ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 692 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 13821 - 13840 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
13821 | ร่างพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. .... | นร09 | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. .... ของกระทรวงการคลัง ซึ่งมีสาระสำคัญเพื่อให้มีการกำหนดนโยบายของรัฐที่ชัดเจนและแน่นอนในการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ โดยมุ่งเน้นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน และมีมาตรการส่งเสริมการร่วมลงทุนอย่างเหมาะสม โดยกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนในการจัดทำโครงการร่วมลงทุนที่กระชับ โปร่งใส และตรวจสอบได้ และสามารถสร้างแรงจูงใจให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา โดยให้นำความเห็นของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับการเพิ่มข้อกำหนดภายหลังการพ้นจากตำแหน่งของคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในเรื่องการดำรงตำแหน่งและสัดส่วนการเข้าถือหุ้นในกิจการของเอกชนที่ได้รับคัดเลือกให้ร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ การปรับปรุงถ้อยคำในมาตรา ๒๙ ๓๐ และ ๓๖ เป็น “คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการร่วมลงทุน” แทน “คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการของโครงการร่วมลงทุน” และการนำแนวทางตามบทบัญญัติในมาตรา ๒๕ มาใช้บังคับแก่หน่วยงานเจ้าของโครงการและคณะกรรมการคัดเลือก เพื่อให้การปรับเปลี่ยนรูปแบบการคัดเลือกเอกชนมีความรอบคอบ โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และมีข้อมูลที่ครบถ้วน รวมทั้งการให้คณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในฐานะคณะกรรมการที่มีอำนาจและหน้าที่ในการกำกับดูแลการร่วมลงทุนของรัฐพิจารณาให้ความเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน และเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุน ไปประกอบการพิจารณาด้วย ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวที่จัดทำโดยกระทรวงการคลัง ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการปรับเพิ่มบทบาทของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนให้สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ (Check and Balance) และการกำหนดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และกรอบระยะเวลาในการดำเนินโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนของคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติงานบนหลักการของการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ตามเจตนารมณ์ของร่างกฎหมายที่เสนอในครั้งนี้ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13822 | ร่างพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงว่าด้วยที่ดินที่ได้รับการยกเว้นภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | มท | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช ๒๔๗๕ เพื่อยกเว้นการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินในทรัพย์สินของสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าของต่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นตามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยที่ดินที่ได้รับการยกเว้นภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยที่ดินที่ได้รับการยกเว้นภาษีบำรุงท้องที่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13823 | ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | นร07 | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13824 | มาตรการด้านการงบประมาณเพื่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท | นร07 | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการด้านการงบประมาณเพื่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13825 | ขอความเห็นชอบและลงนามร่างบันทึกความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงโยธาธิการและขนส่งแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | คค | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงโยธาธิการและขนส่งแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามร่างบันทึกความร่วมมือฯ รวมทั้งให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายสำหรับการลงนามดังกล่าว โดยสาระสำคัญของร่างบันทึกความร่วมมือฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ด้านนโยบายระหว่างสองประเทศที่จะดำเนินความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งโดยไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศและเป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน และแสดงความตั้งใจในการเร่งรัดการดำเนินความร่วมมือด้านคมนาคมขนส่งในทุกด้าน ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงระหว่างกันและระหว่างภูมิภาค การอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดนเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงความร่วมมือในการสร้างกลไกในการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานที่ประสบภัยระหว่างกัน โดยจะมีการลงนามร่างบันทึกความร่วมมือฯ ในระหว่างการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat : JCR) ไทย-ลาว ครั้งที่ ๓ ในวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความร่วมมือฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลแลประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๙ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับร่างบันทึกความร่วมมือฯ เป็นการทำความตกลงในระดับหน่วยงานมิใช้ระดับรัฐ อีกทั้งมิได้มีการใช้ถ้อยคำที่มุ่งหมายให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ กรณีจึงไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และไม่จำเป็นต้องมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม เนื่องจากไม่เข้าตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ [เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers)] ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13826 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น รายการค่าก่อสร้างและค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัยและสิ่งก่อสร้างประกอบ | ศย | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้สำนักงานศาลยุติธรรมดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พร้อมที่พักอาศัยและสิ่งก่อสร้างประกอบ บริเวณศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย ภายในกรอบวงเงิน ๘๕๙,๐๕๐,๐๐๐ บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๗๑,๘๑๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๖๘๗,๒๔๐,๐๐๐ บาท ให้ขอรับการจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละปี ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยให้สำนักงานศาลยุติธรรมดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ โดยให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด และมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการดำเนินการออกแบบและก่อสร้างอาคารสถานที่และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐด้วย ทั้งนี้ การขออนุมัติดำเนินการดังกล่าวอยู่ภายในกรอบสัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายที่กำหนดว่าต้องไม่เกินกว่าร้อยละห้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดสัดส่วนต่าง ๆ เพื่อเป็นกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับดูแลโครงการดังกล่าว ให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้สำนักงานศาลยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13827 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2524 มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... | มท | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ถึง พ.ศ. ๒๕๒๔ มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ถึง พ.ศ. ๒๕๒๔ ซึ่งใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๖๑ มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13828 | การแต่งตั้งข้าราชการให้รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (พลตำรวจเอก รุ่งโรจน์ แสงคร้าม) | นร | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ พลตำรวจเอก รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปรักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อีกตำแหน่งหนึ่ง แทนตำแหน่งที่ว่าง มีกำหนดระยะเวลา ๖ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา ๑๑ (๕) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13829 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (นายทองลักษณ์ หาญศึก ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น) | กค | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายทองลักษณ์ หาญศึก ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น เป็นกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทน นายสมคิด พรหมเจริญ ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป และให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13830 | รายงานผลการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย - ลาว ครั้งที่ 25 | กห | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย-ลาว (General Border Committee : GBC) ครั้งที่ ๒๕ ระหว่างวันที่ ๖ ถึงวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ กรุงเทพมหานคร โดยที่ประชุมได้มีการปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทบทวนและประเมินผลของการปฏิบัติร่วมตามบันทึกการประชุม GBC ไทย-ลาว ครั้งที่ ๒๔ ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีความยินดีที่ความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้งสองประเทศได้ก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขั้น เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน สามารถแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างความมั่นคงตามชายแดนของทั้งสองประเทศ ทำให้พื้นที่บริเวณชายแดนส่วนใหญ่มีความสงบเรียบร้อย ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ทั้งนี้ ในการเจรจาหารือร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดน ให้กระทรวงกลาโหมพิจารณานำข้อมูลข้อเท็จจริงในรายงานเรื่องต่าง ๆ ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nation Office Drugs and Crime : UNODC) เช่น รายงานการแก้ไขปัญหายาเสพติด รายงานการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ รายงานการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ เป็นต้น ไปใช้ประกอบในการเจรจาหารือในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13831 | ขอให้พิจารณานำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน 2 ฉบับ) | สลธ.คสช. | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๑/๒๕๖๑ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ลงวันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยให้อำนาจหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในการพิจารณาใช้ดุลยพินิจกำหนดตำแหน่งซึ่งมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอันเป็นส่วนสำคัญของการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๒/๒๕๖๑ เรื่อง การให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ลงวันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ มีสาระสำคัญเป็นการให้พรรคการเมืองสามารถรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพื่อนำเสนอนโยบายที่ใช้ในการบริหารประเทศต่อประชาชน และเพื่อให้ประชาชนและพรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13832 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561) | นร | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันอังคารที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13833 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561)] | นร | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันอังคารที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13834 | ร่างพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561)] | นร | 13/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันอังคารที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13835 | การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนตุลาคม 2561 ต่อคณะรัฐมนตรี | ยธ | 04/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนตุลาคม ๒๕๖๑ ต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีหน่วยงานผู้รับผิดชอบรายงานผลผ่านเว็บไซต์ const.oja.go.th ทั้งหมด ๔๖ หน่วยงาน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๔-๘ เดือน นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๑๖ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๑๖ เรื่อง เป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๑๖ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๑๕ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๑ ฉบับ ๒. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๖ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๖ เรื่อง เป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๘ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๗ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๑ ฉบับ ๓. กฎหมายที่ต้องจัดทำโดยไม่กำหนดระยะเวลา แต่ควรดำเนินการภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๓๗ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๓๗ เรื่อง เป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๗๘ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๓๔ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๔๔ ฉบับ ๔. การดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมาย จำนวน ๓๐ เรื่อง ได้รับการรายงานผลครบถ้วนแล้ว จำนวน ๓๐ เรื่อง ๕. มาตรการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งที่ต้องจัดทำกฎหมาย และการดำเนินการโดยวิธีอื่น ๆ จำนวน ๓๘ เรื่อง ได้รับการรายงานผลครบถ้วนแล้ว จำนวน ๓๘ เรื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13836 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันการพลศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 04/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันการพลศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาบริหารธุรกิจ และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาดังกล่าว ของสถาบันการพลศึกษา ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. การกำหนดหลักสูตรสาขาวิชาบริหารธุรกิจของสถาบันการพลศึกษาควรพิจารณาให้สอดคล้องกับกรอบวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสถาบันการพลศึกษา ซึ่งมุ่งเน้นการบูรณาการการศึกษาด้านกีฬา บุคลากร นันทนาการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13837 | รายงานสรุปผลการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | วท | 04/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระหว่างวันที่ ๖-๘ ตุลาคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเข้าร่วมประชุมประจำปี STS forum ครั้งที่ ๑๕ [The 15th Meeting on Science and Technology in Society (STS) forum] โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้แสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มที่ทั่วโลกจะต้องให้ความสำคัญในการรับมือต่อความท้าทายแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งเกี่ยวพันต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ โดยยึดหลักการดำเนินงานภายใต้นโยบายประเทศไทย ๔.๐ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและถาวร และสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาแบบเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งได้ร่วมนำเสนอมุมมองในหัวข้อ “Innovation Ecosystem” โดยยกประเด็นการเดินหน้าของประเทศไทยไปสู่การเป็นชาติแห่งนวัตกรรมและการใช้ประโยชน์จากความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในการขับเคลื่อนประเทศตามนโยบายประเทศไทย ๔.๐ ๒. การประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (S&T Minister’s Roundtable Meeting) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้นำเสนอมุมมองเกี่ยวกับบทบาทของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยยกตัวอย่างของการใช้ประโยชน์จาก Artificial Intelligence (AI) ที่อาจทำให้ชีวิตของมนุษย์มีความสะดวกมากขึ้น แต่ก็อาจส่งผลให้มีการจ้างงานที่ลดลงและเกิดการว่างงานมากขึ้น หรือเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต (Internet) ที่สามารถทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามก็ส่งผลถึงความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ๓. การพบปะหารือกับ Professor Dr. Otmar D. Wiestler ประธานสมาคมวิจัย Helmholtz Association ของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือหรือการรับความช่วยเหลือจากสถาบันวิจัยดังกล่าวในเรื่องการจัดฝึกอบรมและการแลกเปลี่ยนบุคลากรในสาขาที่ประเทศไทยให้ความสนใจ เช่น งานวิจัยเกี่ยวกับการรักษาหรือป้องกันโรคมะเร็ง โรคติดเชื้อ เบาหวาน โรคในผู้สูงอายุ และโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงการขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในการบริหารหน่วยงานวิจัยโดยเฉพาะการบริหารงานด้านเทคโนโลยีแนวหน้า (Management of Frontier Research) ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาใช้ เช่น อาหารเพื่ออนาคตโดยใช้กระบวนการผลิตในรูปแบบนาโนเทคโนโลยี เป็นต้น และได้เสนอให้มีการพบปะหารือระหว่างทีมนักวิจัยในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจในอนาคต
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13838 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร รวม 2 ฉบับ (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคอสังหาริมทรัพย์ให้แก่มูลนิธิโดยไม่มีค่าตอบแทน) | กค | 04/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์สำหรับรายรับหรือการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มูลนิธิพระดาบส มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล ๑.๒ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มูลนิธิพระดาบส มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก เพื่อใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตามนัยของกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13839 | การเชื่อมโยงข้อมูลภาพใบหน้าบุคคลจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางของกรมการปกครองด้วยระบบคอมพิวเตอร์ | ยธ | 04/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้หน่วยงานที่อยู่ในเครือข่ายศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกระบวนการยุติธรรม (Data Exchange Center) ของกระทรวงยุติธรรม จำนวน ๘ หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานอัยการสูงสุด สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมคุมประพฤติ สำนักงานกิจการยุติธรรม กรมบังคับคดี และสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ข้อมูลภาพใบหน้าบุคคลจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางของกรมการปกครองในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ได้ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลภาพใบหน้าบุคคลจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางของกรมการปกครอง รวมทั้งระบบการตรวจสอบหรือการป้องกันการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้นอกเหนือภารกิจหรือการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลให้ชัดเจนด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
13840 | รายงานการรับจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | กค | 04/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
.....