ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1643 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 32841 - 32860 จากข้อมูลทั้งหมด 123983 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32841 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายบัณฑูร สุภัควณิช ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนางฐิติมา ฉายแสง ให้ดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งข้าราชการการเมือง ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รวม ๒ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายบัณฑูร สุภัควณิช ดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๒. นางฐิติมา ฉายแสง ดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||
32842 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (รวม 282 คณะ) | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีชุดเดิมมีมติแต่งตั้งไว้ (ไม่รวมถึงคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยอาศัยอำนาจตามระเบียบหรือตามกฎหมายหนึ่งกฎหมายใด หรือคณะกรรมการที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งไว้) ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนถึงวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๔ และภายหลังจากนั้นให้คณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งทุกคณะเป็นอันสิ้นสุดลง ๒. หากกระทรวง กรมเห็นว่า คณะกรรมการชุดใดมีความสำคัญและจำเป็นต้องมีอยู่ ให้เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวขึ้นใหม่ โดยให้ตรวจสอบองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยด่วน และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรวบรวมเรื่องเกี่ยวกับคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของทุกกระทรวง กรม เสนอคณะรัฐมนตรีคราวเดียวกันภายในวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๔ ทั้งนี้ คณะกรรมการใดที่กระทรวง กรม จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแต่งตั้งดังกล่าว หากสามารถกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานและภารกิจสิ้นสุดที่ชัดเจนได้ ให้ระบุวันสิ้นสุดของคณะกรรมการนั้น ๆ ไว้ด้วย ๓. คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า บางกระทรวงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองงาน/โครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทำให้มีขั้นตอนการเสนอเรื่องเพิ่มขึ้นและเกิดความล่าช้าโดยไม่จำเป็น จึงขอให้กระทรวงต่าง ๆ รับไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณายกเลิกกลไกดังกล่าว
|
|||||||||||||||
32843 | มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี (จำนวน 5 ราย 1. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ 2. ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง 3. พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ 4. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง 5. นายชุมพล ศิลปอาชา) | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ คณะรัฐมนตรีมอบหมายเป็นหลักการให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ตามลำดับ ดังนี้ ๑.๑ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ๑.๒ ร้อยตำรวจเอก เฉลิมอยู่บำรุง ๑.๓ พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ ๑.๔ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ๑.๕ นายชุมพล ศิลปอาชา ๒. ในระหว่างการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนตามข้อ ๑ จะสั่งการใดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบประมาณอันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรีต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีเสียก่อน
|
|||||||||||||||
32844 | สรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2554 | กษ | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “นกเตน” ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม เป็นต้นมา ทำให้ทั่วประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่งผลทำให้เกิดผลกระทบด้านการเกษตรทั้งสิ้นรวม ๔๔ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน นครสวรรค์ พะเยา พิจิตร พิษณุโลก แพร่ เพชรบูรณ์ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุบลราชธานี กรุงเทพ ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ฉะเชิงเทรา ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และชุมพร ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ๒๐ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน สุโขทัย ตาก พิษณุโลก อุตรดิตถ์ พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ยโสธร นครนายก และปราจีนบุรี ๒. ผลกระทบด้านการเกษตร ๒.๑ ด้านพืช เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๓๗๙,๖๙๘ ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย ๓,๒๒๓,๒๗๕ ไร่ แบ่งเป็น ข้าว ๒,๘๗๓,๖๐๒ ไร่ พืชไร่ ๒๕๔,๔๘๖ ไร่ พืชสวนและอื่น ๆ ๙๕,๑๘๗ ไร่ ๒.๒ ด้านประมง เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๔๒,๙๓๑ ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคาดว่าจะเสียหาย แบ่งเป็น บ่อปลา ๔๕,๙๓๑ ไร่ กุ้ง/ปู/หอย ๔๙๓ ไร่ กระชัง/บ่อซีเมนต์ ๖๒,๕๒๒ ตารางเมตร ๒.๓ ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๓๒,๖๘๑ ราย สัตว์ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น ๒,๐๓๓,๔๘๕ ตัว แบ่งเป็น โค - กระบือ ๔๐,๙๔๗ ตัว สุกร ๓๙,๖๙๔ ตัว แพะ - แกะ ๓๕๘ ตัว สัตว์ปีก ๑,๙๕๒,๔๘๖ ตัว แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ ๓,๓๒๖ ไร่ ๓. การดำเนินการช่วยเหลือด้านการเกษตร ได้มีการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ จำนวน ๓ ฉบับ ของกรมชลประทาน และการคาดการณ์การเกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ของกรมพัฒนาที่ดิน รวมทั้งการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ รถยนต์บรรทุกน้ำ พืชอาหารสัตว์ และดูแลสุขภาพสัตว์
