ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1647 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 32921 - 32940 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32921 | แต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (นายพงษ์พิสุทธิ์ จงอุดมสุข) | สธ | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายพงษ์พิสุทธิ์ จงอุดมสุข ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข เป็นวาระที่สอง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔) เห็นชอบเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32922 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประจำปี 2553 | นร | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ดำเนินการให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ และดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง โดยจัดฝึกอบรมข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อเป็นวิทยากรออกไปเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามที่หน่วยงานของรัฐต่าง ๆ ร้องขอ และจัดเจ้าหน้าที่ไว้ให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์แก่เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐและประชาชนที่ต้องการปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง รวมทั้งเผยแพร่เอกสารที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ และประชาชนที่สนใจ
|
||||||||||||||||||||||||
32923 | รายงานความคืบหน้าการจ่ายเงินชดเชยราคาน้ำนมดิบให้กับเกษตรกร | กษ | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าในการจ่ายเงินชดเชยค่าน้ำนมดิบให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและเกษตรกรที่เป็นนิติบุคคล ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมได้มีการประชุมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินชดเชยค่าน้ำนมดิบให้กับนิติบุคคล โดยผลการประชุมเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ ได้พิจารณาเรื่องการจ่ายเงินชดเชยราคาน้ำนมดิบให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่เป็นนิติบุคคล จำนวน ๖ ราย ได้แก่ รายที่ ๑ สหกรณ์โคนมบ้านบึง จำกัด จำนวนเงิน ๑๕๒,๔๑๕.๔๕ บาท รายที่ ๒ สหกรณ์โคนมชัยบาดาล จำกัด จำนวนเงิน ๑๓๔,๘๒๖.๐๐ บาท รายที่ ๓ วิสาหกิจชุมชนโคนมจอมบึง จำนวนเงิน ๓๐๘,๐๓๒.๕๐ บาท รายที่ ๔ บริษัท เอ พี พี แดรี่ฟาร์ม จำกัด จำนวนเงิน ๒๒๔,๙๐๐.๕๕ บาท รายที่ ๕ ห้างหุ้นส่วนจำกัดน้ำฝนฟาร์ม จำนวนเงิน ๑,๓๘๗,๔๑๔.๘๐ บาท และรายที่ ๖ บริษัท พี พี โอ ฟาร์ม จำกัด จำนวนเงิน ๖๔๓,๒๗๕.๐๐ บาท ทั้งนี้ ในการจ่ายเงินให้แก่รายที่ ๑ และ ๒ ซึ่งเป็นสหกรณ์ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินชดเชยราคาน้ำนมดิบโดยใช้เงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร สำหรับนิติบุคคล รายที่ ๓ ถึง ๖ ให้จ่ายจากเงินงบกลาง หรือเงินงบประมาณอื่น ๆ ที่รัฐสามารถจัดสรรให้ได้แทน ๒. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาเห็นว่า การจ่ายเงินชดเชยราคาน้ำนมดิบให้กับนิติบุคคลสมควรจ่ายได้สำหรับรายที่ ๑ ถึง ๓ เนื่องจากรายที่ ๓ ในภายหลังได้ขอเบิกจ่ายให้กับเกษตรกรที่เป็นสมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ รวม ๕ รายแทนการเบิกในนามนิติบุคคล จึงเป็นการจ่ายเงินจากกองทุนฯ ตามเงื่อนไขเดิมที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไว้ และตรงตามความเห็นของกรมบัญชีกลาง กรณีการใช้เงินกองทุนฯ ในการชดเชยราคาน้ำนมดิบให้กับนิติบุคคล สามารถจ่ายได้เฉพาะเกษตรกร หรือสหกรณ์โคนมเท่านั้น สำหรับนิติบุคคลรายที่ ๔ ถึง ๖ จะแจ้งให้คณะกรรมการโคนมฯ พิจารณาให้ความเห็นเพิ่มเติม เนื่องจากจะต้องขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติให้จ่ายจากเงินงบกลาง หรืองบประมาณอื่น ๆ ที่รัฐสามารถจัดสรรให้ได้แทน
|
||||||||||||||||||||||||
