ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1752 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 35021 - 35040 จากข้อมูลทั้งหมด 124012 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
35021 | งบประมาณเพื่อสนับสนุนโรงเรียนอนุบาลทีปังกรรัศมีโชติเป็นกรณีพิเศษ | ศธ | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2553 ในแผนงานเสริมสร้างรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคงด้านสังคม โครงการสนับ สนุนการจัดการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 15 ปี กิจกรรมสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน เอกชน จากเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 70,800,000 บาท ไปตั้งจ่ายเป็น เงินอุดหนุนโรงเรียนอนุบาลทีปังกรรัศมีโชติในแผนงานขยายโอกาสและพัฒนาการศึกษา ผลผลิตนักเรียนโรง เรียนเอกชนที่ได้รับการอุดหนุน กิจกรรมพัฒนาบุคลากร/ผู้เรียนและโรงเรียนเอกชน ตามที่กระทรวงศึกษาธิ การเสนอ โดยดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งระเบียบว่า ด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไปด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
35022 | แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2554 | กค | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับ
การบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้ 1. แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 วงเงินดำเนินการรวมทั้งสิ้น 1,296,427.90 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 แผนงานย่อย ได้แก่ แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม 607,527.80 ล้าน บาท แผนการปรับโครงสร้างหนี้ วงเงินรวม 608,900.10 ล้านบาท และแผนการบริหารความเสี่ยง วงเงินรวม 80,000.00 ล้านบาท 2. การกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจภายใต้กรอบ วงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 3. ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้ เงินและการค้ำประกันในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 แต่หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เองก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความ เหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ 4. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลง นามผูกพันการกู้เงิน และหรือการค้ำประกันเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะรายงานผล การดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะดังกล่าวตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการบริหารหนี้ สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2549
|
||||||||||||||||||||||||
35023 | ผลการประชุมเวทีหารือเพื่อการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 6 | นร | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบและเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) เสนอ ดังนี้ 1.1 ผลการประชุมเวทีหารือเพื่อการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 6 ณ กรุงโซล สาธารณรัฐ เกาหลี ระหว่างวันที่ 6-7 กันยายน 2553 โดยประเด็นสำคัญของการประชุมฯ รัฐมนตรีกระทรวงยุทธศาสตร์และ การคลังของสาธารณรัฐเกาหลี ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าเกาหลีจะให้ความช่วยเหลือกลุ่มประเทศพัฒนาความร่วม มือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง Greater Mekong Subregion (GMS) ทั้งในด้านวิชาการและการเงิน ร่วมมือเพื่อส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการลงทุนของภาคเอชน ซึ่งปัจจุบันเกาหลีได้ให้ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา (Overseas Development Assistance : ODA) แก่ประเทศ GMS แล้วประมาณ 2.2 พัน ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า เมื่อถึงปี 2558 และขยายสัดส่วนของความร่วมมือเพื่อการ พัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม (Green ODA) จากร้อยละ 14 เป็นร้อยละ 30 ภายในปี 2563 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริม สร้างศักยภาพของประเทศเพื่อรองรับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป และในระยะสามปีแรกเกาหลีจะเพิ่มการ สนับสนุนทางการเงินในลักษณะ Co-Financing ร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) และองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ จากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 20 ผ่านกองทุนความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจ (Economic Development Cooperation Fund : EDCF) และสนับสนุนให้ภาคเอกชนของเกาหลีเข้ามาลงทุนยังอนุ ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพิ่มมากขึ้น ในการนี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ได้ หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีกระทรวงยุทธศาสตร์และการคลังของสาธารณรัฐเกาหลีในประเด็นสถานการณ์ทางการ เมืองในประเทศไทย และเสถียรภาพของรัฐบาล รวมทั้งความร่วมมือในการพัฒนาพลังงานสะอาดและการพัฒนา พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้เห็นชอบในหลักการที่ไทยและสาธารณรัฐเกา หลีจะร่วมมือกันในการพัฒนาพลังงานสะอาด และมอบหมายให้มีการหารือในรายละเอียดของความร่วมมือใน ระดับเจ้าหน้าที่ต่อไป 1.2 มอบหมายกระทรวงพลังงานประสานกระทรวงยุทธศาสตร์และการคลังของสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อหารือในรายละเอียดความร่วมมือด้านการพัฒนาพลังงานสะอาด และการพัฒนาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวด ล้อม อันสืบเนื่องจากผลการหารือทวิภาคี 1.3 มอบหมายสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานส่วนราช การที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนำเสนอแผนงานความร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลีต่อ ADB ใน การประสานความร่วมมือระหว่างเกาหลีกับประเทศลุ่มแม่น้ำโขงต่อไป 2. ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ในฐานะรัฐมนตรีประจำแผน งานพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (GMS Minister) รับความเห็นของ กระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อนในบทบาทของสาธารณรัฐเกาหลีกับประเทศหุ้นส่วน เพื่อการพัฒนาอื่น ๆ เช่น ในกรอบ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโข ง (Greater Mekong Subregion : GMS) จีนมุ่งเน้น พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) ในขณะที่ในกรอบ ความร่วมมือประเทศลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่น (Mekong-Japan Cooperation) ญี่ปุ่นมุ่งเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor : EWEC) และแนวพื้นที่เศรษฐกิจ ตอนใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) สาธารณรัฐเกาหลีอาจพัฒนาเส้นทางที่ไม่ซ้ำซ้อนจากเส้นที่จีน และญี่ปุ่นให้ความสนใจ เช่น ถนนสายรอง การอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งข้ามพรมแดน พัฒนาเมืองหรือ เขตอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจ ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
35024 | โครงการจัดระบบการปลูกข้าว | กษ | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการแผนงานโครงการจัดระบบการปลูกข้าว เพื่อจัดระบบการปลูกข้าวให้มีการ ปลูกปีละไม่เกิน 2 ครั้ง โดยงดเว้นการปลูกข้าวแบบต่อเนื่องทั้งปี และให้มีการใช้น้ำไม่เกินปริมาณน้ำต้นทุนที่ มีอยู่โดยพื้นที่งดเว้นปลูกข้าวนาปรังจะมีการส่งเสริมสนับสนุนให้ปลูกพืชหลังนา หรือพืชปุ๋ยสดทดแทน โดยมี เป้าหมายดำเนินการในระยะแรก จำนวน 9,000,000 ไร่ ใน 22 จังหวัด ในเขตชลประทาน ได้แก่ จังหวัด กำแพงเพชร เชียงราย นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย อุทัยธานี ชัยนาท นนทบุรี ปทุมธานี พระนคร ศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง นครนายก ฉะเชิงเทรา ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี และจังหวัดอื่น ๆ ที่มีปัญหา หรือมีพื้นที่ต่อเนื่องกับโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทั้ง 22 จังหวัด (โดยมีเกณฑ์ที่ใช้เป็นกรอบในการคัดเลือก คือ มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังตั้งแต่ 100,000 ไร่ ขึ้นไป หรือเป็นพื้น ที่ที่มีการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล หรือเป็นพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ระบาดของเพลี้ยกระโดดสี น้ำตาล หรือมีพื้นที่เขตชลประทานตั้งแต่ 150,000 ไร่ ขึ้นไป และสามารถปลูกข้าวได้ตลอดทั้งปี) รวมวงเงิน งบประมาณทั้งสิ้น 2,180,360,000 บาท ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554-2556 รวม 3 ปี ตามที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยในส่วนของงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ ให้กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป 2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการ ดำเนินโครงการฯ ควรให้ความสำคัญกับการอบรมถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับ เกษตรกรเป็นลำดับแรก ส่วนการสนับสนุนปัจจัยการผลิตจะต้องดำเนินการเฉพาะการสร้างแรงจูงใจให้ เกษตรกรผู้ร่วมโครงการฯ เท่าที่จำเป็น สำหรับงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการจัดระบบการปลูกข้าวในปี งบประมาณ พ.