ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1964 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 39261 - 39280 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
39261 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... | มท | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. ....
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมุกดาหาร ในท้องที่ จังหวัดมุกดาหาร และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
39262 | ร่างประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กำหนดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) | กห | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กำหนดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขอ
อนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ มีสาระ สำคัญคือ กำหนดให้ยกเว้นผลิตภัณฑ์ที่มีสาร HEXAMETHYLENETERAMINE ผสมอยู่ไม่เกินร้อยละ 20 ไม่เป็น ยุทธภัณฑ์ที่ต้องควบคุม และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
39263 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วย
เหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุง แก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมีวงเงินทดรองราชการ ฯ แทนที่ทำ การปกครองจังหวัด รวมทั้งมีอำนาจหน้าที่แทนที่ทำการปกครองจังหวัดที่มีอยู่เดิม และให้ส่งคณะกรรมการตรวจ สอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
39264 | ขอถอน เรื่อง แก้ไขกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 รวม 4 ฉบับ | กค | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎหมาย รวม 4 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. ร่างพระราชบัญญัติสงเคราะห์ข้าราชการผู้ได้รับอันตรายหรือการป่วยเจ็บเพราะเหตุปฏิบัติราช การ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 2. ร่างพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 3. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและอัตราในการจ่ายเงินสงเคราะห์และกำหนด ลักษณะของความพิการทุพพลภาพขนาดหนักจนเป็นอุปสรรคสำคัญยิ่งในการประกอบอาชีพหรือในการดำรง ชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 4. ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการขอรับและการจ่ายบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||
39265 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พ.ศ. .... | ทก | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอร่างกฎกระทรวง
แบ่งส่วนราชการกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดภารกิจและอำนาจหน้าที่ของกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร 2. แบ่งส่วนราชการกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ออกเป็น 8 สำนัก และศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาค จำนวน 5 ศูนย์ 3. กำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายใน และกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร ในกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
|
||||||||||||||||||||||||
39266 | ผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ 2551 (1 ตุลาคม 2550 - 30 กันยายน 2551) และปีงบประมาณ 2552 (1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2551) | สช | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
(สปสช.) รายงานผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 (1 ตุลา คม 2550-30 กันยายน 2551) และปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 (1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2551) สรุปผลการ ดำเนินงานที่สำคัญได้ดังนี้ 1. ผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ด้านความ ครอบคลุมสิทธิหลักประกันสุขภาพและการใช้บริการทางการแพทย์ คนไทยมีหลักประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นครอบ คลุมผู้มีสิทธิ 62.02 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 99.16 ของประชากรทั้งประเทศ (62.55 ล้านคน) โดยประชากร ลงทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 46.95 ล้านคน การใช้บริการเฉพาะผู้มีสิทธิ มีจำนวนผู้ป่วยนอก 128.95 ล้านครั้ง/38.06 ล้านคน อัตราการใช้บริการ 2.75 ครั้ง/คน/ปี และมีจำนวนผู้ป่วยใน 4.76 ล้านคน/ 18.71 ล้านวัน อัตราการใช้บริการ 0.10 ครั้ง/คน/ปี ด้านการควบคุมคุณภาพและกำกับมาตรฐานบริการ การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานโรงพยาบาล ณ 10 กันยายน 2551 มีหน่วยบริการได้รับการรับรองคุณภาพ ตามมาตรฐาน Hospital Accreditaiton (HA) จำนวน 946 แห่ง ด้านการคุ้มครองสิทธิและการช่วยเหลือเบื้อง ต้น ได้ให้บริการทั้งสิ้น 875,661 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นการให้ข้อมูลร้อยละ 97.39 และเห็นชอบการจ่ายเงินช่วย เหลือเบื้องต้น 550 ราย เป็นเงิน 64.86 ล้านบาท และมีศูนย์ประสานการส่งต่อผู้ป่วยอุบัติเหตุและเจ็บป่วยฉุก เฉิน โดยได้รับเรื่องประสานการส่งต่อผู้ป่วย 3,910 ราย สามารถประสานการส่งต่อให้ได้ร้อยละ 96.42 ด้าน การบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีการใช้เงินกองทุน ฯ รวม 68,919.