คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสำรวม ด่านประชันกุล ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลสตูล  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล  สำนัก
งานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่  8  กันยายน  2553  ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งให้รักษาการใน
ตำแหน่งดังกล่าวและไม่ก่อนวันที่สำนักงาน ก.พ. ได้รับคำขอประเมินพร้อมเอกสารประกอบการประเมินครบ
ถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2553 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบ
ถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
                1. นางสาวเพรามาตร หันตรา        ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี (นักวิเคราะห์
                                                                นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพากร
                2. นางวณี ทัศนมณเฑียร               ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี
                                                                (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรง
                                                                คุณวุฒิ) กรมสรรพากร

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้แทนฝ่ายไทยในการลงนามในเอกสาร
โครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการสืบสวน การข่าวกรอง และการอุตสาหกรรมเพื่อตอบสนองต่อการลักลอย
ค้ายาเสพติดและเคมีภัณฑ์ สารตั้งต้น (Strengthening Investigative Intelligence, and Industry  Based  Responses
to the Trafficking of Illicit Drugs  and  Precursor  Chemical) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจ (Full  Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ลงนาม
ต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตั้งแต่
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554-2556 วงเงิน  92,628,000  บาท หรือปีละ  30,876,000  บาท  เพื่อเป็นค่าเช่า
อาคารธนาคารลงกรณ์ทาวเวอร์เป็นที่ทำการชั่วคราวของกระทรวงวัฒนธรรม พื้นที่ 8,300 ตารางเมตร  โดย
ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ที่ได้เสนอตั้งงบประมาณไว้แล้วในแผนงานส่ง
เสริมและพัฒนาศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม  ผลผลิตที่ 2 : นโยบาย แผนด้านศิลปะ ศาสนา และวัฒนธรรม
ได้รับการบริหารจัดการงบดำเนินงาน จำนวน 29,880,000 บาท  ส่วนที่ขาดอยู่ จำนวน 996,000 บาท ให้
สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2554 
มาดำเนินการ และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555-2556 จำนวน 61,752,000
บาท โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ  โดยในส่วนของอัตราการเบิกจ่ายค่าเช่าอาคารรวมค่าบริการส่วนกลาง
กระทรวงวัฒนธรรมชอบที่จะเบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงิน
เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ พ.ศ. 2549 ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการเดินทางไปราชการประเทศแคนาดา
ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายถาวร เสนเนียม) ตามคำเชิญของรัฐบาลแคนาดา ระหว่างวันที่ 20
-26 กรกฎาคม 2553 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการออกโฉนดที่ดิน และการ
บริหารระบบที่ดินของสำนักงานโฉนดที่ดิน และการรังวัดที่ดินของรัฐบริติชโคลัมเบีย  (Land  Titles  and  Survey
 Authority of  British  Columbia : BC LTSA)  การทบทวนเทคนิคในการบริหารระบบจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เกี่ยวกับที่ดิน  การสร้างความเข้าใจในกระบวนการของรัฐบาลแคนาดาในการจัดทำโครงการความร่วมมือระหว่าง
รัฐบาลในลักษณะความร่วมมือระหว่างรัฐต่อรัฐ (Government to Government Basis : G-to-G) รวมทั้งการบริหาร
และการสนับสนุนด้านการเงิน ตลอดจนการสร้างแนวทางความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานของรัฐบาลทั้งสองประเทศ
ในการที่จะร่วมมือกันบนพื้นฐานของความร่วมมือแบบ G-to-G เพื่อพัฒนาระบบการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
และระบบแผนที่แปลงที่ดิน ของกรมที่ดิน ประเทศไทย ให้มีความทันสมัยสู่มาตรฐานสากล ทั้งนี้ รัฐบาลแคนาดาได้
ให้ความเห็นว่า หากรัฐบาลไทยสนใจที่จะดำเนินโครงการศูนย์ข้อมูลที่ดินและแผนที่แห่งชาติ ของกรมที่ดิน กระทรวง
มหาดไทย รัฐบาลแคนาดาสามารถเสนอแนวทางสนับสนุนทางด้านเทคนิคและการเงินในรูปแบบของรัฐบาลต่อ
รัฐบาล (G to G) โดยสามารถพิจารณากรอบวงเงินกู้ เงื่อนไขพิเศษ ให้แก่รัฐบาลไทยได้ในกรอบวงเงินประมาณ 300
ล้านดอลลาร์แคนาดา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการระบบที่ดิน
และภาษีที่ดินของประเทศ และเป็นการจัดเตรียมข้อมูลสำหรับรองรับนโยบายของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี สำหรับการ
ศึกษาในรายละเอียด รัฐบาลแคนาดาจะได้มอบหมายผู้แทนเข้ามาทำการศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ
กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
               1. รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รายงาน
ผลการประกวดราคางานโยธาสัญญาที่ 1-5 โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน  ช่วงหัวลำโพง-บางแค  และช่วงบาง
ซื่อ-ท่าพระ   วงเงินรวม  51,747,622,964.25  บาท  ซึ่งต่ำกว่ากรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่  24 
พฤศจิกายน 2552 อนุมัติไว้จำนวน 52,460,000,000 บาท  ทั้งนี้ การประกวดราคาดังกล่าวได้ดำเนินการตาม
หลักเกณฑ์การประกวดราคานานาชาติและข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยว่าด้วยการพัสดุ
