ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1338 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 26741 - 26760 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
26741 | รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศและรายงานการวิเคราะห์ภาวะราคาสินค้าและเศรษฐกิจของไทยเดือนพฤศจิกายน 2556 | พณ | 07/01/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศและรายงานการวิเคราะห์ภาวะราคาสินค้าและเศรษฐกิจของไทยเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๖ เทียบกับเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ สูงขึ้นร้อยละ ๐.๐๙ (เดือนตุลาคม ๒๕๕๖ สูงขึ้นร้อยละ ๐.๑๗) จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาตามหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ ๐.๐๙ (เดือนตุลาคม ๒๕๕๖ สูงขึ้นร้อยละ ๐.๖๑) จากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดข้าว ร้อยละ ๐.๓๔ หมวดปลาและสัตว์น้ำ สูงขึ้นร้อยละ ๐.๔๒ หมวดเครื่องประกอบอาหาร สูงขึ้นร้อยละ ๐.๙๖ หมวดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ ๐.๐๔ หมวดอาหารสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ ๐.๖๒ สำหรับหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ ๐.๐๙ (เดือนตุลาคม ๒๕๕๖ ลดลงร้อยละ ๐.๐๕) จากดัชนีหมวดน้ำมันเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ ๐.๓๖ หมวดเคหสถาน สูงขึ้นร้อยละ ๐.๐๖ หมวดตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้นร้อยละ ๐.๑๕ หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษา และการศาสนา สูงขึ้นร้อยละ ๐.๐๔ หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า สูงขึ้นร้อยละ ๐.๐๒ หมวดเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ ๐.๖๗ ๒. ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๖ เท่ากับ ๑๐๓.๕๔ เทียบกับเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ สูงขึ้นร้อยละ ๐.๑๘ สินค้าและบริการที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ หมวดเคหสถาน หมวดอาหารสำเร็จรูป ประกอบด้วยอาหารบริโภค-ในบ้าน และอาหารบริโภค-นอกบ้าน หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษา และการศาสนา หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า หมวดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และหมวดเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์
|
||||||||||||||||||||||||
26742 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาสินค้าข้าว | กษ | 07/01/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาสินค้าข้าว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การแต่งตั้งคณะทำงานประสานงานวิจัยและพัฒนาข้าว โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายวราเทพ รัตนากร) เป็นประธาน ทำหน้าที่ประสานการจัดทำข้อมูล กำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าข้าว เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายการพัฒนาสินค้าข้าวตลอดห่วงโซ่คุณค่าการผลิต พิจารณากำหนดหัวข้อวิจัยผลิตภัณฑ์ข้าวที่มีเป้าหมายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถจำหน่ายได้เป็นจำนวนมาก มีมูลค่าสูง มีคุณภาพได้มาตรฐานสูง สามารถเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิตได้ รวมทั้งพิจารณากำหนดหัวข้อวิจัยในแต่ละห่วงโซ่คุณค่าการผลิตข้าวตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ผลักดันให้มีการนำผลงานวิจัยด้านข้าวที่มีแล้วและการวิจัยใหม่ ๆ ไปใช้ในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น และติดตามความก้าวหน้าการพัฒนา การส่งเสริมและแก้ไขปัญหาในกิจการสินค้าข้าว ๒. ทิศทางการวิจัยและพัฒนาสินค้าข้าวของประเทศไทย และข้อเสนอโครงการวิจัยด้านข้าว (นำร่อง) ปี ๒๕๕๗ ๒.๑ กรอบยุทธศาสตร์การวิจัย ได้มีการกำหนดกรอบยุทธศาสตร์การวิจัยเรื่องข้าวแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๐ โดยต้นน้ำ ประกอบด้วย ๒ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์การปรับปรุงพันธุ์ และยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตข้าว กลางน้ำ ประกอบด้วย ๑ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการหลังจากเก็บเกี่ยวและโลจิสติกส์ และปลายน้ำ ประกอบด้วย ๓ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและการแปรรูป ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและการตลาดข้าว และยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี ๒.๒ ผลงานตามกรอบยุทธศาสตร์ที่พร้อมจะนำไปขยายผล แยกเป็น ต้นน้ำ จำนวน ๑๐ เรื่อง ได้แก่ ด้านการปรับปรุงพันธุ์ข้าว ด้านเทคโนโลยีการผลิตข้าว ด้านลดความสูญเสียจากโรคและแมลงศัตรูข้าว ด้าน Zoning/ภาพถ่ายดาวเทียม กลางน้ำ จำนวน ๖ เรื่อง ได้แก่ ด้านการเก็บรักษาข้าว การลดความชื้น และการตรวจวิเคราะห์ข้าว และปลายน้ำ จำนวน ๑๒ เรื่อง ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เพื่อเป็นยา และการติดตามสถานการณ์ด้านการผลิตและการตลาด (Rice Watch) ๒.๓ แผนงานดำเนินการวิจัยที่สำคัญ ปี ๒๕๕๗ ได้มีการกำหนดหัวข้องานวิจัยด้านข้าวที่สำคัญที่จะดำเนินการ จำนวน ๑๔ หัวข้อ แบ่งเป็น ต้นน้ำ มุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาข้าวคุณภาพสูงเพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ต้นทุนการผลิตสูง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จำนวน ๔ หัวข้อ กลางน้ำ มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว จำนวน ๔ หัวข้อ และปลายน้ำ มุ่งเน้นการแปรรูปและผลิตภัณฑ์จากข้าวเพื่อเพิ่มมูลค่าและการเพิ่มขีดความสามารถในการขยายตลาดข้าวไทย จำนวน ๔ หัวข้อ รวมทั้งมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร จำนวน ๒ หัวข้อ ๒.๔ ข้อเสนอโครงการวิจัยด้านข้าวนำร่อง ปี ๒๕๕๗ มีจำนวน ๒ โครงการ วงเงินงบประมาณรวม ๑๖๐ ล้านบาท ได้แก่ โครงการขยายผลโรงอบแห้งข้าวเปลือกเพื่อลดความชื้นและการกำจัดศัตรูข้าวหลังการเก็บเกี่ยว วงเงิน ๖๐ ล้านบาท และโครงการขยายผลเครื่องต้นแบบในการกำจัดแมลงในข้าวสารโดยเทคโนโลยีจากคลื่นความถี่วิทยุเพื่ออาหารที่สะอาดและปลอดภัยระดับชุมชนและอุตสาหกรรม วงเงิน ๑๐๐ ล้านบาท ๓. โครงการสนับสนุนให้ชาวนารายใหญ่ที่มีผลผลิตส่วนเกินไม่สามารถเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกได้ (เกินวงเงิน ๓๕๐,๐๐๐ บาทต่อฤดู) มาเป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยกำหนดให้มีการจัดทำโครงการส่งเสริมชาวนาที่มีศักยภาพให้เป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์เชิงธุรกิจ โดยชาวนาสามารถเลือกที่จะประกอบธุรกิจเมล็ดพันธุ์ข้าวในกรณีต่าง ๆ ได้แก่ เป็นผู้ผลิต รวบรวม และจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวเอง เป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กับหน่วยงานและผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจด้านนี้อยู่แล้ว เป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวร่วมกับเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์ข้าวชุมชนกรณีชาวนาที่มีพื้นที่มากและมีศักยภาพอยู่รวมกันในชุมชนหลายรายประสงค์จะรวมกลุ่มกันผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ๔. การผลิตเอทานอลจากข้าว ได้มีการศึกษาแนวทางการนำข้าวไปผลิตเอทานอล ได้แก่ กระบวนการผลิตเอทานอล การประเมินต้นทุนการผลิตเอทานอล และโรงงานที่ผลิตเอทานอลในประเทศไทย ๕. ในการดำเนินการตามข้อ ๑-๓ จะใช้งบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ของหน่วยงานในการดำเนินงาน สำหรับข้อเสนอโครงการวิจัยด้านข้าวนำร่อง ปี ๒๕๕๗ จำนวน ๒ โครงการ อยู่ระหว่างการพิจารณาแหล่งเงินงบประมาณ ซึ่งหากมีการดำเนินงานทั้ง ๒ โครงการจะทำให้เกิดการขยายผลในเชิงพาณิชย์และมีความคุ้มค่าที่จะดำเนินโครงการวิจัย
|
||||||||||||||||||||||||
26743 | การรับรองวันดินโลกขององค์การสหประชาชาติ | กษ | 07/01/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการรับรองวันดินโลกขององค์การสหประชาชาติ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ที่ ๖๘ (UN General Assembly : UNGA 68th) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ค เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๖ ได้พิจารณาให้การรับรองวันดินโลก (World Soil Day) ตรงกับวันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปี และในปี ๒๕๕๘ เป็นปีดินสากล (International Year of Soil in 2015) ๒. ผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่มีการยอมรับในระดับสหประชาชาติ ให้วันที่ ๕ ธันวาคมเป็นวันดินโลกนั้น จากปี ๒๐๑๔ เป็นต้นไป ทุกวันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปี ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติกว่า ๒๐๐ ประเทศจะจัดงานเฉลิมฉลองวันดินโลก เนื่องจากองค์การสหประชาชาติได้มีมติรับรองซึ่งจะส่งผลให้วันดินโลกอยู่ในปฏิทินปฏิบัติงานขององค์การสหประชาชาติอย่างเป็นทางการ สำหรับประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักร่วมกับสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรประจำกรุงโรม จะได้เตรียมกิจกรรมเฉลิมฉลองวันดินโลกในวันที่ ๕ ธันวาคมทุกปี และปีดินสากล ในปี ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
