ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1969 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 39361 - 39380 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
39361 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3256 สายแยกถนนอ่อนนุช (ลาดกระบัง) - บางพลี ตอนแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3268 ที่บ้านบางพลีใหญ่ พ.ศ. .... | คค | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อ
ขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3256 สายแยกถนนอ่อนนุช (ลาดกระบัง)-บางพลี ตอนแยกทางหลวงแผ่น ดินหมายเลข 34-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3268 ที่บ้านบางพลีใหญ่ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนา คมเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3256 สายแยกถนนอ่อนนุช (ลาดกระบัง)-บางพลี ตอนแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34-บรรจบทางหลวงแผ่น ดินหมายเลข 3268 ที่บ้านบางพลีใหญ่ ในท้องที่เทศบาลตำบลบางพลี อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
39362 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พ.ศ. .... | ศธ | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขา
วิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทาลัยราชภัฏภูเก็ต พ.ศ. .... ที่สำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดย ร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการศึกษา สาขาวิชาเทคโนโลยี สาขา วิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ 2. กำหนดครุยวิทยฐานะ ครุยประจำตำแหน่ง และเครื่องหมายประกอบครุยประจำตำแหน่งของ นายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย และอธิการบดี 3. กำหนดเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย 4. กำหนดสีประจำสาขาวิชา
|
||||||||||||||||||||||||
39363 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 (ปรับปรุงเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบ ขนาด และข้อกำหนดทางเทคนิคของรถ) | คค | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขน
ส่งทางบก พ.ศ. 2522 ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และ ให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารมาตรฐาน 1, 2, 3, 4, 6 และ 7 รวมทั้งรถขนาดเล็กจะต้องมี เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบ ดังนี้ (1) คัสซี (2) ตัวถัง และ (3) โคมไฟ 2. กำหนดให้รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารมาตรฐาน 5 จะต้องมีเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบ ดังนี้ (1) คัสซี (2) ตัวถัง และ (3) โคมไฟ 3. กำหนดให้รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารและรถขนาดเล็กให้มีมาตรฐานที่กำหนดไว้ ดังนี้ (1) ความ กว้าง (2) ความสูง (3) ความยาว (4) ส่วนยื่นหน้า และ (5) ส่วนยื่นท้าย 4. กำหนดให้รถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือส่งของลักษณะ 1, 2, 3, 4, 5 และ 9 จะต้องมีเครื่องอุปกรณ์ และส่วนควบ ดังนี้ (1) คัสซี (2) ตัวถัง และ (3) โคมไฟ 5. กำหนดให้รถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของลักษณะ 6, 7 และ 8 จะต้องมีเครื่องอุปกรณ์และส่วน ควบ ดังนี้ (1) คัสซี (2) ตัวถัง และ (3) โคมไฟ 6. กำหนดให้รถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของให้มีขนาดตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ดังนี้ (1) ความ กว้าง (2) ความสูง (3) ความยาว (4) ส่วนยื่นหน้า และ (5) ส่วนยื่นท้าย 7. กำหนดบทเฉพาะกาล ให้รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารและรถขนาดเล็ก รวมทั้งรถที่ใช้ในการขนส่ง สัตว์หรือสิ่งของ ที่ได้ติดตั้งเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบ และมีขนาดตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2524) และได้ จดทะเบียนก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ แต่อาจขอเปลี่ยนแปลง เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบ และขนาดของรถให้เป็นไปตามกฎกระทรวงนี้ได้
|
||||||||||||||||||||||||
39364 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอจดทะเบียนอาคารชุด การออกหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด และการจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุด พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการขอจดทะเบียนอาคารชุด การจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุด การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และการทำธุระอื่นๆ เกี่ยวกับอาคารชุด พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | มท | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และ
ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอจดทะเบียนอาคารชุด การออกหนัง สือกรรมสิทธิ์ห้องชุด และการจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ 1.1 กำหนดผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารยื่นคำขอจดทะเบียนให้เป็นอาคารชุด ตามที่อธิบดีกรม ที่ดินประกาศกำหนด โดยยื่นพร้อมหลักฐานและรายละเอียดตามที่กำหนด 1.2 กำหนดหลักเกณฑ์ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศคำขอจดทะเบียนและการแจ้งเจ้าหนี้ รวม ทั้งการรับและไม่รับจดทะเบียนอาคารชุด 1.3 กำหนดแบบหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด การออกหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด พร้อมแบบและการ ออกใบแทนหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด 1.4 กำหนดหลักเกณฑ์การจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดพร้อมการยื่นหลักฐานการจดทะเบียนนิติ บุคคลอาคารชุดและจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงข้อบังคับนิติบุคคลอาคารชุด 2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการขอจดทะเบียนอาคารชุด การจดทะเบียนนิติบุคคลอาคาร ชุดและการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และการทำธุระอื่น ๆ เกี่ยวกับอาคารชุด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับ ปรุงแก้ไขอัตราค่าธรรมเนียมในการขอจดทะเบียนอาคารชุด การจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุด การจดทะเบียน สิทธิและนิติบุคคล และการทำธุระอื่น ๆ เกี่ยวกับอาคารชุด
|
||||||||||||||||||||||||
39365 | ขอความเห็นชอบในการปรับยกระดับกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำสาธารณรัฐยูกันดา | กต | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอการยกระดับสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำ
สาธารณรัฐยูกันดา เป็นสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำสาธารณรัฐยูกันดา และเลื่อนฐานะนาย James Mulwana กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำสาธารณรัฐยูกันดา ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำสาธารณรัฐยูกันดา
|
||||||||||||||||||||||||
39366 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายจักรวาล ท้วมเจริญ) | วธ | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายจักรวาล ท้วมเจริญ เป็นข้าราชการการเมืองตำแหน่งที่
ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (17 มีนาคม 2552) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
39367 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการในกระทรวงคมนาคม จำนวน 7 ฉบับ | คค | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวง จำนวน 7 ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ 1. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงคมนาคม พ.ศ. .... 2. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนา คม พ.ศ. .... 3. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม พ.ศ. .... 4. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม พ.ศ. .... 5. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม พ.ศ. .... 6. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กระทรวงคมนาคม พ.ศ. .... 7. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการขนส่งทางอากาศ กระทรวงคมนาคม พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||
39368 | การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 11 (The 11th Informal ASEAN Ministerial Meeting on the Environment - IAMME) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | ทส | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการประชุม
รัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 11 (The 11th Informal ASEAN Ministerial Meeting on the Environment-IAMME#11) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างววันที่ 6-10 ตุลาคม 2551 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยสาระสำคัญของการประชุม IAMME#11 ที่ประชุมได้พิจารณาเกี่ยวกับการจัด ตั้ง ASEAN Center of Biodiversity (ACB) ปัจจุบันมี 5 ประเทศ ที่ยื่นสัตยาบันสารแล้ว ประกอบด้วย บรูไน ลาว ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และสิงคโปร์ โดยที่ประชุมได้ขอให้ประเทศสมาชิกเร่งรัดการให้สัตยาบันเพราะจะมีผลต่อการ ใช้เงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปจำนวน 5 ล้านยูโร ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2552 และเร่งรัดการดำเนินการลงนามใน ร่าง ASEAN Framework Agreement on Access to, and Fair and Equitable Sharing of Benefits Arising from the Utilisation of Biological and Genetic Resources (ABS) และรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานตาม ASEAN Strategic Plan of Action on Water Resources and Management (ASPA-WRM) ประกอบด้วย 4 โครง การ รวมทั้งการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการอาเซียนด้านสิ่งแวลล้อมศึกษา (2008-2012) โดยเห็นชอบแผน