ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 804 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 16061 - 16080 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16061 | ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ประจำปี 2561 (รายงานการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2561) (กระทรวงวัฒนธรรม) | วธ | 26/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงวัฒนธรรม เช่น (๑) กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ถวายเป็นพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๑ (๒) กิจกรรม “ไหว้พระ ๑๐ วัด สืบสิริสวัสดิ์ ๑๐ รัชกาล” (๓) กิจกรรมไหว้พระวังหน้า ปฏิมาแห่งแผ่นดิน (๔) กิจกรรม “สักการะพระพุทธรูปสำคัญ” (๕) กิจกรรมตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม และ (๖) กิจกรรมรณรงค์ใช้สินค้าไทย ส่งความสุขแบบไทย เป็นของขวัญปีใหม่ เป็นต้น ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16062 | ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ประจำปี 2561 (การดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการ/กิจกรรมเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ มอบให้แก่ประชาชน)(กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) | วท | 26/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการ/กิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ที่มีประโยชน์เพื่อมอบให้เป็นของขวัญให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประกอบด้วย (๑) วทน. เพื่อเด็ก เยาวชนและประชาชน เช่น กระทรวงวิทยาศาสตร์ ชวนพิชิตอวกาศ ณ Space Inspirium ชลบุรี ตะลุยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์รับปีใหม่ ๒๕๖๑ ส่องจันทร์ใหญ่ใกล้โลก ๑๖๐ แห่งทั่วประเทศ ชวนเที่ยววันเด็ก ๒๕๖๑ บนเส้นทาง “ถนนสายวิทยาศาสตร์” และนิทรรศการสร้างแรงบันดาลใจด้านนวัตกรรม เป็นต้น และ (๒) วทน. เพื่อเกษตรกรและผู้ประกอบการ เช่น คูปองวิทย์เพื่อ OTOP ๒๕๖๑ การผลิตสื่อคอนเทนต์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่น ตลาดนัดประชารัฐเพื่อผู้ประกอบการท้องถิ่น ตลาดนัดผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก และ Application สุดล้ำเพื่อเกษตรกรไทยยุค ๔.๐ เป็นต้น ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16063 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร04 | 26/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้กระทรวงคมนาคมศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการจราจรในภาพรวมทั้งหมด ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางรางภายในประเทศและระหว่างประเทศ ทั้งเส้นทางเดิมที่มีอยู่แล้ว และเส้นทางใหม่ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง แล้วให้พิจารณากำหนดแนวทางการเชื่อมโยงเส้นทางการคมนาคมขนส่งดังกล่าวให้เป็นโครงข่ายการจราจรที่เหมาะสม มีความสะดวก รวดเร็ว และประหยัด ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องก่อสร้างเส้นทางเพิ่มเติมอีก ควรพิจารณาแนวทางที่ส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยของประชาชน พื้นที่ป่าไม้ และพื้นที่อนุรักษ์ต่าง ๆ ให้น้อยที่สุด โดยให้กระทรวงคมนาคมจัดทำเป็นแผนบูรณาการเส้นทางการคมนาคมขนส่งของประเทศไทยที่เชื่อมโยงตำบล อำเภอ จังหวัด กลุ่มจังหวัด ตลอดจนประเทศเพื่อนบ้านทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง แล้วเสนอคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปด้วย ๑.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร) ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการตรวจปล่อยรถยนต์ที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบการสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงหรือกรณีอื่น ๆ และให้กำชับเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด นั้น ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงยุติธรรมเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งให้กระทรวงการคลังพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาการนำเข้ารถยนต์มาในราชอาณาจักรในภาพรวมอย่างเป็นระบบ เช่น พิจารณาความเหมาะสมของโครงสร้างภาษีเกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์มาในราชอาณาจักร และรายงานผลการดำเนินการให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยด่วน ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ให้ทุกกระทรวงจัดทำเอกสารเพื่อเผยแพร่ข่าวสาร ความรู้เรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของกระทรวงและหน่วยงานในสังกัด เช่น ความรู้เฉพาะเรื่องที่เป็นบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงาน งานบริการที่หน่วยงานจัดให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๑ เดือน โดยส่งให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล) เพื่อประมวลเป็นชุดความรู้ในภาพรวม พร้อมทั้งส่งให้กระทรวงศึกษาธิการนำไปดำเนินการจัดทำเป็นชุดความรู้สำหรับนักเรียน นักศึกษาต่อไปด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางในการบริหารจัดการพื้นที่ที่ได้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ที่ราษฎรไม่สามารถครอบครองได้ เช่น เขตพื้นที่สาธารณประโยชน์ เขตพื้นที่โบราณสถาน เขตพื้นที่มรดกโลก เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนที่เข้าครอบครองหรือทำประโยชน์ในเขตพื้นที่ดังกล่าวอยู่ก่อนการประกาศฯ สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันในบริเวณเขตพื้นที่ดังกล่าวได้โดยไม่ขัดกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องกับหลักการตามมาตรฐานสากล รวมทั้งพิจารณากำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาประชาชนที่บุกรุกในเขตพื้นที่ดังกล่าวด้วย ๒.๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณาจัดสร้างที่อยู่อาศัยในลักษณะของบ้านสำเร็จรูป (Knockdown) ให้แก่ประชาชนที่มีที่อยู่อาศัยตั้งอยู่ในแนวกีดขวางทางน้ำหรืออยู่ในเขตที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม และได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยเป็นประจำทุกปี เพื่อทดแทนที่อยู่อาศัยเดิม นั้น ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์) พิจารณาดำเนินโครงการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในลักษณะของบ้านสำเร็จรูป (Knockdown) ด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยด่วน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16064 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (จำนวน 7 คน 1. นายมานิต ธีระตันติกานนท์ ฯลฯ) | อื่นๆ | 26/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ รวม ๗ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายมานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานกรรมการ ๒. นางสาวกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นางสาวยุพิน ลาวัณย์ประเสริฐ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายสมชัย จิตสุชน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นางธีรนารถ จิวะไพศาลพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายครรชิต ลิมปกาญจนารัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายอำนวย กาจีนะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16065 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. .... | นร09 | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16066 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนทราย และตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... | คค | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนทราย และตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงชนบท มห. ๓๐๑๙ กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๑๒ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบด้านการระบายน้ำภายหลังจากการก่อสร้างด้วย เพื่อมิให้เกิดปัญหาเรื่องการระบายน้ำในพื้นที่บริเวณดังกล่าวในอนาคตไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16067 | ขอความเห็นชอบต่อการเลื่อนฐานะกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำนครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายอาร์มันด์ โยสต์ (Mr. Armand Jost)] | กต | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเลื่อนฐานะ นายอาร์มันด์ โยสต์ (Mr. Armand Jost) เป็น กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐเจนีวาและรัฐโวด์ ทั้งนี้ โดยคงสถานะของสถานที่ทำการกงสุล เป็น สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ไว้เช่นเดิม ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16068 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. .... | สว | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. .... และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. .... ตามมาตรา ๒๖๗ วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16069 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การขอรับใบแทน ใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตในการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตในการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงว่าด้วยการขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตในการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๗ เพื่อกำหนดอายุใบอนุญาต และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการต่ออายุใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16070 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 สายนครราชสีมา - อุบลราชธานี ที่บ้านหนองบัวไชยวาน พ.ศ. .... | คค | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๒๖ สายนครราชสีมา-อุบลราชธานี ที่บ้านหนองบัวไชยวาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๒๖ สายนครราชสีมา-อุบลราชธานี ที่บ้านหนองบัวไชยวาน ในท้องที่ตำบลโนนสัง อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีษะเกษ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบด้านการระบายน้ำภายหลังจากการก่อสร้าง เพื่อมิให้เกิดปัญหาเรื่องการระบายน้ำในพื้นที่บริเวณดังกล่าวในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16071 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารบางชนิด หรือบางประเภท รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพัทลุง พ.