ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1962 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 39221 - 39240 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
39221 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (จำนวน 11 ราย 1. นายกฤต ไกรจิตติฯ) | กต | 07/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัด
กระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 11 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณา โปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ดังนี้ 1. นายกฤต ไกรจิตติ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย 2. นางกฤษณา จันทรประภา ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศ 3. นายเชต ธีรพัฒนะ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต รัฐคูเวต 4. นายอิศร ปกมนตรี ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง (นักบริหาร การทูต ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ 5. นายจักริน ฉายะพงศ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบราซิเลีย สหพันธ์สาธารณรัฐ บราซิล 6. นางสาววิภาวรรณ นิพัทธกุศล ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก สาธารณรัฐชิลี 7. นายอนุสนธิ์ ชินวรรโณ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมองค์การ ระหว่างประเทศ 8. นายกิตติพงษ์ ณ ระนอง ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมเอเชียตะวัน ออก 9. นายพิษณุ จันทร์วิทัน ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยม เวียดนาม 10. นายจัก บุญ-หลง ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมการกงสุล 11. นายอภินันท์ ภัทรธิยานนท์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39222 | ร่างพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 07/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนัก งานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของ รัฐ เพื่อให้ครอบคลุมเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทตามที่กำหนดไว้แล้ว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในส่วนราชการหรือหน่วย งานอื่นของรัฐที่เกิดขึ้นใหม่ที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐและหรือมีเหตุผลความจำเป็นต้องมีบัตรประจำ ตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประกอบการปฏิบัติหน้าที่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว นำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 2. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า จะสามารถ แก้ไขปัญหาความสับสนเกี่ยวกับบัตรของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2542 จึงต้องใช้บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในขณะ ที่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมิได้ระบุให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา เป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐได้หรือไม่ เพียงใด และรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเรียงลำดับตำแหน่ง ประธานศาลฏีกากับตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตามร่างมาตรา 6 (9) และการเรียงลำดับตำแหน่งเลขา ธิการสำนักงานศาลยุติธรรมกับตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตามร่างมาตรา 6 (10) ควรเรียง ลำดับตำแหน่งประธานศาลฎีกาไว้ก่อนตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย รวมทั้งควรเรียงลำดับตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมไว้ก่อนตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีความสอดคล้องกัน ไปพิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39223 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. .... | คค | 07/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวง
พิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (ทางหลวงพิเศษ หมายเลข 36 สายกรุงเทพมหานคร-ระยอง ตอนกรุงเทพมหานคร-เมืองพัทยา รวมทางแยกไปบรรจบทาง หลวงหมายเลข 34 (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง) และบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (ทางหลวง พิเศษหมายเลข 37 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอนบางปะอิน-บางพลี) ตั้งแต่เวลา 12.00 นาฬิกา ของวันที่ 10 เมษายน 2552 ถึงเวลา 12.00 นาฬิกา ของวันที่ 16 เมษายน 2552 และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39224 | การทบทวนความต้องการแหล่งทุนสามัญของ ADB | กค | 07/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการเพิ่มทุนธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian development Bank : ADB)