26744 | รายงานผลการจัดหาเงินกู้โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 10 มิถุนายน 2556 | กค | 07/01/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการจัดหาเงินกู้โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ (เรื่อง โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต ๒๕๕๕/๕๖ ครั้งที่ ๒) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งมีการบริหารจัดการในกรอบวงเงินหมุนเวียนของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ เป็นจำนวนรวม ๔๖๓,๘๐๕ ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่ต่ำกว่ากรอบวงเงินหมุนเวียนของโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ๑.๑ เงินกู้ที่กระทรวงการคลังได้จัดหาเพื่อเป็นทุนหมุนเวียน ภายใต้กรอบวงเงินกู้ไม่เกิน ๔๑๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีหนี้คงค้างสำหรับโครงการฯ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ เป็นจำนวนรวม ๓๙๖,๗๕๖ ล้านบาท ยังคงเหลือกรอบวงเงินกู้ จำนวน ๑๓,๒๔๔ ล้านบาท (๔๑๐,๐๐๐-๓๙๖,๗๕๖ ล้านบาท) ๑.๒ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ใช้เงินทุนหมุนเวียนของ ธ.ก.ส. ภายใต้กรอบวงเงิน ๙๐,๐๐๐ ล้านบาท โดย ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ ธ.ก.ส. ได้ใช้เงินทุนไปแล้ว สำหรับปีการผลิต ๒๕๕๔/๕๕ และ ๒๕๕๕/๕๖ จำนวนรวม ๓๗,๙๙๔ ล้านบาท และปีการผลิต ๒๕๕๖/๕๗ จำนวน ๒๙,๐๕๕ ล้านบาท คงเหลือวงเงินอีก จำนวน ๒๒,๙๕๑ ล้านบาท (๙๐,๐๐๐-๓๗,๙๙๔-๒๙,๐๕๕ ล้านบาท) ๒. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเห็นควรให้มีการปรับปรุงแผนบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้เหมาะสม ซึ่งกระทรวงการคลังจะได้นำเรื่องการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะดังกล่าวเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาและนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ๓. เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวไว้แล้ว กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และ ธ.ก.ส. สามารถดำเนินการโครงการฯ ต่อไปได้ตามแนวทางที่เคยปฏิบัติมาตามอำนาจหน้าที่ให้ถูกต้องและสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ ข้อกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่ได้อนุมัติหรือเห็นชอบไว้ก่อนมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร
|
||||||||||||||||||||||||
26745 | ขออนุมัติลงนามในสัญญาก่อนได้รับอนุมัติเงินประจำงวด | นร04 | 07/01/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีลงนามในสัญญาก่อนได้รับอนุมัติเงินประจำงวดในการดำเนินโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 ทุกภาคทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ จำนวน ๑๐ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดอุบลราชธานี ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี นครสวรรค์ เชียงใหม่ ชลบุรี นครศรีธรรมราช และสงขลา ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
26746 | แนวทางปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขตามมาตรา 181 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | ลต | 07/01/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขตามมาตรา ๑๘๑ (๑) (๒) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อการกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อให้ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไปเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
26747 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) | กค | 25/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ ๐.๐๐๕ โดยน้ำหนัก ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๔ ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร ออกไปอีก ๑ เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
26748 | การยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดให้ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา - ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถีและทางเชื่องต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี เป็นทางต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษ ประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ และอัตราค่าผ่านทางพิเศษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 | คค | 25/12/2556 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
