ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1750 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 34981 - 35000 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34981 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ครั้งที่ 5/2553 | นร | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไข
ปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ ๕/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๓ ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ กรอ. เสนอ ดังนี้ ๑. เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการ กรอ. เรื่อง มาตรการเร่งด่วนและมาตรการเสริมเพื่อ ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพในประเทศไทยตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบัน (กกร.) เสนอ และมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการ พิจารณาความเหมาะสมของข้อเสนอ มาตรการเร่งด่วน และมาตรการเสริมเพื่อส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม พลาสติกชีวภาพในประเทศไทยของ กกร. และนำผลการพิจารณากลับมาเสนอคณะกรรมการ กรอ. ภายใน ๒ เดือน ๒. เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการ กรอ. เรื่อง การส่งเสริมธุรกิจวิชาชีพทางวิศวกรรมและ สถาปัตยกรรมออกสู่ตลาดต่างประเทศ ตามที่ กกร. โดยสภาวิศวกรและสมาคมวิชาชีพทางวิศวกรรมและสถาปัตย กรรม ๔ สมาคม (สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรม ราชูปถัมภ์ สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชู ปถัมภ์) เสนอ และมอบหมายให้คณะกรรมการด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบ การอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยไปขยายงานในตลาดต่างประเทศ ที่มีประธานผู้แทนการค้าไทยเป็นประธานกรรม การรับไปพิจารณามาตรการส่งเสริมธุรกิจวิชาชีพทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมออกสู่ตลาดต่างประเทศทั้งระยะ สั้นและระยะยาว และรายงานที่ประชุมคณะกรรมการ กรอ. ต่อไป ๓. เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรม กรอ. เรื่อง มาตรการทางการเงินเพื่อสนับสนุนการประกอบ ธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างในต่างประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และมอบหมายให้คณะกรรมการด้านการ ค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยไปขยายงานในตลาดต่าง ประเทศ ที่มีประธานผู้แทนการค้าไทยเป็นประธานกรรมการ รับไปพิจารณามาตรการทางการเงินเพื่อสนับสนุน การประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างในต่างประเทศอีกครั้งหนึ่ง โดยคำนึงถึงกฎระเบียบขององค์การการค้า โลกที่อาจจะเป็นข้อจำกัดของการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ประกอบการไทย ทั้งนี้ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบภายใน ๓๐ วัน และรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการ กรอ. ทราบต่อไป ๔. เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการ กรอ. เรื่อง การเร่งรัดออกกฎหมายประกอบรัฐธรรม นูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๙๐ วรรคห้า ตามที่ กกร. เสนอ ๕. เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการ กรอ. เรื่อง การระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการ ตามที่สำนักงานผู้แทนการค้าไทยเสนอ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติเป็นเจ้าภาพจัดให้มีการหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อหาข้อสรุปทาง นโยบาย และนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๑ เดือน ๖. รับทราบผลการเดินทางเยือนนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ของผู้แทนการค้าไทย (นาย วัชระ พรรณเชษฐ์) และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) และกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดการดำเนินมาตรการ Pre-clearance ตามข้อเสนอของประธานผู้แทนการค้าไทย ๗. รับทราบความคืบหน้าการความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง พาราของสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย ตามที่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เสนอ ๘. รับทราบความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ตาม ที่กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เสนอ ๙. รับทราบผลการสัมมนาเรื่อง “Thailand’s Investment Environment : Looking Forward” ตามที่ กกร. ร่วมกับหอการค้าต่างประเทศ เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34982 | การกำหนดให้วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นวันรัฐพิธี | นร | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช วันที่ ๑๗ มกราคม ของทุกปี และวันสมเด็จ