32924 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ครั้งที่ 2/2554 | กษ | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ โดยผลการจัดจ้างผู้บริหารจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๕๔ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ ๒๑ มีนาคม - ๑ เมษายน ๒๕๕๔ ผลการประกวดราคา บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด เป็นเงิน ๓๙๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท และได้มีการลงนามสัญญาจ้างฯ เรียบร้อยแล้ว ส่วนความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านการปรับปรุงสถานที่ สิ่งก่อสร้าง และการจัดสวน คณะอนุกรรมการด้านการปรับปรุงสถานที่ สิ่งก่อสร้าง และการจัดสวน ได้ประชุมเพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน โดยล่าสุดในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๔ สรุปความก้าวหน้าการดำเนินงาน ณ วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๔ ประกอบด้วย รายการที่กำลังก่อสร้าง จำนวน ๑๓ รายการ ได้รับงบประมาณจากสำนักงบประมาณ รวม ๑๑๘,๒๖๖,๕๕๐ บาท รายการที่อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน ๘ รายการ วงเงินราคากลาง ๕๘,๖๑๘,๔๐๒ บาท และรายการที่อยู่ในขั้นตอนการตรวจแบบและราคากลาง จำนวน ๑๐ รายการ วงเงิน ๓๑,๘๖๗,๐๐๐ บาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน ๒๕๕๔ และมีกำหนดระยะเวลาดำเนินงานไม่เกิน ๙๐ วัน สำหรับปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินการ มีการดำเนินงานบางส่วนล่าช้ากว่าแผนการปฏิบัติงานที่กำหนด ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้ร่วมกับคณะทำงานด้านต่าง ๆ จัดทำแผนการปฏิบัติงานเพิ่มเติม และติดตามงานอย่างต่อเนื่อง โดยกรมวิชาการเกษตรและคณะทำงานฯ ได้ดำเนินการตามแผนงานที่วางแล้วบางส่วน และได้ส่งมอบงานให้ผู้บริหารจัดการงานฯ ดำเนินการต่อแล้ว เพื่อให้มีความต่อเนื่องและเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้
|
||||||||||||||||||||||||
32925 | รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ (การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ) | พม | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ (การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ) ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) และกระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้แจ้งการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของโครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเงินอุดหนุนเฉพาะกิจสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในงวดที่ ๒ โดยให้จังหวัดดำเนินการจัดสรรงบประมาณให้แก่ผู้สูงอายุที่มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้วให้ครบตามจำนวนของทั้งปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ (ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นไป) ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา จะมีผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รวมทั้งสิ้น ๖,๕๒๑,๗๔๙ คน จำนวนงบประมาณที่จ่าย ๓๗,๘๙๓,๓๙๘,๐๐๐ บาท ส่วนในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ มีจำนวนผู้สูงอายุที่มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รวม ๗,๐๘๔,๙๖๗ คน ๒. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้จัดทำโครงการปรับปรุงกระบวนการและพัฒนาติดตั้งระบบการจ่ายตรงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุในการรับเบี้ยยังชีพตรงเวลา ครบถ้วน และสามารถตรวจสอบได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ๓. การพัฒนากระบวนการการลงทะเบียนและการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุโดยการเชื่อมโยงข้อมูลเลขบัตรประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก จากระบบทะเบียนราษฎรเพื่อการตรวจสอบข้อมูล คุณสมบัติของผู้สูงอายุ การยืนยันบุคคล สถานที่อยู่ สถานภาพการมีชีวิต โดยให้ผู้สูงอายุใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนขึ้นทะเบียนรับสิทธิเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ๔. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ทำหนังสือขออนุญาตรับบริจาคเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุไปยังคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานรัฐ ก่อนที่จะดำเนินการรณรงค์เพื่อขอรับบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ๕. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เทศบาล และเมืองพัทยา รายงานวิธีการตรวจสอบการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุว่า ในส่วนของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลได้รายงานผลดำเนินงานการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไปยังจังหวัดทุกรอบ ๓ เดือน ส่วนกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยาได้รายงานเสนอผู้บริหารเป็นประจำทุกเดือน |