26749 | การรายงานสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2556 ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 | กค | 25/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานะหนี้สาธารณะของประเทศ โดยยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ มีจำนวน ๕,๔๓๐,๕๖๐.๐๔ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๔๕.๔๙ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) โดยเป็นหนี้ของรัฐบาลกู้โดยตรง จำนวน ๓,๗๗๔,๘๑๙.๔๙ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน ๑,๑๑๒,๙๗๓.๘๕ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน ๕๔๑,๙๓๒.๐๑ ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ จำนวน ๘๓๔.๖๙ ล้านบาท ส่วนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไม่มีหนี้คงค้าง ทั้งนี้ หนี้สาธารณะดังกล่าวจำแนกตามอายุของหนี้เป็นหนี้ระยะยาว จำนวน ๕,๒๑๘,๒๕๙.๐๐ ล้านบาท และหนี้ระยะสั้น จำนวน ๒๑๒,๓๐๑.๐๔ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๙๖.๐๙ และร้อยละ ๓.๙๑ ตามลำดับ และจำแนกตามแหล่งที่มาเป็นหนี้ต่างประเทศ จำนวน ๓๗๘,๐๗๑.๑๗ ล้านบาท และหนี้ในประเทศ จำนวน ๕,๐๕๒,๔๘๘.๘๗ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๖.๙๖ และร้อยละ ๙๓.๐๔ ตามลำดับ ๒. ผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ในช่วง ๖ เดือนหลังของปีงบประมาณ ๒๕๕๖ (เมษายน-กันยายน ๒๕๕๖) กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะตามกรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๙๕๙,๕๔๑.๗๘ ล้านบาท โดยมีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ ๔๙.๕๖ ของแผนการบริหารหนี้สาธารณะทั้งปี สำหรับผลการกู้เงินและบริหารจัดการหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรีภายใต้กรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ในช่วง ๖ เดือนหลังของปีงบประมาณ ๒๕๕๖ รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินและบริหารหนี้รวมทั้งสิ้น ๕๖,๓๑๔.๐๐ ล้านบาท |
||||||||||||||||||||||||
26750 | รายงานผลการจัดนิทรรศการโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างอนาคตประเทศ ครั้งที่ 2 | นร04 | 25/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการจัดนิทรรศการ “สร้างอนาคตไทย ๒๐๒๐” ระหว่างวันที่ ๘ พฤศจิกายน-๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และสงขลา (หาดใหญ่) ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กิจกรรมหลักในการจัดนิทรรศการฯ ประกอบด้วย การแสดงปาฐกถาพิเศษ และการเสวนาของผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนรูปแบบนิทรรศการฯ แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนที่ ๑ ก้าวใหม่การพัฒนา เชื่อมไทยสู่โลก และส่วนที่ ๒ ยกระดับทุกมิติเพื่อคนไทยทุกคน รวมทั้งกิจกรรมประกอบการชมนิทรรศการฯ เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เข้าร่วมชมนิทรรศการฯ ได้ศึกษาและทำความเข้าใจโครงการต่าง ๆ ๒. ผลการจัดนิทรรศการฯ จำนวนผู้เข้าร่วมนิทรรศการฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี เชียงใหม่ และนครศรีธรรมราช มีจำนวนทั้งสิ้น ๒๒๙,๙๖๒ คน ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมชมนิทรรศการ มีความประทับใจนิทรรศการรถไฟความเร็วสูงมากที่สุด และมีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ได้แก่ ควรประชาสัมพันธ์การจัดนิทรรศการฯ เพิ่มขึ้นและให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม เพิ่มเจ้าหน้าที่ตามจุดต่าง ๆ ภายในสถานที่จัดงาน และจัดสถานที่ให้มีขนาดเหมาะสมต่อปริมาณของผู้เข้าร่วมงาน สำหรับจังหวัดสงขลา (หาดใหญ่) มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่เห็นด้วยมาคัดค้านการจัดนิทรรศการฯ ทำให้ไม่สามารถจัดงานต่อไปได้ ๓. การดำเนินการในระยะต่อไป ๓.๑ ควรกำหนดให้มีหน่วยงานของภาครัฐเปิดช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยอาจจัดทำเว็บไซต์เรื่องการปรับโครงสร้างคมนาคมของประเทศอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องและให้บริการดาวน์โหลดเอกสารดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้รับรู้ข่าวสารการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างต่อเนื่อง ๓.๒ ควรมอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากลไกสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรม “จานด่วนไทย ไปครัวโลก” อย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับวิชาชีพการทำอาหารท้องถิ่นไปสู่ระดับมาตรฐานสากล ๓.๓ ควรมอบหมายให้หน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการสื่อสารมวลชนจัดให้มีการพัฒนาบุคลากรและระบบฐานข้อมูลเพื่อให้บุคลากรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้อย่างเข้าใจและลึกซึ้งเช่นเดียวกับสถานีโทรทัศน์ของภาคเอกชน