|
|||||||||||||||
32845 | รายงานการดำเนินงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์ และการสาธารณสุข กรณีอุทกภัย | สธ | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์ และการสาธารณสุข กรณีอุทกภัย ของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์ และการสาธารณสุข กรณีอุทกภัย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ๑.๑ จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จำนวนรวม ๒๔๗ ครั้ง รวมจำนวนผู้รับบริการสะสม ๕๑,๗๙๖ ราย โรคที่พบ ๕ อันดับแรก ได้แก่ น้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนัง และบาดแผลจากอุบัติเหตุ ยังไม่พบการระบาดของโรค ๑.๒ การให้บริการด้านสุขภาพจิต รวมสะสม ๑,๓๓๗ ราย พบว่ามีความเครียดสูง ๑๒๕ ราย มีภาวะซึมเศร้า ๒๕๔ ราย มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ๖๑ ราย ต้องติดตามดูแลพิเศษ ๑๐๖ ราย ๒. การสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข ๒.๑ ให้โรงพยาบาลลุ่มน้ำเจ้าพระยาและป่าสักเฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัย และพร้อมดำเนินการ ๔ แผน คือ แผนป้องกันไม่ให้น้ำท่วมโรงพยาบาล เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง แผนสำรองทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้บริการผู้ป่วย แผนส่งต่อผู้ป่วยมีอาการหนัก และแผนการปรับบริการหากเกิดน้ำท่วมในโรงพยาบาล ให้มีการเฝ้าระวังระดับน้ำ และสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมของสถานบริการสาธารณสุขในจังหวัดพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและป่าสัก ๒.๒ สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์จากส่วนกลาง ยอดสะสม ยาชุดช่วยผู้ประสบภัย ๒๙๗,๕๐๐ ชุด ยาตำราหลวง ๑๐,๐๐๐ ชุด ยาแก้น้ำกัดเท้า ๒๐,๐๐๐ ชุด เซรุ่มแก้พิษงู (งูเห่า ๑๐๐ หลอด งูแมวเซา ๑๐๐ หลอด งูเขียวหางไหม้ ๑๐๐ หลอด) สำหรับส่วนกลางขณะนี้มีสำรองชุดช่วยผู้ประสบภัยเพิ่มเติม ๕๐๐,๐๐๐ ชุด วัสดุ ยาแก้น้ำกัดเท้า ๑๐๐,๐๐๐ หลอด เชียงใหม่ พิษณุโลก อุดรธานี และหาดใหญ่ สำรองแห่งละ ๓๐,๐๐๐ ชุด สำรองเซรุ่มแก้พิษงู ๗ ชนิด (งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม งูแมวเซา งูเขียวหางไหม้ งูกะปะ และงูทับสมิงครา) จำนวน ๓,๕๐๐ ชุด สำรองวัสดุ และเคมีภัณฑ์สำหรับการฟื้นฟูสภาพและสิ่งแวดล้อมให้กับศูนย์อนามัยและสำนักงานควบคุมโรค ๑๒ เขต ๑๔ รายการ ๒.๓ การติดตามเฝ้าระวังในพื้นที่ที่เห็นว่าควรแจ้งเตือนสถานบริการสาธารณสุข ในระยะนี้ ดังนี้ ๒.๓.๑ แม่น้ำปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี อำเภอกบินทร์บุรี ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ย่านหลี่ อำเภอศรีมหาโพธิ์ ได้แก่ รพ.สต.บ้านทาม รพ.สต.ท่าตูม (ท่วมทุกปี) รพ.สต.สัมพันธ์ รพ.สต.เมืองกล่าว รพ.สต.นาแขม รพ.สต.บางกุ้ง อำเภอเมือง ได้แก่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ รพ.สต.บางบริบูรณ์ รพ.สต.หาดสะแก รพ.สต.บางเดชะ รพ.สต.วัดโบสถ์ (ท่วมทุกปี) รพ.สต.บ้านสร้าง ๒.๓.๒ แม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดปทุมธานี อำเภอเมือง ได้แก่ รพ.สต.บ้านฉาง รพ.สต.บ้านกระแชง รพ.สต.บางกระดี่ ความเสี่ยงสูง (มีที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำ/คลองสายหลัก/นอกคันกั้นน้ำ) อำเภอสามโคก ได้แก่ รพ.สต.บ้านงิ้ว รพ.สต.บางเตย ม.๙ รพ.สต.บางเตย ม.๑ รพ.สต.บางกระบือ รพ.สต.บางกระดี่ รพ.สต.สามโคก รพ.สต.บางคูวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) สามโคก และ รพ.สต.บางคูวัด ๑ โดยเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ระดับน้ำสูงขึ้นและป้องกันสถานบริการ หากมีแผนอยู่แล้วให้ทบทวนแผนป้องกันโรงพยาบาลให้พร้อมนำมาใช้งานและเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด
|
|||||||||||||||
32846 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2554 และแนวโน้มปี 2554 | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ ๒ ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ และแนวโน้มปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ ๒ ขยายตัวร้อยละ ๒.๖ ชะลอจากไตรมาสที่ผ่านมา ที่ขยายตัวร้อยละ ๓.๒ เป็นผลมาจากการหดตัวของภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่น รวมทั้งการชะลอลงของการลงทุน อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุปสงค์จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น การส่งออกและภาคการท่องเที่ยวขยายตัว เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ และปรับผลของฤดูกาลออกลดลงร้อยละ ๐.๒ ทำให้เศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ขยายตัวร้อยละ ๒.๙ โดยมีปัจจัยสนับสนุน ดังนี้ ๑.๑ ภาคการส่งออก ในไตรมาสที่ ๒ มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ ๕๗,๓๔๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ ๑๙.