การดำเนินงานในระดับภูมิภาครวม 5 กิจกรรม และการจัดตั้งคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมศึกษา (AWGEE) โดยมี บรูไนเป็นประธาน นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบว่าจะมีการจัดทำรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมอาเซียน (SOER -4) โดยสำนักเลขาธิการอาเซียนได้รับเงินสนับสนุนในการจัดทำ SOEA-4 จำนวน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ และรับทราบผลการพิจารณาร่างแผนงานการจัดตั้งประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASCC Blueprint) ของ การประชุม the 5th Coordinating Conference on the ASEAN Socio-Cultural Community (SOC-COM) และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 11 (IAMME#11) ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ โดยจะได้นำเสนอร่าง ASCC Blueprint เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการยกร่าง ASCC Blueprint (the ASCC Blueprint Drafting Committee) เพื่อพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
39369 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการพัฒนากำลังคน ด้านวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย) ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2551 - 2566) ครั้งที่ 3 | ศธ | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการดำเนินโครงการพัฒนากำลังคน
ด้านวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย) ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2566) ครั้งที่ 3 โดย ผลการดำเนินโครงการ ฯ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2551-ตุลาคม 2551 ได้ปรับลดเป้าหมายการดำเนินโครงการ ฯ เหลือ 4 รุ่น ๆ ละ 200 คน จำนวน 800 คน รวมเป้าหมายทั้งโครงการ ฯ จำนวน 1,600 คน แบ่งเป็นการให้ทุน นักศึกษาระดับปริญญาตรี-โท-เอก ต่อเนื่อง จำนวน 4 รุ่น ๆ ละ 200 คน จำนวน 800 คน และการให้ทุนระดับ ปริญญาโท-เอก จำนวน 800 คน ส่วนเป้าหมายการรับนักศึกษาทุนโครงการ ฯ จำแนกเป็นระดับตรี-โท-เอก ต่อเนื่อง รวม 80 ทุน จำแนกปีละ 200 ทุน จำนวน 4 รุ่น เริ่มรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2552 เป็นปีแรก และ ระดับโท-เอก รวม 800 ทุน เริ่มรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2551 เป็นปีแรก นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรม การการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้กำหนดแนวทางการจัดสรรทุนรุ่นปีการศึกษา 2551 และ 2552 โดยปีการศึกษา 2551 มีเป้าหมายรับนักศึกษาทุน จำนวน 100 ทุน และในปีการศึกษา 2552 มีเป้าหมายการรับนักศึกษาทุน ระดับปริญญาตรี-โท-เอก ต่อเนื่อง จำนวน 200 ทุน
|
||||||||||||||||||||||||
39370 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการครูสหกิจ ครั้งที่ 3 | ศธ | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการดำเนินโครงการครูสหกิจ ครั้งที่ 3
(เมษายน 2551-ตุลาคม 2551) มีนิสิต/นักศึกษาที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ จำนวน 5,296 คน จากสถาบันการ ศึกษา จำนวน 50 แห่ง ในจำนวนนี้ มีนิสิต/นักศึกษาครูที่ไปปฏิบัติการในโรงเรียนพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 28 คน ประกอบด้วย จังหวัดยะลา 9 คน นราธิวาส 10 คน และปัตตานี 9 คน โดย ได้กระจายการสอนในสถานศึกษาที่ขาดแคลนครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ สำนักงานการอาชีวศึกษา (สอศ.) จำนวน 1,678 แห่ง ครอบคลุม 73 จังหวัด ส่วนผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณ พ.ศ. 2551 (2 ภาคการศึกษา) ใช้จ่ายงบประมาณไปแล้ว 171,050,746 บาท คงเหลือเงินจำนวน 27,049,254 บาท ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้กันเงินเหลื่อมปีเพื่อใช้ดำเนินงานโครงการ ฯ ในปีงบ ประมาณต่อไปแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
39371 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย รวม 5 ฉบับ (การขยายระยะเวลามาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์) | กค | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา และร่างประกาศ รวม 5 ฉบับ ที่สำนักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ลดภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร และคง จัดเก็บในอัตราร้อยละ 0.1 เฉพาะการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กระทำตั้งแต่ วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2553 2. ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ ดินตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด มีสาระสำคัญคือ เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียน การจำนองอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 0.01 กรณีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ดังต่อไปนี้ 2.1 เป็นที่ดิน อาคาร หรืออาคารพร้อมที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน หรือที่ดำเนิน การจัดสรรที่ดินโดยทางราชการหรือองค์การของรัฐบาลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ทำการจัดสรรที่ดินตามกฎหมาย 2.2 เป็นอาคารประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว และอาคารพาณิชย์ 3. ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามกฎหมายกฎหมายที่ดิน กรณีอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรี กำหนด มีสาระสำคัญคือ เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ร้อย ละ 0.01 กรณีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว และ อาคารพาณิชย์ หรืออาคารดังกล่าว พร้อมที่ดินซึ่งมีเนื้อที่ไม่เกินหนึ่งไร่ และมิใช่ที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการ จัดสรรที่ดิน หรือที่ดำเนินการจัดสรรที่ดินโดยทางราชการ หรือองค์การของรัฐบาลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ทำการ จัดสรรที่ดินตามกฎหมาย โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2553 4. ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงานตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรี กำหนด มีสาระสำคัญคือ เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ ประเภทอาคารสำนักงาน ร้อยละ 0.01 กรณีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงาน โดยอาคารสำนักงานต้องเป็นอาคารหรือ อาคารพร้อมที่ดินที่ได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้างหรือใบรับแจ้งการก่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานตามกฎหมาย ว่าด้วยควบคุมอาคาร โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2553 5. ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด กรณีห้องชุดตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด มีสาระสำคัญคือ เรียกเก็บ ค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองห้องชุด ร้อยละ 0.01 กรณีโอนกรรมสิทธิ์และการจำนอง ห้องชุดทั้งหมดในอาคารชุดที่จดทะเบียนอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด และกรณีโอนกรรมสิทธิ์และ การจำนองห้องชุดในอาคารชุดที่จดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด โดยให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2553
|
||||||||||||||||||||||||
39372 | ความเห็นของคณะกรรมการการเลือกตั้งในการนำสิ่งของไปแจก | นร | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) เสนอความเห็น
ของคณะกรรมการการเลือกตั้งเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ จะมีการนำสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งใช้งบประมาณของกระทรวงในกำกับดูแลไปแจกจ่ายแก่ประชาชนที่ประสบปัญหาใน ด้านต่าง ๆ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งมีความเห็นว่า หากเป็นกรณีการปฏิบัติราชการโดยปกติตามตำแหน่ง หน้าที่โดยใช้งบประมาณของทางราชการสามารถกระทำได้ แต่ทั้งนี้ จะต้องมิใช่มีเจตนาหรือเป็นการกระทำที่เกิด จากการสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ตามมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิก วุฒิสภา พ.ศ. 2550
|
||||||||||||||||||||||||
39373 | รายงานสถานะหนี้สาธารณะของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ | กค | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและ
กำกับการบริหารหนี้สาธารณะรายงานสถานะหนี้สาธารณะ ของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหาร หนี้สาธารณะ สรุปได้ดังนี้ หนี้สาธารณะ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2551 มีจำนวน 3,415,564.96 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่มีค่าเท่ากับ 9,232,200 ล้านบาท โดยหนี้ สาธารณะดังกล่าว ได้แก่ หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,127,405.48 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบัน การเงิน 1,021,712.10 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 119,937.40 ล้านบาท หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 138,193.84 ล้านบาท และหนี้ หน่วยงานอื่นของรัฐ 8,316.14 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552- พ.ศ. 2553 คาดว่า ณ สิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 หนี้สาธารณะจะมีจำนวน 4,063,011 ล้านบาท และเพิ่ม ขึ้นเป็น 4,460,401 ล้านบาท ณ สิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของระดับหนี้สาธารณะเป็น ผลจากการก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ และเมื่อพิจารณายอดหนี้สาธารณะเปรียบเทียบกับ GDP พบ ว่า หนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2553 จะมีสัดส่วนที่ร้อยละ 42.73 และร้อยละ 44.67 ตามลำดับ สำหรับในส่วนของภาระหนี้ที่จะเกิดขึ้นภาระหนี้ต่องบประมาณจะอยู่ร้อยละ 10.20 ในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2552 และร้อยละ 12.20 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553
|