|
||||||||||||||||||||||||
26751 | ให้เร่งรัดการดำเนินโครงการอาหารกลางวันนักเรียนและโครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาให้แก่โรงเรียน | นร | 25/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายจังหวัดพบว่าการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการในความรับผิดชอบของหลายกระทรวงที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ/เห็นชอบไปแล้วก่อนการยุบสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่แล้วเสร็จและบรรจุผลในการปฏิบัติในระดับพื้นที่ เช่น โครงการอาหารกลางวันนักเรียนที่ได้มีการปรับค่าอาหารกลางวันจากเดิมในอัตรา ๑๓ บาทต่อคนต่อวัน เป็นอัตรา ๒๐ บาทต่อคนต่อวัน และโครงการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาให้แก่โรงเรียน เป็นต้น จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรับไปกำชับและติดตามการดำเนินการ โดยประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๖ (เรื่อง ขอให้เร่งรัดติดตามการดำเนินโครงการ/แผนงานในความรับผิดชอบ)
|
||||||||||||||||||||||||
26752 | คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไต่สวนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง | นร04 | 25/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการับไปศึกษารายละเอียดของข้อกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม สำหรับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมือง รวมทั้งแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
26753 | สถานกาารณ์เศรษฐกิจประจำเดือนตุลาคม และแนวโน้มปี 2556 และ 2557 | นร11 | 17/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ และแนวโน้มปี ๒๕๕๖ และ ๒๕๕๗ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ ๑.๑ ภาวะเศรษฐกิจไทยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญ (หลังปรับปัจจัยฤดูกาล) ปรับตัวดีขึ้น แสดงถึงการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะดัชนีการบริโภคภาคเอกชน การส่งออก และการผลิตภาคเกษตร ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัว ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวทรงตัว ๑.๒ ภาวะเศรษฐกิจไทยเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ เครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ ทั้งด้านการใช้จ่ายและการผลิตยังคงปรับตัวลดลง การใช้จ่ายภาคครัวเรือนปรับตัวดีขึ้น ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวลดลง โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการนำเข้าสินค้าทุนในเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าอยู่ในระดับสูง การส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ในขณะที่การท่องเที่ยวเริ่มชะลอตัว เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อัตราการว่างงานยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ๑.๓ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นเล็กน้อย อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลเนื่องจากการเกินดุลทั้งดุลการค้าและดุลบริการ ๑.๔ สถานการณ์ด้านการคลัง การจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาลในเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีและการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปรับตัวลดลง โดยหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน ๒๕๕๖ มีจำนวน ๕,๔๓๐,๕๖๐.๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๕ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ๑.๕ สถานการณ์ด้านการเงิน ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ สินเชื่อและเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ยังคงขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลออกสุทธิเนื่องจากการออกไปลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทยเป็นสำคัญ และในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๖ อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับลดลง ๒. แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี ๒๕๕๖ และ ๒๕๕๗ เศรษฐกิจไทยในปี ๒๕๕๖ มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ ๓.