ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 475 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 9481 - 9500 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
9481 | รายงานผลการดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ.2548 | นร.01 | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๖๓)
และแนวทางการดำเนินการตามระเบียบฯ
และกำชับให้หน่วยงานของรัฐให้ความสำคัญและถือปฏิบัติต่อไป โดยรายงานฯ ประกอบด้วย (๑)
ภารกิจด้านการตรวจสอบโครงการของรัฐที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
(๒) ภารกิจด้านการจัดอบรมสัมมนาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการตามระเบียบฯ
(๓) ภารกิจด้านจัดทำและเผยแพร่แนวทางการเผยแพร่ข้อมูลและการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
(๔) ภารกิจด้านการกำกับดูแล ช่วยเหลือ
แนะนำหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการตามระเบียบฯ (๕) บทวิเคราะห์ปัญหา อุปสรรค
และข้อเสนอแนะ และ (๖) ข้อเสนอแนะการขับเคลื่อนการดำเนินการตามระเบียบฯ
ส่วนแนวทางการดำเนินการตามระเบียบฯ ประกอบด้วย การพิจารณาลักษณะโครงการของรัฐ
การเผยแพร่ข้อมูลโครงการของรัฐ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
และสรุปผลการรับฟังความคิดเห็น ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9482 | ขออนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด | กค. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๑.๑ ขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินยืมของบริษัท
ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งต้นเงินยืมและดอกเบี้ย
รวมทั้งดอกเบี้ยผิดนัดจากสัญญาเดิมนับแต่ปี ๒๕๖๓ ออกไปอีก ๒๕ ปี (๒๕๖๓-๒๕๘๗) และให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืนเงินยืมจากสัญญาเดิม
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ซี่งมีเงื่อนไขให้บริษัทฯ
ดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑.๑
พักชำระต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา ๗ ปี นับตั้งแต่ปี ๒๕๖๓-๒๕๖๙
โดยภาระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในระยะเวลา ๗ ปีของช่วงพักชำระหนี้ดังกล่าว ให้บริษัทฯ
นำไปเฉลี่ยทยอยชำระคืนแก่กระทรวงการคลังในช่วงชำระคืนต้นเงินยืม ๑.๑.๒
ทยอยชำระคืนต้นเงินยืม พร้อมดอกเบี้ยให้แก่กระทรวงการคลังภายในกรอบระยะเวลาชำระ ๑๓
ปี นับตั้งแต่ปี ๒๕๗๐-๒๕๘๒ ๑.๑.๓
ปรับอัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระใหม่ โดยใช้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล (Government
Bond Yield) อายุ ๒๐ ปี ณ วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๓ (ทศนิยมไม่เกิน ๓
ตำแหน่ง) ทั้งนี้ ในการคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในปี ๒๕๖๓ ให้บริษัทฯ
ยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยตามสัญญาเดิมที่ร้อยละ ๓.๗๘ ต่อปี
และจะเริ่มปรับใช้อัตราดอกเบี้ยใหม่นับตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ๑.๑.๔
ทยอยชำระคืนดอกเบี้ยผิดนัดตามสัญญาเดิม ภายหลังการชำระคืนต้นเงินยืมเสร็จสิ้น
ภายในกรอบระยะเวลาชำระ ๕ ปี (ปี ๒๕๘๓-๒๕๘๗) ๑.๒
ให้จัดทำสัญญาและตารางการชำระคืนเงินยืมใหม่ตามที่กระทรวงการคลังกำหนดภายใต้เงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติดังกล่าวข้างต้น
โดยให้คำนึงถึงสภาพคล่องของบริษัทฯ ให้มีเพียงพอต่อการดำเนินกิจการ เพื่อให้บริษัทฯ
สามารถชำระคืนเงินยืมที่มีกับกระทรวงการคลังได้ทั้งหมดต่อไป ทั้งนี้ ภายใต้กรอบระยะเวลาการชำระหนี้ หากบริษัทฯ
มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA : Earnings Before Interest
Tax Depreciation and Amortization) ประจำปี หลังหักชำระคืนเงินยืมตามงวดชำระที่มีกับกระทรวงการคลังแล้วเกิน
๑๐๐ ล้านบาท เห็นควรให้บริษัทฯ ชำระคืนเงินยืมจากกำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี
ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายส่วนเกิน ๑๐๐ ล้านบาท ดังกล่าว อีกร้อยละ ๕๐
และบริษัทฯ สามารถชำระคืนเงินยืมให้แก่กระทรวงการคลังก่อนครบกำหนดทั้งจำนวนหรือบางส่วนก็ได้ ๑.๓
มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกำกับติดตามการดำเนินกิจการของบริษัทฯ
ตามแผนธุรกิจและแผนการปรับโครงสร้างหนี้อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
เพื่อให้การดำเนินการของบริษัทฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์การจัดตั้งและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลต่อไป ๒.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้กระทรวงการคลังกำหนดระยะเวลาชำระหนี้เงินยืมในส่วนของเงินต้นคงค้างเป็นรายงวดอย่างเหมาะสมและชัดเจน
เพื่อลดความเสี่ยงในการไม่ได้รับการชำระคืนเงินต้นคงค้างทั้งจำนวน ดอกเบี้ย
และดอกเบี้ยผิดนัดจากสัญญาเดิม โดยการกำกับติดตามการดำเนินกิจการของบริษัทฯ
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะต้องคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
และหน่วยงานของรัฐพิจารณาเลือกใช้บริการทดสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้าและบริการอื่น ๆ
ของบริษัทฯ เป็นลำดับแรก เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจการของบริษัทฯ ให้มีสภาพคล่องและเพียงพอต่อการชำระหนี้ได้ต่อไป
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๖ [เรื่อง ขออนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท
ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด] อย่างเคร่งครัดด้วย
๔.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9483 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 16/2563 | นร. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๑๖/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๓
ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ
และมาตรการด้านสาธารณสุข กรณีการแพร่ระบาดในจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ
จังหวัดนครปฐม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร ฯลฯ และแนวชายแดน (๒)
ความคืบหน้าการพัฒนาและผลิตวัคซีนโรคโควิด-19 (๓) การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
กรณีการแพร่ระบาดในจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนครปฐม
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร ฯลฯ และแนวชายแดน (๔)
มาตรการเพื่อบรรเทาและช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
(๕) มาตรการและแนวทางการใช้แอปพลิเคชันเพื่อรองรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (๖)
การเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดใหม่ของโควิด-19 (๗)
มาตรการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๔ (๘) ความเหมาะสมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตันนานาชาติ
และ (๙) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9484 | รายงานผลการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 และขอขยายระยะเวลาการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองฯ | มท. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ
พ.ศ. ๒๕๖๑
เป็นการรายงานผลการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.
๒๕๖๑ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลเพื่อดำเนินการยกร่างกฎหมายลำดับรอง
ประกอบกับการออกกฎหมายลำดับรองจะเป็นมาตรการการกำหนดโทษแก่ผ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดิน
จึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการพอสมควร
จึงขอขยายระยะเวลาการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามมาตรา ๒๒
แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ
พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้ ให้ขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไปอีก ๑ ปี ๓.
