ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1785 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 35681 - 35700 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
35681 | การบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 | กค | 10/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบ เห็นชอบ และอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.1 รับทราบวงเงินเหลือจ่ายจากการจัดสรรเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 1.2 เห็นชอบแนวทางการพิจารณาโครงการที่จะใช้วงเงินเหลือจ่ายจากพระราชกำหนดฯ 1.3 อนุมัติการจัดสรรวงเงินเหลือจ่ายจากการจัดสรรเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ให้แก่โครงการที่ คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ สาขา เศรษฐกิจ และกรอบวงเงินตามกรอบการใช้จ่ายเงินกู้เสนอต่อรัฐสภาตามพระราชกำหนดฯ วงเงิน 4,907.49 ล้าน บาท 1.4 เห็นชอบแนวทางดำเนินการสำหรับการขอยกเลิกโครงการที่ได้รับอนุมัติการจัดสรรเงินกู้ตาม พระราชกำหนดฯ ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้นำวงเงินโครงการที่ยกเลิก มารวมเป็นวงเงินเหลือจ่าย และให้หน่วยงานดังกล่าวเสนอโครงการใหม่ตามขั้นตอนการพิจารณาวงเงินเหลือจ่าย ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2553 1.5 เห็นชอบการกำหนดกรอบระยะเวลาการเสนอโครงการเพิ่มเติม เพื่อขอใช้วงเงินเหลือจ่ายตาม ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2553 โดยให้หน่วยงานเจ้าของโครงการโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเสนอโครง การพร้อมวงเงินต่อคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ภาย ในวันที่ 31 สิงหาคม 2553 และสำหรับหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับการอนุมัติวงเงินกู้จากคณะรัฐมนตรี หรือได้รับการจัดสรรเงินกู้จากสำนักงบประมาณแล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินโครงการได้หรือประสงค์ที่จะขอยกเลิก โครงการ กำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการแจ้งคณะกรรมการฯ เพื่อขอยกเลิกโครงการและคืนวง เงินรวมเป็นวงเงินเหลือจ่ายภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2553 ด้วย 1.6 อนุมัติขยายเวลาขอรับการจัดสรรเงินกู้ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวง ศึกษาธิการ ที่ยังไม่อาจขอรับการจัดสรรเงินภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จากสำนักงบประมาณ วง เงิน 1,543,324,500 ล้านบาท เป็นภายใน 30 กันยายน 2553 และเนื่องจากเป็นการจัดซื้อครุภัณฑ์จึงเห็นควร เร่งรัดการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 30 กันยายน 2554 หากสำนักงานฯ ไม่สามารถขอรับจัดสรรได้ ภายใน 30 กันยายน 2553 เห็นควรให้ยกเลิกวงเงินที่จัดสรรให้โครงการและนำมารวมเป็นวงเงินเหลือจ่ายต่อไป 1.7 อนุมัติขยายเวลาการลงนามในสัญญาของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โครง การในสาขาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ได้รับการจัดสรรวงเงินจากสำนักงบประมาณ วงเงิน 705 ล้านบาท เป็นภาย ในวันที่ 30 กันยายน 2553 และขยายเวลาดำเนินโครงการเป็นภายใน 1 ปี นับจากวันลงนามในสัญญา หาก หน่วยงานไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ภายใน 30 กันยายน 2553 เห็นควรยกเลิกวงเงินที่จัดสรรให้โครงการ และนำมารวมเป็นวงเงินสำรองจ่ายต่อไป 1.8 อนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 โดย ให้หน่วยงานส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงิน รวมถึงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้ จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันทำการ หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครง การ และสำนักงบประมาณจะดำเนินการอนุมัติภายใน 15 วันทำการ โดยหลังจากได้รับอนุมัติแล้ว หน่วยงานจะ ต้องลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันทำการ 1.9 อนุมัติในหลักการให้กระทรวงสาธารณสุขใช้เงินบำรุงสมทบสำหรับรายการจัดซื้อจัดจ้างที่สูง กว่าวงเงินที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับอนุมัติ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณา รายละเอียดและความเหมาะสมของวงเงินประกอบการขอรับจัดสรรเงินภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 2. เห็นชอบให้แก้ไขชื่อหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการก่อสร้างอาคารปฏิบัติการพร้อมอุปกรณ์ที่ทัน สมัย ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาชายฝั่ง จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ในหนังสือกระทรวงการคลังด่วนที่สุด ที่ กค 0907/ 15088 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2553 หน้า 5) ให้ถูกต้อง จากเดิม"กรมชลประทาน" เป็น "กรมประมง" ตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||||||||
