ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1746 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 34901 - 34920 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34901 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 15 ตุลาคม 2553 | กค | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๓ สรุปได้ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๒,๔๖๗ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๓,๐๑๖ โครงการ วงเงิน ๒๓,๘๔๗.๔๙ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๓๙,๔๕๑ โครงการ วงเงิน ๓๒๖,๑๑๒.๙๕ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๓,๑๗๒ โครงการ วงเงิน ๒๑,๙๑๗.๑๑ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๖๑๓ โครงการ วงเงิน ๑๕,๑๓๕.๗๒ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒,๕๕๙ โครงการ วงเงิน ๖,๗๘๑.๓๙ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๖,๒๗๙ โครงการ วงเงิน ๓๐๔,๑๙๕.๘๔ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๖,๒๗๙ โครงการ วงเงิน ๒๙๓,๑๓๙.๓๗ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๑,๕๔๖ โครงการ วงเงิน ๕๖,๐๗๗.๖๘ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) ๓๑,๓๐๒ โครงการ วงเงิน ๑๙๙,๘๐๕.๑๖ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๓,๔๓๑ โครงการ วงเงิน ๓๗,๒๕๖.๕๓ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๔,๗๓๓ โครงการ วงเงิน ๒๓๗,๐๖๑.๖๙ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
34902 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข (นางรุจิรางค์ แอกทอง) | สธ | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางรุจิรางค์ แอกทอง ผู้เชี่ยวชาญสาขาการแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นผู้ที่
ได้รับการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกกรรมการตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข แทน นางสาวบุญเทียน เสมอชีพ ที่ลาออก ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
34903 | ขอถอนเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี [จำนวน 3 เรื่อง 1. เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันฟุตซอลซิงแชมป์โลกพุทธศักราช 2555 (FIFA FUTSAL WORLD CUP 2012) ฯลฯ] | กก | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๓ [เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันฟุตซอล ชิงแชมป์โลก พุทธศักราช ๒๕๕๕ (FIFA FUTSAL WORLD CUP 2010) จำนวน ๒ คณะ คือ คณะกรรมการอำนวยการการจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก พุทธศักราช ๒๕๕๕ (FIFA FUTSAL WORLD CUP 2010) และคณะกรรมการบริหารการจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก พุทธศักราช ๒๕๕๕ (FIFA FUTSAL WORLD CUP 2010)] และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการการดำเนินการเสนอขอรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ชิงแชมป์โลกและการจัดการประชุมองค์กรกีฬาระดับนานาชาติ) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอขอถอนเรื่องดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||
34904 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาไก่ไข่ | กษ | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๓ เกี่ยวกับ มาตรการแก้ไขปัญหาไก่ไข่ โดยผลการดำเนินมาตรการด้านราคา ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวลดลง ฟองละ ๒๐ สตางค์ ปริมาณไข่ไก่เพื่อบริโภคภายในประเทศช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ๒๕๕๓ เพิ่มขึ้น เดือนละประมาณ ๖.๕ ล้านฟอง จำนวนแม่พันธุ์ไก่ไข่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ ๔๖๘,๐๐๐ ตัว สามารถผลิตไก่ไข่ได้ประมาณ๔๒ ล้านตัว ไข่ไก่ประมาณ ๑๒,๔๓๒ ล้านฟอง ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. ให้ขยายเวลาการรายงานผลการศึกษาปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่ และผลิตภัณฑ์ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ซึ่งเดิม กำหนดไว้ ๖๐ วัน คือภายในวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๓ ออกไปอีก ๓๐ วัน
|
|||||||||||||||||||||
34905 | การแต่งตั้งข้าราชการ (นายคุรุจิต นาครทรรพ) | พน | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีอนุมัติแต่งตั้งนายคุรุจิต นาครทรรพ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
34906 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำมันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ กระเทียม ลำไยแห้ง พริกไทย และเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำพริกไทย น้ำตาลทราย และน้ำมันถั่วเหลือง เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | นร | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ ที่ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำเข้ามันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ กระเทียม ลำไยแห้ง พริก ไทย และเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ ๑.๑.๑ ให้มันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ กระเทียม ลำไยแห้ง พริกไทย และเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ซึ่งมีถิ่น กำเนิดและส่งตรงมาจากประเทศสมาชิก สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามความตกลงเขตการค้า เสรีอาเซียนเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองแสดงต่อกรมศุลกากรในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประกอบ การใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร ๑.๑.๒ การขอและการออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิในการยกเว้นภาษีทั้งหมดหรือบาง ส่วน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกำหนด ๑.๑.๓ ให้สินค้าที่นำเข้าตามประกาศนี้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรการอื่นที่มิใช่มาตรการ ทางภาษีที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า ๑.