ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 477 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 9521 - 9540 จากข้อมูลทั้งหมด 124007 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
9521 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ | กษ. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ จำนวน ๘ คน เนื่องจากกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน ๔
คน ได้แก่ ๑.๑ นายโอฬาร
พิทักษ์ ๑.๒ นายอภิชาต จงสกุล ๑.๓ นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ๑.๔ นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ๒.
ผู้แทนเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน ๔ คน ได้แก่ ๒.๑ นายพรชัย ชั้นสกุล ๒.๒ นายอัษฎางค์ สีหาราช ๒.๓ นายทวิวัส เหลี่ยมดี ๒.๔ นายสิทธิพร บุรณนัฏ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9522 | การขอความเห็นชอบต่อร่างข้อริเริ่มว่าด้วยการสร้างความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างอาเซียน - จีน ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล (Initiative on Building ASEAN - China Partnership on Digital Economy) | ดศ. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างข้อริเริ่มว่าด้วยการสร้างความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างอาเซียน-จีน
ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล (Initiative on Building ASEAN-China Partnership on Digital
Economy) ฉบับวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๓ โดยร่างข้อริเริ่มฯ
เป็นเอกสารที่จีนเสนอเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ ๒๓
ในระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
และสำนักเลขาธิการอาเซียนจะออกหนังสือแจ้งการให้ความเห็นชอบร่างเอกสารดังกล่าวเมื่อรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัลได้ให้ความเห็นชอบร่างเอกสารข้อริเริ่มฯ
แบบเวียนครบทั้ง ๑๐ ประเทศแล้ว ซึ่งร่างข้อริเริ่มฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นและความพยายามร่วมกันระหว่างอาเซียน-จีน
ในการผลักดันความร่วมมือด้านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในสาขาต่าง ๆ เช่น
การส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
การเสริมสร้างความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานทางสารสนเทศ
และการสนับสนุนทักษะความรู้ด้านดิจิทัล เป็นต้น ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัลของไทย หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ให้ความเห็นชอบต่อร่างข้อริเริ่มฯ แบบเวียน (Ad-referendum) โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะประสานงานสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อแจ้งยืนยันการให้ความเห็นชอบต่อร่างเอกสารข้อริเริ่มฯ
ของไทยต่อไป ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อริเริ่มฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ในการดำเนินการต่อไป ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงขอบเขตความร่วมมือภายใต้ข้อริเริ่มฯ
ให้มีความเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย
โดยเฉพาะด้านความร่วมมือบนโลกอินเทอร์เน็ตและด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9523 | การเสนอความเห็นการดำเนินการสำหรับทุนหมุนเวียนที่มีผลการประเมินผลการดำเนินงานต่ำกว่าเกณฑ์การประเมินผลที่กำหนดเป็นเวลา 3 ปี ติดต่อกัน | กค. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบผลการพิจารณาการดำเนินการสำหรับทุนหมุนเวียนที่มีผลการประเมินผลการดำเนินงานต่ำกว่าเกณฑ์การประเมินผลที่กำหนดเป็นเวลา
๓ ปี ติดต่อกัน จำนวน ๓ ทุน ประกอบด้วย (๑)
กองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (๒)
เงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ (๓)
กองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย สังกัดสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม
ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๓
เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ได้พิจารณาผลการประเมินผลการดำเนินงานทั้ง ๓
ทุนหมุนเวียนแล้วมีมติยุบกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
และยุบเลิกเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา
สำหรับกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัยให้ดำเนินการต่อไป แต่หากผลการประเมินของกองทุน
ประจำปีบัญชี ๒๕๖๔ ต่ำกว่าเกณฑ์การประเมินผลที่กำหนด ให้ยุบเลิกกองทุนต่อไป
และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนไปดำเนินการต่อไป
ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
ส่วนเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมในประเด็นที่ไม่เห็นด้วยกับการยุบเลิกเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
และมีนโยบายที่จะรวมภารกิจของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชนกับกองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษาให้เป็นกองทุนเดียวกัน
ไปพิจารณาทบทวนตามหน้าที่และอำนาจอีกครั้งหนึ่ง
๒.
ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ขอให้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้ยุบเลิกทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนากฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9524 | โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca) | สธ. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca)
และการจัดซื้อวัคซีนกับบริษัท AstraZeneca โดยให้กระทรวงสาธารณสุขหารือร่วมกับคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐและกรมบัญชีกลางเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการในการจัดซื้อวัคซีนที่ได้จากการจองล่วงหน้าภายใต้โครงการดังกล่าว
และดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไปอย่างเคร่งครัด ๒.
