ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 480 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 9581 - 9600 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
9581 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการลิขสิทธิ์ | 22/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการลิขสิทธิ์ จำนวน ๑๒ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
ดังนี้ ๑. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิม จำนวน ๕ คน ๑.๑ นายพิเศษ จียาศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๒ นางมรกต กุลธรรมโยธิน ผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๓ นางสาวอรพรรณ พนัสพัฒนา ผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๔ นางสาววิมลลักษณ์ ชูชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๕ นายสรณันท์ จิวะสุรัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ๒. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเสนอแต่งตั้งใหม่ จำนวน
๗ คน ๒.๑ นางเขมนรินทร์ รัตนาอัมพวัลย์ ผู้แทนสมาคมอีเลิร์นนิงแห่งประเทศไทย ๒.๒ นายกฤษณ์ ณ ลำเลียง ผู้แทนสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ๒.๓ นายเอกนรินทร์ ชูเลี่ยง ผู้แทนสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ๒.๔
นางสาวชญาภัช แสงทับทิม ผู้แทนสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจ บันเทิงไทย ๒.๕ นายเรืองกิจ
จึงทวีศิลป์ ผู้แทนสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ ๒.๖ นายสุพจน์
รัตนาพันธุ์ ผู้แทนสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่าย หนังสือแห่งประเทศไทย ๒.๗ นายจาฤก กัลย์จาฤก ผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9582 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเพิ่มระยะเวลาการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวก อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ | มท. | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การเพิ่มระยะเวลาการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
มีสาระสำคัญเป็นการให้คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
ทั้งประเภทที่ต้องได้รับการตรวจลงตราจากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลและประเภทที่ได้รับยกเว้นการตรวจลงตรา
ซึ่งมีระยะเวลาการพำนักในราชอาณาจักรไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
โดยคนต่างด้าวดังกล่าวต้องเข้ารับการกักกันเป็นเวลา ๑๔ วัน
ทำให้มีระยะเวลาไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาต
จึงเห็นควรขยายระยะเวลาการพำนักในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวประเภทดังกล่าวอีก
๑๕ วัน รวมเป็น ๔๕ วัน ตั้งแต่วันที่ .. ธันวาคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน
๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้
ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวเป็นการเพิ่มระยะเวลาการอนุญาตให้คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรสามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้นานขึ้น
เพื่อให้มีระยะเวลาเพียงพอสำหรับการดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาต
อันจะมีผลเป็นการผ่อนคลายให้แก่คนต่างด้าวดังกล่าวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในช่วงที่มีการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) อย่างไรก็ตาม สมควรรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง รวมทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อประกอบการพิจารณา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9583 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. .... | รง. | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เป็นระยะเวลา ๓ เดือน
โดยลดอัตราเงินสมทบฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตนมาตรา ๓๓ จากเดิมฝ่ายละร้อยละ ๕
ของค่าจ้างผู้ประกันตน เหลือฝ่ายละร้อยละ ๓ ของค่าจ้างผู้ประกันตน
สำหรับฝ่ายรัฐบาลส่งเงินสมทบอัตราเดิม ร้อยละ ๒.๗๕ ของค่าจ้างผู้ประกันตน
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ ให้ปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมตามมาตรา ๔๖
วรรคสาม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนและนายจ้างจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่นายจ้างและผู้ประกันตนจะได้รับ
รวมทั้งวางแผนการดำเนินการทางการเงินของกองทุนประกันสังคมอย่างเหมาะสมทั้งในระยะสั้น
ระยะกลาง และระยะยาว โดยคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อสภาพคล่องและเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคม
รวมถึงภาระการเงินการคลังที่อาจเกิดขึ้นแก่รัฐในอนาคต
และควรจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อให้กองทุนประกันสังคมมีความมั่นคงพร้อมรองรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง
และผู้ประกันตนมีความมั่นใจในการได้ใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนดไว้
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงแรงงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9584 | ร่างกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ. .... | รง. | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข
และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับประเด็นข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่มีกฎกระทรวงในเรื่องเดียวกันใช้บังคับอยู่แล้วในปัจจุบัน
หากจะออกเป็นกฎกระทรวงใหม่ จะต้องยกเลิกกฎกระทรวงเดิม
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานให้ทันต่อสถานการณ์
ดำเนินการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และระมัดระวังในทุกมิติ
เพื่อให้การจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานดังกล่าวเป็นไปเท่าที่จำเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ให้เกิดผลกระทบทางการเงินอันจะก่อให้เกิดภาระต่อรัฐบาล
ตลอดจนวางแผนการดำเนินการทางการเงินของกองทุนประกันสังคมอย่างเหมาะสมทั้งในระยะสั้น
ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อสภาพคล่องและเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมในอนาคต
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงแรงงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9585 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค. | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗
และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข
๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก)
ตอนบางปะอิน-บางพลี และตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน
ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา ของวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๓ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา
ของวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมเร่งประชาสัมพันธ์การยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมบนทางหลวงพิเศษดังกล่าวให้ประชาชนทราบ
เพื่อให้ประชาชนใช้เส้นทางดังกล่าวในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๔
ต่อเนื่องอย่างคล่องตัว
พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
ตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-๑๙ อย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9586 | การลงนามหนังสือความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี | ยธ. | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการลงนามหนังสือความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด
ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
สาธารณรัฐเกาหลี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. คณะรัฐมนตรีได้มีมติ
(๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๓) เห็นชอบร่างหนังสือความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด
ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
สาธารณรัฐเกาหลี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๒.
สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ฝ่ายไทยและสาธารณรัฐเกาหลีไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศเพื่อร่วมลงนามหนังสือความร่วมมือฯ
ได้ สำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้หารือกับสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี
ในประเด็นการลงนาม โดยการส่งเอกสารระหว่างคู่ภาคีแทนการลงนามต่อหน้ากัน
ซึ่งสาธารณรัฐเกาหลีไม่ขัดข้อง
และทั้งสองฝ่ายเห็นว่าควรให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้พิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ซี่งการลงนามเอกสารความตกลงระหว่างประเทศด้วยวิธีการดังกล่าวถือเป็นความปกติใหม่ (New
Normal) ที่ยังไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน ๓. กระทรวงยุติธรรม
โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ขอความเห็นจากกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับขั้นตอนการลงนามหนังสือความร่วมมือฯ
ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าทั้งสองฝ่ายสามารถดำเนินการได้ตามแนวทางที่เห็นชอบร่วมกัน
และให้แก้ไขถ้อยคำบางส่วน
ซึ่งไม่ถือเป็นการปรับแก้สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
และเห็นควรนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง ๔. เมื่อวันที่ ๒๕
กันยายน ๒๕๖๓ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้ลงนามหนังสือความร่วมมือฯ (ฝ่ายไทยลงนามก่อน)
พร้อมส่งมอบให้ผู้แทนจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี
ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย
โดยสาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามหนังสือความร่วมมือฯ เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๓
และเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๓ สาธารณรัฐเกาหลีได้ส่งมอบหนังสือความร่วมมือฯ
ที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามครบถ้วนสมบูรณ์แล้วให้ฝ่ายไทย จำนวน ๑ ฉบับ
เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานด้านการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติดระหว่างทั้งสองหน่วยงาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9587 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพ และค่าทำศพที่ให้ผู้จ้างงานจ่าย พ.ศ. .... | รง. | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์
วิธีการ และอัตราการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพ
และค่าทำศพที่ให้ผู้จ้างงานจ่าย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และอัตราการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพ และค่าทำศพที่ให้ผู้จ้างงานจ่ายให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้าน
เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้
เพื่อให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านมีโอกาสเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพและเป็นธรรม
และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับความคุ้มคาองและมีสวัสดิการการรักษาพยาบาล
รวมทั้งเป็นการเพิ่มผลิตภาพแรงงานและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9588 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม 2563) | นร. | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๓
ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่
ร่างพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการก่อการร้าย พ.ศ. .... และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๒๓
ธันวาคม ๒๕๖๓ ครั้งที่ ๑๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๒๔
ธันวาคม ๒๕๖๓) และครั้งที่ ๑๓ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ
วันศุกร์ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ เพื่อพิจารณาเฉพาะญัตติตามระเบียบวาระหมายเลข (๕)
เรื่องที่ค้างการพิจารณา
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9589 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ผลกระทบจากประกาศ คสช. คำสั่ง คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. ศึกษากรณีการดำเนินคดีต่อพลเรือนในศาลทหาร การจำกัดเสรีภาพ การแสดงออกและการจำกัดเสรีภาพสื่อมวลชน ของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ผลกระทบจากประกาศ คสช. คำสั่ง คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช.