๒ การส่งออกสินค้าหลัก ๆ ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องปรับอากาศ ขยายตัวร้อยละ ๗๖.๒ ๓๔.๕ และ ๓๓.๗ ตามลำดับ ตลาดส่งออกหลักยังคงขยายตัว ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ขยายตัวร้อยละ ๒๒.๗ ๑๗.๕ ๓๕.๙ และ ๒๐.๓ ตามลำดับ ๑.๒ ภาคการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเมืองไทย จำนวน ๔.๓๗ ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๐.๑ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลีใต้ และอินเดีย เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๖๐. ๗ ๖๕.๓ และ ๕๓.๒ ตามลำดับ มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๕.๙ อัตราการเข้าพักอยู่ที่ร้อยละ ๕๒.๒ ปรับตัวสูงขึ้นจากร้อยละ ๓๘.๘ เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในสาขาโรงแรมและภัตตาคารขยายตัวสูงถึงร้อยละ ๑๙.๘ ๑.๓ การใช้จ่ายภาคครัวเรือน ขยายตัวร้อยละ ๒.๘ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้เกษตรกร จากราคาที่สูงขึ้นของพืชผลหลัก เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน ประกอบกับอัตราการว่างงานต่ำที่ร้อยละ ๐.๖ ในขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ ๗๑.๓ ปรับลงเล็กน้อยจาก ๗๑.๙ ในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งระดับราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูง เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ๒. แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี พ.ศ. ๒๕๕๔ คาดว่าจะขยายตัวในช่วงร้อยละ ๓.๕ - ๔.๐ โดยปัจจัยสนับสนุนการขยายตัว ได้แก่ การปรับตัวดีขึ้นของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ เศรษฐกิจเอเชียที่ยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดี การปรับตัวดีขึ้นของบรรยากาศและความเชื่อมั่นทางการเมือง การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี รายได้ภาคครัวเรือนยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดี การปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดีและสินเชื่อยังคงขยายตัวได้ดี
|
|||||||||||||||
32847 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (จำนวน 2 ราย) (พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม) | คค | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายการรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป โดยให้เป็นไปตามลำดับ ดังนี้
๑. พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ๒. นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
|
|||||||||||||||
32848 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายประเชิญ ติยะปัญจนิตย์) | อก | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายประเชิญ ติยะปัญจนิตย์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||
32849 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (จำนวน 2 ราย) (นายธรรมรัต หวั่งหลี เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายสุรกิจ ลิ้มสิทธิกูล เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) | กษ | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายธรรมรัต หวั่งหลี ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๒. นายสุรกิจ ลิ้มสิทธิกูล ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
|
|||||||||||||||
32850 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (จำนวน 2 ราย) (พลตำรวจตรี เกษม รัตนสุนทร เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายถิรชัย วุฒิธรรม เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. พลตำรวจตรี เกษม รัตนสุนทร เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ๒. นายถิรชัย วุฒิธรรม เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
|
|||||||||||||||
32851 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (จำนวน 2 ราย) (นายสุระ เตชะทัต เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ นายสัมฤทธิ์ พงษ์วิรัตน์ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม) | วธ | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายสุระ เตชะทัต เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ๒. นายสัมฤทธิ์ พงษ์วิรัตน์ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
|
|||||||||||||||
32852 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางดารณี เลศะวานิช ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) | กก | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนางดารณี เลศะวานิช ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||
32853 | แนวทางการจัดทำงบประมาณ (Guideline) | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการจัดทำงบประมาณ (Guideline) ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||