ให้ทุกหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบการบังคับใช้กฎหมายเร่งตรวจสอบกฎหมายในความรับผิดชอบของตน
เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดโดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9485 | รายงานสรุปผลการดำเนินการต่อรายงานเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีกรณีสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไม่ดำเนินการตามข้อเสนอแนะมาตรการของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร | สม. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินการต่อรายงานเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีกรณีสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไม่ดำเนินการตามข้อเสนอแนะมาตรการของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง)
พิจารณาและกำหนดหลักเกณฑ์หรือวิธีการสำหรับรอการส่งกลับคนต่างด้าวที่อุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองทุกกรณีจนกว่าผลการพิจารณาอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองจะเสร็จสิ้น
เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของคนต่างด้าวและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเพราะเหตุแห่งการส่งกลับต่อไป
เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๔๗ วรรคสอง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๓ วรรคหนึ่ง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๓ โดยที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกันว่า
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
โดยไม่ขัดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
จึงไม่จำเป็นต้องกำหนดหลักเกณฑ์หรือวิธีการสำหรับรอการส่งกลับคนต่างด้าวที่อุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9486 | การเปิดตลาดสินค้าเกษตรตามกรอบความตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) ปี 2564 - 2566 สินค้าเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ หอมหัวใหญ่ หัวพันธุ์มันฝรั่ง และหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูป | กษ. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการเปิดตลาดสินค้าเกษตรตามกรอบความตกลงความตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) ปี ๒๕๖๔-๒๕๖๖ สินค้าเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ หอมหัวใหญ่ หัวพันธุ์มันฝรั่ง
และหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูปตามมติคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์
ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ ประกอบด้วย (๑)
เมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ ปริมาณในโควตา ปีละ ๓.๑๕ ตัน อัตราภาษีในโควตา ร้อยละ ๐
และนอกโควตา ร้อยละ ๒๑๘ (๒) หอมหัวใหญ่ ปริมาณในโควตาปีละ ๗๖๔ ตัน
(แห้งเป็นผงและไม่เป็นผง) อัตราภาษีในโควตา ร้อยละ ๒๗ และนอกโควตาร้อยละ ๑๔๒ (๓)
หัวพันธุ์มันฝรั่ง ปริมาณในโควตาไม่จำกัดจำนวน อัตราภาษีในโควตาร้อยละ ๐
และนอกโควตาร้อยละ ๑๒๕ และ (๔) หัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูป มีปริมาณในโควตาปี ๒๕๖๔
จำนวน ๖๓,๐๐๐ ตัน ปี ๒๕๖๕ จำนวน ๗๑,๐๐๐ ตัน ปี ๒๕๖๖ จำนวน ๘๐,๐๐๐ ตัน
อัตราภาษีในโควตาร้อยละ ๒๗ และนอกโควตาร้อยละ ๑๒๕
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้คณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
หากมีการส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่และระบบเกษตรพันธสัญญา (Contract
Farming) ควบคู่ไปด้วย ก็จะสามารถลดการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศและทำให้การบริหารจัดการผลผลิตทางการเกษตรของไทยเกิดความยั่งยืนได้ต่อไป
และควรมีการติดตามสถานการณ์ด้านการผลิต การตลาด
และความเคลื่อนไหวของราคาของสินค้าหอมหัวใหญ่ เมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่
หัวพันธุ์มันฝรั่ง และหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูป อย่างต่อเนื่องด้วย
รวมทั้งควรมีการพิจารณาแนวทางในการลดต้นทุนการผลิตและยกระดับประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรกรในการปลูกหอมหัวใหญ่และมันฝรั่งให้มีความเหมาะสม
และสอดคล้องกับสภาพพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกร
เพื่อให้การผลิตหอมหัวใหญ่และมันฝรั่งภายในประเทศมีปริมาณและคุณภาพที่เหมาะสม
เพียงพอต่อความต้องการใช้ และไม่กระทบต่อตลาดในประเทศ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
๒.
มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการเพิ่มปริมาณผลผลิตหัวมันฝรั่งสดภายในประเทศทดแทนการนำเข้า
เช่น การส่งเสริมการเพาะปลูกมันฝรั่งสดทดแทนพืชชนิดอื่น
เพื่อให้มีผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศมากยิ่งขึ้น
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๓ [เรื่อง
การขอขยายปริมาณในโควตาการนำเข้าสินค้าหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูปภายใต้ความตกลงองค์การการค้าโลก
(WTO) ปี ๒๕๖๓ เพิ่มเติม] ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9487 | การเตรียมความพร้อมบุคลากรเพื่อรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) | นร.04 | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า
ตามที่ได้มีข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๐
เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของบุคลากรและแรงงานไทยเพื่อรองรับการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(Eastern Economic Corridor : EEC)
โดยให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จัดทำฐานข้อมูลแรงงานและประมาณการความต้องการแรงงานในสาขาต่าง ๆ
ของอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC เพื่อนำไปใช้กำหนดเป้าหมายในการผลิตบุคลากรแต่ละประเภทและระดับให้ตรงตามความต้องการ
รวมทั้งให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีหลักสูตรเพื่อพัฒนาบุคลากรในสาขาวิชาต่าง ๆ
เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC ด้วยนั้น เพื่อให้การเตรียมความพร้อมบุคลากรดังกล่าวข้างต้นมีความเหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการแรงงาน
ตลอดจนสภาวะการทำงานของแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบัน
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้นให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
โดยให้นำปัจจัยเกี่ยวกับผลกระทบด้านแรงงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) มาประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย
และให้รายงานผลให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9488 | ร่างเอกสารที่จะเสนอให้มีการรับรองโดยรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม | ทส. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกรอบแผนงานอาเซียน-จีน
ด้านยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘ (Framework
of ASEAN-China Environmental Cooperation Strategy and
Action Plan 2021-2025) และร่างเอกสารแนวคิดอาเซียน-จีน
ว่าด้วยปีแห่งความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Concept Paper on 2021 as
ASEAN-China Year of Sustainable Development Cooperation) เป็นเอกสารซี่งที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม
ครั้งที่ ๓๑ ให้การรับรองแล้วผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ ๒๔-๒๕ พฤศจิกายน
๒๕๖๓ และจะเสนอให้มีการรับรองโดยรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม
โดยวิธีการแจ้งเวียน (ad referendum) ภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๓
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองเอกสาร
๒ ฉบับดังกล่าว โดยร่างกรอบแผนงานฯ
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดกรอบการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมการขับเคลื่อนศักยภาพในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
ส่วนร่างเอกสารแนวคิดฯ มีสาระสำคัญเป็นการสร้างความร่วมมือด้านสาธารณสุข
ขจัดความยากจน ลดภัยพิบัติ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการใช้พลังงานสะอาด
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเอกสาร ๒ ฉบับดังกล่าว
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒.
สำหรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
เห็นควรให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ หรือโอนเงินจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร
แล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ในโอกาสแรก
หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9489 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 31/2563 (ผลการดำเนินงานของจังหวัดตามมติคณะรัฐมนตรี) และครั้งที่ 32/2563 | นร.11 | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบและอนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๓๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ และครั้งที่ ๓๒/๒๕๖๓
เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ ที่ได้มีการพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอแผนงาน/โครงการเพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ และพิจารณาความเหมาะสมของการปรับปรุงรายละเอียดโครงการ
รวมทั้งพิจารณาผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้กระทรวงต้นสังกัด
หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจะต้องเร่งดำเนินการให้ทันต่อสถานการณ์
และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระยะเวลาดำเนินการ
และความเหมาะสมของค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ ซึ่งจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์
อัตราค่าใช้จ่าย และมาตรฐานของทางราชการอย่างประหยัด
ตลอดจนให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างยั่งยืน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9490 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... | คค. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงคมนาคมถอนร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง
พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามที่เสนอได้
และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9491 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ | สผ. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่
พร้อมอาคารประกอบ จากการขยายเวลาสัญญาก่อสร้างแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ครั้งที่
๔ ระหว่างวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ จำนวน ๔๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9492 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 เรื่อง โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ | อว. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ (เรื่อง
โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้)
โดยให้นักเรียนในโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับทุนการศึกษาเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในสถาบันอุดมศึกษา
ตามนัยพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้
รวมถึงการเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการฯ ในรอบ ๑ ปี
เพื่อประกอบการพิจารณาปรับปรุงโครงการฯ ต่อไป
และให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรพิจารณาถึงความคุ้มค่าและศักยภาพในการให้ทุน
พิจารณาการให้ทุนอย่างเหมาะสม เป็นธรรม และคำนึงถึงความเท่าเทียมทางด้านการศึกษา
มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนทุนการศึกษาให้ชัดเจนครอบคลุมทุกภาคส่วน
รวมทั้งควรมีการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการเป็นระยะ ๆ
เพื่อประกอบการพิจารณาการจัดสรรทุนในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒.