๐ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ ๒.๔ และบัญชีเดินสะพัดขาดดุลร้อยละ ๐.๙ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ส่วนเศรษฐกิจไทยในปี ๒๕๕๗ มีแนวโน้มขยายตัวในช่วงร้อยละ ๔.๐-๕.๐ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีอยู่ในช่วงร้อยละ ๒.๑-๓.๑ และบัญชีเดินสะพัดขาดดุลร้อยละ ๐.๖ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||
26754 | มอบหมายให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณากลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี | นร05 | 17/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณากลั่นกรองเรื่องต่าง ๆ ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ทั้งที่ได้เสนอเรื่องมาแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเรื่องที่จะเสนอมาใหม่ โดยให้นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีหรือส่งเรื่องคืนหน่วยงานเจ้าของเรื่องได้ตามแต่กรณีให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๖ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติอันเนื่องมาจากการยุสภาผู้แทนราษฎร) ทั้งนี้ เรื่องใดที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องคืนหน่วยงานเจ้าของเรื่องไปแล้ว และหน่วยงานเจ้าของเรื่องเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ก็ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องเร่งชี้แจงข้อมูลเหตุผลความจำเป็น พร้อมจัดทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง และส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการขอความเห็นจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง และนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
26755 | การจัดส่งข้อมูลเกี่ยวกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ | นร04 | 17/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า โดยที่ประเทศไทยจะต้องจัดส่งข้อมูลเกี่ยวกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ให้กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกาภายในวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๗ เพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานของประเทศไทยในการขจัดรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก ระหว่างเดือนมกราคม ๒๕๕๖-มีนาคม ๒๕๕๗ จึงสมควรที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เร่งรัดจัดส่งข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องให้กระทรวงแรงงาน เพื่อจัดทำข้อมูลเป็นภาพรวมของประเทศไทย แล้วส่งให้กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกาภายในกำหนดดังกล่าว ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) ประธานกรรมการประสานและกำกับดูแลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดจัดทำข้อมูลให้กระทรวงแรงงาน เพื่อจัดส่งข้อมูลให้กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกาได้ทันภายในวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๗
|
||||||||||||||||||||||||
26756 | ขอให้เร่งรัดติดตามการดำเนินโครงการ/แผนงานในความรับผิดชอบ | นร | 17/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้มีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเพื่อเรียกร้องความต้องการตามแนวทางและผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๖ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนานาประเทศ และในขณะนี้พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๕๖ มีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ มีผลให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ โดยคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ได้เท่าที่จำเป็นภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ตามนัยมาตรา ๑๘๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นั้น เพื่อให้การขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต่อเนื่อง และเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ จึงขอให้รัฐมนตรีทุกท่านกำชับให้หัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้าหน่วยงานต่าง ๆ ในความรับผิดชอบเร่งรัด กำกับ ติดตามการปฏิบัติงานและการดำเนินโครงการ/แผนงานต่าง ๆ ตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานนั้น ๆ ให้แล้วเสร็จ เป็นไปตามกรอบเวลาและงบประมาณที่ได้รับอนุมัติหรือได้รับความเห็นชอบไว้แล้ว โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