ครั้งที่ 5 ตามทางเลือกที่ 3 กล่าวคือ เพิ่มทุนร้อยละ 200 ของ GCI โดยระดมเงินทุนในรูปของ Paid-in Capital ร้อย ละ 4 และมีระดับการให้กู้คงที่ 13 พันลานดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้สมมติฐานที่ว่าการให้กู้มีอัตราการเจริญเติบโตตาม ระดับการเติบโตเศรษฐกิจที่อัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี และให้กระทรวงการคลังจัดทำกรอบการเจรจาเพื่อเสนอต่อรัฐ สภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สำหรับงบประมาณเพื่อสนับสนุนการเพิ่มทุนดังกล่าว ให้กระทรวงการคลังเสนอขอรับจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณตามความจำเป็น ตามความเห็น ของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39225 | แผนการกู้เงินเพื่อชำระคืนเงินกู้ในประเทศที่ครบกำหนดชำระ (Roll-Over) ในช่วงเวลา 5 ปี (ปี 2552 -2556) ของการทางพิเศษทางแห่งประเทศไทย | คค | 07/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
1. ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ขยายวงเงินกู้เพื่อชำระคืนเงินกู้ในประเทศที่ครบกำหนด ชำระ (Roll-Over) สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เพิ่มขึ้น 3,500 ล้านบาท เป็น 5,800 ล้านบาท 2. ให้ กทพ. กู้เงินตามแผนการกู้เงินเพื่อชำระคืนเงินกู้ในประเทศที่ครบกำหนดชำระ (Roll-Over) ใน ช่วงระยะเวลา 5 ปี (ปี พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2556) ของ กทพ. ในวงเงินรวมไม่เกิน 33,700 ล้านบาท โดยให้ กทพ. ประสานงานกับกระทรวงการคลังเพื่อบรรจุเรื่องดังกล่าวไว้ในแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปี และให้กระทรวง การคลังเป็นผู้พิจารณาจำนวนเงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินตามความจำเป็นและ เหมาะสม ตลอดจนการค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ยจากการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ 3. ให้กระทรวงคมนาคม โดย กทพ. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในส่วนของแผนการกู้เงินตามแผนกู้เงินเพื่อชำระคืนเงินกู้ในประเทศที่ครบ กำหนดชำระ (Roll-Over) ในช่วงเวลา 5 ปี (ปี พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2556) นั้น จากการพิจารณาข้อมูลทางการเงิน ของ กทพ. พบว่า กทพ. สามารถชำระหนี้ด้วยเงินรายได้เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้ จึงเห็นควรเร่งรัดการชำระ หนี้ให้มากขึ้นเพื่อลดภาระดอกเบี้ย และหากในช่วงเวลาดังกล่าว กทพ. มีรายได้เพิ่มขึ้น กทพ. ควรพิจารณานำเงิน รายได้ชำระหนี้เพิ่มขึ้นเพื่อลดการกู้เงินเพื่อชำระคืนเงินกู้ดังกล่าว รวมทั้งเพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะเกิดขึ้นใน อนาคต ไปดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39226 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย ( นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย และนายกนก คติการ) | ทส | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้ประธานกรรม
การและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 13 มีนาคม 2551 และลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2551 พ้นจากตำแหน่งทั้งหมด และแต่งตั้งประธานกรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย จำนวน 2 คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (24 มีนาคม 2552) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ 2. นายกนก คติการ กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39227 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... | วท | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ จัดตั้งสำนักงานนวัตกรรมขึ้นเป็นองค์การมหาชนตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหา ชน โดยให้ตัดความในร่างมาตรา 43 ออกเพื่อให้สอดคล้องกับองค์การมหาชนแห่งอื่นในสังกัดกระทรวงวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยี ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 (เรื่อง นโยบายการพัฒนาระบบราชการ) ในประเด็นที่ให้ระงับการขอจัดตั้ง องค์การมหาชนเป็นการเฉพาะราย 2. คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า การจัดตั้งองค์กรในรูปแบบองค์การมหาชน มักเป็นการโอนภารกิจ ของส่วนราชการมาปฏิบัติโดยมุ่งหวังให้เกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากกว่าเดิมโดย กำหนดเงินเดือนและค่าตอบแทนของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในองค์การมหาชนไว้สูงกว่าส่วนราชการ ดังนั้น ใน การคัดเลือกบุคลากรเข้าปฏิบัติงานในองค์การมหาชนแต่ละแห่ง จึงควรให้ความสำคัญกับการคัดเลือกบุคคล ที่เป็นมืออาชีพ มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นลำดับแรก ส่วนการรับ โอนข้าราชการและเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการเดิมควรดำเนินการเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องรับข้อสังเกตดังกล่าวไปเป็นแนวทางในการพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39228 | ร่างหลักเกณฑ์การเข้าร่วมทุนกับนิติบุคคลอื่น สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) | กษ | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับร่างหลักเกณฑ์การเข้าร่วมทุนกับนิติบุคคลอื่น สำนักงานพัฒนาการวิจัยการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39229 | การประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง | นร | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) เสนอ ดังนี้