ศ. ....) | มท | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารบางชนิด หรือบางประเภท ซึ่งเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารบางชนิด หรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพัทลุง จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดมุกดาหาร เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ รวม ๓ ฉบับ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารบางชนิด หรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพัทลุง พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารบางชนิด หรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารบางชนิด หรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ อย่างเข้มงวดไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16072 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้บริเวณหมู่เกาะกระ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. .... | ทส | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้บริเวณหมู่เกาะกระ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการกำหนดให้บริเวณหมู่เกาะกระ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อสงวนไว้ซึ่งสภาพธรรมชาติเดิมให้เป็นแหล่งพันธุ์ของปะการังและสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ในฝั่งอ่าวไทย และส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16073 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทใน พื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดลำพูน พ.ศ. ....) | มท | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่จังหวัดนครพนม พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดลำพูน และจังหวัดนครพนม เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16074 | ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ตช | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ เพื่อกำหนดให้โรงพยาบาลตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการสนับสนุนการศึกษาเพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรทางสาธารณสุขของหน่วยงานอื่น ๆ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16075 | สรุปผลการดำเนินงานโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน | ทส | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ระหว่างวันที่ ๗ สิงหาคม-๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ ในพื้นที่ ๗๗ จังหวัดทั่วประเทศ มีการปลูกต้นไม้รวมทั้งสิ้น ๒,๕๕๐,๗๐๓ ต้น ในเนื้อที่รวมทั้งสิ้น ๑๘,๒๑๒ ไร่ ชนิดพันธุ์ไม้ที่ปลูก เช่น ยางนา ราชพฤกษ์ (คูน) กาละสอง (ปีบ) หมัน มะฮอกกานี เป็นต้น สำหรับงบประมาณดำเนินงานโครงการฯ ใช้จ่ายจากงบประมาณปกติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ของหน่วยงานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งงบประมาณสนับสนุนจากภาคเอกชนและประชาชน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16076 | รายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนตุลาคม 2560 | พณ | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การส่งออกในเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๘ ที่ร้อยละ ๑๓.๑ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) หรือคิดเป็นมูลค่า ๒๐,๐๘๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ (๑) การฟื้นตัวของการค้าโลกทำให้ความต้องการสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น (๒) ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนและทรงตัวอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ ส่งผลดีต่อราคาสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตรที่เกี่ยวเนื่อง (๓) ความสามารถในการแข่งขันของไทยยังดี โดยหากเทียบการส่งออกกับประเทศในอาเซียน ไทยยังมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ ๑ (ไม่รวมสิงคโปร์) และ (๔) การเปิดตลาดใหม่ ๆ ของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ๒. มูลค่าการค้ารวมในรูปของเงินบาทเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ การส่งออกมีมูลค่า ๖๕๙,๕๑๗ ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ ๗.๖ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า ๖๖๐,๖๘๐ ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ ๗.๙ ส่งผลให้การค้าขาดดุล ๑,๑๖๓ ล้านบาท สำหรับมูลค่าการค้าในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ การส่งออกมีมูลค่า ๒๐,๐๘๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ ๑๓.๑ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า ๑๙,๘๖๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ ๑๓.๕ ส่งผลให้การค้าเกินดุล ๒๑๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ๓. การส่งออกรายสินค้า มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๑๒ โดยเฉพาะการส่งออกยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไก่แช่แข็งและแปรรูป ขยายตัวต่อเนื่องทั้งในด้านปริมาณและราคา ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวสูงสุดในรอบ ๕๗ เดือน การส่งออกรถยนต์กลับมาขยายตัวในระดับสูง และการส่งออกสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ไปตลาดสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ขยายตัวในระดับสูงเช่นกัน ๔. การส่งออกรายตลาด ยังคงขยายตัวได้ดีในทุกตลาดสำคัญ โดยเฉพาะตลาดยุโรป เอเชียใต้ และจีน ๕. แนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี ๒๕๖๐ และปี ๒๕๖๑ คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก การฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และสถานการณ์ราคาน้ำมันที่เริ่มอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ ซึ่งส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าสำคัญ อาทิ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยางพารา นอกจากนี้ แนวโน้มการเติบโตของ Internet of Things (IoT) จะส่งผลให้การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่ความไม่แน่นอนของนโยบายทางการค้าของประเทศคู่ค้าหลักและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ตึงเครียดยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16077 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ราคาสิบบาท ห้าบาท สองบาท หนึ่งบาท ห้าสิบสตางค์ ยี่สิบห้าสตางค์ สิบสตางค์ ห้าสตางค์ และหนึ่งสตางค์ พ.