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง
และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9493 | รายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของรองนายกรัฐมนตรีและส่วนราชการ (จำนวน 9 ราย) | นร.05 | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของรองนายกรัฐมนตรีและส่วนราชการ
(จำนวน ๙ ราย) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.
นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
รองนายกรัฐมนตรี
(นายดอน ปรมัตถ์วินัย) ๒.
นายจำเริญ โพธิยอด ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
กระทรวงการคลัง ๓.
นายประสพ เรียงเงิน ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
กระทรวงวัฒนธรรม ๔.
นายปิยะ คงขำ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ๕
นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๖.
นายสำเริง แสงภู่วงศ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ๗.
นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ๘.
พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ๙.
นายวิชัย ไชยมงคล ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9494 | (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาอาชีพที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการพัฒนาประเทศตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ พ.ศ. 2562-2565 | ศธ. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบ (ร่าง)
แผนปฏิบัติการด้านการผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาอาชีพที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการพัฒนาประเทศตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕ ซี่งเป็นการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาอาชีพที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการพัฒนาประเทศตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ
จำนวน ๗ สาขาอาชีพ ประกอบด้วย (๑) โลจิสติกส์โครงสร้างพื้นฐาน (๒)
โลจิสติกส์และซัพพลายเชน (๓) หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (๔)
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและดิจิทัลคอนเทนต์ (๕) อาหารและเกษตร (๖)
ปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ พลังงานและพลังงานทดแทน และ (๗) แม่พิมพ์ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ๒.
ให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน
กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงาน ก.พ.
ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ เช่น
ควรกำหนดตัวชี้วัดและกรอบระยะเวลาดำเนินงานให้ชัดเจน
ควรให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตกำลังคนกับหน่วยงานที่เป็นแหล่งทุนต่าง ๆ
ควรจัดให้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ
และควรวางระบบติดตามและประเมินสถานการณ์ปัจจุบันและคาดการณ์อนาคต
รวมทั้งติดตามและรายงานผลภาวะการมีงานทำตรงสาขาวิชาของผู้เข้าร่วมโครงการฯ เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9495 | โครงการของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2564 ให้แก่ประชาชน | กต. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๔ ให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. การให้บริการเครื่องรับคำร้องขอทำหนังสือเดินทางด้วยตนเอง
(kiosk) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่เครื่องแรกของประเทศไทยในเดือนมกราคม
๒๕๖๔ โดยให้บริการสำหรับผู้บรรลุนิติภาวะแล้วที่เคยถือหนังสือเดินทางมาก่อน
(มิใช่กรณีการขอทำหนังสือเดินทางครั้งแรก)
ที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวปทุมวัน (ศูนย์การค้า MBK)
ในเวลาทำงาน ๑๐.๐๐-๑๘.๐๐ น. ๒. การให้บริการแปลและยกเว้นค่าธรรมเนียม
เป็นระยะเวลา ๒ สัปดาห์ (๑๐ วันทำการ) ณ กรมการกงสุล
และสำนักงานสัญชาติและนิติกรณ์ อีก ๔ แห่งทั่วประเทศ
สำหรับการยื่นขอรับรองเอกสารทะเบียนราษฎรและทะเบียนครอบครัว ๑๙ ประเภท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9496 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ครั้งที่ 5 ผ่านระบบการประชุมทางไกล | ดศ. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ครั้งที่ ๕ (The 5th ASEAN Ministerial
Conference on Cybersecurity : AMCC)
ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๓
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ โดยมีเรื่องที่สำคัญ สรุปได้
ดังนี้ ๑.