32854 | มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ปี 2554 | กค | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้ามาตรการให้ความช่วยแหลือผู้ประสบอุทกภัย ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. มาตรการด้านการเงิน ได้กำหนดมาตรการด้านการเงินผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ จำนวน ๘ แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าเดิมของธนาคารในเรื่องการพักชำระหนี้ ขยายระยะเวลาชำระหนี้ และลดดอกเบี้ย รวมทั้งให้เงินกู้ใหม่แก่ลูกค้าเดิมและประชาชนทั่วไปเพื่อฟื้นฟูอาชีพและซ่อมแซมบ้าน/อาคารที่เสียหาย โดยลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าปกติ และลดหย่อนเกณฑ์การพิจารณา ๒. การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม กรมบัญชีกลางได้ช่วยให้ทางราชการสามารถดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยอนุมัติให้จังหวัดที่ประสบภัยพิบัติรุนแรงและขยายวงเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึง ๓. มาตรการด้านภาษี ๓.๑ ผู้ประสบอุทกภัยทั้งบุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลให้ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินชดเชยที่ได้รับจากภาครัฐ ๓.๒ ผู้ประสบอุทกภัยที่เป็นบุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้ประกอบการ [มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๕๐(๕) ถึง (๘) แห่งประมวลรัษฎากร] ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับศูนย์หรือหน่วยงานให้ความช่วยเหลือของทางราชการ ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวนเท่าจำนวนความเสียหายที่ได้รับ ๓.๓ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและได้รับเงินได้ที่เป็นค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัย ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับจากการประกันภัยเพื่อชดเชยความเสียหายดังกล่าวเฉพาะส่วนที่เกินมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินที่เหลือจากการหักค่าสึกหรอหรือค่าเสื่อมราคาแล้ว ๓.๔ การบริจาคให้กับผู้ประสบอุทกภัยผ่านหน่วยงานส่วนราชการ องค์การของรัฐบาล องค์การหรือสถานสาธารณกุศล หรือผ่านเอกชนที่เป็นตัวแทนรับบริจาคที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมสรรพากร เพื่อนำไปบริจาคต่อให้กับผู้ประสบอุทกภัย สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายในทางภาษีได้ไม่เกินร้อยละ ๒ ของกำไรสุทธิ (กรณีผู้บริจาคเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และสามารถบริจาคได้ทั้งเงินและทรัพย์สิน) และไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของเงินได้สุทธิ (กรณีผู้บริจาคเป็นบุคคลธรรมดาสำหรับการบริจาคเป็นเงินเท่านั้น) ทั้งนี้ ผู้รับบริจาคได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับบริจาคมาถือเป็นเงินได้ ทั้งนี้ ต้องไม่เกินกว่ามูลค่าความเสียหายที่ได้รับ ๓.๕ การพิจารณาขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีสรรพากรให้กับบางพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยรุนแรงตามความจำเป็นและสมควร
|
|||||||||||||||
32855 | สรุปสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน "นกเตน" (NOCK - TEN) และร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่าน และอิทธิพลของร่องมรสุม กำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม - 25 สิงหาคม 2554) | มท | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “นกเตน” (NOCK - TEN) และร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่าน และอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม - ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔) ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากพายุโซนร้อน “นกเตน” (NOCK - TEN) และร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม - ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔) มีพื้นที่ซึ่งประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม ๓๐ จังหวัด ๒๕๙ อำเภอ ๑,๗๗๒ ตำบล ๑๔,๘๕๖ หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดแพร่ เชียงใหม่ สุโขทัย น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ นครพนม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อุดรธานี หนองคาย มุกดาหาร บึงกาฬ สกลนคร เลย เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ นครนายก ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดชัยนาท ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๑,๐๔๑,๖๓๙ ครัวเรือน ๓,๕๗๘,๑๖๘ คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง ๑๙ หลัง เสียหายบางส่วน ๔,๕๖๖ หลัง พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย ๒,๒๓๕,๖๒๖ ไร่ ถนน ๕,๘๕๗ สาย สะพาน/คอสะพาน ๔๖๖ แห่ง บ่อปลา/บ่อกุ้ง ๒๔,๒๗๔ บ่อ ปศุสัตว์ ๑๖๔,๒๕๓ ตัว มีผู้เสียชีวิต ๔๖ ราย สูญหาย ๑ คน ทั้งนี้ จังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างฟื้นฟู จำนวน ๒๐ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ๒. สรุปสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย (ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔) ส่งผลกระทบในพื้นที่และประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม ๒ จังหวัด ๘ อำเภอ ๔๕ ตำบล ๓๕๓ หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดระยอง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๘,๑๖๔ ครัวเรือน ๒๕,๑๙๓ คน และเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ ได้เกิดวาตภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ที่หมู่ที่ ๘ ตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม บริเวณหน้าเทศบาลตำบลบ้านแหลม มีผู้เสียชีวิต ๑ ราย บาดเจ็บ ๓ คน ซึ่งทางจังหวัดเพชรบุรีกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