๒ ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำพริกไทย น้ำตาลทราย และน้ำมันถั่วเหลือง เข้ามา ในราชอาณาจักรตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ยกเลิกความในข้อ ๓ ของประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำพริกไทย น้ำตาลทราย และน้ำมันถั่วเหลือง เข้ามาในราชอาณาจักร ตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน พ.ศ. ๒๕๕๒ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นว่าร่างประกาศในเรื่องนี้เกี่ยวพัน กับการใช้มาตรการที่เป็นอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers : NTBs) ซึ่งประเทศไทยควรดำเนิน การตามความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ASEAN Trade in Goods Agreement : ATIGA) เช่น การแจ้งต่อที่ ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจ (SEOM) และสำนักงานเลขาธิการอาเซียน การพิมพ์โฆษณาร่างประกาศ กระทรวงพาณิชย์ในเรื่องนี้ทางอินเทอร์เน็ตก่อนที่ประกาศฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับเพื่อลดความเสี่ยงในการที่ฝ่ายไทย จะถูกฟ้องร้อง ไปดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
34907 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสรจักร เกษมสุวรรณ) | ศธ | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายสรจักร เกษมสุวรรณ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์) ทั้งนี้ ให้การแต่งตั้งมีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
34908 | แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) เพิ่มเติม | นร | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เป็นกรรมการในคณะ
กรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) เพิ่มเติม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้องค์กร ดังกล่าวเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างใกล้ ชิดและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการ และเลขานุการ กรอ. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
34909 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรี ในการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย (จำนวน 2 ราย 1. นายมงคล สุระสัจจะ ฯลฯ) | มท | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย) และวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ดังนี้ ๑.๑ ให้นายมงคล สุระสัจจะ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตามเดิม ๑.๒ แต่งตั้งนายวิเชียร ชวลิต ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาทบทวนหรือยืนยันการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง) ที่เหลืออีก ๘ ราย และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๓ (เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย) จำนวน ๔๘ ราย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||
34910 | รายงานผลการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ระหว่างวันที่ 1 - 30 มิถุนายน 2553) | พณ | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทาง
ปัญญา ตามที่ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ ๑-๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๓ สามารถจับกุมได้ ๓๕๗ คดี ยึดของกลางได้ ๑๒๘,๗๕๓ ชิ้น
|
|||||||||||||||||||||
34911 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (จำนวน 14 ราย 1. นายปิยวัชร นิยมฤกษ์ ฯลฯ) | กต | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๔ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายปิยวัชร นิยมฤกษ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ๒. นายพิษณุ จันทร์วิทัน ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ๓.นายอนุสนธิ์ ชินวรรโณ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณกรุงฮานอย สาธารณรัฐ สังคมนิยมเวียดนาม สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ๔. นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมองค์การระหว่างประเทศ ๕. นางกฤษณา จันทรประภา ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ๖. นางสาววิมล คิดชอบ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ๗. นายธานี ทองภักดี ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมสารนิเทศ ๘. นายกฤต ไกรจิตติ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ สาธารณรัฐฮังการี ๙. นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณกรุงเม็กซิโก สหรัฐเม็กซิโก สำนัก งานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ๑๐. นายอุดมผล นินนาท ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา แคนาดา สำนัก งานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ๑๑. นายภาสกร ศิริยะพันธุ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมเอเชียตะวันออก ๑๒. นายสุรไกร เหล็กกล้า ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ๑๓. นายเรืองเดช มหาศรานนท์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ๑๔. นายรัชนันท์ ธนานันท์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ตำแหน่งที่ว่าง
|
|||||||||||||||||||||
