คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับผิดชอบบริหารการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศภาคีภายใต้
ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น  เพื่อนำมาประกอบรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อประกอบรถ
ยนต์ โดยให้กระทรวงการคลังออกประกาศให้สอดคล้องกัน
               2. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือทางการทูตแจ้งต่อประเทศภาคีและสำนักเลขาธิการ
อาเซียน เพื่อแสดงเจตนาให้ความตกลงดังกล่าวมีผลใช้บังคับกับประเทศไทยเมื่อหน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
กระบวนการภายในประเทศเสร็จสิ้นลงโดยให้เป็นไปตามข้อ 79 ว่าด้วยการมีผลบังคับใช้ของความตกลง โดย
ที่ความตกลงจะมีผลใช้บังคับต่อประเทศไทยในวันที่หนึ่งของเดือนที่สองหลังจากรัฐบาลไทยมีหนังสือทางการ
ทูตแจ้งต่อประเทศภาคี
               3. ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักประสานการดำเนินการให้ความตกลงมีผลใช้บังคับเพื่อ
ให้การดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอดคล้องและมีประสิทธิภาพ

               คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอการใช้เงินทดรองราชการ
เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยสรุปได้ดังนี้ การใช้เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พิบัติจะต้องดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ
กรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 แต่เนื่องจากข้อ 16 ของระเบียบนี้กำหนดว่า เมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้นในท้องที่ใดหากเป็น
กรณีฉุกเฉินให้ดำเนินการประกาศให้ภัยพิบัตินั้นเป็นภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จึงมีปัญหากรณีที่มีภัยพิบัติเกิดขึ้น
เล็กน้อยหากประกาศให้เป็นภัยพิบัติฉุกเฉินจะเกิดผลกระทบมาก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว แต่หากไม่ประกาศ
ก็ไม่สามารถใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบฯ ดังกล่าวได้ ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติไม่ทันการณ์ 
จึงเห็นควรพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวต่อไป
ทั้งนี้ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับเรื่องนี้ไปพิจารณา
ดำเนินการต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
               1. เห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย  พ.ศ. ....  ตามที่กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์เสนอ  มีสาระสำคัญคือ ให้จัดตั้งการยางแห่งประเทศไทยขึ้นเพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมและพัฒนากิจการ
เกี่ยวกับยางพาราของประเทศ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วเสนอ
สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
               2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่เห็นว่าอัตรากำลังข้าราช
การที่ปฏิบัติงานด้านยางให้ยุบเลิกเฉพาะตำแหน่งว่างที่ผู้สมัครใจไปปฏิบัติงาน สำหรับผู้ที่ไม่สมัครใจ ให้ อ.ก.พ.
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาเกลี่ยอัตรากำลังไปกำหนดในส่วนราชการต่าง  ๆ    ตามความจำเป็นและ
ความสำคัญของงาน   และให้เสนอ ก.พ. พิจารณากำหนดตำแหน่งเป็นการเฉพาะคราวเพื่อแต่งตั้งบุคคลดังกล่าว
และเมื่อผู้ดำรงตำแหน่งพ้นไปจึงยุบเลิกตำแหน่ง   ส่วนเรื่องเงินและทรัพย์สินที่กำหนดให้เงินและทรัพย์สินที่เป็น
ของกองทุนพัฒนายางพาราไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและ
กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณนั้น ไม่ควรกำหนดไว้ในกฎหมาย เพื่อให้รัฐบาลมีความคล่องตัวในการจัดสรร
เงินอุดหนุนให้ตามความจำเป็นและเหมาะสม   นอกจากนี้  ในกรณีที่รัฐบาลมีความจำเป็นและเงินกองทุนพัฒนา
ยางพารามีเพียงพอ กระทรวงการคลังอาจกำหนดให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดินได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย

คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
              1. อนุมัติแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2555 และร่างแผนยุทธศาสตร์
การพัฒนากระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (พ.ศ. 2553-พ.ศ. 2557) และให้องค์กรที่เกี่ยวข้องนำ
ไปใช้เป็นกรอบทิศทางและแนวทางดำเนินงานที่สอดคล้อง สนับสนุนและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