1. ให้ประกาศพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยงตามร่างประกาศคณะกรรมการบริหารการ พัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 2. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือและสนับสนุนองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) ในการจัดทำแผนแม่บท โดย อพท. และเมืองพัทยา เป็นผู้รับผิดชอบงบประมาณในการจัดทำแผนแม่บท เพื่อให้การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและ พื้นที่เชื่อมโยงบรรลุตามวัตถุประสงค์ และสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพการท่อง เที่ยวของประเทศ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39230 | ร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. .... | ทส | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ มีสาระสำคัญคือ ให้มีคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเป็นองค์กร เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรดินและที่ดิน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยไม่ให้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงาน แล้วนำ เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่เห็นควร ให้มีผู้แทนของหน่วยงานที่มีกฎหมายในเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรดินและที่ดิน รวมเป็นองค์ประกอบของ คณะกรรมการด้วย ส่วนกรณีให้มีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติควรระบุเป็นเพียงหน่วยงานภาย ในสังกัดสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของกองบริหารจัดการที่ดิน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นหน่วยงานทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการ แทนการจัดตั้งหน่วย งานใหม่
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39231 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานการจัดทำแผนที่ในที่ดินของรัฐ พ.ศ. .... | มท | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานการจัดทำแผนที่ในที่ดินของรัฐ พ.ศ. .... |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39232 | การพิจารณาออกหนังสือแลกเปลี่ยนกับรัฐบาลญี่ปุ่นในการให้สิทธิพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) เดิมที่โอนมาเป็นเจ้าหน้าที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป | กต | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของฝ่ายไทยที่จะตอบตกลงไปยังรัฐบาลญี่ปุ่นในเรื่องการให้สิทธิ พิเศษแก่เจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan Bank for International Cooperation-JBIC) เดิมที่โอนมาเป็นเจ้าหน้าที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan Inter national Cooperation Agency-JICA) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป 2. อนุมัติให้ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่าง ประเทศ เป็นผู้ลงนามในหนังสือตอบแลกเปลี่ยนของฝ่ายไทยดังกล่าวในนามรัฐบาลไทย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39233 | การเสนอแบบรายงานและกรอบแนวทางการติดตามประเมินความก้าวหน้าการปฏิบัติตามนโยบายและแผนปฏิบัติการแม่บทแห่งชาติด้านสิทธิมนุษยชน (แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 1) | ยธ | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอเครื่องมือที่เป็นแบบรายงานและกรอบแนวทางในการติดตาม ประเมินความก้าวหน้าการปฏิบัติตามนโยบายและแผนปฏิบัติการแม่บทแห่งชาติด้านสิทธิมนุษยชน (แผนมนุษย ชนแห่งชาติ ฉบับที่ 1) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยึดถือปฏิบัติในการติดตาม และการรายงานผลการปฏิบัติ ตามนโยบายและแผน ฯ ฉบับแรก ทั้งนี้ ในการรายงานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานข้อมูลตามแบบที่ กำหนดเมื่อสิ้นปีงบประมาณปีละครั้ง เพื่อให้สามารถประเมินผลผลิตของงานที่ดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม และมีความชัดเจนมากกว่าเนื่องจากการรายงานในช่วง 6 เดือนแรก ของแต่ละปีงบประมาณ อาจจะแสดงให้เห็น เพียงขั้นตอนหรือกระบวนการดำเนินงานเท่านั้น ตามความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการ 2. ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของกระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้ บริโภค เกี่ยวกับแบบรายงานการติดตาม ผู้รับผิดชอบการรายงานควรเป็นผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบ เพื่อให้ แต่ละหน่วยงานให้ความสำคัญต่อนโยบายเรื่องนี้อย่างจริงจัง และการติดตามประเมินความก้าวหน้าการปฏิบัติ ตามนโยบายและแผนดังกล่าวควรดำเนินการให้ครอบคลุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านสิทธิมนุษยชนด้วย ไป พิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39234 | ร่างพระราชบัญญัติพัฒนาเมือง พ.ศ. .... | พม | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติพัฒนาเมือง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่น คงของมนุษย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยไม่ให้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการ จัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงาน แล้วนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1.1 กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเมืองและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ 1.2 กำหนดให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเมืองเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็น ส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ มีฐานะเป็นนิติบุคคล และกำหนดอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน 1.3 กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายตรวจสอบเพื่อเสนอความเห็นเกี่ยวกับผลการตรวจสอบภาย ในต่อคณะกรรมการนโยบาย 1.4 กำหนดให้การพัฒนาเมืองต้องสอดคล้องกับการใช้ประโยชน์ในที่ดินตามที่กำหนดไว้ในผังเมือง และคำนึงถึงความต้องการของประชาชนในพื้นที่เมืองและเขตพื้นที่พัฒนาการบำรุงรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรม ชาติ 1.5 กำหนดให้จัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเมือง 1.6 กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุนและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ 2. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเกี่ยว กับการจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเมือง ควรดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 26 สิงหาคม 2551 ซึ่งกำหนดหลักการในการจัดตั้งทุนหมุนเวียนจะกระทำได้เฉพาะที่เป็นกิจกรรมที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติตามหน้าที่เพื่อสาธารณประโยชน์ทางเศรษฐกิจหรือเพื่อช่วยเหลือในการครองชีพ หรืออำนวยบริการแก่ ประชาชน และเป็นกรณีที่ไม่สามารถใช้วิธีดำเนินการตามระเบียบของทางราชการได้ และการออกพระราชบัญญัติ ควรให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งให้มีการนำมาตรการในการ จูงใจมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและการดำเนินงาน โดยเฉพาะการกำหนดให้มีการยกเว้นค่า ธรรมเนียม เนื่องจากมีผลกระทบกับผู้อยู่อาศัยในเขตพื้นที่พัฒนา ส่วนบทนิยามของคำว่า "การพัฒนาเมือง" ควร กำหนดให้มีความหมายที่ครอบคลุมทุกสาขาของการพัฒนา อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาสิ่งแวด ล้อมและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการพัฒนาสังคมและการพัฒนาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การกำหนดให้ กองทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเมืองส่วนหนึ่ง ประกอบด้วยเงินกู้ที่รัฐบาลกู้เพื่อสมทบกองทุนโดยอนุมัติจากคณะ รัฐมนตรี นั้น น่าจะเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องตามหลักการจัดตั้งกองทุนในการที่จะต้องกู้เงินมาสมทบกองทุนเพื่อเป็น ค่าใช้จ่าย ควรกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบ และขอรับการ จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีจะเหมาะสมว่า จึงไม่มีความจำเป็นต้องจัดตั้งกองทุนดังกล่าว ไปประกอบการ พิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39235 | ข้อเสนอมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) | นร | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) สำหรับ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ออกจากราชการวันที่ 1 ตุลาคม 2552) ที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบาย กำลังคนภาครัฐ (คปร.) มีมติเห็นชอบในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2552 วันที่ 2 มีนาคม 2552 โดยมีสาระสำคัญและ หลักการตามมาตรการปรัปบรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2550 และ ปรับรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้ 1.1 ปรับจำนวนสูงสุดของผู้เข้าร่วมมาตรการ ฯ ตามสัดส่วนของข้าราชการอายุ 50 ปีขึ้นไปที่มีใน ส่วนราชการ (จากตั้งแต่ร้อยละ 10 จนถึงร้อยละ 20 ขึ้นไปของข้าราชการอายุ 50 ปีขึ้นไป) และใช้กลไกของ อ.ก.พ. กระทรวงในการเกลี่ยโควตาผู้เข้าร่วมมาตรการ ฯ ภายในกระทรวงโดยให้ใช้งบประมาณเงินก้อนของส่วนราชการที่ ผู้เข้าร่วมมาตรการ ฯ สังกัด 1.2 เพิ่มเติมการกำหนดคุณสมบัติของผู้ออกจากราชการตามมาตรการ ฯ โดยจะต้องไม่เป็นจำเลยใน คดีอาญาซึ่งมิใช่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของมาตรการ ฯ ที่กำหนดคุณสมบัติเฉพาะผู้ไม่มีข้อกล่าวหาใด ๆ เป็นคุณสมบัติของผู้ออกจากราชการตามมาตรการ ฯ ซึ่งจะมีสิทธิ ได้รับสิทธิประโยชน์เงินก้อน 8-15 เท่า 2. ให้สำนักงาน ก.