35682 | ความคืบหน้าในการดำเนินการเกี่ยวกับการสมัครเข้ารับการเลือกตั้งในตำแหน่งสมาชิกสภาบริหารของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ | ทก | 10/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดังนี้
1. รับทราบผลการดำเนินงานของประเทศไทยในการสมัครรับเลือกตั้งซ้ำในตำแหน่งสมาชิกสภาบริหาร ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้มีหนังสือถึงเลขาธิ การสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2552 แจ้งว่า ประเทศไทยสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่ง สมาชิกสภาบริหาร ภูมิภาคเอเชียและออสตราเลเซีย ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือถึงสถานเอก อัครราชทูตประเทศสมาชิกสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ประจำประเทศไทยเพื่อขอรับการสนับสนุน พร้อม ทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูตของไทย ประจำประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพฯ เพื่อพิจารณาดำเนิน การเกี่ยวกับการขอเสียงการสมัครรับเลือกตั้งของไทยด้วย นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสน เทศและการสื่อสารได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีด้านโทรคมนาคม/ICT ของประเทศสมาชิกสหภาพฯ เพื่อขอเสียง/แลก เสียง 2. เห็นชอบให้กระทรวงต่าง ๆ ของไทยพิจารณาหยิบยกประเด็นการสมัครรับเลือกตั้งซ้ำในตำแหน่ง สมาชิกสภาบริหารฯ ของประเทศไทย เพื่อขอเสียงสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ ในโอกาสที่มีผู้แทนระดับสูงหรือ เอกอัครราชทูตจากประเทศสมาชิกสหภาพฯ เข้าพบผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานไทย หรือผู้บริหารระดับสูงใน หน่วยงานของไทยเดินทางไปราชการต่างประเทศ และมีโอกาสพบปะกับผู้บริหารระดับสูงของประเทศสมาชิกสห ภาพฯ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
35683 | เลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (16 สิงหาคม 2553) | นร | 10/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องจากวันอังคารที่ 17 สิงหาคม 2553 เป็นวัน
ประชุมร่วมกันของรัฐสภา จึงให้เลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันดังกล่าว ไปเป็นวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2553
|
||||||||||||||||||||||||
35684 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 10/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์
ที่ 9 สิงหาคม 2553 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23 ปีที่ 3 ครั้งที่ 3 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 11 สิงหาคม 2553
|
||||||||||||||||||||||||
35685 | โครงการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 | กษ | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการจัดงานตามโครงการจัดงานมหกรรม พืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ในกรอบวงเงินรวม 838.76 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์เสนอ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการจัดทำประมาณการรายรับ-ราย จ่าย แผนบริหารรายได้ และแผนความพร้อมด้านบุคลากร ตลอดจนการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรม และ ความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการจัดทำแผนความเป็นไปได้ทางธุรกิจ (Financial Plan) และการศึกษา วิเคราะห์แนวทางการให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมในการบริหารจัดการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย 2. สำหรับงบประมาณเพื่อการดำเนินงานตามรายการต่าง ๆ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้จ่ายงบ ประมาณให้เป็นไปโดยประหยัด เหมาะสมคุ้มค่า และเป็นไปตามเป้าหมายของการจัดงาน ทั้งนี้ ในส่วนของโครง การที่จะต้องดำเนินการโดยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ อนุมัติในหลักการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำ สัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณได้ตามที่เสนอ โดย 2.1 อนุมัติในหลักการงบประมาณสำหรับใช้ในการปรับปรุงสถานที่ สิ่งก่อสร้าง และการจัดตกแต่ง ภูมิสถาปัตยกรรม จำนวน 6 รายการ ได้แก่ งานก่อสร้างอาคารสำนักงาน พื้นที่ 360 ตารางเมตร งานปรับปรุง อาคารโลกแมลง งานปรับปรุงงานระบบและพื้นที่อาคารนิทรรศการเดิม พื้นที่ 1,700 ตารางเมตร งานก่อสร้าง อาคารจัดนิทรรศการ พื้นที่ 5,000 ตารางเมตร งานเดินท่อน้ำเสียออกจากพื้นที่เพื่อทำการบำบัด และงาน ก่อสร้างระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งจำเป็นจะต้องผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-2554 ในวงเงินรวมไม่เกิน 130.348 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงิน สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงินไม่เกิน 47.0 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 83.348 ล้านบาท ให้ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. 2554 โดยขอทำความตกลงความเหมาะสมราคากับสำนักงบประมาณตามระเบียบ การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 ต่อไป ตามความเห็นของ สำนักงบประมาณ 2.2 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับสำนักงบประมาณพิจารณารายละเอียดงบประมาณเพื่อ ใช้ในการบริหารจัดการการประชาสัมพันธ์และการจัดกิจกรรม จำนวน 2 รายการ ในวงเงินรวมไม่เกิน 470 ล้าน บาท ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อ กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถดำเนินการโครงการได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ไปก่อน 3. อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและที่ปรึกษาจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ฯ ราชพฤกษ์ 2554 โดยให้มีผู้แทนกระทรวงการคลังร่วมเป็นกรรมการดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ให้ประธานคณะกรรม การสามารถปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการและที่ปรึกษาได้ตามความจำเป็น เหมาะสม และให้ดำเนิน การต่อไปได้ 4. สำหรับเงินรายได้เกิดขึ้นจากการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพกฤษ์ 2554 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการตามแนวทางตามความเห็นของกระทรวงการคลัง แนวทางใดแนวทาง หนึ่ง โดยหากเงินรายได้ที่ได้รับจากการจัดงานเป็นของกรมวิชาการเกษตรให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการ คลัง หรือหากเงินรายได้ที่ได้รับจากการจัดงานเป็นของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ให้ถือ ปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
35686 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. .... | กก | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอ มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมกีฬาอาชีพ เพื่อส่งเสริมกีฬาอาชีพและกำกับดูแลคุ้มครองนัก กีฬาอาชีพ บุคลากรกีฬาอาชีพ และผู้ประกอบธุรกิจกีฬาอาชีพ โดยให้แยกเป็นพระราชบัญญัติต่างหากจากพระราช บัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2528 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยเร็ว 2. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงาน ก.พ.ร. ที่ เห็นว่า ปัจจุบันได้มีข้อกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้บัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2528 โดยกำหนดให้การกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานหลักในการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางประสานงานเกี่ยวกับการ กีฬา การส่งเสริมสนับสนุนการกีฬา การสอดส่องควบคุม และการดำเนินการกีฬา ซึ่งร่างพระราชบัญญัติส่งเสริม กีฬาอาชีพฯ มีหลักการและเนื้อหาหลายส่วนที่ซ้ำซ้อนกับพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทยฯ จึงเห็นควรรวม พระราชบัญญัติทั้งสองฉบับเข้าด้วยกัน และแก้ไขปรับปรุงบทบัญญัติให้มีสาระสำคัญที่ครอบคลุมและสะท้อนเจตนา รมณ์ที่จะสนับสนุนส่งเสริมการกีฬาให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในร่างพระบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพฯ มีข้อ บัญญัติหลายส่วนที่เป็นไปในลักษณะการควบคุมมากกว่าส่งเสริมสนับสนุนการกีฬาอาชีพอาจจะไม่สอดคล้องกับรัฐ ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 43 ซึ่งกำหนดให้บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการประกอบกิจการ หรือประกอบอาชีพและการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งคณะกรรม การประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