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 89.73 ของงบประมาณทั้งหมดจำนวน 76,808.91 ล้านบาท 2. ผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ด้านความ ครอบคลุมสิทธิหลักประกันสุขภาพและการใช้บริการทางการแพทย์ คนไทยมีหลักประกันสุขภาพครอบคลุมผู้ มีสิทธิ 62.02 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 89.97 ของประชากรทั้งประเทศ (62.66 ล้านคน) โดยประชากรลงทะ เบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 47.02 ล้านคน ด้านการควบคุมคุณภาพและกำกับมาตรฐานบริการ มีเป้าหมายการพัฒนา/ปรับปรุงแนวทางปฏิบัติบริการสาธารณสุข และ Protocol 9 เรื่อง ได้แก่ ข้อเข่าเสื่อม โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ฯลฯ และร่วมกับสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล (พรพ.) 2 โครงการ คือ โครงการสนับสนุนคุณภาพการบริการด้วยกิจกรรมคุณภาพ และโครงการสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพระบบ ยา ด้านการคุ้มครองสิทธิและการช่วยเหลือเบื้องต้น ได้ให้บริการทั้งสิ้น 182,449 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสอบ ถาม ร้อยละ 97.21 และเห็นชอบการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 170 ราย เป็นเงิน 17.50 ล้านบาท ด้านการ บริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้รับจัดสรรงบประมาณในอัตราเหมาจ่าย 2,202 บาทต่อประชา กร สำหรับประชากรผู้มีสิทธิ 47.026 ล้านคน โดยมีงบช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ให้บริการเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2551 ร้อยละ 4.86 และภาพรวมเบิกจ่ายจากงบกองทุน ฯ ร้อยละ 11.71 จากงบประมาณที่ได้รับ 80,597.69 ล้าน บาท
|
||||||||||||||||||||||||
39267 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 สมัยพิเศษ และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ
คลังอาเซียน+3 สมัยพิเศษ (Special ASEAN+3 Finance Ministers'' Meeting Special AFMM+3) และการประชุม อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ 2552 ณ จังหวัดภูเก็ต โดยสาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและผลกระทบที่มีต่อภูมิภาคเอเชีย โดย เฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกเพื่อรองรับวิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลก และรับทราบความคืบ หน้าการเตรียมการสำหรับการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง G-20 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณา จักร โดยให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1) Macroeconomic policy coordination 2) Preventing Protec tionism และ 3) International Financial Market Reform โดยแบ่งคณะทำงานออกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อเสนอแนะแผน ปฏิบัติการเร่งด่วน ได้แก่ คณะทำงานที่ 1 Financial Supervision and Regulation คณะทำงานที่ 2 International Cooperation and market integrity คณะทำงานที่ 3 IMF Reform และคณะทำงานที่ 4 Reform of Multilateral Development Banks (MDBs) ซึ่งที่ประชุมได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ อาทิ การ ต่อต้านการกีดกันทางการค้า การดำเนินนโยบายการเงินการคลังที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใส และการปฏิรูป MDBs เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างแท้จริง
|
||||||||||||||||||||||||
39268 | รายงานสรุปผลการบริหารกองทุนประกันสังคม ประจำปี 2551 | รง | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการบริหารกองทุนประกันสังคม ประจำปี 2551 ตามที่
กระทรวงแรงงานเสนอ มีสาระสำคัญคือ สถานะเงินลงทุน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 กองทุนประกันสังคมมี เงินลงทุนรวม 567,906 ล้านบาท กรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ 448,403 ล้านบาท กรณีเจ็บป่วย ตาย ทุพพลภาพ คลอดบุตร 82,508 ล้านบาท และกรณีว่างงาน 36,995 ล้านบาท โดยเงินลงทุนจำนวน 567,906 ล้านบาทในปัจจุบัน แบ่งลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง (ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่ มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน เงินฝากธนาคาร และหุ้นกู้เอกชน ) จำนวน 477,694 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 84 ของเงินลงทุน และลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง (ได้แก่ ตราสารหนี้อื่น ๆ หน่วยลงทุน และหุ้นสามัญ) จำนวน 90,212 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16 ของเงินลงทุน ผลการดำเนินงาน สำหรับปี 2551 กองทุนประกัน สังคมมีรายรับจากการลงทุนจำนวน 24,475 ล้านบาท (ประกอบด้วยดอกเบี้ยรับจากพันธบัตรและหุ้นกู้จำนวน 22,012 ล้านบาท เงินปันผลและกำไรจากการขายหลักทรัพย์ จำนวน 2,463 ล้านบาท) สูงกว่าปีก่อนซี่งกองทุน มีรายรับจำนวน 21,109 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