|
|||||||||||||||
32856 | รายงานการตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดเลย | ทส | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดเลย ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะ เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยมีผลการตรวจติดตามสรุปได้ ดังนี้
๑. จังหวัดเลยได้สรุปรายงานสถานการณ์อุทกภัยเนื่องมาจากอิทธิพลพายุ “นกเตน” ระหว่างวันที่ ๓๑ กรกฎาคม - ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ ส่งผลให้มีฝนตกหนักทั่วทุกพื้นที่ ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตรทั้ง ๑๔ อำเภอ เป็นเหตุให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน ๙๔ ตำบล ๕๔๖ หมู่บ้าน ๒๙,๙๕๖ ครัวเรือน มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงินประมาณ ๑๗๘,๗๕๖,๕๐๔ บาท ๒. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบถุงยังชีพและน้ำดื่มสะอาดให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย พร้อมทั้งรับฟังปัญหาและรวบรวมปัญหาทั้งหมดที่ได้รับในพื้นที่เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ทั้งในระยะเร่งด่วนและเตรียมแผนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
|
|||||||||||||||
32857 | การตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย (จังหวัดนครพนมฯ ระหว่างวันที่ 13 - 14 สิงหาคม 2554) | ทส | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานการตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติสและสิ่งแวดล้อม ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ให้การช่วยเหลือโดยแจกถุงยังชีพ น้ำดื่ม และเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ให้แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย และรับทราบข้อเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล ดังนี้
๑. จังหวัดนครพนม ๑.๑ อำเภอโพนสวรรค์ ขอรับการสนับสนุนระบบป้องกันน้ำท่วมบริเวณลุ่มน้ำสงครามและลุ่มน้ำห้วยทวย และบูรณะซ่อมแซมสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ๑.๒ อำเภอธาตุพนม อำเภอเรณูนคร อำเภอนาแก อำเภอปลาปาก ขอรับการสนับสนุนระบบป้องกันน้ำท่วมในลุ่มน้ำก่ำ ทำผิวถนนลาดยางเข้าบ้านปากบัง และบูรณะซ่อมแซมสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ๒. จังหวัดมุกดาหาร ขอรับการสนับสนุนระบบป้องกันน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร และบูรณะซ่อมแซมสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ
|
|||||||||||||||
32858 | มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๔๑/๒๕๕๔ เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี แล้ว โดยให้คำสั่งนี้มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||
32859 | การจัดระเบียบวาระการประชุมและการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเป็นวาระจร | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการจัดระเบียบวาระการประชุมและการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเป็นวาระจร ดังนี้
๑. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการจัดระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้งให้มีจำนวนเรื่องที่เหมาะสม เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการของการจัดทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี โดยให้มีเรื่องที่เสนอคณะรัฐมนตรีเป็นวาระจรได้เท่าที่จำเป็น ตามนัยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ และระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ ทั้งนี้ หากมีเรื่องจำเป็นเร่งด่วนต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเป็นวาระจร ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องส่งเรื่องให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในเวลา ๐๙.๐๐ น. ๒. กรณีเรื่องที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องสำคัญ มีผลกระทบสูงหรือเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องเสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีล่วงหน้าแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้มีเวลาเพียงพอที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานกลาง เช่น สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นต้น สามารถให้ความเห็นได้ทันทีและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีสามารถส่งเรื่องให้รัฐมนตรีได้ศึกษาข้อมูลรายละเอียดได้ทันก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้การพิจารณาตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีเป็นไปด้วยความรอบคอบ ถูกต้อง และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๒ (เรื่อง แนวทางการลดเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี) อย่างเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||
32860 | แก้ไขถ้อยคำในเอกสารคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า กระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่าถ้อยคำในเอกสารคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีหน้า ๑๐ ข้อ ๑.๑๔ และหน้า ๓๐ ข้อ ๔.๓.๓ สมควรแก้ไขให้ถูกต้องชัดเจนว่า จากเดิมคำว่า “โรคหลอดเลือด” เป็น “โรคหลอดเลือดสมอง” และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....