ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1741 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 34801 - 34820 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34801 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (จำนวน 5 คน 1. นายสมบัติ คุรุพันธ์ ฯลฯ) | กก | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน ๕ คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.๑ นายสมบัติ คุรุพันธ์ ๑.๒ นายสุพล ศรีพันธุ์ ๑.๓ นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ ๑.๔ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ๑.๕ นายนิพนธ์ ฮะกีมี ๒. ให้การกีฬาแห่งประเทศไทยมีกรรมการจำนวนสิบห้าคน ตามนัยมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
|
|||||||||||||||||||||||||||
34802 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ และนายฐนนท์ศรณ์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล) | กค | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ๒. นายฐนนท์ศรณ์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล
|
|||||||||||||||||||||||||||
34803 | ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน ก.ค.ศ. พ.ศ. .... | ศธ | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาของกรรมการผู้ทรง
คุณวุฒิและกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน ก.ค.ศ. พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิ การเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎ ก.ค.ศ.ฯ มีสาระสำคัญคือ ๑. กำหนดนิยามคำว่า “เขตพื้นที่การศึกษา” และ “สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา” เพิ่มเติม ๒. กำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้มีสิทธิเข้ารับเลือกตั้งเป็นกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาตามมาตรา ๗ (๕) ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และกำหนดกลุ่มผู้มีสิทธิเลือก ตั้งและผู้มีสิทธิเข้ารับเลือกตั้งในแต่ละกลุ่ม ๓. กำหนดให้ในกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีสิทธิเข้ารับเลือกตั้งในแต่ละสังกัดมี จำนวนไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนด ให้ผู้มีสิทธิเข้ารับเลือกตั้งผู้นั้นเป็นผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาในสังกัดนั้นโดยไม่ต้องมีการเลือกตั้ง และกำหนดให้ในกรณีที่ไม่มีผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งหรือมีแต่ยังไม่ครบ ตามจำนวนหรือมีผู้สมัครแต่ไม่มีผู้มีสิทธิเข้ารับเลือกตั้งครบตามจำนวน ให้ส่วนราชการดำเนินการสรรหาตามที่ เลขาธิการ ก.ค.ศ. กำหนด ๔. กำหนดให้ประธานกรรมการประจำเขตเลือกตั้งรายงานผลการนับคะแนนหรือผลรวมคะแนนในเขต เลือกตั้งไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ. ภายในสามวันนับแต่วันเลือกตั้ง ๕. กำหนดให้เมื่อสำนักงาน ก.ค.ศ. ได้รับรายงานผลการนับคะแนนหรือผลรวมคะแนนเลือกตั้งแล้ว ให้ สำนักงาน ก.ค.ศ. แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการรวมคะแนนเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา
|
|||||||||||||||||||||||||||
34804 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง | ลต | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๔,๘๘๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขตเลือกตั้งที่ ๑ แทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก ตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขตเลือกตั้งที่ ๑ แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยเบิกจ่าย ในงบเงินอุดหนุน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34805 | การรับรองร่างปฏิญญาเตหะรานของการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) ครั้งที่ 9 | กต | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาเตหะรานของการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue : ACD) ครั้งที่ ๙ ๑.๒ อนุมัติในหลักการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเข้า ประชุมให้การรับรองเพื่อประกาศเจตนารมณ์ต่อร่างปฏิญญาฯ ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขร่างปฏิญญาดังกล่าวใน ประเด็นที่ไม่ใช่หลักการสำคัญ ขอให้อยู่ในดุลพินิจของคณะผู้แทนไทยโดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา อีก ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรพิจารณาทบทวนบทบาทและประเมินผลการดำเนินงานในระยะที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางการดำเนินความร่วมมือในอนาคตทั้งในมิติการเจรจาหารือและมิติโครงการให้เป็น รูปธรรมและต่อเนื่อง โดยให้เป็นไปในทิศทางที่เติมเต็มในส่วนที่ขาดและต่อยอดกับการดำเนินความร่วมมือภายใต้ กรอบความร่วมมือระดับอนุภูมิภาคและภูมิภาคในเอเชียและอื่น ๆ ที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก นอกจากนี้ อาจหยิบ ยกประเด็นที่ถือเป็นปัญหาท้าทายภูมิภาคเอเชียโดยรวมเพื่อนำไปสู่การร่วมกันกำหนดแนวทางในการสร้างภูมิคุ้ม กันให้กับภูมิภาคเอเชีย อาทิ การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาคและโลก การยก ระดับความสามารถในการปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนการสร้างความสม ดุลและมั่นคงของอาหารและพลังงาน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34806 | การขอความเห็นชอบและอนุมัติการลงนามในกรอบความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีนในสถาบันอุดมศึกษาไทย | ศธ | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการจัดทำกรอบความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีนในสถาบันอุดม ศึกษาไทยระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ประเทศไทย และสำนักส่งเสริม การเรียนการสอนภาษาจีนนานาชาติ (China National Office for Teaching Chinese as a Foreign Language : Hanban) สาธารณรัฐประชาชนจีน ๒. อนุมัติและมอบอำนาจ (full power) ให้เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาหรือผู้ที่เลขาธิการ คณะกรรมการการอุดมศึกษามอบหมายเป็นผู้ลงนามในกรอบความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาการเรียนการสอน ภาษาจีนในสถาบันอุดมศึกษาไทย ๓. เห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินกิจกรรมทางวิชา การภายใต้กรอบความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีนในสถาบันอุดมศึกษา ๔. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขกรอบความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาการเรียนการสอนภาษา จีนในสถาบันอุดมศึกษาไทยที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทยให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนิน การได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก
|
|||||||||||||||||||||||||||
34807 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายวีรศักดิ์ เกียรติผดุงกุล) | สธ | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายวีรศักดิ์ เกียรติผดุงกุล ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้าน
เวชกรรม) กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลอำนาจเจริญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ สำนักงาน ปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่ กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34808 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีนายเกษม ธัญญศรีรัตน์ ฟ้อง นายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 6 คน ต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2547 และ พ.ศ. 2549 | อส | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ซึ่งมีคำพิพากษายกฟ้อง กรณีนายเกษม
ธัญญศรีรัตน์ ฟ้องนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม ๖ คน ต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๔๗ และ พ.ศ. ๒๕๔๙ ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34809 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีระหว่างนายดำรงณ์ อินทร์รอด กับพวกรวม 254 คน ผู้ฟ้องคดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับพวกรวม 3 คน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และคณะรัฐมนตรีผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้เพิกถอนกฎกระทรวง ฉบับที่ 1,184 (พ.ศ. 2529) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 เฉพาะส่วนที่กระทบสิทธิของผู้ฟ้องคดี | อส | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดี
ระหว่างนายดำรงณ์ อินทร์รอด กับพวกรวม ๒๕๔ คน ผู้ฟ้องคดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กับพวกรวม ๓ คน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และคณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้เพิกถอนกฎกระทรว ง ฉบับที่ ๑,๑๘๔ (พ.ศ. ๒๕๒๙) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ เฉพาะส่วนที่กระทบสิทธิของผู้ฟ้องคดี ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้อง
|
|||||||||||||||||||||||||||
34810 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ (จำนวน 3 คน 1. นายวิชา จิวาลัย ฯลฯ) | มท | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อ
พัฒนาพื้นที่ จำนวน ๓ คน เนื่องจากกรรมการชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปีแล้ว ตามที่กระทรวงมหาด ไทยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. นายวิชา จิวาลัย ๒. นายพัลลภ กฤตยานวัช ๓. นายปรีชา รณรงค์
|
|||||||||||||||||||||||||||
34811 | บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลของรัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยกลไกการปรึกษาหารือด้านการขนส่งทางทะเล | คค | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลของรัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยกลไกการปรึกษาหารือด้านการขนส่งทางทะเล ๒. มอบหมายให้อธิบดีกรมเจ้าท่า หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาล ของรัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยกลไก การปรึกษาหารือด้านการขนส่งทางทะเล ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขบันทึกความเข้าใจฯ ที่มิใช่สาระ สำคัญ ให้อธิบดีกรมเจ้าท่าหรือผู้ที่รับมอบหมายเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๓. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่อธิบดีกรมเจ้า ท่าหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายสำหรับการลงนามดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||||||||
34812 | การสัมมนาและการประชุมนานาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน การแลกเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติที่ดีที่สุด และการสร้างแนวทางปฏิบัติสากล | ยธ | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding on Marine Cooperation) ระหว่าง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ State Oceanic Admin stration โดยบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้าง ส่งเสริม และพัฒนาความร่วมมือทางด้านทะเลบน พื้นฐานความเท่าเทียมกันและประโยชน์ร่วมกัน และอนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ และให้นำเสนอรัฐ สภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไปโดยมอบอำนาจให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนาม ในบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในบันทึกความเข้าใจฯ ให้ผู้ลงนามสามารถใช้ดุลพินิจในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรีได้ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัด ทำหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) ในการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนาม โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการต่อไปได้ เมื่อรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบในบันทึกความเข้าใจฯ แล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ทั้งนี้ หากรัฐสภาไม่ได้พิจารณาบันทึกความเข้าใจฯ ใ นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สมัยสามัญ นิติบัญญัติ) นี้ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการเสนอบันทึกความเข้าใจฯ ไปยังรัฐสภาในสมัยประชุม ถัดไป โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก
|
|||||||||||||||||||||||||||
34813 | รายงานผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - มาเลเซีย ครั้งที่ 50 | กห | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงกลาโหมรายงานผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป
ไทย - มาเลเซีย ครั้งที่ ๕๐ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๓ ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลาโหมไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย เป็นประธานร่วม โดยที่ประชุมรับทราบผลการดำเนิน การตามงานมอบจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - มาเลเซีย ครั้งที่ ๔๙ ที่มอบหมายให้คณะกรรม การระดับสูงดำเนินการตามงานมอบของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - มาเลเซียครั้งก่อน ๆ พร้อม ทั้งนำผลการหารือของนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๒ ที่เกี่ยว ข้องมาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม และทบทวนความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งประเทศไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศมาเล เซีย ว่าด้วยความร่วมมือชายแดนฉบับลงวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๔๓ และเสนอแนะการแก้ไขที่จำเป็น ซึ่งผลการ ดำเนินงาน ทั้งสองฝ่ายได้เพิ่มความเข้มข้นในการกระชับความร่วมมือด้านข่าวกรอง โดยกำหนดหน่วยงานแลก เปลี่ยนข่าวกรองที่ชัดเจนเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อทบทวนความ ตกลงว่าด้วยความร่วมมือชายแดนฯ ระหว่างกันต่อไป รวมทั้งผลการประชุมคณะกรรมการระดับสูง ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ ๒๔ - ๒๕ และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ ๙๒ - ๙๓ เกี่ยวกับการจัดตั้งคณะ ทำงานร่วมเพื่อจัดทำร่างความตกลงว่าด้วยการเดินทางข้ามแดน ไทย-มาเลเซีย และการจัดตั้งคณะกรรมการฝึกร่วม/ ผสม
|
|||||||||||||||||||||||||||
34814 | รายงานสรุปผลการดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติ "แม่ของแผ่นดิน แม่ทั้งประเทศปลูกต้นไม้ถวาย 77 แสนต้น" เมื่อสิ้นสุดโครงการ | มท | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปผลการดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติ
“แม่ของแผ่นดิน แม่ทั้งประเทศปลูกต้นไม้ถวาย ๗๗ แสนต้น” โดยจำนวนต้นไม้ที่ปลูกตามโครงการตั้งแต่เริ่มโครงการ เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๒ ถึงสิ้นสุดโครงการเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๓ ทั่วประเทศ มีจำนวนทั้งสิ้น ๓๐๓.๑๖ แสนต้น หรือ จำนวน ๓๐,๓๑๕,๙๕๖ ต้น คิดเป็นอัตราร้อยละ ๓๙๓.๗๑ ของเป้าหมายที่กำหนดไว้ (เป้าหมาย จำนวน ๗,๗๐๐,๐๐๐ ต้น)
|
|||||||||||||||||||||||||||