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา
แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
เพื่อจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ภายใต้โครงการดังกล่าว ในวงเงิน ๒,๓๗๙.๔๓ ล้านบาท
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9525 | การสิ้นสุดหน้าที่กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำยูเครนของ นายมีไคโล ราดุดสกี และการปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำยูเครนเป็นการชั่วคราว (นายมีไคโล ราดุดสกี) | กต. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการสิ้นสุดหน้าที่กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำยูเครนของ
นายมีไคโล ราดุดสกี (Mr. Mykhajlo Radoutskyy) และการปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำยูเครนเป็นการชั่วคราว
จนกว่าจะมีการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำยูเครนคนใหม่
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9526 | ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว | มท. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบตามที่ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดชี้แจงเพิ่มเติมว่า ๑.๑ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๓/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๖๕
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ จึงมีสภาพบังคับเป็นกฎหมายหากจะมีการยกเลิก แก้ไข
ปรับปรุง จะต้องออกกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ ๑.๒
ผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่กระทรวงมหาดไทยเสนอในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในข้อ
๓ และข้อ ๖ ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๖๒ เรื่อง
การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ โดยสำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างสัญญาดังกล่าว
พร้อมทั้งแจ้งข้อสังเกตเพื่อให้กรุงเทพมหานครนำความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุดไปดำเนินการ
ทั้งนี้ ตามข้อ ๖ แห่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าว
กำหนดให้ในกรณีที่มีการดำเนินการตามข้อ ๓ หรือข้อ ๕ แล้วแต่กรณี
จนได้ผลการเจรจาเป็นที่ยุติ และร่างสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไขแล้ว
ให้ถือว่าเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.
๒๕๖๒ ในส่วนของการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนแล้ว ดังนั้น
ผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ ที่กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) เสนอ
จึงถือว่าเป็นการดำเนินการแก้ไขสัญญาที่ถูกต้องและครบถ้วนตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
พ.ศ. ๒๕๖๒ แล้ว
โดยเป็นการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนเดิมมิใช่การยกเลิกสัญญาสัมปทานหรือยกเลิกสัญญาร่วมลงทุนเดิม
และ/หรือจัดทำสัญญาใหม่ ๒.
รับทราบความเห็นเพิ่มเติมกรณีขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวของกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม
๓.
ให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานอัยการสูงสุด และประธานกรรมการนโยบายร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
รวมทั้งคำชี้แจงเพิ่มเติมของผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ไปพิจารณาประกอบการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ถูกต้อง
ชัดเจน และครบถ้วน เช่น รูปแบบการดำเนินโครงการ การดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภาระหนี้สินที่เกิดขึ้น
ผลประโยชน์ตอบแทนที่ได้รับ ประโยชน์สูงสุดของประชาชน เป็นต้น
แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9527 | การเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี 2562 และปีบัญชี 2563 | กค. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบผลการพิจารณาเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ปีบัญชี ๒๕๖๒ และปีบัญชี ๒๕๖๓ รวมจำนวน ๑๔ ทุนหมุนเวียน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน
๓,๑๑๒.๘๕ ล้านบาท จำแนกเป็นปีบัญชี ๒๕๖๒ จำนวน ๑๐ ทุนหมุนเวียน รวมเป็นเงินจำนวน ๑,๙๕๐.๑๑
ล้านบาท และปีบัญชี ๒๕๖๓ จำนวน ๖ ทุนหมุนเวียน รวมเป็นเงินจำนวน ๑,๑๖๒.๗๔ ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายทุนหมุนเวียน
ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
ส่วนกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กองทุนสิ่งแวดล้อม
เงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู
และกองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงศึกษาธิการ
และกระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาทบทวนตามหน้าที่และอำนาจอีกครั้งหนึ่ง โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะขอไม่นำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของกองทุนสิ่งแวดล้อมส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินในปีบัญชี
๒๕๖๓ เนื่องจากคาดว่ากองทุนสิ่งแวดล้อมจะมีเงินคงเหลือในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
ไม่เพียงพอรองรับประมาณการรายจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕
ประกอบกับกองทุนสิ่งแวดล้อมเป็นกองทุนไม่แสวงหาผลกำไร
โดยผลประโยชน์ที่เกิดจากกองทุนนี้นำไปหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนให้กับโครงการที่ขอรับการสนับสนุนทั้งเงินกู้และเงินอุดหนุน
ซึ่งส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป
และกระทรวงศึกษาธิการเห็นว่าในส่วนของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู
กระทรวงศึกษาธิการจะดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุด
และการนำทุนหรือกำไรส่วนกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑
แต่การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบให้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูขาดสภาพคล่องทางการเงินและมีเงินไม่เพียงพอในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖ ไปพิจารณาทบทวนตามหน้าที่และอำนาจอีกครั้งหนึ่ง ๒.
ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนพิจารณากำหนดระยะเวลาการนำส่งทุนหรือผลกำไรส่วนเกินที่ต้องส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินที่ชัดเจน
และรายงานผลการนำส่งทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9528 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2563) | นร.05 | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันอังคารที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
และครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9529 | 10 ข้อเสนอ เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่ 10 อันดับประเทศที่ประกอบธุรกิจได้ง่ายที่สุด (Ten for Ten) | นร.04 | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบ ๑๐
ข้อเสนอ เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่ ๑๐ อันดับประเทศที่ประกอบธุรกิจได้ง่ายที่สุด (Ten
for Ten) สถานการณ์ดำเนินการ และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) รายงาน ๒.
ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดของหน่วยงานรับผิดชอบตามข้อ ๑ กำกับ ติดตาม
และเร่งรัดการดำเนินการของหน่วยงานในความรับผิดชอบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้
ให้หน่วยงานรับผิดชอบดังกล่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามข้อเสนอแนะ
โดยให้ครอบคลุมถึงเรื่องที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ
เรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ เรื่องที่จะดำเนินการในอนาคต
และเรื่องที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้
พร้อมทั้งปัญหาอุปสรรคและเหตุผลความจำเป็นที่เกี่ยวข้อง ไปยังรองนายกรัฐมนตรี
(นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) ภายใน ๑ เดือน
เพื่อรวบรวมและนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป ๓.
ให้สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ
และการสร้างความสามัคคีปรองดอง เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร.
กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดำเนินการจัดประชุมเพี่อชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต
หอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย และหอการค้าไทย
เกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อเสนอแนะดังกล่าวให้ถูกต้อง ชัดเจนโดยทั่วกันโดยด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9530 | ขอความเห็นชอบร่างเอกสารที่จะมีการรับรองระหว่างการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน ครั้งที่ 26 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | คค. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างเอกสารที่จะมีการรับรองระหว่างการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน ครั้งที่
๒๖ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวของ ผ่านระบบการประชุมทางไกล ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕
พฤศจิกายน ๒๕๖๓ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองเอกสารดังกล่าว
ประกอบด้วย (๑) การทบทวนแผนยุทธศาสตร์ด้านการขนส่งกัวลาลัมเปอร์ ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๘
ระยะกลาง (๒) แนวปฏิบัติสำหรับการยกระดับขั้นตอนมาตรฐานในการรายงานข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลขององค์การสหประชาชาติ
(๓) ปฏิญญาบรูไนว่าด้วยความปลอดภัยทางถนนของอาเซียน ค.ศ. ๒๐๒๐ (๔)
แผนแม่บทการเดินอากาศอาเซียน (๕) พิธีสาร ๒ สถาบันฝึกอบรมด้านการบิน (๖) แนวปฏิบัติในช่วงสถานการณ์โควิด-19 (๗) รายงานฉบับสุดท้ายภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการเดินเรือสำราญระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น
(๘) แนวปฏิบัติสำหรับการบำรุงรักษาร่องน้ำเดินเรือในอาเซียน (๙)
แนวปฏิบัติสำหรับมาตรการด้านความปลอดภัยสำหรับเส้นทางเดินเรือ และ (๑๐)
แผนที่นำทางความร่วมมือด้านการขนส่งระหว่างอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ค.ศ. ๒๐๒๑-๒๐๒๕
มีสาระสำคัญเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการขนส่งอาเซียน ปี
๒๕๕๙-๒๕๖๘ ทั้ง ๕ ด้าน ได้แก่ การขนส่งทางอากาศ การขนส่งทางบก การขนส่งทางน้ำ
การอำนวยความสะดวกในการขนส่ง และการขนส่งที่ยั่งยืน
และแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ. ๒๐๒๕
ในการพัฒนาและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของอาเซียน
โดยการยกระดับมาตรฐานการขนส่งในสาขาต่าง ๆ
ให้เป็นสากลเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการค้า การลงทุน
รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือด้านการขนส่งกับประเทศคู่เจรจาของอาเซียน
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารทั้ง ๑๐ ฉบับ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงบประมาณ
เช่น ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โอนเงินจัดสรร
หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๒ ในโอกาสแรกก่อน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9531 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลสุไหงโก - ลก อำเภอสุไหงโก - ลก จังหวัดนราธิวาส พ.ศ. .... | คค. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลสุไหงโก-ลก
อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อสร้างทางหลวงชนบทสาย
ค ๒ สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๕๗ และทางหลวงชนบท สาย นธ.๔๐๓๑
ตามโครงการผงเมืองรวมเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัดและจะเป็นการอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ก่อนการก่อสร้างทางหลวงชนบททุกเส้นทาง
กรมทางหลวงชนบทต้องให้ความสำคัญและตระหนักถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการก่อสร้างทางหลวงชนบทกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
เพื่อป้องกันปัญหาการระบายน้ำไม่ทันและอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมหรือเกิดอุทกภัยต่อไปในอนาคต
และกรมทางหลวงชนบทควรให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงการที่ไม่ส่งผลกระทบกับการระบายน้ำในพื้นที่
ตามผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรและที่ดินทำกินของประชาชนในบริเวณใกล้เคียง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9532 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสาม ปี 2563 | นร.11 | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสาม
ปี ๒๕๖๓ ประกอบด้วย ความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสสาม ปี ๒๕๖๓
สถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ และบทความเรื่อง “ผลกระทบของ COVID-19 ต่อความยากจน”
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9533 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ ) | กษ. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๕ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑. นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. พันจ่าเอก
ประเสริฐ มาลัย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓.
