ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | มาตรการภาษีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ | กค | 11/10/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบมาตรการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนในประเทศและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดย ๑.๑.๑ ปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้คงจัดเก็บในอัตราร้อยละ ๒๓ ของกำไรสุทธิสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรอบระยะเวลาบัญชี ๒๕๕๕ ที่สิ้นสุดในหรือหลังวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ และให้ลดลงคงจัดเก็บอัตราร้อยละ ๒๐ ของกำไรสุทธิ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ๑.๑.๒ ปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งมีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน ๕ ล้านบาท โดยเพิ่มเงื่อนไขให้การได้รับสิทธิประโยชน์โดยวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต้องมีรายได้จากการประกอบกิจการขายสินค้าและการให้บริการไม่เกิน ๓๐ ล้านบาทต่อรอบระยะเวลาบัญชี ๑.๑.๓ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เคยนำหลักทรัพย์มาจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ ซึ่งได้รับสิทธิเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ ๒๕ ของกำไรสุทธิ จะได้รับการลดอัตราเหลือร้อยละ ๒๓ ของกำไรสุทธิเฉพาะรอบระยะเวลาบัญชี ๒๕๕๕ ที่สิ้นสุดในหรือหลังวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ และได้รับการลดอัตราเหลือร้อยละ ๒๐ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ๑.๑.๔ ปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าด้วยรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใน “ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ” โดยให้จัดเก็บในอัตราร้อยละ ๒๕ ของกำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน ๕๐ ล้านบาท สำหรับกรอบระยะเวลาบัญชี ๒๕๕๔ ที่สิ้นสุดในหรือหลังวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ๑.๒ อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๓ ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๒.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จากอัตราร้อยละ ๓๐ เหลืออัตราร้อยละ ๒๓ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๕๕ และลดลงเหลืออัตราร้อยละ ๒๐ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๕๖ และลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ๑.๒.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จากอัตราร้อยละ ๓๐ เหลืออัตราร้อยละ ๒๓ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๕๕ ๑.๒.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ลดอัตราภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าด้วยการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใน “ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ” โดยให้จัดเก็บในอัตราร้อยละ ๒๕ ของกำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน ๕๐ ล้านบาท สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี ๒๕๕๔ ที่สิ้นสุดในหรือหลังวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนร่วมกับกระทรวงการคลังทบทวนการให้สิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้สอดรับกับสภาวการณ์และการให้สิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนของต่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อเป็นการดูแลฐานภาษีเงินได้ของประเทศให้สอดคล้องกับการดำเนินการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลครั้งนี้
|
.....