||||||||||||||||||||||||
32926 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง รายงานความคืบหน้าคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ | นร | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง รายงานความคืบหน้าคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) สรุปได้ ดังนี้
๑. ประเด็นการร่วมกันแก้ปัญหาอย่างจริงจังโดยคำนึงผลประโยชน์สูงสุดของชาติเป็นหลัก : ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดนโยบายด้านการเกษตร ๒ นโยบายหลัก ได้แก่ นโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการโดยสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมด้วยการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร สร้างระบบประกันความเสี่ยงทางการเกษตร ระบบประกันความเสี่ยงราคาพืชผล ระบบประกันภัยพืชผลอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ และการสนับสนุนการจัดตั้งสภาเกษตรกร และนโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภาคเกษตร โดยพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรด้วยการส่งเสริมการทำการเกษตรตามแนวพระราชดำริและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนการผลิตและความมั่นคงด้านอาหาร และพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร เป็นต้น และพัฒนาปัจจัยพื้นฐานและภารกิจสนับสนุนด้วยการจัดการทรัพยากรน้ำและดิน สำหรับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ดำเนินการส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายสามารถพึ่งตนเองและเข้าถึงสวัสดิการในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ส่วนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้นำข้อเสนอของ คอป. มาเป็นแนวทางในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙) ในยุทธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรมในสังคม ๒. ประเด็นความเป็นกลางและการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องของสื่อมวลชน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้มีประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) ข้อ ๑๕ เกี่ยวกับการกำหนดลักษณะรายการที่ออกอากาศได้ ๓. ประเด็นการเยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และการประกอบอาชีพ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบและความรุนแรงจากการชุมนุมทางการเมืองตามหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องทั้งในลักษณะการช่วยเหลือเร่งด่วน โดยมอบเงินเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ และเสียชีวิต และการช่วยเหลือต่อเนื่องเป็นเงินยังชีพรายเดือนแก่ผู้ทุพพลภาพ หรือบุตรผู้เสียชีวิต รวมทั้งได้ดำเนินโครงการสำรวจความเดือดร้อนของผู้ร่วมชุมนุมทางการเมือง และผู้ได้รับการเยียวยาเร่งด่วนกรณีผลกระทบจากการชุมนุม ซึ่งผลการสำรวจพบว่า สาเหตุการมาร่วมชุมนุมเนื่องจากเห็นว่าเป็นช่องทางและโอกาสที่จะได้รับความช่วยเหลือ และได้รับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน |
||||||||||||||||||||||||
32927 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มติสมัชชาปฏิรูประดับชาติ ครั้งที่ 1พ.ศ. 2554 เรื่อง ข้อเสนอการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ และเรื่อง รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการพิจารณาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ | นร | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มติสมัชชาปฏิรูประดับชาติ ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๕๔ เรื่อง ข้อเสนอการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ และเรื่อง รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการพิจารณาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีหน่วยงานให้ความเห็นใน ๔ ประเด็น สรุปได้ ดังนี้