พระนารายณ์มหาราช วันที่ ๑๑ กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันรัฐพิธี โ ดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ ตามที่สำนัก นายกรัฐมนตรี (สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34983 | ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยศัตรูพืชระบาด (เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล) ปี 2553 | กษ | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประสบภัยศัตรูพืชระบาด (เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล) ของจังหวัดกาญจนบุรี นครสวรรค์ พิจิตร (อำเภอสามง่ามและ อำเภอวังทรายพูน) พิษณุโลก ลพบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ และพระนครศรีอยุธยา โดยจ่ายผ่านธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงินรวมทั้งสิ้น ๔๙๖,๑๑๙,๙๒๘.๕๐ บาท ตามที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ หากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลางฯ มีไม่เพียงพอตาม วงเงินที่เสนอขอมา ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขออนุมัติเงินเพิ่มในส่วนที่ขาดจำนวน จากเงินงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลางฯ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเพิ่มเติม สำหรับงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่ได้รับการกันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีจากกระทรวงการคลังก่อน ในลำดับแรก หากไม่เพียงพอ ให้ใช้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงิน สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามความเหมาะสมและจำเป็น ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบหลักฐานการยืนยันความเสียหายจากศัตรูพืชระบาดของเกษตร กรให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกับกรณีการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำ ตาล โรคเขียวเตี้ย และโรคใบหงิกที่ผ่านมา และเร่งสำรวจและดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ในจังหวัดอื่นในกรณีเช่นเดียวกับเกษตรกรผู้ประสบภัยทั้ง ๙ จังหวัด โดยดำเนินการตรวจสอบการดำเนินการให้เป็น ไปอย่างรัดกุม ชัดเจน และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ นอกจากนี้ ให้กระทรวงเกษตร และสหกรณ์และกระทรวงการคลังเร่งวางระบบการประกันภัยพืชผลการเกษตรให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วเพื่อให้เ กษตรกรมีหลักประกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติเป็นการถาวรต่อไป ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
34984 | การจัดทำร่างความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรสเปนว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต | กต | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบต่อร่างความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรสเปนว่าด้วยการยกเว้นการตรวจ ลงตราระหว่างกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต โดยให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงถ้อยคำในส่วน ที่ไม่กระทบต่อสาระสำคัญของร่างความตกลงฯ โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามความตกลงฯ ๓. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือแจ้งฝ่ายสเปน เพื่อให้ความตกลงฯ มีผลบังคับใช้ ต่อไปตามข้อ ๑๐ วรรคสองของร่างความตกลงฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34985 | ขออนุมัติในหลักการโครงการไปรษณีย์เพื่อสินเชื่อรายย่อย | ทก | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการโครงการไปรษณีย์เพื่อสินเชื่อรายย่อย ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสารเสนอ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนของประชาชนผู้มีรายได้น้อยและช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล และมอบหมายให้กระทรวงการคลังรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเทคโน โลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำรายละเอียดต่าง ๆ เช่น รูปแบบและแผนการดำเนินงาน ประมาณการงบ ประมาณ แผนการปล่อยสินเชื่อ แผนบริหารความเสี่ยง และการดำเนินการที่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่ เกี่ยวข้อง เป็นต้น ๒. ให้นำความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ และสำนักงบประมาณที่เห็นควรพิจารณาหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ทางธุรกิจ เข้ามาร่วมดำเนินการเพื่อช่วยให้การดำเนินการของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เริ่มต้นได้อย่างมั่นคง และให้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษารูปแบบการดำเนินการที่เหมาะ สมและมีความเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจดังกล่าวเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น โดยพิจารณาประเด็นสำคัญ ต่าง ๆ เช่น กลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ รูปแบบธุรกิจ ภารกิจหลักที่ร่วมดำเนินการ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากร ที่บริษัทฯ ตลอดจนมีโครงสร้างรายได้ และโครงสร้างต้นทุน เป็นต้น รวมทั้งเห็นควรพิจารณาใช้กลไกสถาบันการ เงินของรัฐที่มีอยู่เดิมและมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจดังกล่าวทำหน้าที่เป็นแหล่งเงินทุน เพื่อให้สินเชื่อกับ ประชาชนผู้มีรายได้น้อย โดยใช้เครือข่ายของบริษัทฯ ที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นช่องทางสนับสนุนการให้บริการทาง การเงิน โดยกระทรวงการคลังพิจารณาทางเลือกรูปแบบการให้บริการสินเชื่อรายย่อย (Micro Finance) ของรัฐ ที่เหมาะสมและนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี โดยเร็วต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
34986 | สรุปผลการดำเนินงานปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดยั่งยืนภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 2 | ยธ | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอเพิ่มเติมว่า ได้หารือกับกระทรวงการคลังในการ กันเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ จำเป็นไว้เบิกเหลื่อมปีเพื่อดำเนินการตามปฏิบัติการ “ประเทศไทยเข้มแข็งชนะยาเสพติดยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๒” แล้ว มีความเห็นสอดคล้องกันว่าไม่ให้มีการโอนหรือนำไปใช้ในรายการอื่น ๒. รับทราบและเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธาน กรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสนอ ดังนี้ ๒.๑ รับทราบผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดตามปฏิบัติการฯ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๒ (พฤศจิกายน ๒๕๕๒-กันยายน ๒๕๕๓) ซึ่งมีผลการจับกุมยาเสพติดได้มากที่สุด เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาบ้า ไอซ์ ยาแก้หวัด กระท่อม ฯลฯ และมียอดผู้เข้าบำบัดรักษาได้สูงที่สุดในรอบหลายปีที่ ผ่านมาเช่นกัน ๒.๒ รับทราบและเห็นชอบในหลักการของปฏิบัติการฯ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๓ ในขั้นต้น ซึ่งได้ จากหน่วยต่าง ๆ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ไปจัดทำรายละเอียด และเริ่มดำเนินการใน ต้นพฤศจิกายน ๒๕๕๓ ทั้งนี้ หลักการของปฏิบัติการฯ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๓ จะมีสาระสำคัญ ๗ ประการ ที่จะ ลดการขยายตัวของปัญหายาเสพติดในภาพรวมให้ได้ มิให้ปัญหายาเสพติดส่งผลกระทบต่อประชาชน ประกอบ ด้วย (๑) การกำหนดพื้นที่เป้าหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหา (๒) การใช้ยุทธศาสตร์ ๕ รั้วป้องกันต่อเนื่อง (๓) การกำหนด critical point ที่เป็นจุดวิกฤติในแต่ละรั้ว/โครงการ (๔) การแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ (๕) การ ปรับปรุงประสิทธิภาพของมาตรการหลักที่ใช้แก้ไขปัญหา (๖) การใช้นโยบายกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ใหม่เพื่อลดจำนวนผู้กระทำความผิด และ (๗) การให้ความสำคัญในการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ ๒.๓ สนับสนุนทรัพยากรและงบประมาณการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้หน่วยงานใช้ในการแก้ ไขปัญหา ทั้งงบกลางที่ยังคงเหลือในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และจะมีการขอรับการสนับสนุนงบกลางในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เพิ่มเติม หากเมื่อจัดทำแผนบูรณาการแล้ว ไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ๒.๔ สนับสนุนความดีความชอบพิเศษแก่ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะ รัฐมนตรีอนุมัติอยู่แล้ว ๓. ให้ สำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการกันเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบ กลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ไว้เบิกเหลื่อมปีเพื่อดำเนินการตามปฏิบัติการฯ ๕ รั้ว ป้องกัน ระยะที่ ๒” ส่วนปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ และ เร่งรัดการจัดทำแผนงบประมาณเชิงบูรณาการเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามปฏิบัติการฯ ระยะที่ ๓ โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้จัดสรร ก่อน หากไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ประเมินสถานการณ์และผลการดำเนิน งานเพื่อประกอบการขอรับการสนับสนุนงบกลางในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เพิ่มเติมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบ ประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
34987 | สรุปผลการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง (ครั้งที่ 8) | นร | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมืองเสนอสรุปผลการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง ดังนี้