||||||||||||||||||||||||
39374 | การประชุมคณะมนตรีขององค์การความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก | ทก | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอผลการประชุมคณะ
มนตรีขององค์การความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก (First Meeting of the Council of the Asia-Pacific Space Cooperation Organization-APSCO) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 ธันวาคม 2551 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณ รัฐประชาชนจีน โดยที่ประชุมคณะมนตรีขององค์การ APSCO ได้มีมติรับรองร่างกฎ ระเบียบขององค์การ APSCO ได้แก่ ร่าง Rules of Procedure ขององค์การ APSCO ร่าง Financial Regulations ขององค์การ APSCO ร่าง Service Regulations ขององค์การ APSCO และรับรองประมาณการงบประมาณขององค์การ APSCO ประจำปี ค.ศ. 2009 จำนวน 1,679,008 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งสัดส่วนค่าบำรุงสมาชิกของแต่ละรัฐสมาชิก โดยประเทศไทยต้องชำระ ค่าบำรุงสมาชิกประจำปี พ.ศ. 2552 ในสัดส่วนร้อยละ 14.29 ของประมาณการงบประมาณขององค์การ APSCO ประจำปี ค.ศ. 2009 หรือคิดเป็นเงินจำนวน 240,005 ดอลลาร์สหรัฐ หรือจำนวน 8,640,180 บาท นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะมนตรีขององค์การ APSCO ได้ให้ความเห็นชอบในหลักการที่จะดำเนินโครงการ จำนวน 6 โครงการ ตามข้อเสนอแผนงานโครงการขององค์การ APSCO ในระยะ 5-10 ปี รวมทั้งเห็นชอบให้จัดการประชุมคณะมนตรี ขององค์การ APSCO ครั้งที่ 2 ในช่วงครึ่งหลังของปี ค.ศ. 2009 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
|
||||||||||||||||||||||||
39375 | แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน | นร | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) เสนอ ดังนี้
1. รับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 64/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการแก้ไขปัญหา การละเมิดสิทธิมนุษยชน 2. ให้กระทรวง กรม ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องแก่คณะกรรมการติด ตามการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
39376 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2552 | ทส | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติคณะกรรมการ
สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2551 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2552 สรุปมติที่สำคัญดังนี้ 1. เห็นชอบให้ใช้อำนาจประกาศกำหนดให้ท้องที่เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุดและพื้นที่บริเวณใกล้เคียง เป็นเขตควบคุมมลพิษ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในท้องที่ที่ได้ประกาศกำหนดให้เป็นเขตควบคุมมลพิษจัด ทำแผนปฏิบัติการเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด และดำเนินการตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 2. เห็นชอบนโยบายสร้างจิตสำนึกเยาวชนด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามความ เห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3. เห็นชอบมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม โดยให้กระทรวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตราการ ฯ และรายงานผลการดำเนินงานต่อคณะรัฐมนตรี สำหรับ มาตรการแก้ไขปัญหามลพิษจากการประกอบกิจการรับกำจัดกากอุตสาหกรรมของบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมประสานกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการสำรวจพื้นที่และจัดทำข้อมูลรายงานต่อประธานกรรมการสิ่งแวดล้อม แห่งชาติ ภายใน 7 วัน 4. เห็นชอบในหลักการโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ โดยในส่วนของวงเงินงบประมาณให้ประสานสำนักงบประมาณเพื่อตกลงในรายละเอียดต่อไป กรณีที่ไม่สามารถ สนับสนุนงบประมาณจากกลางปี พ.ศ. 2552 ได้ ให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมเพื่อพิจารณาตาม ขั้นตอนต่อไป 5. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทและขนาด โครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบ ปฏิบัติ และแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการปรับปรุงเอกสารท้ายประกาศ 1 ในลำดับที่ 28 โดยกำหนดให้โครงการจัดสรรที่ดิน จำนวนที่ดินแปลงย่อยตั้งแต่ 500 แปลงขึ้นไปหรือเนื้อที่เกิน กว่า 100 ไร่ ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการจัดสรรที่ดินแปลงย่อยขนาด 250 แปลง แต่ไม่ถึง 500 แปลง ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประมวลข้อ มูล และให้เสนอแนวทางในการดำเนินการให้มีมาตรการจัดการสิ่งแวดล้อมก่อนเริ่มโครงการตามหลักวิชาการที่ เหมาะสมเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต่อไป 6. เห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าบริการบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองแม่สอด จังหวัดตาก เทศบาลตำบลหัว ขวาง จังหวัดมหาสารคาม เทศบาลเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โดยให้จัดเก็บค่าบริการบำบัดน้ำเสียตามอัตราขั้นต่ำในปีแรกที่เริ่มจัดเก็บ ก่อน กับเห็นชอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 5 พื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมความพร้อมและวาง แผนงานต่าง ๆ ตามความเห็นของคณะกรรมการควบคุมมลพิษ โดยมีเงื่อนไขให้มีการพิจารณาทบทวนอัตราค่า บริการบำบัดน้ำเสียทุก 5 ปี 7. เห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าบริการจัดการขยะมูลฝอยเทศบาลเมืองตราด จังหวัดตราด เทศบาล เมืองสะเดา จังหวัดสงขลา เทศบาลตำบลเมืองแกลง จังหวัดระยอง และเทศบาลตำบลเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม เป็นอัตราค่าบริการที่เป็นช่วง (ขั้นต่ำ-ขั้นสูง) โดยเทศบาลดังกล่าวจะต้องจัดให้มีกระบวนการสร้างความรู้เพื่อทำ ความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการจัดเก็บอัตราค่าบริการด้วย และให้มีการพิจารณาทบทวนอัตราค่าบริการทุก 5 ปี
|
||||||||||||||||||||||||
39377 | แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการในคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่าเพิ่มเติม (ศาสตราจารย์ อดุล วิเชียรเจริญ) | ทส | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งศาสตราจารย์ อดุล วิเชียรเจริญ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะ
กรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า เพิ่มเติม ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจร ประศาสน์) ประธานกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่าเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะ รัฐมนตรีมีมติ (17 มีนาคม 2552) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
39378 | การประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ครั้งที่ 1/2552 | นร | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการ
กำกับติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เสนอการประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาภัย แล้ง ครั้งที่ 1/2552 วันที่ 16 มีนาคม 2552 โดยที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและผลการดำเนินการของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพิจารณาแผนการดำเนินการ หลักเกณฑ์ และงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือผู้ ประสบภัยแล้งทั้งในระยะเรงด่วน และระยะยาว และแนวทางการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในส่วนของแผนการดำเนินการ หลักเกณฑ์ และงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือ ฯ ที่ประชุม มีมติให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการดำเนินการ หลักเกณฑ์ และงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือผู้ ประสบภัยแล้งเป็นเอกสารโดยแยกเป็นงบประมาณปกติที่เกี่ยวข้องกับภัยแล้งและงบกลางที่จะขอรับการสนับสนุน เพิ่มเติมเนื่องจากเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วน และหน่วยงานไม่ได้เสนอขอตั้งงบประมาณไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และ พ.ศ. 2553 และส่งให้ฝ่ายเลขานุการภายใน 1 สัปดาห์ สำหรับการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณสำหรับช่วยเหลือเกษตรกรผู้ ประสบภัยธรรมชาติปี พ.ศ. 2551 จากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 วงเงิน 1,194,240,040 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
39379 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช.) (นางสาวลดาวัลย์ คำภา) | นร | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวลดาวัลย์ คำภา ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผน
งาน (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2551 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
39380 | แต่งตั้งประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (จำนวน 6 คน 1. พลเอก สุรินทร์ พิกุลทองฯ) | พม | 17/03/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอแต่งตั้งประธาน
กรรมการ กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน จำนวน 6 คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบสามปีตามวาระแล้ว โดยให้ มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (17 มีนาคม 2552) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. พลเอก สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานกรรมการ 2. นายแก้ว สังข์ชู กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน 3. นางศิริวรรณ บุตราช กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน 4. นายอดุลย์ ยกคำจู กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน 5. รองศาสตราจารย์ประสาน บุญโสภาคย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 6. นางสาวสมสุข บุญญะบัญชา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
.....