดหาข้อมูลระยะไกลจากดาวเทียมแปลภาพและจัดทำแผนที่ การติดตามสภาพจริงในแปลงนาและเจริญเติบโตของข้าวในพื้นที่เป้าหมาย การประเมินและพยากรณ์ผลผลิตโดยใช้แบบจำลอง การตรวจสอบความถูกต้องของแผนที่เพาะปลูกกับสภาพพื้นที่จริง รวมทั้งการจัดการด้านไอทีและฐานข้อมูล ๑.๒ การลงนามในหนังสือความตกลงฯ โดยมอบหมายให้อธิบดีกรมการข้าว ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) และอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นผู้มีอำนาจในการลงนามในหนังสือความตกลงฯ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ อาทิ ควรระบุรายละเอียดการดำเนินงานภายใต้ร่างหนังสือความตกลงฯ โดยให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการพัฒนาบุคลากรในด้านการประยุกต์ใช้ข้อมูลสารสนเทศจากดาวเทียมชนิดเรดาร์ (Synthetic Aperture Radar : SAR) ในการประเมินผลผลิตข้าวร่วมกัน รวมทั้งเพิ่มสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลหรือร่วมกันพัฒนาซอฟต์แวร์การผลิตข้าวของไทยเพื่อให้บุคลากรไทยสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์และดำเนินงานด้านการพยากรณ์ผลผลิต (Yield Prediction/Yield Estimation) เองได้อย่างยั่งยืน และควรให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลภูมิสารสนเทศจากดาวเทียมมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน ทั้งในส่วนของโครงการ RIICE Phase II โครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) และแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลสารสนเทศจากดาวเทียม และสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตรต่อไป เช่น การวางแผนผลผลิตข้าว และการปลูกพืชหมุนเวียน เป็นต้น เพื่อให้เป็น Smart farmers อย่างแท้จริง |
.....