ศึกษากรณีการดำเนินคดีต่อพลเรือนในศาลทหาร การจำกัดเสรีภาพ การแสดงออกและการจำกัดเสรีภาพสื่อมวลชน
ของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณารายงานพร้อมข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
แล้ว สรุปผลการพิจารณาได้ว่า กรณีผลกระทบจากการพิจารณาคดีพลเรือนในศาลทหาร
โดยเห็นว่าศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาเฉพาะคดีอาญาบางประเภทที่ประกาศระบุไว้แทนศาลพลเรือนเท่านั้น
ไม่ได้มีอำนาจในการพิจารณาพิพากษาทุกคดีความ
และการพิจารณาคดีมีหลักปฏิบัติที่ไม่แตกต่างจากพลเรือน เนื่องจากนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้ในการดำเนินกระบวนวิธีพิจารณาคดี
และมีการคุ้มครองสิทธิต่าง ๆ ของพลเรือน ในส่วนผลกระทบการจำกัดเสรีภาพสื่อมวลชน
ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวข้องกับการจำกัดเสรีภาพสื่อมวลชนต่อสาธารณชนให้รับทราบเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและสืบค้นข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้อง
และกำหนดมาตรการบังคับทางปกครองกับผู้รับใบอนุญาตเฉพาะที่มีการออกอากาศเนื้อหารายการที่ต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด
รวมทั้งผลกระทบจากการจำกัดเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนได้เสนอให้ยกเลิกประกาศ คสช.
คำสั่ง คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. และให้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งได้กำหนดหลักเกณฑ์
และวิธีการไว้แล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9590 | ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.
๒๕๔๕ โดยกำหนดให้บริษัทข้อมูลเครดิตสามารถรับผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางที่เกี่ยวเนื่องกับการให้สินเชื่อสามารถเป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตได้
เพื่อให้สามารถนำส่งข้อมูลของผู้ใช้บริการขอรับสินเชื่อผ่านระบบหรือเครือข่ายการให้บริการของตนให้แก่บริษัทข้อมูลเครดิต
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒.
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9591 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนพฤศจิกายน 2563 | นร.11 | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
ณ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๓ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น
ผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน
๒๕๖๓ ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบ (ร่าง) แผนบทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-๑๙
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕ (ฉบับสมบูรณ์) แนวทางการจัดทำแผนระดับที่ ๓
ที่เป็นแผนปฏิบัติการด้าน ... (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ทั้ง ๑๓
ด้าน และการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ
และแผนการปฏิรูปประเทศ ผ่านการปรับปรุงและพัฒนาระบบ eMENSCR
รวมทั้งได้เสนอแนะประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ
คือ การก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล เป็นต้น
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9592 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่
๙) พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9593 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ของอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย 1 ขวา ของแม่น้ำน้อย - แม่น้ำผักไห่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ของอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ) | กษ. | 22/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จำนวน
๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย
ของอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย
ของอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลเฉนียง
อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ถึงกิโลเมตรที่ ๑๖.๗๐๐ ในท้องที่ตำบลตระแสง
อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๒.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย ๑ ขวา ของแม่น้ำน้อย-แม่น้ำผักไห่
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย ๑ ขวา
ของแม่น้ำน้อย-แม่น้ำผักไห่ จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลองครักษ์
อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ถึงกิโลเมตรที่ ๑๑.๒๔๐ ในท้องที่ตำบลอ่างแก้ว
อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9594 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2563) | นร. | 15/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา
ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(ความผิดฐานทำให้แท้งลูก) ร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต พ.ศ. ....
และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. ....
รวมทั้งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๙
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๓ และครั้งที่ ๑๐
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9595 | รายงานผลการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาของกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น | นร. | 15/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบรายงานผลการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาของกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่นกรณีเรียกร้องขอให้ยกเลิกโครงการเมืองต้นแบบ
“สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่เมืองต้นแบบที่ ๔ อำเภอจะนะ
จังหวัดสงขลา “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ)
ประธานกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมเสนอ ๒.