๑. คณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง (คชส.) ได้เห็นชอบให้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประกอบการรายย่อย ครั้งที่ ๘ จำนวน ๓๕ ราย เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๓ เป็นเงิน ๑,๗๕๐,๐๐๐ บาท ๒. ที่ประชุม คชส. ครั้งที่ ๙/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๓ ได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการดังนี้ ๒.๑ เร่งรัดจ่ายเช็คเงินสดให้ผู้มีสิทธิให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยผู้ที่ยังไม่มารับเงินช่วยเหลือ สามารถให้รับได้ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ หากพ้นกำหนดให้ส่งเงินจำนวนนี้คืนคลังต่อไป ๒.๒ งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรเพื่อการช่วยเหลือ จำนวน ๒๕๐ ล้านบาท ในส่วนที่เหลือจ่ายเป็นเงินสด จำนวน ๙๕,๒๐๐,๐๐๐ บาท ให้ส่งคืนสำนักงบประมาณ ๒.๓ จัดส่งข้อมูลผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือของ คชส.ได้แก่ ทรัพย์สินเสียหายกรณีเพลิงไหม้ ถูกทำลาย และถูกโจรกรรม ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ ๒.๔ เนื่องจาก คชส. ได้ปฏิบัติภารกิจมาเป็นเวลา ๔ เดือนเศษ และได้ช่วยเหลือเป็นไปอย่างทั่วถึงแล้ว จึงยุติภารกิจตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และให้ส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนตามอำนาจหน้าที่ในระยะยาวต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34988 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการขอต่ออายุและการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. .... | คค | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและ
การออกใบอนุญาตขับรถ และการขอต่ออายุและการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ คือ แก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และ การขอต่ออายุและการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. ๒๕๔๘ ออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๕๒ เพื่อปรับปรุงเอกสารหลักฐานประกอบการขอรับใบอนุญาตขับรถ และการขอต่ออายุใบอนุญาตขับ รถ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อ ไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
34989 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างหอดูดาวภูมิภาคพร้อมอาคารประกอบ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดฉะเชิงเทรา | วท | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการเปลี่ยนแปลงจากรายการก่อสร้างหอดูดาวภูมิภาคพร้อมอาคารประกอบ จังหวัด นครราชสีมา เป็น รายการก่อสร้างหอดูดาวภูมิภาค พร้อมอาคารประกอบ จังหวัดนครราชสีมา พร้อมค่า ควบคุมงาน และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปี ดังนี้ ๑.๑ ค่าก่อสร้างหอดูดาวภูมิภาคพร้อมอาคารจำนวน ๕๐,๔๖๐,๐๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบ ประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จำนวน ๘,๑๕๑,๐๐๐ บาท งบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๒๑,๖๑๒,๓๐๐ บาท และงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๒๐,๖๙๖,๗๐๐ บาท ๑.๒ ค่าจ้างควบคุมงาน จำนวน ๘๙๑,๖๖๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จำนวน ๙๙,๐๐๐ บาท งบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๕๙๔,๐๐๐ บาท และงบประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๑๙๘,๖๖๐ บาท ๒. อนุมัติในหลักการการเปลี่ยนแปลงจากรายการก่อสร้างหอดูดาวภูมิภาคพร้อมอาคารประกอบ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็น รายการก่อสร้างหอดูดาวภูมิภาค พร้อมอาคารประกอบ ในวงเงิน ๕๒,๒๕๐,๐๐๐ บาท (ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้างและผู้รับจ้างควบคุมงาน)
|
|||||||||||||||||||||||||||
34990 | รายงานความคืบหน้าการจัดการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 42 | ศธ | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานความคืบหน้าการจัดการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๔๒ (๔๒nd International Physics Olympiad ๒๐๑๑) ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สรุป ได้ดังนี้ ๑.๑ รองศาสตราจารย์เย็นใจ สมวิเชียร เหรัญญิกมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการพร้อมคณะได้เดินทาง เข้าร่วมในพิธีปิดการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๔๑ ที่ประเทศโครเอเชีย ซึ่งจัดระหว่างวันที่ ๑๗- ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ในการนี้ศาสตราจารย์ ดร. สุพจน์ หารหนองบัว เป็นผู้แทนในการรับมอบและกล่าวเชิญชวน ให้ประเทศต่าง ๆ ส่งผู้แทนเข้าร่วมการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๔๒ ที่ประเทศไทย ๑.๒ คณะอนุกรรมการดำเนินงานได้รวบรวมรายชื่อประเทศที่เคยเข้าแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่าง ประเทศครั้งที่ผ่าน ๆ มา และรายชื่อประเทศที่จะขออนุมัติ IPhO advisory committee (International Physics Olympiad advisory committee) เพื่อเชิญเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ คาดว่าจะมีนักเรียนมาร่วมการแข่งขันจาก ๙๐ ประเทศ จำนวนประมาณ ๔๐๐ คน และมีอาจารย์ ผู้สังเกตการณ์ และผู้ติดตามประมาณ ๓๐๐ คน ๑.