แผนงานระดับภูมิภาคด้านบรรทัดฐานของรัฐในเรื่องความรับผิดชอบบนโลกไซเบอร์ (Regional Workplan for Norms Implementation)
โดยมาเลเซียและสิงคโปร์จะร่วมกันจัดทำร่างแผนงานระดับภูมิภาคด้านบรรทัดฐานของรัฐในเรื่องความรับผิดชอบบนโลกไซเบอร์
๑๑ ข้อ ที่อ้างอิงจาก UNGEE กับปัจจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการให้สอดคล้องกับความสนใจของประเทศสมาชิกอาเซียนและเพื่อสามารถนำหลักการแปลงสู่การปฏิบัติได้จริง
โดยมาเลเซียจะนำร่างแผนงานระดับภูมิภาคด้านบรรทัดฐานของรัฐในเรื่องความรับผิดชอบบนโลกไซเบอร์หารือในการประชุมคณะกรรมการประสานงานอาเซียนด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ครั้งที่ ๑ (The 1st ASEAN Cybersecurity Coordinating
Committee Meeting : ASEAN Cybet-CC) ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๓
และหารือถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินงานร่วมกับกลไกอาเซียนอื่น ๆ ต่อไป ๒.
การสร้างความเข้มแข็งของภูมิภาคผ่านการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ (Strengthening Regional Cyber Resilience through Critical
Information Infrastructure Protection) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้นำเสนอผลการดำเนินโครงการ
ASEAN Critical Information Infrastructure Protection ของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
เพื่อให้สามารถกำหนดกลยุทธ์ในการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์
และมีข้อเสนอแนะให้ประเทศสมาชิกอาเซียนระดับความร่วมมือเพื่อหาแนวทางและกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์และพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ผ่านข้อริเริ่มที่มีอยู่แล้วในกรอบอาเซียน
เช่น การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างศูนย์อาเซียน-สิงคโปร์ ว่าด้วยความเป็นเลิศด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
(ASEAN-Singapore Cybersecurity Centre of Excellence
: ASCCE) เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรไซเบอร์ของอาเซียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เป็นต้น ๓.
การดำเนินงานความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
โดยที่ประชุมหารือระหว่างรัฐมนตรีอาเซียนด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และประเทศคู่เจรจาอาเซียนได้ให้ความสำคัญในหลักการ
“4p” ในการดำเนินงานความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ประกอบด้วย (๑) “principle” ความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามบรรทัดฐานของรัฐในเรื่องความรับผิดชอบบนโลกไซเบอร์
(๒) “practice” การแปลงนโยบายหรือหลักการสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
(๓) “process” กระบวนการดำเนินงานในการขับเคลื่อนการปฏิบัติตามบรรทัดฐานของรัฐในเรื่องความรับผิดชอบบนโลกไซเบอร์ผ่านการเสริมสร้างความร่วมมือทั้งในระดับพหุภาคีและระดับภูมิภาค
และ (๔) “people partnership and pandemic” การเสริมสร้างความเข้มแข็งของหุ้นส่วนความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาหรือองค์กรภายนอกอาเซียนเพื่อรับมือกับโลกไซเบอร์ที่มีความท้าทายเกิดขึ้นใหม่ในปัจจุบัน
รวมถึงช่วงสถานการณ์โควิด-๑๙ อย่างมีองค์รวม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9497 | ของขวัญปีใหม่ ปี 2564 ให้แก่ประชาชน | นร.12 | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนงาน/โครงการที่ได้ดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๔ ให้แก่ประชาชน ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้ ๑.
กลุ่มงานบริการภาครัฐในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ปัจจุบันมีจำนวน ๓๒๕ งานบริการ โดยจัดกลุ่มประเภทงานบริการออกได้เป็น
(๑) งานบริการเพื่อประชาชน จำนวน ๘๗ งานบริการ (๒)
งานบริการสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ/SMEs จำนวน ๑๙๒ งานบริการ และ
(๓) งานบริการด้านแรงงานหรือส่งเสริมการมีงานทำ จำนวน ๔๖ งานบริการ ทั้งนี้
ประชาชนสามารถสแกน QR Code เพื่อทราบถึงช่องทางการให้บริการของแต่ละงานบริการได้ ๒.
กลุ่มศูนย์บริการร่วมภาครัฐ จำแนกข้อมูลเป็น (๑) ศูนย์บริการประชาชน
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (๒) ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ๗๖ จังหวัด (๓)
ศูนย์บริการร่วมกระทรวง ๑๕ กระทรวง และ (๔) ศูนย์บริการร่วมระหว่างหน่วยงาน
ซึ่งตั้งอยู่ในห้างสรรพสินคา รวม ๒๒ จังหวัด
และตั้งอยู่ในสถานที่อื่นที่หน่วยงานจัดตั้ง ได้แก่
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ณ อาคารจามจุรีสแควร์ ทั้งนี้
ประชาชนสามารถสแกน QR Code เพื่อทราบถึงสถานที่ตั้งและช่องทางการติดต่อ
สอบถาม ผ่านทางโทรศัพท์ เว็บไซต์ หรือ Facebook ของหน่วยงานได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9498 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยุบเลิกบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา | สผ. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยุบเลิกบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งกระทรวงการคลังได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยได้ดำเนินการเตรียมการรองรับการบังคับใช้กฎหมาย โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
จะจัดตั้งหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ขึ้น
เพื่อรองรับพนักงานของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.)
และได้สื่อสารทำความเข้าใจกับพนักงาน ธอส. ให้รับทราบถึงการควบรวม ธอส. กับ บตท.
รวมทั้งพิจารณาปรับโครงสร้างของ ธอส. และประมาณการอัตรากำลังปี ๒๕๖๔-๒๕๖๘
เยียวยาความเดือดร้อนของลูกจ้างชั่วคราวของ บตท. โดย ธอส.
มีนโยบายจะรับลูกจ้างชั่วคราวของ บตท. ที่มีความประสงค์จะมาเป็นลูกจ้างชั่วคราวของ
ธอส. ภายหลังสิ้นสุดสัญญาจ้างกับ บตท. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9499 | ผลการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน ครั้งที่ 26 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | คค. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน
ครั้งที่ ๒๖ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๒๔-๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
ด้วยรูปแบบการประชุมทางไกล ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเข้าร่วมการประชุม
โดยมีผลการประชุมที่สำคัญ เช่น (๑) การทบทวนยุทธศาสตร์ด้านการขนส่งกัวลาลัมเปอร์
ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๘ ระยะกลาง โดยรัฐมนตรีขนส่งอาเซียนยินดีต่อผลการทบทวนยุทธศาสตร์ฯ
และให้การรับรองข้อเสนอแนะจากการทบทวนและปรับปรุงแผนงานภายใต้ยุทธศาสตร์ฯ
ซึ่งได้รวบรวมข้อริเริ่มเกี่ยวกับการขนส่งและการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) โดยจะใช้เป็นแผนดำเนินการระหว่างปี ๒๕๖๔/๒๕๖๘
และมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมแผนการฟื้นฟูอาเซียนที่ครอบคลุม (๒) การรับรองปฏิญญาบรูไนว่าด้วยความปลอดภัยทางถนนของอาเซียน
ปี ๒๕๖๓ ที่มุ่งเน้นการลดอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนลงอย่างน้อยร้อยละ ๕๐ จากปี
๒๕๖๓-๒๕๗๓ และ (๓) การแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
ในด้านการขนส่งและที่เกี่ยวข้อง และการเน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือของอาเซียนในการดำเนินการตามกรอบการฟื้นฟูที่ครอบคลุมของอาเซียนร่วมกับรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน
เป็นต้น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9500 | แผนงาน/โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2564 ให้แก่ประชาชน ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | กก. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนงาน/โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๔ ให้แก่ประชาชน ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
สรุปได้ ดังนี้ ๑. กรมการท่องเที่ยว
จัดทำรายชื่อที่พักนักเดินทาง (Home Lodge) ที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพให้ประชาชนเข้าใช้บริการ
จำนวน ๔๘๒ แห่ง ๑,๓๒๗ ห้อง ทั่วประเทศ ภายใต้สัญลักษณ์ Home Lodge หรือค้นหารายชื่อที่พักที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพได้ทาง Facebook “ThailandHomelodge” และจัดให้มีสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
สาขาภาคใต้เขต ๑ (สาขาย่อยหาดใหญ่)
เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ ผู้นำเที่ยว
และประชาชนทั่วไป เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนรวมถึงผู้ที่มาติดต่อได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง
โดยจะเปิดให้บริการในวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๔ ๒.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร
จัดงานฉลองเทศกาลปีใหม่ อาทิ งาน Amazing Thailand Countdown ๒๐๒๑ @ ICONSIAM งาน CentralwOrld Bangkok
Countdown ๒๐๒๑ งาน Siam Paragon The Glorious Celebration ๒๐๒๑ เทศกาลตกแต่งประดับไฟย่านราชประสงค์ ณ สี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริและถนนเพลินจิต
กรุงเทพมหานคร รวมถึงการจัดเทศกาลฉลองปีใหม่ในพื้นที่จังหวัดต่าง
ๆ อาทิ งานปีใหม่สาเกตนคร ออนซอนหอโหวด ๑๐๑ งาน Fine Day @ Night Bazaar Countdown ๒๐๒๑ ณ Night Bazaar จังหวัดเชียงใหม่ และกิจกรรม
“ไลฟ์โปรลับ ๒๕ โรงแรม ลดส่งท้ายปี ๘๐% เชียงใหม่ เชียงราย” ๓.
การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดทำโครงการ “คืนความสุขสมาชิกสวนสุขภาพ กกท.”
ให้บริการตรวจสุขภาพ (วัดความดันโลหิต) ให้ความรู้เกี่ยวกับการรับประทานยา
ให้คำแนะนำการออกกำลังกาย ณ สวนสุขภาพ กกท. ทุกวันศุกร์ ช่วงเวลา ๐๖.๐๐-๐๘.๐๐ น.
ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๖๓ ถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๔ และโครงการ “Safe
Stadium” โดยเผยแพร่ความรู้ทางเลือกของการออกกำลังกายอย่างถูกต้องเหมาะสม
และจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับการป้องกันการเสียชีวิตในสถานที่กีฬา ๔.
มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ให้บริการอาคาร สถานที่ และสนามกีฬาทุกชนิด ฟรี
โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในระหว่างวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๔ ๕.
กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว อาทิ การจัดกิจกรรมปล่อยแถวแสดงกำลังสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและกวาดล้างอาชญากรรมในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ประจำปี
๒๕๖๔
และจัดกิจกรรมเดินรณรงค์สร้างความเชื่อมั่นในด้านการรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว
ในวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๓ ณ สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ๖.
องค์การบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)
อาทิ การจัดกิจกรรมพัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อารยธรรมอีสานใต้
โดยพัฒนาระบบแสดงข้อมูลกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์
แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมอีสานใต้ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสืบค้นผ่าน application
บนโทรศัพท์มือถือ กิจกรรมเปิดหมู่บ้านท่องเที่ยว CBT ๒๕๖๔ ตอน โต้ลมหนาว เผาปลา ผารังหมี ณ
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรบ้านผารังหมี จังหวัดพิษณุโลก และกิจกรรมชมดาว
เผาข้าวหลาม ฟังตำนานปกาเกอะญอ ณ ชุมชนบ้านแม่สาน จังหวัดสุโขทัย
|