ศ. .... | กค | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ราคาสิบบาท ห้าบาท สองบาท หนึ่งบาท ห้าสิบสตางค์ ยี่สิบห้าสตางค์ สิบสตางค์ ห้าสตางค์ และหนึ่งสตางค์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการจัดทำเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ จำนวน ๙ ชนิดราคา ได้แก่ ชนิดราคาสิบบาท ห้าบาท สองบาท หนึ่งบาท ห้าสิบสตางค์ ยี่สิบสตางค์ สิบสตางค์ ห้าสตางค์ และหนึ่งสตางค์ เพื่อใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16078 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสามปี 2560 | นร11 | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสามปี ๒๕๖๐ ประกอบด้วย (๑) สถานการณ์ทางสังคม การจ้างงานโดยรวมลดลง ค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น ผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้น อัตราการว่างงานสูงขึ้นเล็กน้อย การเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังโดยรวมเพิ่มขึ้น การเจ็บป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้น คดีอาญารวมและคดียาเสพติดเพิ่มขึ้น ส่วนคดีชีวิตร่างกายและเพศ และคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ลดลง การเกิดอุบัติเหตุจราจรทางบกลดลง สำหรับการเปิดพื้นที่การเรียนรู้ : และนวัตกรรมการดูแลผู้สูงอายุมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี พึ่งพาตนเอง และอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่า และ (๒) บทความเรื่อง “ระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในประเทศไทย” กล่าวถึงทิศทางการจัดบริการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งมีการกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว ได้แก่ แผนบูรณาการพัฒนาสุขภาพกลุ่มวัยสูงอายุ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๖ ของกระทรวงสาธารณสุข แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑ ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16079 | ผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) ครั้งที่ 15 และการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนที่เกี่ยวข้อง ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | พณ | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economics Community Council : AEC Council) ครั้งที่ ๑๕ และการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนที่เกี่ยวข้อง ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๑ และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมการประชุม ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเข้าร่วมการประชุม AEC Council ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ประสบผลสำเร็จหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถสรุปผลการเจรจาบทบาทการลงทุนของความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่นได้สำเร็จ ซึ่งทำให้ความตกลงการค้าเสรีระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่นมีความครอบคลุมครบถ้วน ทั้งเรื่องการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน และการลงนามความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง รวมทั้งความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างอาเซียนกับฮ่องกง ซึ่งจะทำให้อาเซียนสามารถใช้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า และเป็นประตูสู่ตลาดใหญ่อย่างจีนและประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังได้รับประโยชน์จากความร่วมมือภายใต้ความตกลงฯ ที่ฮ่องกงจะให้เงินสนับสนุน จำนวน ๒๕ ล้านเหรีญฮ่องกง ซึ่งครอบคลุมสาขาที่ไทยกำลังผลักดัน อาทิ SMEs พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และโลจิสติกส์ ๒. การประชุม AEC Council ครั้งนี้การเจรจาไม่คืบหน้าเท่าที่ควร โดยหลายประเทศเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายแสดงความยืดหยุ่นและหาจุดสมดุลร่วม โดยคำนึงถึงความแตกต่างของระดับการพัฒนาของสมาชิก ในขณะที่ประเทศคู่เจรจาที่พัฒนาแล้วแม้จะสนับสนุนแนวทางการแสดงความยืดหยุ่นแต่ยังคงเน้นย้ำให้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) เป็นความตกลงที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานสูง ประกอบกับขณะนี้สมาชิก (Trans-Pacific Partnership : TPP) ๑๑ ประเทศ (สมาชิกเดิมยกเว้นสหรัฐอเมริกา) กำลังเร่งสรุปความตกลง TPP เพื่อให้ความตกลงมีผลใช้บังคับโดยเร็ว ดังนั้น การเจรจา RCEP ในปีหน้า ไทยและอาเซียนจึงต้องเร่งผลักดันให้ RCEP หาจุดสมดุลร่วมและสรุปการเจรจาให้ได้โดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16080 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตและข้อเสนอแนะดังกล่าวแล้ว สรุปได้ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเห็นสอดคล้องกับคณะกรรมาธิการฯ โดยได้ดำเนินการสรุปดังนี้ (๑) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะหารือกับสำนักงาน ก.พ. เพื่อดำเนินการขอรับรองคุณวุฒิแก่ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในรูปแบบทวิศึกษาต่อไป (๒) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อร่างหลักสูตรทวิศึกษาโดยเฉพาะ เพื่อนำมาใช้งานทั่วประเทศต่อไป (๓) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในการจัดการศึกษารูปแบบทวิศึกษาอย่างเหมาะสม เพื่อเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการต่อไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
.....