35687 | ร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ .) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ดังต่อไปนี้ 1.1 ปรับปรุงหลักเกณฑ์การควบคุมการผลิตอากาศยาน ส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน ชิ้นส่วน รับรองคุณภาพ และบริภัณฑ์ 1.2 กำหนดให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนมีอำนาจยกเว้นบทบัญญัติเรื่องทุนและอำนาจในการ บริหารกิจการของผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตอากาศยาน กรณีที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน 1.3 กำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจยกเว้นบทบัญญัติเรื่องทุนของผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตอากาศยานที่ ต้องเป็นของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย 1.4 ขยายระยะเวลาในการยกเว้นคุณสมบัติเรื่องอำนาจการบริหารกิจการของผู้ขอรับใบอนุญาตผลิต อากาศยาน 2. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้ คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยประเด็น ความเห็นมีดังนี้ 2.1 ควรกำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตการผลิตอากาศยาน ชิ้นส่วนของอากาศยาน และการประกอบ กิจการหน่วยซ่อมที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแล้ว สามารถยื่นขอรับใบอนุญาตต่อ อธิบดีกรมการบินพลเรือนโดยไม่จำเป็นต้องมาขอรับการพิจารณายกเว้นจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนอีก ครั้งหนึ่ง 2.2 การพิจารณาอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนได้รับยกเว้นจากบทบัญญัติว่าด้วยการลง ทุนขั้นต่ำและอำนาจการบริหารกิจการที่ต้องเป็นของผู้ที่มีสัญชาติไทย ควรเป็นอำนาจการพิจารณาของผู้มีอำนาจ ตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจในการยกเว้นเงื่อนไข เนื่องจากตามหลักเกณฑ์และ เงื่อนไขของการส่งเสริมการลงทุนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 กิจการผลิตอากาศยาน ชิ้น ส่วนของอากาศยาน และการประกอบกิจการหน่วยซ่อม ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องสัดส่วนการลงทุนของคนต่างด้าว 2.3 ในการตราพระราชกฤษฎีกาควรมีบทบัญญัติที่กำหนดยกเว้นว่าจะไม่มีผลกระทบต่อผู้ได้รับการ ส่งเสริมที่เป็นคนต่างด้าว
|
||||||||||||||||||||||||
35688 | ร่างพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... | มท | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้ยกเว้นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การจัดตั้งจังหวัดใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2524 โดยอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ มีสาระสำคัญคือ ให้แยกอำเภอเซกา อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงกาฬ อำเภอบึงโขงหลง อำเภอปาก คาด อำเภอพรเจริญ และอำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคาย รวมจัดตั้งเป็นจังหวัดบึงกาฬ และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภา ผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 2. ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะรัฐมนตรี ที่ให้หลีกเลี่ยงการ เพิ่มภาระด้านงบประมาณ และอัตรากำลัง โดยให้เกลี่ยอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ไปปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดตั้ง ใหม่ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
35689 | รายงานความคืบหน้าและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ | ยธ | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความ จริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ ตามที่ศาสตราจารย์คณิต ณ นคร ประธานกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหา ความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติเสนอ 2. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับกรอบและแนวทางที่คณะกรรมการอิสระฯ เสนอ ไปดำเนินการในส่วนที่ เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ต่อไป 3. ให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) รับเรื่อง การดำเนินการให้มีการประกาศสถาน การณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงซึ่งออกตามความในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เท่าที่จำเป็นและเป็นไปได้ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเท่านั้นไปพิจารณา และเร่งรัดรายงานและเผย แพร่ผลการประมวลความสูญเสียและการเยียวยาที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และที่จะดำเนินการต่อไป รวมทั้งเร่งรัด ดำเนินการเผยแพร่ในรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและสถานภาพของผู้ร่วมชุมนุมที่ถูกแจ้งข้อหาและควบคุมตัวตาม พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และข้อหาตามกฎหมายอื่นต่อสาธารณะ โดยเร็ว 4. ให้กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์รับไปปฏิบัติตามกฎหมายราชทัณฑ์และมาตรฐานสากลต่อผู้ ต้องหาอย่างเคร่งครัด และทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนทุกแขนงให้พึงระมัดระวังเกี่ยวกับการเผยแพร่ภาพและข่าว สารมิให้เกิดผลกระทบสิทธิและละเมิดศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ 5. ให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ศอฉ. พึงระมัดระวังการเผยแพร่ภาพและการให้ บริการข่าวสารของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม การสอบสวน และการแจ้งข้อหาที่เหมาะสมเพื่อสร้างความ เป็นกลางและความน่าเชื่อถือให้แก่กระบวนการยุติธรรมด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
35690 | ขอความเห็นชอบร่างเอกสารสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - มาเลเซีย ครั้งที่ 50 | กห | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างเอกสารสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-มาเลเซีย
ครั้งที่ 50 ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
35691 | รายงานความคืบหน้าแนวทางปฏิบัติในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ตามมติคณะรัฐมนตรี | มท | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
1. รับทราบรายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ดังนี้ 1.1 การดำเนินงานตามโครงการพัฒนาศักยภาพ กม. โดยการจัดตั้งโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำ จังหวัด (ร.ร.ปปท.จ.) มีผลการดำเนินงาน ดังนี้ 1.1.1 ในปี พ.ศ. 2552 ได้ดำเนินการฝึกอบรม กม. จำนวน 200 รุ่น รวม กม. ที่เข้ารับการศึกษา อบรม จำนวน 12,000 คน จาก 1,200 หมู่บ้าน 1.1.2 ในปี พ.ศ. 2553 ได้ขยายผล ร.ร.นปท.จ. โดยให้คัดเลือก กม. เข้ารับการศึกษาอบรมฯ ใน ร.ร.นปท.จ. ตำบลละ 1 หมู่บ้าน ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ของจำนวนตำบลทั้งหมดที่มีอยู่ในจังหวัด ปัจจุบันทุก จังหวัดจัดทำแผนที่จะนำ กม. เข้ารับการศึกษาอบรมฯ จำนวน 1,061 รุ่น กม. จำนวน 88,280 คน จาก 8,828 หมู่ บ้าน ทั้งนี้ เมื่อ กม. ได้ผ่านการศึกษาอบรมจาก ร.ร.นปท.จ. แล้วจะทำหน้าที่เป็นหมู่บ้าน กม. ต้นแบบและเป็นศูนย์ เรียนรู้การดำเนินงานของ กม. ประจำตำบล ซึ่งถือเป็นการถ่ายทอดความรู้ในการดำเนินงานของ กม. ให้แก่หมู่บ้าน ใกล้เคียง 1.2 การดำเนินงานตามโครงการขยายผลการขับเคลื่อน กม. โดยชุดปฏิบัติการประจำตำบล เพื่อให้ชุด ปฏิบัติการประจำตำบลมีความรู้ ความเข้าใจในการทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา แนะนำ ส่งเสริมสนับสนุนให้ กม. ที่ผ่านการศึกษาอบรมจาก ร.ร.นปท.จ. ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและติดตามรายงานผล ตลอดจน สนับสนุนหมู่บ้าน กม. ในการประกวดหมู่บ้าน กม. ดีเด่น ทั้งในระดับอำเภอ และจังหวัด 2. อนุมัติการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้านระดับกระทรวงโดย มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และกรอบแนวทางการร่วมมือขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรม การหมู่บ้านให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี และอำนาจหน้าที่อื่นอีก 4 ประการ
|
||||||||||||||||||||||||