๑. ประเด็นการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่น สำนักงาน ก.พ.ร. กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่า ประเด็นการกระจายอำนาจจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่น โดยเฉพาะประเด็นการยกเลิกการบริหารราชการส่วนภูมิภาค เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารราชการแผ่นดินโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ จึงควรมีการศึกษาผลกระทบจากข้อเสนอนี้ รวมทั้งให้มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย ส่วนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เห็นควรให้มีการกำหนดหน่วยงานเจ้าภาพเพื่อการบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ๒. ประเด็นการปฏิรูปโครงสร้างการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้วไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอการยกเลิกแผนพัฒนาชายฝั่งทะเลทั่วทุกภาค ๓. ประเด็นศิลปวัฒนธรรมกับการสร้างสรรค์และเยียวยาสังคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) จะนำเรื่องการกำกับดูแลสื่อให้มีรายการเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมกับการสร้างสรรค์และเยียวยาสังคมอย่างน้อยร้อยละ ๒๕ ของการนำเสนอทั้งหมดไปประกอบการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลต่อไป ๔.ประเด็นการปฏิรูปการจัดสรรทรัพยากรที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน กระทรวงคมนาคมเสนอให้เพิ่มผู้แทนจากกรมเจ้าท่าร่วมเป็นคณะกรรมการยกร่างพระราชบัญญัติโฉนดชุมชนด้วย |
||||||||||||||||||||||||
32928 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน | นร | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชนของคณะกรรมการบริหารโครงการเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับชุมชน ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ - ปัจจุบัน ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. คณะกรรมการบริหารโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชนได้จัดสรรงบประมาณให้กับหมู่บ้าน/ชุมชนไปแล้วจนถึงขณะนี้ (๒ มิถุนายน ๒๕๕๔) จำนวน ๗๑,๔๘๐ หมู่บ้าน/ชุมชน และยังมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดขั้นสุดท้ายเพื่อโอนเงินเข้าบัญชีหมู่บ้าน/ชุมชนอีกประมาณ ๓,๘๔๐ หมู่บ้าน/ชุมชน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ ทำให้ตัวเลขการจัดสรรงบประมาณให้หมู่บ้าน/ชุมชนเพิ่มขึ้นเป็น ๗๕,๓๒๐ หมู่บ้าน/ชุมชน คาดว่าจะสามารถจัดสรรได้เพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง สำหรับหมู่บ้าน/ชุมชนในจำนวนที่เหลือซึ่งไม่สามารถจัดสรรงบประมาณสนับสนุนได้ มีสาเหตุหลายประการ ที่สำคัญคือความเป็นชุมชนเมืองโดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครและเทศบาลเมือง รวมทั้งกรุงเทพมหานครด้วย เพราะไม่สามารถทำประชาคมได้ อีกส่วนหนึ่งเป็นปัญหาความขัดแย้งภายในหมู่บ้าน/ชุมชน หรือมีการร้องเรียนภายในชุมชนไม่สามารถตกลงกันได้ระหว่างสมาชิกในชุมชนในการคัดเลือกและดำเนินโครงการ ๒. ในส่วนของงบประมาณของปี พ.ศ. ๒๕๕๒ จำนวน ๒๓,๓๕๖,๖๕๐,๐๐๐ บาท เมื่อดำเนินการจัดสรรงบประมาณให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชนครบถ้วนแล้ว คาดว่าจะมีงบประมาณเหลือจ่ายประมาณ ๓,๐๐๐ ล้านบาท โดยรัฐบาลได้ตั้งงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ จำนวน ๓,๐๐๐ ล้านบาท และตั้งงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ อีกจำนวน ๓,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อเป็น “งบประมาณต่อยอด” โครงการนี้ ซึ่งคณะกรรมการบริหารโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชนได้กำหนดแนวทางการดำเนินงาน โดยจะจัดสรรงบประมาณจำนวนนี้ให้กับหมู่บ้าน/ชุมชนที่สามารถดำเนินโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีความยั่งยืน มีผลลัพธ์วัดได้และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ซึ่งจะดำเนินการทันทีภายหลังจากจัดสรรเงินงบประมาณให้หมู่บ้าน/ชุมชนในรอบแรกจากเงินเหลือจ่ายของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ เสร็จเรียบร้อยเป็นส่วนใหญ่แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