ศ. 2554 เห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและ แผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับโดยลดขนาดหรือยกเลิกการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางและวิธี การตามโครงการฯ เพื่อไปดำเนินการในโอกาสแรก ส่วนการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554-2556 ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับลำดับความสำคัญของโครงการตามขั้นตอนปกติ ต่อไป รวมทั้งความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีมาตร การในการบริหารจัดการโครงการฯ ที่ชัดเจนในพื้นที่โครงการชลประทานที่ครอบคลุมหลายจังหวัดให้เป็น มาตรฐานเดียวกัน มีระบบการผลิตที่สอดคล้อง และมีมาตรการรองรับกรณีเกษตรกรทำการผลิตในระบบ ดังกล่าวแล้วได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าระบบเดิมและพืชที่ส่งเสริมให้ปลูกในช่วงระหว่างการทำน าแต่ละครั้ง ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ ควรเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกร ในพื้นที่ตระหนักและเข้าใจถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดระบบการปลูกข้าวใหม่อย่างทั่วถึง ไปพิจารณา ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
35025 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. .... | กค | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนบำเหน็จ
บำนาญข้าราชการ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ 1. กำหนดคุณสมบัติของสถาบันการเงินหรือนิติบุคคลที่กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. จะมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และกำหนดข้อห้ามมิให้สถาบันการเงินหรือ นิติบุคคลผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนนำเงินของกองทุนไปลงทุนในตราสารทุน และตราสารกึ่งหนี้ กึ่งทุนของตนเอง 2. กำหนดประเภทของหลักทรัพย์ที่กองทุนนำเงินของกองทุนไปลงทุนได้ โดยแยกเป็นกลุ่มมั่นคงสูงซึ่ง พระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดให้ลงทุนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 60 ของเงินกองทุนและกลุ่มหลักทรัพย์อื่น และกำหนดประเภทของธุรกรรมที่ให้ทำได้ 3. เพิ่มเติมประเภทของหลักทรัพย์ที่กองทุนสามารถลงทุนได้ในส่วนของตราสารหนี้ หน่วยลงทุน ตรา สารสิทธิ และการทำธุรกรรม 4. ให้อำนาจคณะกรรมการ กบข. กำหนดให้มีการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างจากที่กำหนดได้สำหรับการ ลงทุนต่างประเทศ โดยวงเงินลงทุนต่างประเทศต้องไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินกองทุน 5. ให้อำนาจคณะกรรมการ กบข. ในการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้กองทุนรับชำระหนี้ด้วยทรัพย์ สินอื่นที่มิใช่หลักทรัพย์ที่กฎกระทรวงกำหนดให้ลงทุนได้ กรณีที่ผู้ออกตราสารหรือลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้
|
||||||||||||||||||||||||
35026 | ขออนุมัติถอดถอนกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำนครบาร์เซโลนา (นายไฆเม ซาบาเต แอร์เซ่) | กต | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติถอดถอนนายไฆเม ซาบาเต แอร์เซ่ ออกจากตำแหน่งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์
ประจำนครบาร์เซโลนา ราชอาณาจักรสเปน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
35027 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงยุติธรรม) (นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร) | ยธ | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกร
ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2553 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบ ถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
35028 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งใส ตำบลสี่ขีด ตำบลสิชล อำเภอสิชล และตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งใส ตำบลสี่ขีด ตำบลสิชล อำเภอ สิชล และตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งใส ตำบลสี่ขีด ตำบลสิชล อำเภอสิชล และตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัด นครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวง เกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ 2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับกรณีร่าง พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ มีแนวเขตปฏิรูปที่ดินบางส่วนอยู่ในพื้นที่ที่ควรสงวนไว้ไม่นำไปปฏิรูปที่ดิน ฉะนั้น เพื่อให้ การดำเนินการในเรื่องนี้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรี สมควรที่สำนักงานการปฏิรูปที่ ดินเพื่อเกษตรกรรมต้องประสานกับกรมป่าไม้ เมื่อจะเข้าดำเนินการปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ควรสงวนไว้ไม่นำไปปฏิรูป ที่ดิน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
35029 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลวังลึก อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. .... | มท | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของ
แผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลวังลึก อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ คือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลวังลึก อำเภอ ศรีสำโรงจังหวัดสุโขทัย บางส่วน เพื่อมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลวังลึกใช้เป็นสถานที่ตั้งที่ทำการ และ ใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการขององค์การบริหารส่วนตำบลวังลึก ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
35030 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนนครไทย จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนนครไทย จังหวัดพิษณุ
โลก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบ้านพร้าว ตำบลนครไทย ตำบลยางโกลน ตำบลเนินเพิ่ม และตำบลหนองกะท้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและ การดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและขน ส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
35031 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองโพล้ เป็นทางน้ำชลประทาน ที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองโพล้ เป็นทางน้ำ
ชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองโพล้ จาก กิโลเมตรที่ 0.000 ในท้องที่ตำบลทุ่งควายกิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ไปทางเหนือน้ำ 6.980 กิโลเมตร ใน ท้องที่ตำบลทุ่งควายกิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เ ป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้ เกิดประโยชน์ในการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
35032 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลจำปา อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริม
ทรัพย์ ในท้องที่ตำบลจำปา อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระ สำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลจำปา อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็น กรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทน เข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์ได้ตามกำหนดเวลา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักคณะกรรม การตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
35033 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (พลเอก สุรินทร์ พิกุลทอง) | วท | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งพลเอก สุรินทร์ พิกุลทอง เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหาร
ด้านการจัดการ (ซึ่งมิใช่ข้าราชการหรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ) ในคณะกรรมการบริหารสถาบันสาร สนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร แทนนายวงศ์กุลพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ซึ่งลาออกจากตำแหน่งกรรม การผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (28 กันยายน 2553) เป็นต้นไป ตามที่ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
35034 | รายงานผลการเดินทางไปราชการต่างประเทศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ระหว่างวันที่ 1 - 5 กันยายน 2553) | กษ | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ ราชอาณาจักรภูฏาน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างวันที่ 1-5 กันยายน 2553 ตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและป่าไม้ภูฏาน เพื่อกระชับความสัมพันธ์และหารือความร่วมมือด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ โดยผลการหารือในแนวทางความร่วมมือ ภูฏานได้แสดงความสนใจความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว ด้านการควบคุมคุณภาพอาหาร ด้านการบริหารจัดการน้ำ ด้านพืชสวน และด้านสหกรณ์ รวมทั้งได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะสนับสนุนความร่วมมือในด้านการพัฒนาการเกษตรของทั้งสองประเทศภายใต้แผนงานและโครงการต่าง ๆ ในอนาคต เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ในการนี้ กระทรวงเกษตรและป่าไม้ภูฏานได้จัดการดูงานด้านการเกษตรให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะ ที่มณฑลปาโร และมณฑลวังดีโปดรัง รวม 5 แห่ง ได้แก่ ศูนย์เครื่องจักรกลการเกษตร (Agricultural Machinery Center-AMC) ศูนย์วิจัยการเกษตรภูมิภาค (Regional Agricultural Machinery Center-RAMC) ศูนย์ขยายพันธุ์พืชแห่งชาติ (National Seed Center-NSC) ศูนย์บริการด้านเทคโนโลยีภายหลังการเก็บเกี่ยวแห่งชาติ (National Post Harvest Center-NPHC) และศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ (Renewable Natural Resource Research and Development Center-RNR RDC)
|
||||||||||||||||||||||||
35035 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงยุติธรรม) (นายพิทยา จินาวัฒน์) | ยธ | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายพิทยา จินาวัฒน์ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบ
ปรามยาเสพติด (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2553 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตาม ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