35692 | รายงานสถานการณ์และการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี พ.ศ. 2552 | พม | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานสถานการณ์และการดำเนิน งานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี พ.ศ. 2553 รวมทั้งข้อเสนอ สรุปได้ดังนี้ 1.1 ให้ความสำคัญและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของผู้บังคับใช้กฎหมาย รวมถึงทีมสหวิชาชีพใน ระดับพื้นที่ ในการเฝ้าระวังกรณีการลักลอบขนคนข้ามประเทศหรือการหลบหนีเข้าเมือง 1.2 เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดอบรมแรงงานก่อนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เพื่อให้มีความเข้า ใจเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิต วัฒนธรรม การใช้ภาษา และสภาพการทำงานที่มีความมาะสม รวมถึงกฎ หมายที่เกี่ยวข้อง และแหล่งหรือหน่วยงานให้การช่วยเหลือ 1.3 ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี การฟ้อง ร้อง รวบรวมพยานหลักฐาน ประสบการณ์การทำงาน ข้อจำกัด ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อพิจารณาแนวทางในการ ป้องกันและแก้ไข 1.4 มีการจัดระบบข้อมูลการค้ามนุษย์ตั้งแต่การนำเข้าข้อมูลการจับกุม การดำเนินคดี การคุ้มครองผู้ เสียหายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งการส่งผู้เสียหายกลับประเทศหรือภูมิลำเนา 1.5 สร้างความตระหนักและความรับผิดชอบกับธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่มีความสำคัญ ในการส่งเสริมให้เกิดการเคลื่อนย้ายคนเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ ด้วยความไม่ตั้งใจ 2. คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่าจากรายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกาประจำปี พ.ศ. 2553 ได้จัดระดับ ประเทศไทยอยู่ในระดับ 2 ที่ต้องถูกจับตามอง (Tier 2 Watch List) ซึ่งตกจากปีที่แล้วที่อยู่ระดับ 2 (Tier 2) จึงขอให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ เป็นต้น เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยให้มีการประสานงานและ ร่วมมือกันดำเนินการอย่างใกล้ชิดทั้งในระหว่างหน่วยงานของไทย และกับหน่วยงานต่างประเทศ เช่น สถานทูตของ ประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
35693 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 3 | คค | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการประชุมคณะกรรมการร่วม (Joint
Committee : CC) สำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 3 (Crosse -Border Transport Agreement : CBTA) ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 มิถุนายน 2553 ณ นครหลวง เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) สรุปผลการประชุมได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมรับทราบผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสคณะกรรมการอำนวยความสะดวกในการขนส่ง แห่งชาติ (National Transport Facilitation Committee : NTFC) เมื่อวันที่ 20-21 มกราคม 2553 ณ นครโฮจิ มินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2553 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว 2. ที่ประชุมให้การรับรองแถลงการณ์ร่วม ฉบับที่ ADB ปรับปรุงใหม่ ซึ่งได้กำหนดแผนปฏิบัติงาน เพื่อให้ประเทศสมาชิกดำเนินการ โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ 2.1 การให้สัตยาบันภาคผนวกและพิธีสารแนบท้ายความตกลง CBTA ไทยและพม่า จะดำเนิน การให้สัตยาบันในเวลาที่เหมาะสม 2.2 สิทธิการจราจร 2.3 ศุลกากรผ่านแดน 2.4 ขั้นตอน ณ ด่านชายแดน
|
||||||||||||||||||||||||
35694 | ขอแก้ไขถ้อยคำชื่องาน "งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ปีที่ 60 วันที่ 5 พฤษภาคม 2553" ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 | วธ | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แก้ไขถ้อยคำชื่องาน "งานพระราชพิธีบรมราชภิเษก ปีที่ 60 วันที่ 5 พฤษภาคม
2553" ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 (เรื่อง ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการลาเข้าร่วมอุปสมบท ในโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ปี ที่ 60 วันที่ 5 พฤษภาคม 2553 และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 โดยไม่ถือเป็นวันลา) แก้เป็น "งานเฉลิมพระเกียรติแห่งการบรมราชาภิเษกปีที่ 60" ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ |
||||||||||||||||||||||||
35695 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 | พน | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุน
เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 และให้เสนอสภาผู้แทน ราษฎรและวุฒิสภาต่อไป และให้กระทรวงพลังงานจัดส่งรายงานในเรื่องนี้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อสภา ผู้แทนราษฎรและวุฒิสภารับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว สำหรับรายงานของผู้สอบบัญชีฯ มีดังนี้ 1. งบแสดงฐานะการเงิน กองทุนฯ มีสินทรัพย์หมุนเวียน 15,608,016,266.75 บาท มีสินทรัพย์ไม่หมุน เวียน 5,730,905,264.71 บาท มีสินทรัพย์ 21,338,921,531.46 บาท มีหนี้สินหมุนเวียน 40,605,295.98 บาท มีสินทรัพย์สุทธิ 21,298,316,235.48 บาท 2. งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน กองทุนฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 11,827,722,433.14 บาท มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน 3,070,620,039.32 บาท มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 8,757,102,393.82 บาท 3. งบกระแสเงินสด มีเงินสดรับ 11,826,147,587.69 บาท มีเงินสดจ่าย 3,527,232,611.65 บาท มี เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดคงเหลือ ณ วันปลายงวด 15,528,296,286.74 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
35696 | รายงานผลการติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 | นร | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐนตรีรายงานผลการติดตามและเร่งรัดการ
ดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 กรณีผลการดำเนินการตรวจสอบข้อ มูลร้อยละ 100 ในพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรที่ผลการเปรียบเทียบข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานพัฒนา เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กับข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรมีความแตกต่างกันเกินกว่าร้อยละ 20 ตาม มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 โดยผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลภาพและแปลภาพถ่ายจากดาวเทียม จังหวัดที่มีพื้นที่แตกต่างกันเกินกว่าร้อยละ 20 ลดลงจาก 29 จังหวัด เหลือ 14 จังหวัด สำหรับพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก จำนวน 62 จังหวัด ในการแปลตีความครั้งที่ 1 มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง จำนวน 13,489,933 ไร่ ในการแปลตีความครั้งที่ 2 มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง จำนวน 14,556,672.21 ไร่ เพิ่มขึ้นจากครั้งที่ 1 จำนวน 1,068,739.21 ไร่ เมื่อนำผลการแปลตีความในครั้งที่ 2 เปรียบ เทียบกับข้อมูลการขึ้นทะเบียนและผ่านประชาคมในพื้นที่ 62 จังหวัด ซึ่งมีจำนวน 16,351,790 ไร่ มีความแตกต่าง กันจำนวน 1,795,117.79 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 10.98
|
||||||||||||||||||||||||
35697 | รายงานผลการพิจารณากรอบวงเงินค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานระบบรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ จำนวน 382 ล้านบาท | คค | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอเพิ่มเติมให้สำนักงบประมาณรับ
รายงานผลการพิจารณากรอบวงเงินค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานระบบรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสาย สีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ จำนวน 382 ล้านบาท ไปพิจารณารายละเอียดและความเหมาะสมของกรอบวงเงิน ค่าจ้างที่ปรึกษาฯ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
35698 | รายงานผลการดำเนินการแผนพัฒนาหอสมุดแห่งชาติให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัย (ครั้งที่ 6) | วธ | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมรายงานผลการดำเนินการแผนพัฒนาหอสมุดแห่ง
ชาติให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัย (ครั้งที่ 6) โดยผลการดำเนินการตามแผนฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ดังนี้ 1. บริษัทผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานและเบิกจ่ายค่าก่อสร้าง งวดที่ 3 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2552 ความก้าว หน้าของงานตามแผนคิดเป็นร้อยละ 12.56 ทำได้จริงร้อยละ 6.80 ซึ่งมีผลการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 ถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2552 ได้แก่ การก่อสร้างอาคารใหม่ ตอกเสาเข็มพร้อม GROUTING (การฉีดน้ำปูน ซีเมนต์) ปลายเสาเข็มแล้ว การก่อสร้างอาคารร้านค้า งานโครงสร้างหลังคา งานก่ออิฐ-ติดตั้งวงกบไม้ งานฉาบ ปูน งานปูกระเบื้อง พื้นและผนัง แล้วเสร็จร้อยละ 90 ของงานทั้งหมด ส่วนงานติดตั้งประตู-หน้าต่าง แล้วเสร็จร้อย ละ 50 ของงานทั้งหมด และงานเดินท่อระบบประปา-สุขาภิบาล งานเดินท่อพร้อมร้อยสายไฟแล้วเสร็จ 2. บริษัทผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานและเบิกจ่ายค่าก่อสร้าง