39269 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) (จำนวน 2 ราย นายบุรินทร์ รุ่งมณี และนายวิสุทธิ์ นิรัตติวงศกรณ์) | นร | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรง
ตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรด เกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ดังนี้ 1. นายบุรินทร์ รุ่งมณี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี 2. นายวิสุทธิ์ นิรัตติวงศกรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
39270 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... | ลต | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด
ร้อยเอ็ด เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้วันที่ 26 เมษายน 2552 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
39271 | รายงานการติดตามและประเมินผล FTA | พณ | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอรายงานการติดตามและประเมินผล FTA ของไทย
ที่มีผลบังคับใช้แล้ว 5 ประเทศ สรุปได้ดังนี้ 1. การค้าระหว่างประเทศและการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ในปี พ.ศ. 2551 1.1 การส่งออกรวมและการส่งออกภายใต้ FTA ปี พ.ศ. 2551 ระหว่างไทยกับประเทศคู่เจรจา FTA 5 ประเทศ ส่งออกมูลค่า 4 8,407.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.2 และส่งออกภายใต้ FTA มูลค่า 12,652.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนต่อการส่งออกรวมร้อยละ 27.8 1.2 การนำเข้ารวมและการนำเข้าภายใต้ FTA ปี พ.ศ. 2551 ระหว่างไทยกับประเทศคู่เจรจา FTA 5 ประเทศ นำเข้ามูลค่า 61,887.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 124.8 และนำเข้าภายใต้ FTA มูลค่า 3,930.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนต่อการนำเข้ารวมร้อยละ 6.6 2. การลงทุนโดยตรงในไทยจากประเทศคู่เจรจา FTA ในปี พ.ศ. 2551 ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จาก 5 ประเทศ มูลค่ารวม 109,760 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 36.5 เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก จึงได้ชะลอการ ลงทุน
|
||||||||||||||||||||||||
39272 | การดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค | พณ | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการตรวจสอบต้นทุนและราคาจำหน่ายของ
สินค้า สรุปได้ดังนี้ จากการติดตามดูแลความเคลื่อนไหวของราคาจำหน่ายสินค้าจำนวน 200 รายการ ซึ่งมีกลุ่มสิน ค้าที่ได้ปรับราคาจำหน่ายลดลงไปแล้วจำนวน 150 รายการ คงเหลือจำนวน 50 รายการ ที่ยังไม่ปรับลดราคา จำหน่ายลง นั้น ผลการดำเนินการตรวจสอบต้นทุนและราคาจำหน่ายของสินค้าทั้ง 50 รายการ พบว่ามีกลุ่มสินค้า ที่ได้ลดราคาจำหน่ายลงตามต้นทุนที่ลดลงในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2552 เพิ่มอีกจำนวน 25 รายการ โดยมีกลุ่มสินค้าที่อยู่ในการกำกับดูแลของคณะกรรมการเฉพาะด้านดูแลราคาทั้งระบบจำนวน 4 รายการ คงเหลือ กลุ่มสินค้าที่ยังไม่ปรับลดลงจำนวน 21 รายการ เช่น ครีมเทียมข้นหวาน นมถั่วเหลืองพร้อมดื่ม กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำยาล้างห้องน้ำ จอบ รถไถเดินตาม เป็นต้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เชิญผู้ประกอบการสินค้าที่ยังไม่ปรับลดราคา จำหน่ายมาหารือให้มีการปรับลดราคาลง ส่วนการกำกับดูแลราคาสินค้าในระยะต่อไป ได้กำหนดมาตรการกำกับ ดูแลราคาสินค้าในปี พ.ศ. 2552 โดยการกำกับดูแลการกำหนดราคาของผู้ผลิต/ผู้นำเข้า เพื่อให้การปรับเปลี่ยน ราคาจำหน่ายสินค้าเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และการกำกับดูแลสินค้าปลายทางเพื่อป้องกันมิให้ผู้จำหน่ายสินค้าฉวย โอกาสกำหนดราคาเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค นอกจากนี้ ได้กำหนดมาตรการเสริมเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือก ให้ประชาชน และเพิ่มการแข่งขันในตลาดโลก โดยการเพิ่มจำนวนรถเข็นธงฟ้าให้มีการบริการมากขึ้น และให้ครอบ คลุมพื้นที่ให้กว้างยิ่งขึ้น รวมทั้งขยายพื้นที่การจัดจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพที่มีคุณภาพดี ราคาถูกกว่า ท้องตลาดในส่วนภูมิภาคให้มากขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||
39273 | สรุปประเด็นอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ระหว่างวันที่ 19 - 20 มีนาคม 2552 | นร | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอเอกสารสรุปประเด็นอภิปราย
ทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม 2552 และ วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2552
|
||||||||||||||||||||||||
39274 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารการคลังที่ดี พ.ศ. .... | นร | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารการคลังที่ดี พ.ศ. ....