มอบหมายให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมรับรายงานผลการหารือฯ
ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้แนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนโดยด่วน
และนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบหรือพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9596 | ร่างข้อเสนอเรื่องมาตรการการห้ามหรือจำกัดการส่งออกสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับโครงการอาหารโลก | พณ. | 15/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9597 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมสภารัฐมนตรีสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย ครั้งที่ 20 | กต. | 15/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9598 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมเครื่องเล่น (ฉบับที่..) พ.ศ. .... | มท. | 15/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9599 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสหกรณ์ที่จะรับจดทะเบียน วัตถุประสงค์ และขอบเขตแห่งการดำเนินกิจการของสหกรณ์แต่ละประเภท พ.ศ. .... | กษ. | 15/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสหกรณ์ที่จะรับจดทะเบียน วัตถุประสงค์
และขอบเขตแห่งการดำเนินกิจการของสหกรณ์แต่ละประเภท พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของสหกรณ์ที่จะรับจดทะเบียน วัตถุประสงค์
และขอบเขตแห่งการดำเนินกิจการที่จะพึงดำเนินการได้ของสหกรณ์แต่ละประเภท
ตามความในมาตรา ๓๓/๑ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๒
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้พิจารณาในประเด็นตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับเนื้อหาในร่างข้อ
๖ ถึงร่างข้อ ๑๐ ของร่างกฎกระทรวง เป็นการกำหนดเกี่ยวกับการรับจดทะเบียนสหกรณ์
โดยเฉพาะในร่างข้อ ๙ ที่กำหนดให้นายทะเบียนสหกรณ์มีอำนาจกำหนดระเบียบในการรับจดทะเบียนจัดตั้งสหกรณ์ตามกฎกระทรวง
จึงเป็นการกำหนดเนื้อหาเกินมาตรา ๓๓/๑ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๒
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ดังนั้น ร่างข้อ
๖ ถึงร่างข้อ ๑๐ จึงเป็นการกำหนดเนื้อหาเกินกว่าที่กฎหมายแม่บทกำหนดไว้ และให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรกำหนดให้สหกรณ์ที่ประสงค์จะให้บริการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ต้องหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย
และดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสงค์ให้สหกรณ์ประเภทอื่นใดนอกจากสหกรณ์ร้านค้าสามารถให้บริการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
เห็นควรกำหนดขอบเขตดังกล่าวไว้ในขอบเขตของสหกรณ์ประเภทนั้นในร่างกฎกระทรวงอย่างชัดเจน
รวมทั้งควรกำหนดระยะเวลาให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่ประกอบธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายและรวบรวมผลผลิตของสมาชิกเพื่อการขายหรือแปรรูปอยู่ก่อนที่ร่างกฎกระทรวงประกาศใช้
ปรับเปลี่ยนรูปแบบดำเนินธุรกิจหรือจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงประเภทของสหกรณ์ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดในร่างกฎกระทรวง
นอกจากนี้ ควรกำหนดกระบวนการในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การบังคับใช้ตามร่างกฎกระทรวง
ให้สหกรณ์ที่ได้รับจดทะเบียนไว้เดิมสามารถจดทะเบียนหรือดำเนินกิจการให้สอดคล้องถูกต้องตรงกับลักษณะ
วัตถุประสงค์
และขอบเขตแห่งการดำเนินกิจการตามประเภทของสหกรณ์ตามที่กำหนดในร่างกฎกระทรวง
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น ควรให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบและเข้าใจสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
พร้อมทั้งเตรียมแนวทางดำเนินการเพื่อรองรับกรณีสหกรณ์ที่มีการดำเนินการไม่สอดคล้องตามลักษณะของสหกรณ์ที่รับจดทะเบียน
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9600 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์และเป้าหมายการดำเนินการปรับปรุงท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวเกาะล้าน เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี | มท. | 15/12/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทย (เมืองพัทยา) เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์และเป้าหมายการดำเนินการปรับปรุงท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวเกาะล้าน
เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จาก “ท่าเทียบเรือคอนกรีตเสริมเหล็ก
พร้อมทางขึ้น-ลงเรือ บริเวณท่าเทียบเรือหน้าบ้าน เกาะล้าน” เป็น
“การติดตั้งท่าเทียบเรือลอยน้ำสำเร็จรูป จำนวน ๓ แห่ง บนพื้นที่เกาะล้าน
เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้แก่ (๑)
ก่อสร้างท่าเทียบเรือโดยสารปรับระดับบริเวณท่าเทียบเรือหน้าบ้าน (๒)
ปรับปรุงสะพานศูนย์แพทย์ชุมชนบ้านเกาะล้าน และ (๓) ปรับปรุงท่าเทียบเรือปรับระดับหาดแสม
ในภายวงเงิน ๑๒๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งสำนักงบประมาณได้เห็นชอบความเหมาะสมของราคาแล้ว
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทย (เมืองพัทยา)
รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์และเป้าหมายการดำเนินการปรับปรุงท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวเกาะล้านควรพิจารณาดำเนินการเฉพาะในส่วนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
เพื่อรองรับความต้องการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย
และคำนึงถึงความคุ้มค่าของงบประมาณและภาระงบประมาณในระยะยาวเป็นสำคัญ และควรพิจารณาเร่งรัดจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของการปรับปรุงท่าเทียบเรือหน้าบ้านเพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินโครงการก่อนเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
การดำเนินแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ของเมืองพัทยาในคราวต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลเมืองพัทยาให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการ
และการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ) ที่ให้ส่วนราชการเจ้าของโครงการพิจารณาความจำเป็น
เหมาะสม คุ้มค่า ตลอดจนตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามโครงการนั้น ๆ
อย่างละเอียดรอบคอบ ให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติก่อน อย่างเคร่งครัด |