              2. ให้กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานกิจการยุติธรรม) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการ
บริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และติดตามประเมินผลตามขั้นตอน
ต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในร่างแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2555
              3. ให้กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ และสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม) ใน
ฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการนโยบายและประสานงานกระบวนการยุติธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็น
ผู้รับผิดชอบดำเนินการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และติดตามประเมินผลตามขั้นตอนต่าง  ๆ    ที่กำหนดไว้ในร่างแผน
ยุทธศาสตร์การพัฒนากระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (พ.ศ. 2553-พ.ศ. 2557)
              4. ให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามร่างแผนแม่บท  ฯ   และร่างแผนยุทธ
ศาสตร์ ฯ  ดังกล่าว   รวมทั้งสนับสนุนแผนปฏิบัติการและแผนงบประมาณบูรณาการประจำปีที่สอดคล้องกับยุทธ
ศาสตร์ของแผนทั้งสองอย่างเหมาะสม
              5. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีที่ให้
นำหลักเกณฑ์ของกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายอิสลามมาบรรจุเพิ่มเติมไว้ในแผนดังกล่าว เพื่อให้แผนมีความ
สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การโทรคมนาคมทางดาว
เทียมระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว  ตามที่กระทรวง
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ   มีสาระสำคัญคือ  กำหนดให้ในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย
หรือเข้ามาในประเทศไทยเพื่อปฏิบัติหน้าที่หรือในการปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับองค์การ ให้องค์การโทรคมนาคมทาง
ดาวเทียมระหว่างประเทศ ทรัพย์สิน และบรรณสารขององค์การ ผู้แทนของภาคีองค์การและเจ้าหน้าที่ขององค์การ
ได้รับเอกสิทธิ์ สิทธิยกเว้น และความคุ้มกันตามที่ระบุไว้ในพิธีสาร ว่าด้วยเอกสิทธิ์ สิทธิยกเว้น และความคุ้มกันของ
องค์การโทรคมนาคมทางดาวเทียมระหว่างประเทศ  ซึ่งทำ ณ กรุงวอชิงตัน  เมื่อวันที่  19  พฤษภาคม  พ.ศ. 2551
(ร่างมาตรา 3  แก้ไขเพิ่มเติม  (2)  ของมาตรา 4  โดยตัดข้อความที่ให้เอกสิทธิ์  "ผู้แทนของผู้ลงนามความตกลงว่า
ด้วยองค์การโทรคมนาคมทางดาวเทียมระหว่างประเทศ"  ออก) และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่
ฟ้าหลวง และตำบลศรีค้ำ ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน  พ.ศ. ....  ตามที่กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์เสนอ  มีสาระสำคัญคือ  กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่สลองใน  อำเภอแม่ฟ้าหลวง  และตำบล
ศรีค้ำ ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย 19 เป็นทางน้ำ
ชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ  มีสาระสำคัญคือ กำหนด
ให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย 19 จากแม่น้ำนครนายก กิโลเมตรที่  0.000  ในท้องที่ตำบลโยธะกา  ถึงจรดคลอง
ซอย  17  กิโลเมตรที่  18.000  ในท้องที่ตำบลดอนฉิมพลี  อำเภอบางน้ำเปรี้ยว  จังหวัดฉะเชิงเทรา  เป็นทางน้ำชล
ประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อ
ไปได้

คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
              1. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศเบิกจ่ายเงิน จำนวน 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากเงินงบประมาณ
รายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2552 ของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นค่าธรรมเนียมสมาชิกเอเปค
              2. เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศตั้งงบประมาณรองรับสำหรับอัตราค่าบำรุงสมาชิก
เอเปคในปีต่อ ๆ ไป ที่อาจเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจากอัตราค่าธรรมเนียมสมาชิกในปีก่อนหน้าอันเป็นผลมาจากการ
ประเมินรายได้มวลรวมประชาชาติที่เพิ่มขึ้น
              3. สำหรับภาระงบประมาณที่เพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณา
ปรับแผนเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2552   รายการเงินอุดหนุนองค์การระหว่าง
ประเทศที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกเอเปค   ส่วนเงินค่าสมาชิกในปีต่อ  ๆ  ไป  ให้เสนอขอตั้งงบประมาณตาม
ภาระที่ต้องจ่ายในแต่ละปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งร้อยโท นพดล พันธุ์กระวี ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการ
คลัง (เศรษฐกร 10 ชช.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  กระทรวงการคลัง  ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2551  ซึ่ง
เป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ที่สำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติราช
ทัณฑ์  พุทธศักราช 2479   เพื่อให้การดำเนินภารกิจของกรมราชทัณฑ์ที่ต้องปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ในการ
ควบคุม แก้ไข และพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีความสอดคล้องกับหลักการทางด้าน
สิทธิมนุษยชน อาชญาวิทยา ทัณฑวิทยา และมาตรฐานขั้นต่ำในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังขององค์การสหประชาชาติ
โดยให้แก้ไขร่างมาตรา  33/1  ให้เป็นไปตามร่างเดิมที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ คือ  กำหนดให้พนักงานเรือนจำมี
อำนาจตรวจสอบจดหมาย  เอกสาร  พัสดุภัณฑ์หรือสิ่งสื่อสารอื่นหรือสกัดกั้นการติดต่อสื่อสารโดยทางใด ๆ  ซึ่ง
มีถึงหรือจากผู้ต้องขังเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐหรือเพื่อป้องกันเหตุร้าย และรักษาความสงบเรียบร้อยของเรือน
จำหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และให้นำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำยาวและป่าน้ำสวด ป่าน้ำเปื๋อย
ป่าน้ำหย่วน และป่าน้ำลาว และป่าแม่ยม ในท้องที่ตำบลชนแดน ตำบลยอด อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน  และตำบล
ร่มเย็น ตำบลแม่ลาว  อำเภอเชียงคำ  ตำบลผาช้างน้อย  อำเภอปง  จังหวัดพะเยา  ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ  พ.ศ. ....
(อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม
ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำยาว  และป่าน้ำสวด  ป่าน้ำเปื๋อย  ป่าน้ำหย่วน
และป่าน้ำลาว และป่าแม่ยม ในท้องที่ตำบลชนแดน ตำบลยอด อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน และตำบลร่มเย็น  ตำบล
แม่ลาว อำเภอเชียงคำ  ตำบลผาช้างน้อย  อำเภอปง  จังหวัดพะเยา  ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ  (อุทยานแห่งชาติถ้ำสะ
เกิน)  และให้ดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้
              1. เห็นชอบให้เจ้าหน้าที่ Japan Finance Corporation (JFC) ปฏิบัติภารกิจในราชอาณาจักรไทยภาย
ใต้ความตกลงระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ และเห็นชอบในหลักการร่างหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทย
กับรัฐบาลญี่ปุ่นเกี่ยวกับการให้สิทธิพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ JFC 
              2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็น
ผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นในหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นดังกล่าว

               คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
               1. เห็นชอบการขยายกรอบวงเงินลงทุนโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ระยะที่  1) จาก
เดิม จำนวน 123,942.246 ล้านบาท  เป็นจำนวน 135,175.946 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจำนวน 11,233.700 ล้าน
บาท  รวมทั้งอนุมัติงบประมาณลงทุนประจำปี  พ.ศ. 2552  เพิ่มเติม  วงเงินดำเนินการและวงเงินเบิกจ่ายจำนวน
5,897.215 ล้านบาท โดยใช้เงินรายได้ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ตามที่กระทรวง
คมนาคมเสนอ
                2. ให้กระทรวงคมนาคม (ทอท.) รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและข้อสังเกตของสำนักงบ
ประมาณ เกี่ยวกับการสำรวจและประเมินราคาปรับปรุงอาคาร และสิ่งก่อสร้างในแนวเขตเส้นเสียงที่ประชาชนได้
รับผลกระทบควรเปิดโอกาสให้ประชาชน  ชุมชน  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมดำเนินการเพื่อให้เกิดความ
เป็นธรรม ยอมรับ และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม และควรจัดทำแผนการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ที่ได้
รับผลกระทบตามข้อเท็จจริงตามลำดับความเร่งด่วน  และความเดือดร้อนของประชาชน  ตลอดจนจัดทำแผนการ
บริหารจัดการและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลังจากได้มาซึ่งทรัพย์สินเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดความคุ้มค่า
และมีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับการดำเนินโครงการในระยะต่อ ๆ ไป ควรมีการประกาศแนวเขตพื้นที่ที่จะได้รับ
ผลกระทบจากมลพิษทางเสียงให้ชัดเจน พร้อมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้ประชาชนโดย
ทั่วไปรับทราบ และผู้ที่จะได้รับผลกระทบมีทางเลือกและได้รับการชดเชยอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว  ไปพิจารณา
ดำเนินการด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอโครงการระบบส่งเพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลัง
น้ำเขื่อนเทินหินบุนส่วนขยายของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  (กฟผ.)  ในวงเงินลงทุนรวม  665  ล้านบาท
ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงาน โดย กฟผ. เร่งรัดการดำเนินการจัดทำบันทึกความเข้าใจ  (Memorandum of  Understan
ding : MOU)  กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในส่วนของโครงการเพื่อการผลิตและรับซื้อไฟฟ้าต่าง ๆ ที่
ได้พิจารณาความพร้อมและความจำเป็นและเหมาะสมแล้วด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. เห็นชอบในหลักการการจัดส่งข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ไป
ปฏิบัติงาน ณ วิทยาลัยนักบริหารการศึกษาช่างเทคนิคแผนโคลัมโบ (Colombo Plan Staff College for Techni
cian Education : CPSC) ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเวลา 1 ปี
              2. สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อจัดส่งข้าราชการไปปฏิบัติงานนั้น ให้ สอศ. ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผน
การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552  หรือใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณไปดำเนิน
การ ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามความเห็นของสำนักงบ
ประมาณ

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. เห็นชอบให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา  (ก.ค.ศ.)  นำพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดตำแหน่งและการให้ได้รับเงินเดือนและ
เงินประจำตำแหน่ง มาใช้บังคับกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น
ตามมาตรา  38  ค.(2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547  โดย
อนุโลม ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
              2. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นและข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีที่นำหลักการของ
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551  มาใช้กับการกำหนดระดับตำแหน่งและการให้ได้รับเงิน
เดือนและเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา  พ.ศ. 2547  มาใช้   กระทรวงศึกษาธิการจะมีระบบเงินเดือน
ของบุคลากรทางการศึกษาอื่นดังกล่าวแตกต่างจากระบบเงินเดือนข้าราชการครู   จึงควรพิจารณาภาพรวมของ
ระบบเงินเดือนของข้าราชการทุกประเภทในกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นที่ชัดเจนและเหมาะสมด้วย เป็นต้น  ไป
พิจารณาด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
               1. รับทราบแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการเพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายของรัฐบาล ประจำปี
งบประมาณ  พ.ศ. 2552  ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี  และเห็นชอบในหลักการให้มีการจัดคำทำรับ
รองการตรวจราชการแบบบูรณาการตามกรอบตัวชี้วัดในแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการ  ฯ  โดยได้ว่าจ้าง
สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีเพื่อทำหน้าที่ประเมินผลตามคำรับรองการตรวจราชการดังกล่าว
ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
              2. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ
กิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรปรับปรุงเกณฑ์ตัวชี้วัดในมิติประสิทธิผลให้มีรายละเอียดขั้น
ตอนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน และสะท้อนถึงระดับความสำเร็จที่ต้องการให้มากขึ้น สำหรับการนำ
การจัดตั้งสถาบันการตรวจราชการมาเป็นตัวชี้วัดมิติการพัฒนาองค์กร  นั้น  ควรปรับเป็นการพัฒนาองค์กรไปสู่
องค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยใช้ตัวชี้วัด เช่น ผลสำเร็จของการจัดระบบจัดการความรู้และแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่าง