๓ การเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านวิชาการ สถานที่สำหรับการจัดการแข่งขัน การ จัดทำโปสเตอร์และเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์การแข่งขัน การเตรียมนิสิต นักศึกษาพี่เลี้ยงดูแลผู้มาร่วมการแข่งขัน การ จัดทัศนศึกษาให้แก่ผู้มาร่วมการแข่งขัน การเตรียมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารในการแข่งขัน และการเตรียม การประชาสัมพันธ์การแข่งขัน ๒. เห็นชอบให้หน่วยงานต่าง ๆ ให้ความร่วมมือในการสนับสนุนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การจัดการ แข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๔๒ ทางสื่อภายในและต่างประเทศตามความเหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||||||||
34991 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2553 | กค | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ สรุปได้ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๒,๒๕๘ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๓,๓๓๖ โครงการ วงเงิน ๒๙,๑๙๙.๕๖ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๓๘,๙๒๒ โครงการ วงเงิน ๓๒๐,๗๖๐.๘๘ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๒,๙๓๗ โครงการ วงเงิน ๑๗,๕๓๗.๕๐ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒๕๗ โครงการ วงเงิน ๑๐,๖๓๖.๓๘ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒,๖๘๐ โครงการ วงเงิน ๖,๙๐๐.๖๗ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๕,๙๘๕ โครงการ วงเงิน ๓๐๓,๒๒๓.๓๘ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๕,๙๗๕ โครงการ วงเงิน ๒๙๒,๐๒๘.๒๐ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๑,๗๕๔ โครงการ วงเงิน ๕๗,๖๒๗.๓๓ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) ๓๒,๒๙๑ โครงการ วงเงิน ๒๐๑,๓๒๒.๐๘ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๑,๙๔๐ โครงการ วงเงิน ๓๓,๐๗๘.๗๙ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๔,๒๓๑ โครงการ วงเงิน ๒๓๔,๔๐๐.๘๗ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
34992 | ร่างระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยกองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยกองทุนเพื่อพัฒนา
การผลิตถั่วเหลือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบ ร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบฯ มี สาระสำคัญคือ แก้ไขระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยกองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลือง (ฉบับที่ ๑) พ.ศ. ๒๕๓๗ ดังนี้ ๑. กำหนดนิยามคำว่า “ภาคเอกชน” หมายความว่า สถาบันเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง สมาคมผู้ผลิต น้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ๒. ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลือง ๓. กำหนดให้ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตรจัดทำบัญชีแสดงฐานะการเงิน และรายงานต่อ ประธานกรรมการเป็นประจำทุกเดือน ฯลฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34993 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร และนายไพโรจน์ ศรศิลป์) | นร | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนางเบญจวรรณ สร่างนิทร และนายไพโรจน์ ศรศิลป์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งได้ดำเนินการลาออกจากตำแหน่งอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะต้องห้ามให้เรียบร้อย ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34994 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) (นายสมบัติ คุรุพันธ์) | กก | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมบัติ คุรุพันธ์ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัด
กระทรวง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34995 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) (นางแสงจันทร์ วรสุมันต์) | กก | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางแสงจันทร์ วรสุมันต์ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงาน
ปลัดกระทรวง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
34996 | การดำเนินงานตามมาตรา 67 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เกี่ยวกับการกำหนดประเภทโครงการหรือกิจการ ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 | ทส | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรา ๖๗ วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ เกี่ยวกับการกำหนดประเภทโครงการหรือกิจการ ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้แจ้งผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กรณีการกำหนดโครงการหรือกิจการที่ดำเนินการในพื้นที่อ่อนไหว เป็นโครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง นั้น ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติชุดต่าง ๆ พิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา ๖๗ วรรคสองฯ ในส่วนที่ยังมีประเด็นความไม่ชัดเจนในเรื่องพื้นที่และประเภทโครงการหรือกิจการ ซึ่งจะนำเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