35036 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | กค | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
เงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกพันธบัตรไทยเข้มแข็ง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ครั้ง ที่ 1 เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ วงเงินไม่เกิน 100,000 ล้านบาท อายุ 6 ปี จำนวน 1 รุ่น จำหน่ายระหว่างวันที่ 7-16 มิถุนายน 2553 แบ่งการจำหน่ายออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ระหว่าง วันที่ 7-8 มิถุนายน 2553 สำหรับผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปี ขึ้นไป) และช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 9-16 มิถุนายน 2553 สำหรับผู้มีสิทธิซื้อทั่วไป รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นนายทะเบียน และตัวแทนรับจ่ายเงิน และสถาบันการเงิน จำนวน 12 แห่ง เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย ทั้งนี้ ผลการจำหน่าย พันธบัตรออมทรัพย์ฯ มีผู้มาจดทะเบียนรวม 123,880 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 82,230.29 ล้านบาท 2. กระทรวงการคลังได้นำเงินที่ได้จากการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ฯ ไปปรับโครงสร้าง หนี้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดฯ ประกอบด้วยเงินกู้สำหรับโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ครั้งที่ 1 ชำระคืนต้นเงินกู้จำนวน 30,000 ล้านบาท เงินกู้สำหรับโครงการ ตามแผนปฏิบัติการฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ครั้งที่ 1 ชำระคืนต้นเงินกู้จำนวน 30,000 ล้านบาท และครั้งที่ 2 ชำระคืนต้นเงินกู้จำนวน 22,230.29 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
35037 | รายงานการสอบบัญชีและงบการเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ปี 2552 และข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ปี 2553 | กค | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการสอบบัญชีและงบการเงินกองทุนบำเหน็จ
บำนาญข้าราชการ (กบข.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 และข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทน สมาชิก ปี พ.ศ. 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 งบรายได้ค่าใช้จ่าย งบ แสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิและงบกระแสเงินสดของ กบข. สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของปี พ.ศ. 2553 โดยเห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป 2. ที่ประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2553 ได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยว กับการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้ 2.1 ให้มีการปรับปรุงการทำงานและการใช้จ่ายอย่างประหยัด รวมถึงการปรับรูปแบบการสื่อสารกับ สมาชิก 2.2 ให้มีการเปิดเผยรายการหรือรายละเอียดเกี่ยวกับงบการเงินของบริษัทย่อย 2.3 คัดเลือกผู้แทนสมาชิกให้มีผู้แทนสมาชิกที่มาจากการคัดเลือก และให้เพิ่มและปรับปรุงวิธีการใน เรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการเข้าร่วมประชุม 2.4 การเสนองบการเงินให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณานั้นต้องมีการรับรองการเงินหรือไม่ 2.5 ติดตามให้มีการแก้ไขสูตรการคำนวณบำนาญของสมาชิก เพื่อให้ได้รับบำนาญตามจำนวนเงินที่ ประมาณการโดยกรมบัญชีกลางเมื่อครั้งได้รับการชักชวนเมื่อปี พ.ศ. 2540
|
||||||||||||||||||||||||
35038 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยแร่ พ.ศ. .... | อก | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงอุตสาหกรรมถอนร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยแร่ พ.ศ. .... ได้ ตามที่
กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
35039 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำท่าจีน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำท่าจีน เป็นทาง
น้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำท่าจีน จากกิโลเมตรที่ 197.700 ของแม่น้ำท่าจีน ในท้องที่ตำบลบางเลน อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ถึงกิโลเมตร ที่ 229.500 ในท้องที่ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่า ชลประทาน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
35040 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสามเขา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 28/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสามเขา
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่าง เก็บน้ำห้วยสามเขา ในท้องที่ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บ ค่าชลประทาน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....