กระทรวงและระหว่างผู้ปฏิบัติงาน การจัดทำแผนแม่บทพัฒนาระบบการติดตาม ตรวจสอบ และสอบทานในการ
ตรวจราชการ การพัฒนาระบบสารสนเทศและข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์รองรับระบบงาน ฯลฯ  รวมทั้งใน
การจัดตั้งสถาบันพัฒนางานตรวจราชการ ควรคำนึงถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง  เช่น  แนวทางการดำเนิน
งานที่ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับสถาบันอื่น ๆ ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน  และความพร้อมของบุคลากร  เป็นต้น  และข้อ
สังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร.   เกี่ยวกับตัวชี้วัด  "ระดับความสำเร็จของการจัดตั้งสถาบันพัฒนางานตรวจราชการ"
เป็นตัวชี้วัดที่ขึ้นกับปัจจัยภายนอกที่ผู้ตรวจราชการไม่สามารถควบคุมได้  ไม่ควรกำหนดเป็นตัวชี้วัด  ไปพิจารณา
ดำเนินการด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
               1. อนุมัติในหลักการเงินงบประมาณชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ของเกษตรกรให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตร
และสหกรณ์การเกษตร  (ธ.ก.ส.)  ในการดำเนินการตามมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.  ที่
ประสบอุทกภัย ปี 2549 เพิ่มเติมประมาณ 660.39 ล้านบาท  โดยให้มีการชดเชยแก่ ธ.ก.ส. เป็นปี ๆ ไปตามข้อ
เท็จจริงภายใน 3 ปี  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  สำหรับอัตราดอกเบี้ยให้สนับสนุนในอัตราร้อยละ 5.75 ต่อ
ปี โดยเป็นอัตราต้นทุนในการดำเนินงานรวมของ ธ.ก.ส.  และเมื่อสิ้นสุดโครงการ ฯ  ณ  วันที่ 31 มีนาคม 2552
ให้  ธ.ก.ส.  ประมวลผลความเสียหายตามโครงการ  ฯ  ทั้งการชดเชยดอกเบึ้ยหนี้เงินกู้เดิมที่มีอยู่ก่อนประสบภัย
และเงินกู้เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตตามที่เกิดขึ้นจริงพร้อมวงเงินที่จะชดเชยจากรัฐบาล
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
                2. ให้กระทรวงการคลัง  (ธ.ก.ส.)  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์   และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความ
เห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญการลงทะเบียน
ของเกษตรกรตั้งแต่ก่อนทำการเพาะปลูก   เลี้ยงสัตว์   และทำการประมงในแต่ละปี เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการ
ประมาณการความเสียหายและการขอรับเงินชดเชยจากภัยพิบัติได้อย่างถูกต้องเป็นธรรม รวมทั้งให้มีคณะกรรม
การตรวจสอบความเสียหายจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ประชาชน และประชาคมในหมู่บ้าน  เพื่อร่วมกันตรวจสอบ
ข้อมูลเกษตรกรที่ลงทะเบียนไว้ก่อนฤดูกาลเพาะปลูก และตรวจสอบความเสียหายของเกษตรกรเมื่อเกิดภัยธรรม
ชาติ นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องกับการขยายผลแนวทางและโครงการที่เกี่ยวข้องกับการประกัน
ภัยพืชผลให้ครอบคลุมประเภทของภัยพิบัติ  จำนวนพื้นที่  และเกษตรกรลูกค้าของ ธ.ก.ส. ให้มากขึ้น เพื่อให้เป็น
เครื่องมือในการลดผลกระทบภัยพิบัติต่าง ๆ ให้กับเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอกรอบการเจรจาพันธกรณีต่าง ๆ ภาย
ใต้บทที่  9  การเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา  ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) และให้เสนอรัฐสภา
เพื่อขอความเห็นชอบต่อไป ดังนี้
              1. ข้อผูกพันของไทยคือการพิจารณาผ่อนปรนกฎเกณฑ์ 4 เรื่อง ได้แก่
                  - เรื่อง อัตราส่วนการจ้างงานคนไทย 4 คนต่อคนต่างชาติ 1 คน
                  - เรื่อง ข้อจำกัดจำนวนคนต่างชาติไม่เกิน 10 คนต่อ 1 บริษัท
                  - เรื่อง กฎระเบียบพนักงานต่างชาติที่โอนย้ายเข้ามาประจำในไทย
                  - เรื่อง กระบวนการแจ้งกระทรวงแรงงานเกี่ยวกับการเข้ามาทำงานของคนต่างชาติ
              2. ข้อผูกพันของญี่ปุ่นมี 2 เรื่อง ได้แก่
                  - การพิจารณาเปิดตลาดแรงงานคนไทยเพื่อเข้าไปทำงานเป็นคนดูแลผู้สูงอายุในญี่ปุ่น
                  - การพิจารณาเปิดตลาดแรงงานคนไทยเพื่อเข้าไปทำงานเป็นพนักงานสปาในญี่ปุ่น

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน  272,725,000  บาท  เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย
ในการจัดการแข่งขันกีฬา 1st Asian Martial Arts Games 2009 ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดย
ให้สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณในฐานะที่ปลัดกระทรวงการท่อง
เที่ยวและกีฬาเป็นกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการแข่งขัน