32929 | รายงานผลการติดตามและประเมินผลโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีในภาพรวมทั้ง 3 รอบ | นร | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการติดตามและประเมินผลโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในภาพรวมทั้ง ๓ รอบ (รอบที่ ๑ ช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ รอบที่ ๒ เดือนมีนาคม ๒๕๕๔ และรอบที่ ๓ เดือนเมษายน ๒๕๕๔) สรุปได้ ดังนี้
๑. โครงการก่อสร้างถนน (โครงการถนนไร้ฝุ่น) จำนวนทั้งสิ้น ๑๕๒ โครงการ พบว่า สภาพถนนไม่มีปัญหาทางกายภาพ ใช้ประโยชน์ได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และประชาชนมีความพึงพอใจ จำนวน ๑๒๒ โครงการ คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๒๖ สภาพถนนมีปัญหาทางกายภาพที่ไม่รุนแรงมากนักสามารถแก้ไขปัญหาได้ในพื้นที่ จำนวน ๑๙ โครงการ คิดเป็นร้อยละ ๑๒.๕๐ สภาพถนนไม่สามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์จำเป็นต้องแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบในส่วนกลางทราบเพื่อตรวจสอบแก้ไข จำนวน ๑๑ โครงการ คิดเป็นร้อยละ ๗.๒๔ ๒. โครงการชลประทานขนาดเล็ก (โครงการจัดหาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน) จำนวน ๑๐๑ โครงการ พบว่า สภาพแหล่งน้ำสามารถใช้ประโยชน์ได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และประชาชนมีความพึงพอใจ จำนวน ๗๖ โครงการ คิดเป็นร้อยละ ๗๕.๒๕ สภาพของโครงการไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่เนื่องจากปริมาณน้ำไม่เพียงพอสำหรับกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อทำการเกษตรและทำน้ำประปา แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบสามารถดำเนินการแก้ไขได้ในระดับพื้นที่ จำนวน ๒๒ โครงการ คิดเป็นร้อยละ ๒๑.๗๘ โครงการที่ยังมีปัญหาการใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ที่สมควรแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบในส่วนกลางทราบเพื่อตรวจสอบแก้ไข จำนวน ๓ โครงการ คิดเป็นร้อยละ ๒.๙๗ |
||||||||||||||||||||||||
32930 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ (พลตำรวจเอก นพดล สมบูรณ์ทรัพย์) | ยธ | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ โดยเห็นว่ากรณียังมีประเด็นปัญหาว่าคณะรัฐมนตรีจะสามารถมีมติแต่งตั้งกรรมการดังกล่าวตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ได้หรือไม่ เพียงใด จึงเห็นสมควรดำเนินการให้เป็นแนวทางเดียวกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ (เรื่อง ขอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดแรกของคณะกรรมการบริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ) โดยให้ส่งเรื่องนี้ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็นก่อน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
32931 | การขออัตรากำลังข้าราชการเพิ่มในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด | นร | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการจัดสรรอัตราข้าราชการจากผลการเกษียณอายุเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ เพิ่มให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) รวม ๕๐ อัตรา เพื่อรองรับภารกิจปราบปรามยาเสพติดที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับชุดควบคุมเครื่องติดตั้งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่จะนำไปติดตั้งในทัณฑสถานและเรือนจำ และชุดควบคุมเครื่องมือพิเศษ เพื่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร จำนวน ๒๓ อัตรา และภารกิจบังคับใช้กฎหมายให้สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค ๑ - ๙ จำนวน ๒๗ อัตรา ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ซึ่งไม่เกินกรอบอัตรากำลังที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๔ อนุมัติไว้แล้ว ๒. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนอัตรากำลังที่ คปร. ได้มีมติอนุมัติตามข้อ ๑ เป็นการอนุมัติตามกรอบปกติที่ คปร. สามารถจัดสรรได้จากผลการเกษียณอายุราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ ซึ่งจำนวนอัตราดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจ ประกอบกับปัจจุบันปัญหายาเสพติดได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นและได้มีการพัฒนารูปแบบและวิธีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จึงเป็นการยากลำบากในการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ดังนั้น กระทรวงยุติธรรมยังมีความจำเป็นในการที่จะขออนุมัติเพิ่มอัตรากำลังเพื่อปฏิบัติภารกิจดังกล่าวในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ โดยที่มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเฉพาะข้อ ๑ มีการพิมพ์ข้อความคลาดเคลื่อน สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจึงขอแก้ไขให้ถูกต้อง ดังนี้ “๑. เห็นชอบการจัดสรรอัตราข้าราชการจากผลการเกษียณอายุเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ เพิ่มให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) รวม ๕๐ อัตรา เพื่อรองรับภารกิจปราบปรามยาเสพติดที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับชุดควบคุมเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่จะนำไปติดตั้งในทัณฑสถานและเรือนจำ และชุดควบคุมเครื่องมือพิเศษ เพื่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร จำนวน ๒๓ อัตรา และภารกิจบังคับใช้กฎหมายให้สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค ๑ - ๙ จำนวน ๒๗ อัตรา ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ซึ่งไม่เกินกรอบอัตรากำลังที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๔ อนุมัติไว้แล้ว” |
||||||||||||||||||||||||
32932 | ขออนุมัติขยายเวลาดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา | ศธ | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการขยายระยะเวลาขอรับจัดสรรสำหรับโครงการยกระดับคุณภาพอาชีวศึกษาสู่ความทันสมัย ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้เคยอนุมัติไว้แล้ว ๒. รับทราบรายงานข้อมูลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการกำหนดราคากลางรายการครุภัณฑ์ จำนวน ๑๓ รายการ และข้อมูลเพิ่มเติมที่คณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง๒๕๕๕ ทราบแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
32933 | ขอขยายระยะเวลาโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถสาธารณะในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | กค | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังรับเรื่อง ขอขยายระยะเวลาโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถสาธารณะในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คืนไปเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีผลเป็นการสร้างความผูกพันให้คณะรัฐมนตรีชุดต่อไปต้องดำเนินการ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
|
||||||||||||||||||||||||
32934 | ขออนุมัติรายชื่อผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ประจำปีการศึกษา 2554 - 2555 จากคณะรัฐมนตรี | กห | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติรายชื่อบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ ๕๔ จำนวน ๑๐๖ คน และหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่นที่ ๒๔ จำนวน ๑๑๑ คน ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๔ - ๒๕๕๕ ห้วงการศึกษาตั้งแต่วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ๒. สำหรับกรณีที่ตรวจสอบคุณสมบัติในภายหลังพบว่า ผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการศึกษาหลักสูตรตามข้อ ๑ ขาดคุณสมบัติตามระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้กระทรวงกลาโหม โดยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ตัดรายชื่อออกจากจำนวนที่ได้รับอนุมัติ หากมีความจำเป็นที่จะพิจารณาผู้ที่จะเข้าศึกษาทดแทนให้กระทรวงกลาโหม โดยสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรดำเนินการตามความเหมาะสม นั้น ให้กระทรวงกลาโหมนำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่พิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