34997 | การยุติการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ครั้งที่ 1 - 5/2553) | นร | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประธานกรรมการพิจารณาชี้
ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอผลการประชุมคณะกรรมการ พิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ ๑/๒๕๕๓ เมื่อวัน ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๓ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๗ พฤษภา คม ๒๕๕๓ ครั้งที่ ๔/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๓ และครั้งที่ ๕/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ซึ่งได้พิจารณาตัดสินชี้ขาดการดำเนินคดีระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กับเอกชน จำนวน ๔ เรื่อง และข้อพิพาทระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ด้วยกันเอง จำนวน ๒๑ เรื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||
34998 | ขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการดำเนินงานของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ | กค | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๒ (เรื่อง มาตรการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ (ในส่วนที่เกี่ยวกับการปรับปรุงระบบและเพิ่มศักยภาพการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) รวม ๒ ข้อ ดังนี้
๑. การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการค้ำประกัน จากเดิม “ให้ลดอัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกันลงจากร้อยละ ๒.๐๐-๒.๗๕ ลงเหลือประมาณร้อยละ ๑.๗๕ ของวงเงินค้ำประกันในระยะแรก และจะมีการปรับปรุงค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมในระยะต่อไป โดยจะคำนึงถึงคุณภาพของลูกค้าและคุณภาพการคัดเลือกลูกค้าของสถาบันการเงินที่ใช้บริการ” เป็น “ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงคุณภาพของลูกค้า และคุณภาพการคัดเลือกลูกค้าของสถาบันการเงิน” ๒. เกณฑ์การจ่ายค่าประกันชดเชย จากเดิม “ปรับปรุงเกณฑ์การชดเชยความเสียหายให้รวดเร็วขึ้นจากที่จะต้องจ่ายเมื่อคดีถึงที่สุด และมีการบังคับคดียึดทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันครบถ้วนแล้ว เป็นจ่ายเมื่อมีการฟ้องร้องดำเนินคดีระหว่างสถาบันการเงินกับผู้กู้” เป็น “จ่ายเมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้เฉพาะการค้ำประกันให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภายใต้การค้ำประกันสินเชื่อโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ โดยให้ ธ.ก.ส. และ บสย. ตกลงในรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางและขั้นตอนของการจ่ายค่าประกันชดเชยต่อไป”
|
|||||||||||||||||||||||||||
34999 | ความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง การออกประกาศให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม มีอำนาจใช้ดุลพินิจในการประกาศกำหนดโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพในเขตพื้นที่ที่สำคัญ เพื่อให้การดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าวต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม | นร | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
35000 | การรับรอง Paracas Declaration | ทส | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับรองปฏิญญาปาราคัส (Paracas Declaration) โดยสาระสำคัญของร่างปฏิญญาปาราคัสเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองด้านสิ่งแวดล้อมในเรื่องมหาสมุทรและความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาอย่างยั่งยืนและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล การส่งเสริมการค้าที่เป็นธรรม และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในมหาสมุทร โดยสร้างความตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการบริหาร จัดการอย่างยั่งยืน และเน้นการให้ความร่วมมือระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก การส่งเสริมการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศทางทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก การส่งเสริมความร่วมมือเพื่ออนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมว่า แนวทางการเจรจาและร่วมรับรองปฏิญญาปาราคัสดังกล่าวจะต้องมีความสอดคล้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกับบทบัญญัติของกฎหมาย รวมทั้งร่างกฎหมายต่าง ๆ ของไทยเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อเสนอเป็นกฎหมายต่อไปด้วย
|
.....