พ.ศ. 2546 และคณะกรรมการ รฟม. ได้มีมติเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2553 อนุมัติให้ว่าจ้างผู้รับจ้างดำเนินการใน
แต่ละสัญญา ประกอบด้วย บริษัท Italian-Thai Development PCL. เป็นผู้รับจ้างงานโยธา สัญญาที่ 1  ในวงเงิน
11,441,075,580.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) บริษัท Ch.Karnchang PCL.  เป็นผู้รับจ้างงานโยธา  สัญญาที่
2 ในวงเงิน 10,687,643,224.84 บาท (รวมภาษีมูลค่า)  กลุ่มบริษัท  SH-UN Joint Venture  เป็นผู้รับจ้างงาน
โธยา สัญญาที่ 3 ในวงเงิน 11,284,776,250.41 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)  บริษัท Sino-Thai Engineering &
Construction PCL. เป็นผู้รับจ้างงานโยธา  สัญญาที่ 4  ในวงเงิน  13,334,993,000.00  บาท  (รวมภาษีมูลค่า
เพิ่ม)  และบริษัท Ch.Karnchang PCL. เป็นผู้รับจ้างงานโยธา  สัญญาที่ 5  ในวงเงิน  4,999,134,909.00  บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)  และให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาดำเนินการตรวจสอบและกำกับติดตามการดำเนินโครง
การรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ (สัญญาที่ 1-5) ของ  รฟม.  ให้เป็นไป
อย่างถูกต้องตามข้อกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
               2. คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า ปัจจุบันค่าเงินบาทได้มีอัตราที่แข็งขึ้นกว่าช่วงเวลาที่คณะรัฐมนตรีได้มี
มติอนุมัติกรอบวงเงินโครงการฯ  ไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552  กระทรวงคมนาคมจึงควรรับไปพิจารณาความ
เป็นไปได้ในการเจรจาต่อรองกับผู้ประกอบการในขั้นการจัดทำสัญญาให้สะท้อนกับค่าเงินบาทในปัจจุบันด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะ
รัฐมนตรี (ปคค.) เสนอรายงานผลการติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีโดย ปคค.  (รายงานครั้งที่ 4)
โดยมีเรื่องสำคัญที่ ปคค. เร่งรัดติดตามให้ส่วนราชการ/หน่วยงานรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการเพิ่มเติม
จำนวน 27 เรื่อง

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
               1. นายสุทธิศักดิ์ เลาหชีวิน                      ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์
               2. นางอัญชนา วิทยาธรรมธัช ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์
               3. นางพิรมล เจริญเผ่า ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์
               4. นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอผล
การประชุมคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง  2555  ครั้งที่
8/2553 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2553  ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการจัดสรรวงเงินเหลือจ่ายจากการจัดสรรเงินกู้
ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ  พ.ศ. 2552
และการประเมินผลการดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 สาขาการศึกษา และมีมติดังนี้
              1. กระทรวงการคลังควรพิจารณาความจำเป็นในการใช้จ่ายเงินกู้ในส่วนวงเงินเหลือจ่ายอย่างรอบคอบ
เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นตัวสู่สภาวะปกติแล้ว จึงควรใช้เงินเหลือจ่ายในการลงทุนโครงการที่มี
ความจำเป็นเร่งด่วนต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริงเท่านั้น  และอาจพิจารณาใช้งบประมาณแผ่นดินสำหรับ
โครงการทั่วไปที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนมากนัก รวมทั้งควรกำหนดขอบเขตเวลาที่ส่วนราชการจะสามารถขอขยาย
เวลาในการลงนามสัญญา  หรือเสนอโครงการเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผน
ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ด้วย  เพื่อให้การใช้จ่ายเงินจากพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังฯ  มีกรอบ
ระยะเวลาที่ชัดเจน
              2. ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาในประเด็น ดังนี้
                  2.1 พิจารณากำหนดแนวทางดำเนินโครงการและเตรียมจัดหาแหล่งเงินรองรับการดำเนินการภาย
หลังจากแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง  2555  สิ้นสุดลง  เพื่อให้การดำเนินโครงการในการยกระดับมาตรฐานการ
ศึกษามีความต่อเนื่องและยั่งยืน
                  2.2 พิจารณากำหนดแนวทางการสร้างความร่วมมือในการยกระดับมาตรฐานการศึกษาร่วมกับชุมชน
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  โดยให้ชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีศักยภาพมีส่วนร่วมในการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในชุมชน   ซึ่งจะทำให้การยกระดับคุณภาพมาตรฐานการศึกษามีประสิทธิภาพและ
ประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันก่อนได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อชำระหนี้ค่าวัสดุอาหารผู้ต้องขัง จำนวน 689,438,980 บาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอขอเพิ่มการจัดทำข้อตกลงการหารือของเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เป็นภาษาฝรั่งเศสอีก 1 ฉบับ

               คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
               1. รับทราบการปรับแก้ข้อความตอนท้ายของร่างแผนปฏิบัติการร่วมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณา
จักรไทยกับราชอาณาจักรสเปนโดยเปลี่ยนข้อความจาก  “ในกรณีที่มีความแตกต่าง  ให้ใช้ตัวบทภาษาอังกฤษ
เป็นเกณฑ์” (“In case of divergence, the English text shall prevail.”) เป็นข้อความ “โดยให้คู่ฉบับทุกภาษา
มีผลเท่าเทียมกัน” (“, all texts being equally valid.”) 