32935 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ครั้งที่ 16 | กต | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ครั้งที่ ๑๖ (XVI Ministerial Conference and Commemorative Meeting of the Non - Aligned Movement - NAM) ระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ณ บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมฯ ในครั้งนี้ โดยสาระสำคัญของการประชุมฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. การกล่าวถ้อยแถลงของผู้แทนประเทศต่าง ๆ ได้แก่ การดำเนินงานและความร่วมมือของ NAM ตลอด ๕๐ ปี นับจากการก่อตั้งประสบความสำเร็จและมีพัฒนาการหลายด้าน และในอีก ๕๐ ปีข้างหน้า NAM ต้องมีบทบาทเพิ่มขึ้นในด้านการสนับสนุนการปฏิรูปสหประชาชาติและองค์การด้านการเงินระหว่างประเทศ ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย เคารพความแตกต่างทางความเชื่อและศาสนา รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกให้เข้าถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเท่าเทียมกัน สำหรับคณะผู้แทนไทยได้กล่าวถ้อยแถลง มีสาระสำคัญคือ ในระยะเวลา ๕๐ ปีที่ผ่านมา NAM ประสบความสำเร็จในการรวมกลุ่มเพื่อเรียกร้องการปลดปล่อยอาณานิคม และริเริ่มความร่วมมือในหลายสาขา บทบาทของ NAM ในอีก ๕๐ ปีข้างหน้า สามารถแบ่งได้เป็น ๒ ด้าน ได้แก่ บทบาทของ NAM ที่มีต่อประเทศสมาชิก เช่น ความร่วมมือการพัฒนาที่ยั่งยืน และการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ และบทบาทของ NAM ต่อประชาคมโลก โดยการสนับสนุนการอยู่ร่วมกันอย่างสันติท่ามกลางความแตกต่างทางค่านิยมและความเชื่อ ๒. การหารือทวิภาคี โดยระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือทวิภาคีกับผู้แทนทั้งหมด ๙ ประเทศ และ ๑ องค์กร ซึ่งประเด็นการหารือ ได้แก่ โอกาสในการริเริ่มหรือผลักดันความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ ที่ไทยมีศักยภาพ หรือสาขาที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศไทย ความร่วมมือในกรอบอาเซียน และกระบวนการปฏิรูปคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
32936 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ 9/2554 (ครั้งที่ 14) | กษ | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ครั้งที่ ๙/๒๕๕๔ (ครั้งที่ ๑๔) เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๔ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธาน กนป. เสนอ โดยที่ประชุม กนป. มีมติ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพลังงาน ดำเนินการและนำเสนอที่ประชุม กนป. ในการประชุมครั้งต่อไป ดังนี้ ๑.๑ กระทรวงพาณิชย์ศึกษาโครงสร้างราคาและการกำหนดราคาน้ำมันพืชปาล์มที่เหมาะสม และเป็นธรรมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ๑.๒ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ศึกษาต้นทุนการผลิตปาล์มน้ำมัน ๑.๓ กระทรวงพลังงานกำหนดการใช้น้ำมันปาล์มในการผลิตไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นเพื่อดูดซับผลผลิตน้ำมันปาล์มส่วนเกินในปัจจุบัน ๒. เห็นชอบกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กนป. จำนวน ๑๐ ท่าน ได้แก่ นายกนก คติการ นาวาเอกสมัย ใจอินทร์ นายพลัฏฐ์ ฐิติณัฐชนน นายอเนก ลิ่มศรีวิไล นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ นายสัญญา ปานสวี นายสุคนธ์ เฉลิมพิพัฒน์ นายลือชา อุ่นยวง นายสมชาย ประชาบุตร และให้ฝ่ายเลขานุการ กนป. ดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
32937 | ข้อมูลเตือนภัยสินค้าเกษตรประจำเดือน มิถุนายน 2554 | พณ | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อมูลเตือนภัยสินค้าเกษตรประจำเดือนมิถุนายน ๒๕๕๔ โดยมีสินค้าที่อยู่ในกลุ่มที่ต้องดูแลและติดตามใกล้ชิด (monitor list) ๑๑ สินค้า ได้แก่ ข้าว ปาล์มน้ำมัน ไข่ไก่ สุกร ไก่เนื้อ มันสำปะหลัง สับปะรด และผลไม้ (ภาคตะวันออก : เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง) สินค้าที่ต้องมีการเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์เพื่อการเตือนภัย (caution list) ๔ สินค้า ได้แก่ กุ้งขาวแวนนาไม มะนาว ลิ้นจี่ และปลาป่น ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ในส่วนของราคาเนื้อสุกรที่จำหน่ายจริงในท้องตลาด ปัจจุบันยังคงมีราคาค่อนข้างสูงกว่าราคาตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่อง ราคาสุกร เนื้อสุกรแนะนำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค ดังนั้น จึงขอให้กระทรวงพาณิชย์เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อควบคุมราคาเนื้อสุกรให้เหมาะสม สอดคล้องกับราคาต้นทุนที่แท้จริงโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