พ. รับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยผลการดำเนินงานโครง การ ฯ ไปพิจารณาดำเนินการ สำหรับในขั้นการดำเนินโครงการของส่วนราชการ ให้ส่วนราชการให้ความสำคัญกับ กระบวนการคัดกรองผู้เข้าร่วมโครงการอย่างมีประสิทธิภาพโดยให้ความสำคัญกับกลุ่มที่มีปัญหาด้านสุขภาพเพื่อให้ เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าต่อองค์กรร่วมทั้งป้องกันการสูญเสียกำลังคนที่มีคุณภาพซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติ งานขององค์กรในระยะยาวต่อไป ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39236 | การจัดกลุ่มสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นองค์การมหาชนในกลุ่มที่ 1 ในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | นร | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเรื่อง การจัดกลุ่มสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และนวัตกรรมแห่งชาติเป็นองค์การมหาชนในกลุ่มที่ 1 ในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เห็นว่าโดยที่คณะ รัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 (เรื่อง ขอยกเว้นกรอบวงเงินรวมสำหรับค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร) มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) รับไปพิจารณาทบทวนความจำเป็นและความคุ้มค่า ในการจัดการบริหารรูปแบบองค์การมหาชนเพื่อพิจารณาปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดของสำนักงาน ก.พ.ร. และครอบคลุมถึงประเด็นการจัดกลุ่มของ องค์การมหาชนด้วย นอกจากนี้ หากภารกิจของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ ฯ มีความจำเป็น จะต้องดำเนินงานอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อาจไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการจัดเป็นองค์การมหาชนในกลุ่มที่ 1 ได้ เนื่องจาก หลักเกณฑ์ขององค์การมหาชนในกลุ่มที่ 1 จะต้องเป็นองค์การมหาชนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาและดำเนินการตาม นโยบายสำคัญเฉพาะด้านของรัฐให้เกิดผลในทางปฏิบัติภายในระยะเวลาจำกัด ดังนั้น จึงมีมติให้กระทรวงวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีนำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง เมื่อสำนักงาน ก.พ.ร . ได้เสนอผลการพิจารณามาแล้ว สำหรับการกำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่น ของผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบาย วิทยาศาสตร์ ฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องในชั้นนี้ให้เป็นไปตามอัตราขององค์การมหาชน กลุ่มที่ 2 (บริการที่ใช้เทคนิควิชา การเฉพาะด้านหรือสหวิทยาการ) ไปพลางก่อน ทั้งนี้ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) เร่งรัด การเสนอผลการพิจารณาดังกล่าวข้างต้นของสำนักงาน ก.พ.ร. ต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39237 | การปรับปรุงอัตราภาษีป้ายตามแผนปฏิบัติการในการจัดระเบียบป้าย | กค | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนเรื่อง การปรับปรุงอัตราภาษีป้ายตามแผนปฏิบัติการในการจัดระเบียบ
ป้าย คืนไปได้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39238 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อนำไปชำระหนี้ค่าดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดชำระในปีงบประมาณ 2552 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อนำไปชำระหนี้ค่าดอกเบี้ยที่
ถึงกำหนดชำระในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวน 820.410 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน เงินกู้ดังกล่าว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. รับความเห็นและข้อสังเกตของ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการผลักดันแผนฟื้นฟูกิจการของ ขสมก. เพื่อให้สามารถบริหารจัดการองค์กร เพิ่ม รายได้ ลดรายจ่ายและภาระหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพไปดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39239 | นโยบายสร้างจิตสำนึกเยาวชนด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้จัดตั้งหน่วยงานระดับสำนักภายใต้สังกัดกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่ง
แวดล้อม และให้มีการจัดสรรอัตรากำลังเพื่อรองรับการปฏิบัติงาน โดยการเกลี่ยอัตราว่างภายในกระทรวงทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยยกเว้นมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 (เรื่อง นโยบายการพัฒนาระบบราชการ) เป็นการเฉพาะราย และให้กรมส่งเสริม คุณภาพสิ่งแวดลัอมจัดทำแผนการดำเนินงานให้มีความครอบคลุมถึงเป้าหมาย ตัวชี้วัด และประมาณการค่าใช้จ่าย ที่ชัดเจน และบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี และแผนปฏิบัติราชการประจำปี เพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณ รายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับความจำเป็นและแผนการดำเนินงานในแต่ละปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบ ประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
39240 | แต่งตั้งอะมีรุ้ลฮัจย์ หรือรออิสบิซาตุลฮัจย์ อัลรัสมียะห์ (หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจย์ทางการ) | วธ | 24/03/2552 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งนายอิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา เป็นอะมีรุ้ลฮัจย์ หรือรออิสบิซา
ตุลฮัจย์ อัลรัสมียะห์ (หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจย์ทางการ)
|