              2. เห็นชอบต่อการปรับแก้ช่วงระยะเวลาของร่างแผนปฏิบัติการร่วมฯ จากปี 2552-2557  เป็น  ปี
2553-2558 เพื่อให้สอดคล้องกับปีที่ลงนามในร่างแผนปฏิบัติการร่วมฯ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติถอดถอน นายชอง ปอล กูปาล ออกจากตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุง
การากัส สาธารณรัฐโบลีวาร์แห่งเวเนซุเอลา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. อนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2554-2555 กรณีการเช่าอาคารที่ทำ
การสถานเอกอัครราชทูต (สอท.)/สถานกงสุลใหญ่ (สกญ.) และทำเนียบเอกอัครราชทูต/บ้านพักผู้อำนวยการ
ใหญ่ 5 แห่ง ประกอบด้วย สอท. ณ กรุงเอเธนส์ ที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต สอท. ณ กรุงมัสกัต  ทำเนียบเอก
อัครราชทูต สอท. ณ กรุงดาการ์ ทำเนียบเอกอัครราชทูต สกญ. ณ เมืองการาจี ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ สำนัก
งานการค้าและเศรษฐกิจไทย บ้านพักผู้อำนวยการใหญ่  เป็นเงินทั้งสิ้น 30,046,584 บาท  ตามที่กระทรวงการ
ต่างประเทศเสนอ  โดยค่าเช่าที่จะต้องจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ให้กระทรวงการต่างประเทศเบิกจ่ายจาก
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2554  ที่ได้รับจัดสรร  และให้เสนอขอตั้งงบประมาณผูกพันราย
จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
              2. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อมที่เห็นควรพิจารณาวิธีการจัดหาแหล่งเงินกู้เพื่อซื้ออาคารที่ทำการ  สอท.  สกญ.  และทำเนียบเอกอัคร
ราชทูต/บ้านพักกงสุลใหญ่ในต่างประเทศ   แทนวิธีการเช่าซึ่งทำให้รัฐสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้
ไปพิจารณาต่อไปด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์ประจำ
ตำแหน่งรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา จำนวน 1 คัน ระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2553-30 กันยายน
2556  อัตราค่าเช่าเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน เดือนละ 29,000 บาท (ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น
1,044,000 บาท  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  ทั้งนี้  เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2554  มีผลบังคับ  ให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2554 ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา จำนวนเงิน 348,000 บาท  ส่วนที่เหลืออีก จำนวน 696,000
บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2556  โดยให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา
เสนอขอตั้งงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมชุดใหม่ จำนวน
9 คน  เนื่องจากกรรมการชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนดตามวาระสองปี  ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (28 กันยายน 2553) เป็นต้นไป ดังนี้
               1. ผู้แทนเกษตรกร ประกอบด้วย
                   1.1 นายประพันธ์ เทียนวิหาร
                   1.2 นายปณิธาน ตั้งพิทักษ์
                   1.3 นายเอกวิทย์ สายแก้วเทศ
                   1.4 นายตระกูล สว่างอารมณ์
                   1.5 นายปัญญา ถ้ำแก้ว
                   1.6 นายสมชาย รอดหยู่
                2. ผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย
                    2.1 นายธันวา จิตต์สงวน
                    2.2 นายอำนาจ ทองเบ็ญญ์
                    2.3 ผู้ช่วยศาสตราจารย์อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์