32938 | รายงานสรุปสถานการณ์ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เส้นที่ 1ขนาด 34 นิ้ว ในอ่าวไทย รั่ว | พน | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปสถานการณ์ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เส้นที่ ๑ ขนาด ๓๔ นิ้ว ในอ่าวไทย รั่ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สาเหตุที่ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เส้นที่ ๑ ขนาด ๓๔ นิ้ว ในอ่าวไทย รั่ว เนื่องมาจากเรือที่รับหน้าที่วางท่อส่งก๊าซธรรมชาติของแหล่งปลาทอง ๒ ได้วางสายสมอเรือไปเกี่ยวเข้ากับระบบท่อส่งก๊าซบริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างท่อก๊าซเส้นที่ ๑ และท่อกิ่งของแหล่งก๊าซปลาทอง ส่งผลให้ระบบท่อได้รับความเสียหายและเกิดรอยรั่ว ทำให้จำเป็นต้องระงับการใช้ท่อเส้นที่ ๑ ที่มีกำลังการส่งก๊าซ ๘๕๐ ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งส่งผลต่อการจ่ายก๊าซเข้าระบบในปริมาณเดียวกัน ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการเพื่อเป็นการลดผลกระทบด้านเชื้อเพลิง รวมทั้งบริหารจัดการด้านไฟฟ้าเพื่อลดผลกระทบจากปริมาณก๊าซฯ ที่ลดลง ๒. สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายของระบบท่อ พร้อมทั้งได้เตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ใน ๒ ลักษณะ คือ สามารถซ่อมระบบท่อแล้วเสร็จได้ภายใน ๑๔ วัน และกรณีที่ตรวจพบความเสียหายร้ายแรงซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาซ่อมประมาณ ๖๐ วัน ซึ่งจำเป็นต้องมีการใช้น้ำมันดีเซลและการนำก๊าซธรรมชาติเหลว (NGV) มาใช้เพิ่มเติม นอกจากนี้ ได้สั่งการให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินที่ สำนักงานใหญ่ และศูนย์ประสานการจัดหาก๊าซฯ จากผู้รับสัมปทานปิโตรเลียม ของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
|
||||||||||||||||||||||||
32939 | การจัดซื้ออาหาร เครื่องบริโภคและวัสดุเพื่อการหุงหาอาหาร กระทรวงยุติธรรม | ยธ | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการหารือร่วมระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับผู้แทนจากองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย องค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวกับการจัดซื้ออาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการหุงหาอาหาร ของกระทรวงยุติธรรม โดยจะทดลองจัดซื้อเนื้อสัตว์ประเภทหมูและไก่เป็นโครงการนำร่องด้วยวิธีกรณีพิเศษ ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ไปจนกว่าการเตรียมการประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์จะแล้วเสร็จ และคาดว่าจะสามารถดำเนินการวิธีดังกล่าวแล้วเสร็จได้ภายใน ๔๕ วัน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32940 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการเจรจาผลประโยชน์ตอบแทนจากการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาร่วมการงานกรณีการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับบริษัทเอกชนคู่สัญญา กรณีการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ | ทก | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการเจรจาผลประโยชน์ตอบแทนจากการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาร่วมการงานกรณีการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับบริษัทเอกชนคู่สัญญา กรณีการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินงานในระยะต่อไป ควรพิจารณาความเหมาะสมในการดำเนินการภายใต้กรอบแนวทางตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ [เรื่อง การแก้ไขสัญญาสัมปทานของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ตามแนวทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕] โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการ ภาครัฐ การพัฒนาและการแข่งขันเสรีอย่างเป็นธรรมของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในภาพรวม ไปประกอบการดำเนินการด้วย |
.....