งวดที่ 4 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2553 ความคืบ หน้าของงานตามแผนคิดเป็นร้อยละ 12.81 ทำได้จริงร้อยละ 7.99 ซึ่งมีผลการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2552 ถึงวันที่ 21 ธันวาคม 2552 ได้แก่ งานก่อสร้างอาคารใหม่ งานหล่อฐานรากแล้วเสร็จร้อยละ 50 ของงาน ทั้งหมด งานก่อสร้างอาคารร้านค้า งานฝ้าเพดาน งานครุภัณฑ์ติดอาคาร งานทาสีภายนอกและภายใน งานติด ตั้งดวงโคม เครื่องปรับอากาศ เชื่อมต่อสายป้อนไฟฟ้า และงานระบบไฟฟ้าอื่น ๆ แล้วเสร็จร้อยละ 90 ของงานทั้ง หมด 3. บริษัทผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานและเบิกจ่ายค่าก่อสร้าง งวดที่ 5 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2552 ความก้าว หน้าของงานตามแผนคิดเป็นร้อยละ 25.96 ทำได้จริงร้อยละ 13.32 ซึ่งมีผลการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2552 ถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ได้แก่ งานก่อสร้างอาคารใหม่ งานหล่อฐานราก งานแบบ Shop Drawing งานระบบไฟฟ้า งานระบบปรับอากาศ งานระบบสุขาภิบาล งานระบบดับเพลิง ชั้นจอดรถแล้วเสร็จ และงานก่อ สร้างอาคารร้านค้า ดำเนินการก่อสร้างงานส่วนที่เหลือตามรูปแบบและรายการแล้วเสร็จ 4. บริษัทผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานและเบิกจ่ายค่าก่อสร้าง งวดที่ 6 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2553 ความก้าว หน้าของงานตามแผนคิดเป็นร้อยละ 33.72 ทำได้จริงร้อยละ 17.96 ซึ่งมีผลการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 27 กุมภา พันธ์ 2553 ถึงวันที่ 28 เมษายน 2553 ได้แก่ งานก่อสร้างอาคารใหม่ งานโครงสร้างพื้น (บนคาน) คาน เสา ผนังลิฟท์ ชั้นจอดรถ งานถังเก็บน้ำใต้ดิน งานแบบ Shop Drawing งานระบบปรับอากาศ งานระบบสุขาภิบาล งานระบบดับเพลิง ชั้นที่ 1 และ 2 งานฝัง sleeve ของงานระบบต่าง ๆ ชั้นจอดรถแล้วเสร็จ 5. จำนวนเงินงบประมาณที่ใช้จ่าย จำนวน 562,687,000 บาท เฉพาะการก่อสร้างอาคาร ประกอบ ด้วย 5.1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ใช้เงินงบประมาณ จำนวน 112,540,000 บาท 5.2 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ใช้เงินงบประมาณ จำนวน 225,073,000 บาท 5.3 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ใช้เงินงบประมาณ จำนวน 225,074,000 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
35699 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่จังหวัดลำปาง จำนวน 2 ฉบับ | กษ | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขต ปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้เป็น เขตปฏิรูปที่ดิน 2. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลพระบาท ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมืองลำปาง ตำบลแม่เมาะ ตำบลสบป้าด อำเภอแม่เมาะ และตำบลแม่ทะ ตำบลหัวเสือ ตำบลดอนไฟ ตำบลวังเงิน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ ตำบลพระบาท ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมืองลำปาง ตำบลแม่เมาะ ตำบลสบป้าด อำเภอแม่เมาะ และตำบลแม่ทะ ตำบลหัวเสือ ตำบลดอนไฟ ตำบลวังเงิน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2537
|
||||||||||||||||||||||||
35700 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่ากำชำ ตำบลบ่อทอง ตำบลปุโละปุโย ตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก ตำบลพ่อมิ่ง อำเภอปะนาเระ ตำบลแป้น ตำบลปะเสยะวอ ตำบลบือเระ อำเภอสายบุรี ตำบลกอลำ ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง ตำบลปะโด อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี และตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่ากำชำ ตำบลบ่อทอง
ตำบลปุโละปุโย ตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก ตำบลพ่อมิ่ง อำเภอปะนาเระ ตำบลแป้น ตำบลปะเสยะวอ ตำบลบือเระ อำเภอสายบุรี ตำบลกอลำ ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง ตำบลปะโด อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี และ ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงพระราช กฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2530 พระราช กฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2531 และพระราช กฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2535 ที่สำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....