34815 | ร่างพระราชบัญญัติราชบัณฑิตยสถาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รถ | 26/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติราชบัณฑิตยสถาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงพระราชบัญญัติราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยให้อำนาจราชบัณฑิตยสถานจัดตั้งหน่วยบริการรูปแบบพิเศษเพื่อให้มีความคล่องตัวในการบริหารทางวิชาการแก่ประชาชน และแยกบุคลากรที่ปฏิบัติภารกิจด้านการสร้างองค์ความรู้และภารกิจด้านการบริการทางวิชาการออกจากกันอย่างชัดเจน ตามที่ราชบัณฑิตยสถานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้ราชบัณฑิตยสถานรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่า การจัดตั้งหน่วยงานบริการรูปแบบพิเศษซึ่งเป็นหน่วยงานให้บริการภายในระบบราชการ มีลักษณะกึ่งอิสระ แต่ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล ถือเป็นส่วนหนึ่งของส่วนราชการต้นสังกัด เป็นการดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานของหน่วยงานบริการรูปแบบพิเศษ พ.ศ. ๒๕๕๐ ส่วนกรณีที่สภาราชบัณฑิตจะออกข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน จะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและความโปร่งใสในการใช้จ่ายเงินรายได้ดังกล่าว และให้การใช้จ่ายเงินรายได้เป็นไปโดยสอดคล้องกับกรอบวินัยการเงินการคลังด้วย นอกจากนี้ การกำหนดให้สภาราชบัณฑิตมีอำนาจหน้าที่เลือกและเสนอแต่งตั้งเลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน อาจไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ ก.พ. ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงดังกล่าวไว้แล้ว รวมทั้งการกำหนดให้เลขาธิการราชบัณฑิตยสถานขึ้นตรงต่อนายกราชบัณฑิตยสถาน ก็อาจไม่สอดคล้องกับสถานะของราชบัณฑิตยสถานตามข้อกฎหมายที่กำหนดให้ราชบัณฑิตยสถานเป็นส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
34816 | การขอขยายเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำจังหวัดขอนแก่น และการขอขยายเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ | กต | 26/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. ให้สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำจังหวัดขอนแก่นมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย นครพนม สกลนคร มุกดาหาร มหาสารคาม อุบลราชธานี นครราชสีมา หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ เลย ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ๒. ให้สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามมีเขตกงสุลครอบคลุมนครโฮจิมินห์ จังหวัดเถื่อเทียน-เว้ ดานัง กว๋างนาม กว๋างหงาย บิ่งดิ่ง ฟู้เอียน คั้งหว่า นิงถ่วน บิ่งถ่วน ด่งนาย บ่าเหรียะ-หวุงเต่า บิ่ญเซือง ล็องอาน เตี่ยนซาง เบ๊นแจ หวิงล็อง จ่าวิง เกิ่นเทอ เหิ่วซาง บากเลียว และก่าเมา
|
|||||||||||||||||||||||||||
34817 | แผนการดำเนินงาน ประมาณการรายได้และงบประมาณรายจ่ายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 | พน | 26/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการดำเนินงาน การจัดเก็บรายได้จากค่าธรรมเนียม และการใช้จ่ายงบประมาณ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยผลการดำเนินงานปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และ สกพ. ได้ดำเนินภารกิจต่าง ๆ ตาม แผนการดำเนินงานอย่างครบถ้วนและตอบสนองต่อเป้าประสงค์ตามแผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๕ สำหรับการจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ สกพ. มีรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรม เนียมใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการพลังงาน ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๒-๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๓ รวมทั้งสิ้นจำนวน ๕๘๕.๓๔ ล้านบาท ส่วนการใช้จ่ายงบประมาณในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ สกพ. มีการเบิกจ่าย งบประมาณทั้งสิ้น ๑๒.๕๒ ล้านบาท ต่ำกว่างบประมาณที่ได้รับอนุมัติ (๕๘๔.๕๑ ล้านบาท) เนื่องจากการเบิก จ่ายงบประมาณในการปฏิบัติงานของ กกพ. และ สกพ. ได้มุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรในสำนักงาน อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้งบประมาณในส่วนที่ตั้งไว้สำหรับเป็นเงินสำรองกรณีฉุกเฉินและจำเป็น ไม่มีความ จำเป็นที่จะต้องเบิกจ่าย รวมทั้งรายจ่ายด้านบุคลากรที่เบิกจ่ายจริงต่ำกว่ารายจ่ายที่ประมาณไว้ ๑.๒ เห็นชอบแผนการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ สกพ. และ กกพ. ได้กำหนดแนว ทางของแผนที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพการกำกับกิจการพลังงาน โดยพิจารณาถึง “ความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้เสีย ต่อการกำกับกิจการพลังงาน รวมไปถึงขีดความสามารถในการพัฒนากิจการพลังงานของประเทศให้เทียบเคียง ได้ในระดับสากล” รวมทั้งจะเน้นแผนพัฒนาขีดความสามารถของทรัพยากรบุคคลของ สกพ. เพื่อเพิ่มศักยภาพ การปฏิบัติหน้าที่ในการกำกับกิจการพลังงานของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนพัฒนาองค์กรให้เป็น องค์กรที่มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเห็นชอบประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของ สกพ. จำนวน ๖๕๕.๖๕ ล้านบาท ๑.๓ เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายของ สกพ. ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จากเงินรายได้ของ สกพ. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานที่ได้กำหนดไว้ในวงเงินงบประมาณ รวม ๖๕๕.๑๙ ล้านบาท ทั้งนี้ ให้สามารถถัวจ่ายงบประมาณได้ภายในกรอบวงเงินที่ได้รับความเห็นชอบ ๒. ให้กระทรวงพลังงาน โดย กกพ. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้มีการพิจารณากำหนดกลไกการประเมินผลการปฏิบัติงานของ สกพ. ในแต่ละปีงบ ประมาณ บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถนำผลการประเมินไปปรับปรุงการ ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจัดทำแผนงบประมาณระยะสั้น (๓-๕ ปี) เพื่อให้ทราบแนวโน้ม ประมาณรายรับและค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายดำเนินการเพื่อใช้เป็นกรอบในการบริหารค่าใช้จ่ายขององค์กร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และความเห็นเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ควรครอบคลุมถึงบทบาทที่ชัดเจนในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและภาวะโลก ร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้กลไกพัฒนาที่สะอาด (Clean Development Mechanism-CDM) และการใช้คาร์ บอนเครดิต (Carbon Credit) สำหรับปัญหาการกำหนดราคาของพลังงานประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะก๊าซธรรม ชาติซึ่งยังเป็นประเด็นที่มีข้อโต้แย้งกันอยู่ กกพ. ควรเร่งรัดการศึกษาโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติทั้งระบบให้ แล้วเสร็จโดยเร็ว และนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34818 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 26/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มี สาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่าง ยั่งยืน (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๖ ดังนี้ ๑.๑ แก้ไของค์ประกอบของกรรมการโดยตำแหน่งให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ๑.๒ แก้ไขคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยตัดคำว่า “อนุกรรมการ” ออก เพื่อให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสามารถปฏิบัติภารกิจตามที่คณะกรรมการมอบหมายได้ ๑.๓ แก้ไขการกำหนดอายุของผู้อำนวยการเป็น “ไม่เกินหกสิบเอ็ดปีบริบูรณ์ในวันที่ได้รับการแต่ง ตั้ง” และให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการกำหนด อายุของกรรมการองค์การมหาชน ตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหาชน ๒. ให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เร่งรัดการดำเนินการตาม มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๒ ในการกำหนดแนวทางการบริหารและพัฒนาองค์การบริหาร การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ให้สามารถดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
34819 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 5 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย (IMT-GT) | นร | 26/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ ๕ แผนงานการพัฒนาเขต เศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Joint Statement of the Fifth Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle : IMT-GT, Final Draft) ๒. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปประสานงาน กับฝ่ายเลขานุการระดับชาติแผนงาน IMT-GT ของอินโดนีเซียและมาเลเซียและศูนย์ประสานงานความร่วมมือ อนุภูมิภาค IMT-GT ในการร่วมพิจารณาปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ให้สมบูรณ์ โดยสามารถปรับเปลี่ยนใน ส่วนที่มิใช่สาระสำคัญของร่างแถลงการณ์ร่วมฯ |
|||||||||||||||||||||||||||
34820 | การแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิในที่ดินของราษฎรบ้านหนองปลิง ตำบลดอนเมย อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ (รายนายเด่นภัทร ทองคำ) | มท | 26/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้จ่ายค่าทดแทนที่ดิน ค่าชดเชยต้นไม้ และค่าเสียโอกาสในการทำประโยชน์ใน
ที่ดิน จำนวนเงิน ๖๗๖,๗๙๙ บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาแก่นายเด่นภัทร ทองคำ ราษฎรบ้านหนองปลิง หมู่ที่ ๔ ตำบลดอนเมย อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ ด้วยเหตุที่ที่ดินของผู้ร้องครอบครองอยู่มิ ได้เป็นที่สาธารณประโยชน์ แต่เนื่องจากในการรังวัดออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงแปลงดอนน้ำคร่ำสาธารณ ประโยชน์ เลขที่ ๙๒๓๔ ได้มีการขึ้นรูปแผนที่กลับทิศ (ทิศเหนือสลับกับทิศใต้) เป็นเหตุให้มีการก่อสร้างโรงเรียน และสถานที่ราชการลงในที่ดินของผู้ร้องโดยเข้าใจว่าเป็นที่สาธารณประโยชน์ ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติตรวจสอบและคณะกรรมการพิจารณากำหนดราคาค่าทดแทนที่ดินได้พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาด ไทยเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวเห็นควรให้กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้รับจัดสรรแล้วไปดำเนินการ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
.....