นายชาตรี บุญนาค ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายสุชาติ เจริญศรี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๕.
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9534 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวกุลยา ตันติเตมิท) | กค. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
กระทรวงการคลัง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9535 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายณัฐกร อุเทนสุต) | กค. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายณัฐกร อุเทนสุต ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี กรมสรรพสามิต ใหดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่
๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9536 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ | อว. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จำนวน ๓ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมเนื่องจากเกษียณอายุราชการโดยให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑.
ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานของรัฐ ๑.๑ นายกอบชัย
สังสิทธิสวัสดิ์ ๑.๒
นายดนุชา พิชยนันท์ ๒.
ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมิใช่ข้าราชการ นายทศพร
ศิริสัมพันธ์ ๓. ให้
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมิใช่ข้าราชการ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๓ เปลี่ยนเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการดังกล่าว
ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9537 | แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการตราร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนเพื่อก่อสร้างหรือขยายถนน | นร. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติกรณีการตราร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนเพื่อก่อสร้างถนนหรือขยายถนน
โดยต้องพิจารณาความสอดคล้องกับหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนและต้องมีผลเป็นการกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติเพียงเท่าที่จำเป็น
รวมทั้งต้องสร้างระบบการระบายน้ำที่เพียงพอต่อการขยายตัวของชุมชนหรือเมืองในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องอีก
๑๐-๑๕ ปี ข้างหน้าไปพร้อมกันด้วย
เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาถนนกีดขวางทางน้ำซึ่งทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังอันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9538 | ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (การแก้ไขเพิ่มเติมการแบ่งส่วนราชการในกองบัญชาการตำรวจนครบาล สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) | ตช. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๑.๒
ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๕๒ เพื่อจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล
และกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการดังกล่าว ๒.
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับเกลี่ยตำแหน่งและกำลังพลภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งจำนวนและระดับตำแหน่งที่มีอยู่เดิมให้สอดคล้องกับภารกิจและปริมาณงานที่จะต้องปฏิบัติ
สำหรับอัตรากำลังที่จะปฏิบัติภารกิจในศูนย์ฝึกอบรม ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ๓.
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณที่เห็นควร
(๑)
พิจารณาถึงความคุ้มค่าและความซ้ำซ้อนของโครงสร้างหน่วยงานที่รับผิดชอบภารกิจด้านการฝึกอบรมในภาพรวม
โดยมุ่งเน้นให้เกิดการบูรณาการภารกิจการฝึกอบรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เพื่อให้มีการใช้บุคลากร สถานที่ หรือทรัพยากรอื่น ๆ รวมทั้งควรบูรณาการการกำหนดยุทธศาสตร์
แผนพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม ตลอดจนการจัดการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย (๒)
นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เช่น การจัดห้องเรียนเสมือนจริง (Virtual
Classroom) การสร้างศูนย์ข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาหน่วยงานไปสู่รัฐบาลดิจิทัล
(Digital Government) และสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนอื่น และ
(๓) จัดทำแผนการบริหารอัตรากำลังของหน่วยงานให้ชัดเจน
และดำเนินการจัดสรรอัตรากำลังโดยปรับเกลี่ยตำแหน่งและกำลังพลภายใน
ทั้งจำนวนและระดับตำแหน่งให้สอดคล้องกับภารกิจและปริมาณงานตามความจำเป็นและเหมาะสม
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9539 | การแต่งตั้งโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม | อว. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ประชาสัมพันธ์ทางราชการ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เป็นโฆษก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ๒. ศาสตราจารย์ศุภชัย ปทุมนากุล เป็นรองโฆษก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9540 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ของกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน | รง. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ ของกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม ประกอบด้วย
งบแสดงฐานะทางการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงาน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|