34912 | รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ครั้งที่ 5 | รง | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านการพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ ครั้งที่ ๕ (Fifth APEC Human Resources Development Ministeria l Meeting) ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๗ กันยายน ๒๕๕๓ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและคณะผู้ แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ สำหรับหัวข้อของการประชุม ฯ ประกอบด้วยการให้ความสำคัญต่อการรักษาและการ เพิ่มระดับการจ้างงาน และการใช้นโยบายเศรษฐกิจที่เน้นการจ้างงาน การปรับปรุงเครือข่ายความปลอดภัยทาง สังคมและการให้ความช่วยเหลือด้านการจ้างงานแก่กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และการเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และการเตรียมกำลังแรงงานรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้ให้การรับรองเอกสาร จำนวน ๓ ฉบับ ได้แก่ ๑. แถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีเอเปค (joint statement) เน้นการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทรัพยา กรมนุษย์และการส่งเสริมการจ้างงาน และให้การสนับสนุนกิจกรรมที่จะนำไปสู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในระยะ ยาว โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ๒. แผนปฏิบัติการ (action plan) เป็นแนวทางในการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ ของคณะทำงานด้านการ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์เอเปคในการส่งเสริมการจ้างงาน การให้ความคุ้มครองทางสังคม การพัฒนาทักษะฝีมือแรง งาน ซึ่งสอดคล้องกับเศรษฐกิจในยุคโลกาภิวัตน์ (globalization) ๓. โครงการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานเอเปค (APEC Skills Development Promotion Project ๒๐๑๑ -๒๐๑๔) เสนอโดยสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นโครงการตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมในการเสริมสร้างความสัมพันธ ของประเทศสมาชิกในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของกลุ่มสมาชิกเอเปค โดยมีกิจกรรม ประกอบด้วย การฝึก อบรมบุคลากรฝึก (ครูฝึก) การแลกเปลี่ยนและร่วมมือกันด้านการพัฒนาหลักสูตร การวิจัยและการกำหนดคุณ สมบัติ/ทักษะฝีมือแรงงาน เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||
34913 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กรรมการที่ยังคงดำรงตำแหน่งอยู่พ้นจากตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และอนุมัติให้แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยชุดใหม่ จำนวน ๙ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ (๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓) ยกเว้นลำดับที่ ๙ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการให้ความเห็นชอบ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้
๑. นายพรชัย วรุจิประภา ประธานกรรมการ ๒. นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี กรรมการ ๓. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กรรมการ ๔. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส กรรมการ ๕. นายเทวัญ วิชิตะกุล กรรมการ ๖. นายแล ดิลกวิทยรัตน์ กรรมการ ๗. นายคุรุจิต นาครทรรพ กรรมการ ๘. นายวิทวัส ศรีวิหค กรรมการ ๙. นายตระกูล วินิจนัยภาค กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||
34914 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 60 ปี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... | กค | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๖๐ ปี
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะจัด ทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๖๐ ปี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลายและลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์ โลหะสองสี (สีขาวและสีทอง) ราคาสิบบาท ประเภทธรรมดา (จำนวนผลิตไม่เกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ เหรียญ) ตาม ที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
34915 | ความตกลงด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลอิสราเอล | รง | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างความตกลงด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลอิสราเอล และร่างความตกลงความ ร่วมมือระหว่างกรมการจัดหางานและองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration : IOM) ในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานภาคเกษตรในประเทศอิสราเอล (ภาคผนวก ๑๐) ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงนามในนามของผู้แทนฝ่ายไทยในความตกลงด้านแรงงาน ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลอิสราเอล โดยเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยเป็นผู้ลงนามในนามของผู้ แทนฝ่ายอิราเอล (ภาคผนวก ๑๐) ๓. อนุมัติให้อธิบดีกรมการจัดหางานลงนามในนามของผู้แทนฝ่ายไทยในความตกลงความร่วมมือระหว่าง กรมการจัดหางานและ IOM (ภาคผนวก ๑๐) ๔. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือแจ้งทางการอิสราเอลเพื่อให้ความตกลงมีผลใช้บังคับ และ ออกหนังสือมอบอำนาจเต็มให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในความตกลงด้านแรงงาน ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลอิสราเอล และอธิบดีกรมการจัดหางานเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในความตกลงความร่วม มือระหว่างกรมการจัดหางานและ IOM (ภาคผนวก ๑๐)
|
|||||||||||||||||||||
34916 | การรับรองปฏิญญากรุงเทพด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ครั้งที่ 5 ในระหว่างวันที่ 23 - 25 สิงหาคม 2553) | ทส | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานสรุปผลการประชุม
นานาชาติด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๕ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๓ ณ กรุงเทพมหา นคร ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศในภูมิภาคเอเชีย จำนวน ๒๒ ประเทศ และองค์การระหว่าง ประเทศที่ให้การสนับสนุนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและภาคเอกชน โดยที่ประชุมฯ ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบ การณ์และบทเรียนด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรายงานความคืบหน้าของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค เอเชียที่ได้ดำเนินการตามองค์ประกอบของการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรวมทั้งได้มีมติรับรองปฏิญญากรุงเทพ ด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนผลการดำเนินการตามปฏิญญาฯ จะมีการรายงานความคืบหน้าในการ ประชุมนานาชาติด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมครั้งต่อ ๆ ไป นอกจากนี้ ในวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๓ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับสำนักงานความร่วมมือทางวิชาการของเยอรมัน (German Tech nical Cooperation : GTZ) ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการระดับชาติ ต่อเนื่องจากการประชุมนานาชาติด้านการขนส่งที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๕ เรื่องการพัฒนาสู่เมืองอากาศสะอาด ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการความร่วม มือระหว่างสองหน่วยงาน (โครงการ Clean Air for Smaller Cities in the ASEAN Region) ซึ่งเป็นความร่วมมือของ รัฐบาลไทยกับ GTZ ผ่านทางสำนักงานเลขาธิการอาเซียนเพื่อจัดทำกลยุทธการลดมลพิษทางอากาศและการขนส่ง ในเมืองขนาดเล็ก โดยมีการประเมินประสิทธิภาพในการลดมลพิษ รวมทั้งผลประโยชน์ร่วม (co-benefits) ต่อ สภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ในประเทศในภูมิภาคอาเซียน (จำนวน ๗ ประเทศ ยกเว้นสิงคโปร์ บรูไน และเมียนม่าร์)
|
|||||||||||||||||||||
34917 | รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ประธานคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง | ทส | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานสรุปผลการปฏิบัติ
หน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะมนตรี คณะกรรมาธิ การแม่น้ำโขง ดังนี้ ๑. จัดทำปฏิญญาหัวหิน ค.ศ. ๒๐๑๐ ของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ระดับ นโยบายของประเทศที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ร่วมกับประเทศภาคีสมาชิกอีก ๓ ประเทศ (ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม) โดย ผลักดันประเด็นการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นประเด็นหลักของความร่วมมือ รวมทั้งผลักดัน ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๒-๕ เมษายน ๒๕๕๓ ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นเวทีสนับสนุนให้ไทยมีบทบาทหลักในด้านการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมของภูมิภาค ๒. ร่วมกับประเทศภาคีสมาชิก คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิป ไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม) ในการเพิ่มพูนความสัมพันธ์อันดีกับประเทศคู่เจรจา ได้แก่ เสนอให้สาธารณรัฐประชาชนจีนแลกเปลี่ยนข้อมูลอุทกวิทยาในช่วงฤดูแล้งของปีที่ผ่านมา และการพิจารณาหลัก เกณฑ์การเข้าเป็นภาคีสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงของสหภาพพม่าได้ ๓. เป็นประธานการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๑๖ ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมเมื่อวันที่ ๒๖-๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีผลงานที่สำคัญซึ่ง เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ดังนี้ ๓.๑ อนุมัติโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการในลุ่มน้ำโขง (Mekong Intergraded Water Resources Management : M-IWRM) เพื่อปรับปรุงขอบเขตการดำเนินงานและศักยภาพของคณะกรรมา ธิการแม่น้ำโขงให้มีบทบาทเป็นผู้อำนวยการพัฒนาทรัพยากรน้ำตามหลักการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ ๓.๒ อนุมัติแผนงาน/กิจกรรมของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงประจำปี ค.ศ. ๒๐๑๐ จำนวน ๑๑ ด้าน ประกอบด้วย แผนพัฒนาลุ่มน้ำ แผนงานสิ่งแวดล้อม โครงการปรับตัวเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แผนงานการจัดการองค์ความรู้และข้อมูลข่าวสาร แผนงานเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรแบบองค์รวม โครงการ บริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ แผนงานบริหารจัดการและบรรเทาอุทกภัย แผนงานการเกษตร ชล ประทานและป่าไม้ แผนงานการเดินเรือ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ และแผนงานประมง ๓.๓. เห็นชอบให้นำแนวทางการประเมินสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Environment Assess ment : SEA) มาใช้ในการพัฒนาลุ่มน้ำและโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำ ๓.๔ เห็นชอบแนวนโยบายการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC Stake holder Engagement Policy) เพื่อสนับสนุนให้การดำเนินโยบายมีความโปร่งใสและเปิดเผยได้ เพิ่มความเข้มแข็ง และบทบาทของประเทศภาคีสมาชิกในการเป็นเจ้าขององค์กร
|
|||||||||||||||||||||
34918 | การแข็งค่าของเงินบาท | นร | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงพาณิชย์สำรวจและรวบรวมรายการราคาสินค้าที่ได้รับประโยชน์จากการแข็งค่าของเงิน บาทว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ประการใด แล้วรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ๒. ให้สำนักงบประมาณตรวจสอบและรวบรวมรายการงบประมาณค่าใช้จ่ายของหน่วยงานภาครัฐทั้ง ระบบว่ามีรายการใดที่ได้รับประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาทและสามารถปรับลดงบประมาณของภาครัฐลง ได้หรือไม่ อย่างไร แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
34919 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์
ที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๓ ซึ่งได้พิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๔ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันอังคารที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ รวมทั้งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๓ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๐ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๓ และครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๓
|
|||||||||||||||||||||
34920 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำป่าสัก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำป่าสัก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำป่าสัก จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงกิโลเมตรที่ ๔๒.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....