ได้ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
39275 | การรายงานแผนการจ่าย "เช็คช่วยชาติ" ต่อคณะรัฐมนตรี (วันที่ 26 มีนาคม - 8 เมษายน 2552) | รง | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานรายงานผลการเตรียมความพร้อม และแผนการจ่าย
"เช็คช่วยชาติ" สรุปได้ดังนี้ ผลการรับลงทะเบียนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ขอรับการช่วยเหลือค่าครอง ชีพ ณ สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสำนักงานประกันสังคมจังหวัดทั่วประเทศ งวดที่ 1 ณ วันที่ 23 มีนาคม 2552 มีผู้ประกันตนลงทะเบียนรวม 7,519,964 คน และจากผลการตรวจสอบ รับรอง ยืนยันสิทธิจากจำนวนผู้ประกันตนที่มาลงทะเบียนทั้งหมด จากการประมวลผลข้อมูลรายอำเภอและเขตพื้นที่กรุง เทพมหานคร ตรวจสอบ รับรอง ยืนยันสิทธิ ครั้งที่ 1 (ออกเช็คแล้ว) จำนวน 5,547,436 คน ตรวจสอบ รับรอง ยืนยันสิทธิ ครั้งที่ 2 (แจ้งชื่อให้ธนาคารเพื่อออกเช็คครั้งที่สองแล้ว) จำนวน 1,207,418 คน ตัดสิทธิบุคลากร ภาครัฐที่รับ "เช็คช่วยชาติ" จากส่วนราชการแล้ว จำนวน 8,552 คน และเป็นบุคคลที่ถูกเลิกจ้าง (มาตรา 38) และลูกจ้างผู้ประกันตนที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ รับรอง ยืนยันสิทธิ เพื่อประมวลออกเช็ค ครั้งที่ 3 จำนวน 756,558 คน สำหรับแผนการจ่าย "เช็คช่วยชาติ" ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-8 เมษายน 2552 จะจัดหน่วย เคลื่อนที่นำ "เช็คช่วยชาติ" ไปจ่าย ณ สถานประกอบการของนายจ้างที่มีการติดต่อไว้ล่วงหน้า และไปจ่ายตามจุด นัดพบ ณ อำเภอต่าง ๆ สำหรับผู้ประกันตนที่อยู่นอกเขตอำเภอเมือง รวมทั้งจ่าย ณ ที่ตั้งของสำนักงานประกัน สังคมจังหวัด/เขตพื้นที่ หรือตามจุดนัดหมาย ทั้งนี้ การจ่าย "เช็คช่วยชาติ" ณ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/เขต พื้นที่จะมีการทำงานทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุด) ระหว่างเวลา 08.00-20.00 น. นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานได้สั่ง การให้จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้างกรณีที่นายจ้างสถานประกอบการขนาดใหญ่ (มีลูก จ้าง 100 คนขึ้นไป) จะให้มีการนำ "เช็คช่วยชาติ" ไปมอบให้ผู้ประกันตน ณ สถานประกอบการ
|
||||||||||||||||||||||||
39276 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายวัชระ กรรณิการ์) | นร | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งนายวัชระ กรรณิการ์
เป็นข้าราชการการเมืองตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมี มติ (24 มีนาคม 2552) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
39277 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และ เรืออากาศเอก สุริยะ ศึกษากิจ) | นร | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และเรืออากาศเอก สุริยะ ศึกษากิจ
เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ทั้งนี้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง และมอบหมาย ให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ได้รับแต่งตั้งลาออกจากตำแหน่งอื่นๆ ที่เป็นลักษณะต้องห้ามให้เรียบร้อย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
39278 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. 2524 (จำนวน 4 ราย 1. นายมหดี วิมานะฯ) | วธ | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งนายมหดี วิมานะ นายณรงค์ ดูดิง ว่าที่ ร.ต.โมฮามัดยาสรี ยูซง และนาย
สุกรี หลังปูเต๊ะ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงวัฒน ธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (24 มีนาคม 2552) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
39279 | รายงานผลการดำเนินการโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2551/52 | พณ | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. รับทราบการคงอยู่ของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหามันสำปะหลัง 3 คณะ ได้แก่ 1.1 คณะกรรมการบูรณาการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร 1.2 คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง 1.3 คณะกรรมการตรวจสอบโครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/52 (เพิ่มเติม ครั้งที่ 2) โครงการแทรกแซงตลาดน้ำมันปาล์มดิบ ปี 2551/52 (เพิ่มเติม) และโครงการแทรงแซงตลาดมัน สำปะหลัง ปี 2551/52 2. รับทราบผลการดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2551/52 สรุปได้ดังนี้ ผล การรับจำนำ ณ วันที่ 20 มีนาคม 2552 มีปริมาณรับจำนำหัวมันสด 8.67 ล้านตัน แปรรูปเป็นมันเส้น ประมาณ 2.47 ล้านตัน แป้งมัน 0.62 ล้านตัน และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับจำนำเดือนเมษายน 2552 ตาม เป้าหมายปริมาณรับจำนำ 10 ล้านตัน ประมาณการว่า จะมีผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่รับจำนำไว้เป็นมันเส้น 2.80 ล้านตัน แป้งมัน 0.76 ล้านตัน สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ ประมาณการว่า ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ผลผลิตหัวมันสดคงเหลือในมือเกษตรกรประมาณ 7-9 ล้านตัน และจากภาวะราคามันสำปะหลังตลาดทั่วไป อยู่ในระดับต่ำ หัวมันสดเชื้อแป้ง 25% กก.ละ 1.10-1.40 บาท หัวมันสดคละ กก.ละ 1.06-1.40 บาท เทียบ กับราคารับจำนำ กก.ละ 2 บาท ทำให้เกษตรกรนำหัวมันสดมาจำนำวันละประมาณ 1 แสนตัน นอกจาก นี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ประมาณการภาระที่เกิดจากการดำเนินการรับจำนำมันสำปะหลัง โครงการแทรกแซง ตลาดมันสำปะหลัง ปี 2551/52 โดยประสานองค์การคลังสินค้าจัดทำต้นทุนผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในแต่ ละช่วงเวลาเปรียบเทียบกับประมาณการรายได้จากการจำหน่าย
|
||||||||||||||||||||||||
39280 | ขอความเห็นชอบแนวทางการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือ ไทย - ลาว ครั้งที่ 15 | กต | 24/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแนวทางการหารือของฝ่ายไทยในการประชุมคณะกรรมาธิการ
ร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ 15 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ 1. ด้านการเมืองและความมั่นคง : เป็นไปตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงบริเวณ ชายแดนไทย-ลาว ลงนามเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2546 กรอบการเจรจาการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนไทย- ลาว ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการ จ้างแรงงาน ลงนามเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2545 บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือต่อต้านการค้ามนุษย์โดย เฉพาะสตรีและเด็กไทย-ลาว ลงนามเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2548 รวมทั้งผลการประชุมของกลไกความร่วมมือ ด้านความมั่นคงไทย-ลาว ที่สำคัญ 2. ด้านเศรษฐกิจ : เป็นไปตามความตกลงว่าด้วยกรอบความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย-ลาว ลงนามเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2547 บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าใน สปป.ลาว ลง นามเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2550 ผลการประชุมและแผนงานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านการค้า การลง ทุน และการธนาคาร รวมทั้งผลการประชุมในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค 3. ด้านสังคมและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ : อยู่ในกรอบความร่วมมือทางวิชาการไทย-ลาว ซึ่งอยู่ ในความรับผิดชอบของสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) กระทรวงการต่างประเทศ |
.....