26757 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมและดำเนินการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป (กรณียุบสภา) | ลต | 17/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการสนับสนุนงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจในการควบคุมและดำเนินการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป (กรณียุบสภา) ในกรอบวงเงิน ๓,๘๘๕,๐๐๖,๕๐๐ บาท ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประสานกับคณะกรรมการการเลือกตั้งในการเชิญผู้แทนของหน่วยงานและองค์กรต่างประเทศมาเป็นผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง ๓. ให้รัฐมนตรีกำชับหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการในการจัดการเลือกตั้งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ด้วยความเป็นกลาง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ และยุติธรรม |
||||||||||||||||||||||||
26758 | คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ซึ่งยกอุทธรณ์ของนายดุสิต เจริญกุลทรัพย์ ที่เป็นโจทก์ฟ้องคณะรัฐมนตรีกับพวกรวม 3 คน ต่อศาลแพ่ง เรื่องที่โจทก์ขอรับสิทธิตามระเบียบของทางราชการภายหลังพ้นโทษจำคุกอันเนื่องมาจากคำสั่งตามมาตรา 17 แห่งธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2515 | อส | 17/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีหมายเลขดำที่ ๕๒๕/๒๕๕๖ คดีหมายเลขแดงที่ ๑๑๒๐๐/๒๕๕๖ ซึ่งพิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ในคดีหมายเลขดำที่ ๔๙๒๕/๒๕๕๕ คดีหมายเลขแดงที่ ๔๘๙๔/๒๕๕๕ ระหว่างนายดุสิต เจริญกุลทรัพย์ โจทก์ คณะรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวกรวม ๓ คน จำเลย เรื่อง เพิกถอนมติของคณะรัฐมนตรีและคำสั่งกระทรวงกลาโหม
|
||||||||||||||||||||||||
26759 | แนวทางปฏิบัติอันเนื่องมาจากการยุบสภาผู้แทนราษฎร | นร05 | 10/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ๒. เห็นชอบแนวทางปฏิบัติอันเนื่องมาจากการยุบสภาผู้แทนราษฎร ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาร่วมกัน และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติ ๓. เห็นชอบให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถือปฏิบัติ ๓.๑ กำชับข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดทุกประเภททุกระดับ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๓๙ [เรื่อง การปรับปรุง แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้ง (แจ้งตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๒๑๖/ว ๑๔๑ ลงวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๓๙)] โดยเคร่งครัด โดยเฉพาะการให้ความร่วมมือช่วยเหลือและสนับสนุน การดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อได้รับการร้องขอจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง รวมทั้งการวางตัวเป็นกลางของข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทและทุกระดับดังกล่าวด้วย ๓.๒ เห็นชอบในหลักการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถนำงบประมาณมาสนับสนุนการเลือกตั้งได้ โดย ๓.๒.๑ กรณีเป็นการดำเนินการใด ๆ ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้แต่ละหน่วยงานพิจารณาดำเนินการไปได้ตามความเหมาะสม ๓.๒.๒ กรณีเป็นการดำเนินการใด ๆ ที่ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้แต่ละหน่วยงานเสนอขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป ๓.๒.๓ เห็นชอบให้กระทรวง กรม รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างของหน่วยงานต่าง ๆ ดังกล่าว ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๐ [เรื่อง สรุปผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (แจ้งตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๕๐๖/ว ๑๔๗ ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๐)]
|
||||||||||||||||||||||||
26760 | การแต่งตั้งข้าราชการ (นางชลิดา โชติยกุล) | นร10 | 03/12/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางชลิดา โชติยกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลเชี่ยวชาญ) สำนักงาน ก.พ. ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
.....