คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางวรรณวิมล สินุธก ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติ
               ๑. รับทราบแนวทางการตรวจลงตราสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ (SMART Visa) ตามที่สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
                   ๑.๑ กำหนดให้วันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๑ เป็นวันเริ่มกระบวนการยื่นคำขอ SMART Visa
                   ๑.๒ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ไขกฎหมายร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐
                   ๑.๓ ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศเร่งรัดประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้เรื่อง SMART Visa ให้แก่บุคลากรชาวต่างชาติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สถานกงสุล/สถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ สื่อและสังคมออนไลน์ (Social Media) ต่อไปด้วย
               ๒. ให้ สกท. เร่งรัดดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อให้การดำเนินการเรื่องนี้ปรากฎผลเป็นรูปธรรมได้ภายในเดือนมกราคม ๒๕๖๑ โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรวบรวมกฎหมายและระเบียบที่จะต้องแก้ไขเพื่อรองรับการดำเนินการเกี่ยวกับ SMART Visa เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๑ รวมทั้งเสนอแผนงานการประชาสัมพันธ์แนวทาง SMART Visa ให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย และให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวเพื่อซักซ้อมความเข้าใจและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานตามแนวทาง SMART Visa ให้ถูกต้อง ชัดเจนและทั่วถึง

คณะรัฐมนตรีมีมติ
               ๑. รับทราบภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งภาคเหนือของกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย (๑) การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางบก (๒) การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางราง (๓) การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางน้ำ และ (๔) การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางอากาศ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
               ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติมด้วย ดังนี้
                   ๒.๑ ในการจัดลำดับความสำคัญของโครงการต่าง ๆ ให้กระทรวงคมนาคมเน้นการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งให้สอดคล้องกับการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค และให้เป็นการจัดทำโครงการที่สามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในปี ๒๕๖๑ เป็นลำดับแรก
                   ๒.๒ ในการจัดทำโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งต่าง ๆ ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมให้ครอบคลุมมิติด้านต่าง ๆ ให้ครบถ้วน รวมถึงความคุ้มค่าของการใช้จ่ายงบประมาณ เช่น กรณีการจะจัดทำโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่แห่งที่ ๒ ให้พิจารณาว่าการปรับปรุงท่าอากาศยานเดิมหรือการก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่จะมีความเหมาะสม คุ้มค่ามากกว่ากัน
                   ๒.๓ ในขั้นตอนการริเริ่มการดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้และชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินโครงการและผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินโครงการดังกล่าวให้ถูกต้อง ทั่วถึง รวมทั้งให้ส่วนราชการพิจารณามาตรการในการเยียวยาประชาชนตามความจำเป็นเหมาะสมด้วย
                   ๒.๔ ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาทบทวนบทบาทหน้าที่ของกรมท่าอากาศยาน และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ให้เกิดความชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนทางด้านพันธกิจ และเป็นประโยชน์ต่อการลดภาระงบลงทุนภาครัฐด้วย

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความสำเร็จการดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กิจกรรมที่ ๑ การขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ (โครงการเน็ตประชารัฐ) ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
               ๑. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการติดตั้งโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสื่อสัญญาณสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (FTTx) (โครงข่ายเน็ตประชารัฐ) และจุดให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย (Wi-Fi) โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายกับผู้ใช้บริการ หมู่บ้านละ ๑ จุดให้บริการ ที่ระดับความเร็วไม่ต่ำกวา 30 Mbps/10 Mbps (Download/Upload) ครอบคลุมหมู่บ้านเป้าหมายสำเร็จครบจำนวน ๒๔,๗๐๐ หมู่บ้านแล้ว เป็นไปตามแผนการดำเนินงานการติดตั้งที่กำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้าใช้งานโครงข่ายเน็ตประชารัฐผ่านจุดให้บริการ Wi-Fi ทั้งหมด ๑.๖๕ ล้านคน
               ๒. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ดำเนินการโครงการต่าง ๆ เพื่อต่อยอดสร้างประโยชน์จากโครงข่ายเน็ตประชารัฐทั้ง ๒๔,๗๐๐ หมู่บ้าน โดยการฝึกอบรมพัฒนาวิทยากรแกนนำสร้างการรับรู้การใช้ประโยชน์จากเน็ตประชารัฐภายใต้แนวคิด “เข้าถึง เข้าใจ นำไปใช้ประโยชน์ เกิดผลผลิต” และการส่งเสริมโอกาสในด้านต่าง ๆ ให้ประชาชนและผู้ด้อยโอกาส ได้แก่ การค้าขายสินค้าออนไลน์ การเข้าถึงความรู้และบริการที่เป็นประโยชน์ทางด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านการเกษตร และด้านบริการของภาครัฐ
               ๓. การดำเนินการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในส่วนพื้นที่หมู่บ้านที่ไม่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์และไม่มีบริการและยากต่อการเข้าถึง (หมู่บ้านชายขอบ Zone C+) จำนวน ๓,๙๒๐ หมู่บ้าน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๑ และหมู่บ้านส่วนที่เหลือเพิ่มเติมในพื้นที่ Zone C จำนวน ๑๕,๗๓๒ หมู่บ้าน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี ๒๕๖๑

คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
               ๑. คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการของขวัญปีใหม่ ๒๕๖๑ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนปี ๒๕๖๑ ซึ่งประกอบด้วย (๑) โครงการเพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ (๒) โครงการสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดย ธอส. ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวมีกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีเงื่อนไขผ่อนปรนเพื่อให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้มากขึ้น รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการสร้างวินัยทางการเงินให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
               ๒. ให้กระทรวงการคลัง โดย ธ.ก.ส. และ ธอส. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการนำค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการบวกกลับกำไรสุทธิเพื่อการคำนวณโบนัสพนักงาน เห็นควรให้มีการดำเนินการตามกฎเกณฑ์และขั้นตอนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง และให้ ธอส. จัดเตรียมแนวทางรองรับ NPLs ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต กรณีประชาชนผู้มีรายได้น้อยตามกลุ่มเป้าหมายของโครงการเกิดข้อจำกัดในการชำระหนี้ รวมทั้งให้ ธ.ก.ส. ประชาสัมพันธ์โครงการชำระดีมีคืนอย่างทั่วถึงแก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ชำระหนี้ตามเงื่อนไขโครงการ โดยการปลูกฝังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการชำระหนี้ ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายกิตติ สุระคำแหง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายวิเชียร ชวลิต เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายวีรสิทธิ์ สิทธิไตรย์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายอุดม คชินทร) ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายอุดม คชินทร) รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป

คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
               ๑. รับทราบทิศทางการพัฒนาภาคเหนือ ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ซึ่งมีแนวทางการพัฒนา ๕ แนวทาง ได้แก่ (๑) การพัฒนาการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการต่อเนื่อง (๒) การใช้โอกาสจากเขตเศรษฐกิจพิเศษและการเชื่อมโยงกับอนุภูมิภาคเพื่อขยายฐานเศรษฐกิจ (๓) การพัฒนาเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัยเชื่อมโยงสู่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป (๔) การพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาความยากจน และ (๕) การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
               ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนประจำปี ๒๕๖๑ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เช่น (๑) ของขวัญเด็กแรกเกิด (๒) แอปพลิเคชันครอบครัว (๓) Family Data เปิดประตูเยี่ยมบ้าน/สร้างสะพานสู่สวัสดิการสังคม (๔) ผู้สูงอายุอายุยืน.....เยาว์ (๕) เปิดศูนย์บริการคนพิการ ๔ มุมเมือง เป็นต้น ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ “ส่งความสุขปีใหม่ ๒๕๖๑ จากใจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ประกอบด้วย (๑) “มอบของขวัญเกษตรกรไทย มีกิน มีใช้ มีรายได้พอเพียง” กิจกรรม เช่น โครงการชลประทานขนาดเล็ก ระบบส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ (ข้าว ประมง) โครงการโคบาลสร้างอาชีพ เป็นต้น (๒) “เพิ่มพลังปีใหม่ ซื้อสินค้าเกษตรไทยคุณภาพดีในราคาพิเศษ” กิจกรรม เช่น สินค้าปศุสัตว์ราคาถูก ผลิตภัณฑ์จากยางพารา เทศกาลส่งความสุขด้วยผลไม้ไทย เป็นต้น และ (๓) “ปีใหม่เที่ยวทั่วไทยสุขใจไปกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” (๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๐-๒ มกราคม ๒๕๖๑) กิจกรรม เช่น เปิดสถานที่ราชการให้ประชาชนเข้าชม (ศูนย์ศึกษา ศูนย์เรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และให้ความรู้ด้านการเกษตร) เป็นต้น ระยะเวลาดำเนินการ ช่วงปลายเดือนธันวาคม ๒๕๖๐-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ งบประมาณดำเนินโครงการ ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๑ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง กระทรวงแรงงานส่งความสุข ปี ๒๕๖๑ “๙ ชื่นบาน แรงงานชื่นใจ” สำหรับเป็นของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงแรงงานมอบให้แก่ผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้าง นายจ้างและประชาชนทั่วไป เช่น (๑) ชื่นชอบ ช่างแรงงาน บริการตรวจสภาพ ซ่อมบำรุงรถยนต์ จักรยานยนต์ ๗๗ จุดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๐-๔ มกราคม ๒๕๖๑ (๒) ชื่นชม ช่างประชารัฐ บริการซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนราคาถูก เต็มใจบริการด้วยคุณภาพมาตรฐานกระทรวงแรงงานทั่วประเทศกว่า ๑,๐๐๐ คน (๓) ชื่นมื่น มีงานทำ จับคู่คนให้ตรงกับงาน จัดหางานให้ตรงใจรวมงานคนพิการ คนสูงวัย ๗๐,๐๐๐ อัตรา โดยมีตำแหน่งงานของผู้สูงวัย ๒,๕๐๐ อัตรา (๔) ชื่นบาน บ้านประชารัฐ ให้ผู้ประกันตนกู้เงินซื้อบ้าน ดอกเบี้ยต่ำ ๓% คงที่ ๓ ปี รายละไม่เกิน ๑ ล้านบาท กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย และ (๕) ชื่นใจ ค่าเลี้ยงดูบุตร เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรแก่ผู้ประกันตนจากเดิม ๔๐๐ เป็น ๖๐๐ บาท ต่อคน/เดือนคราวละไม่เกิน ๓ คน มีผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ ๑,๒๐๐,๐๐๐ คน เป็นต้น ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
               ๑. เห็นชอบแนวทางและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในการปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคเหนือ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานการดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วย
               ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาแนวทางในการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยว โดยให้ดำเนินการในลักษณะคลัสเตอร์ที่สอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละจังหวัด ทั้งในเรื่องเส้นทางคมนาคมให้มีความสะดวกเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวและเชื่อมโยงภายในจังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวมทั้งเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวของประเทศเพื่อนบ้านต่อไป
               ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดลำดับความสำคัญของโครงการต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การพิจารณา ปรับปรุง และจัดทำแผนปฏิบัติการของแต่ละโครงการต่อไป โดยให้กำหนดระยะเวลาการดำเนินงานและผลสัมฤทธิ์ของโครงการที่คาดว่าจะได้รับในแต่ละช่วงเวลาให้ชัดเจน เช่น แผนงาน/โครงการ ที่จะดำเนินการและผลสัมฤทธิ์ที่คาดว่าจะได้รับในระยะเวลา ๑ ปี และในระยะเวลา ๓ ปี เป็นต้น เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหาตามความจำเป็นเร่งด่วน และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง
               ๔. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้

คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
               ๑. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ  เครืองาม) ประสานกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
               ๒. ในกรณีที่คณะกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งอาจส่งผลต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อทราบด้วย

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ปี ๒๕๖๑ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น (๑) โครงการป่าในเมือง “สวนป่าประชารัฐ เพื่อความสุขของคนไทย” (๒) กิจกรรมการส่งมอบรถกู้ภัยและปฐมพยาบาล จำนวน ๓๐ คัน (๓) การสร้างเศรษฐกิจไทยจากไม้ป่าปลูก (๔) ยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติ จำนวน ๑๕๔ แห่ง และ (๕) ยกเว้นการจัดเก็บค่าบริการเข้าชมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquarium) จังหวัดภูเก็ต และพิพิธภัณฑ์ จำนวน ๓ แห่ง เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ปี ๒๕๖๑ ของกระทรวงมหาดไทย เช่น (๑) ตลาดประชารัฐ : สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ (๒) สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน บนวิถีพอเพียง (๓) สถานธนานุบาลท้องถิ่นทั่วไทย มอบของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน (๔) หมู่บ้านชุมชนสดใส ประชารัฐสุขใจ ปลอดภัยจากขยะอันตราย และ (๕) ศูนย์ดำรงธรรม นำสุข คลายทุกข์ด้านที่ดิน เป็นต้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ประจำปี ๒๕๖๑ ของกระทรวงพลังงาน ได้แก่ ปีใหม่ ข้าวใหม่...อิ่มท้อง อิ่มใจ ช่วยชาวนา ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ปี ๒๕๖๑ ของกระทรวงยุติธรรม ประกอบด้วย (๑) การบริหารงานยุติธรรมผ่านระบบเทคโนโลยี เช่น ให้คำปรึกษากฎหมายผ่าน Line Application (ID : rlpdconsultation) ระบบลงนัดล่วงหน้าสำนวนคดีแพ่งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น (๒) การลดภาระรายจ่าย และช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงความยุติธรรม เช่น จำหน่ายสินค้าราชทัณฑ์ในราคาพิเศษ (ลดราคา ๑๕-๒๐%) จำหน่ายซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ในโครงการ DJOP Center ในราคาพิเศษ (ลดราคา ๑๐-๒๐%) การลดค่าใช้จ่ายหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมการประนอมข้อพิพาท เป็นต้น และ (๓) การบริหารงานยุติธรรมช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่น โครงการคุมประพฤติจิตอาสาร่วมใจลดอุบัติภัยทางถนน การเฝ้าระวัง ป้องกัน การใช้ยาเสพติดในกลุ่มผู้ขับขี่พาหนะ การให้ความรู้กฎหมายแก่ประชาชน เป็นต้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ประจำปี ๒๕๖๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ (๑) การให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Hi-Speed Internet) สำหรับสถานศึกษา (๒) กิจกรรมอาชีวะอาสา และ (๓) โรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ประจำปี ๒๕๖๑ ของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ (๑) การพัฒนาระบบบริการการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับ (One day surgery : ODS) (๒) การพัฒนานวัตกรรมโมบายแอปพลิเคชัน (Mobile Application) “RDU รู้เรื่องยา” และ (๓) การพัฒนาโมบายแอปพลิเคชันสมุนไพรเฟิร์ส (Samunprai First) “ครบเครื่องเรื่องสมุนไพรไทยในแอปเดียว” ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