ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1288 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 25741 - 25760 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25741 | การสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม | มท | 14/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้ทุกกระทรวงสั่งการให้ส่วนราชการในสังกัดทั้งส่วนราชการส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัด อำเภอ ส่วนราชการส่วนภูมิภาค รัฐวิสาหกิจในสังกัด ให้การสนับสนุนด้านบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ ข้อมูลงานบริการประชาชนด้านต่าง ๆ หรือด้านงบประมาณ ในการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ตามความเหมาะสมและจำเป็น ๑.๒ ให้ทุกกระทรวงสั่งการให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัด สนับสนุนการจัดทำข้อมูล งานบริการประชาชน ข้อมูลข่าวสารสำคัญที่ประชาชนควรทราบ ข้อมูล กฎ ระเบียบ เงื่อนไข ขั้นตอน การพิจารณาอนุมัติ/อนุญาต ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ข้อมูลรายชื่อเจ้าหน้าที่พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อขอทราบข้อมูล หรือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตลอด ๒๔ ชั่วโมง และช่องทางการส่งเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ หรืองานบริการอื่น ๆ ๒. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้กระทรวงมหาดไทยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี รายการที่หมดความจำเป็นหรือรายการที่มีเงินเหลือจ่ายในการดำเนินการในโอกาสแรกก่อน โดยให้กระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินให้ชัดเจน แล้วขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ หากงบประมาณที่ได้รับจัดสรรไม่เพียงพอ ก็ให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ไปดำเนินการ ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงมหาดไทยเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ขอความร่วมมือให้ฝ่ายต่าง ๆ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้แก่ ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายสังคมจิตวิทยา ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และฝ่ายกิจการพิเศษ สนับสนุนข้อมูลต่าง ๆ ในความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หรือที่ประชาชนควรทราบให้แก่ศูนย์ดำรงธรรมด้วย ๔. ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งจัดทำกรอบภารกิจและแนวทางการปฏิบัติงานในเรื่องต่าง ๆ ของศูนย์ดำรงธรรมให้ชัดเจน รวมทั้งให้จัดทำแผนการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมในระยะต่อไป (ระยะที่ ๒) ให้เหมาะสมชัดเจน โดยควรพิจารณากำหนดให้ศูนย์ดำรงธรรมมีอัตรากำลังรองรับการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบภารกิจที่กำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ และให้มีเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) ที่ชัดเจนด้วย |
||||||||||||||||||||||||
25742 | มาตรการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยแล้ง ปี 2557/2558 | กษ | 14/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสถานการณ์น้ำ ซึ่งเป็นการสรุปปริมาณฝนในช่วงฤดูฝนปี ๒๕๕๗ สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำอื่น ๆ และเห็นชอบการงดส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลอง โดยให้มีการออกประกาศทางราชการแจ้งพื้นที่ที่ให้งดการส่งน้ำและงดการทำนาปรังในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ รวม ๒๖ จังหวัด ทั้งนี้ การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยในพื้นที่งดส่งน้ำและงดทำนาปรัง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานตามมาตรการแก้ปัญหาผลกระทบจากภัยแล้ง ปี ๒๕๕๗/๒๕๕๘ ในกรอบวงเงินรวมทั้งสิ้น ๒,๓๗๗,๗๙๐,๐๐๐ บาท และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณโดยตรงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในระยะ ๓ เดือนแรก) โดยให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับการดำเนินโครงการเพื่อการปรับปรุง/ซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่เดิมมากกว่าการก่อสร้างใหม่ รวมทั้งให้พิจารณาใช้แรงงานจากประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ ด้วย ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยติดตามสถานการณ์ที่มีเกษตรกรบางส่วนยังคงปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลองที่ให้งดการส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูก และอาจได้รับความเสียหายจากการไม่มีน้ำเพียงพอได้ ๔. ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำของประเทศให้เหมาะสมสอดคล้องกับปริมาณน้ำที่กักเก็บได้ และความต้องการใช้น้ำในพื้นที่เกษตรกรรมทั้งที่อยู่ในเขตและนอกเขตชลประทาน รวมทั้งความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนการใช้พื้นที่การเพาะปลูกให้เหมาะสม (Zoning) และประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เกษตรกรและสาธารณชนผู้สนใจได้รับทราบโดยทั่วถึงกันด้วย |
||||||||||||||||||||||||
25743 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ลาออก | วท | 14/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ แทนนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ลาออก โดยให้ดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
25744 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร10 | 14/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๕๒ เพื่อจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมจริยธรรมขึ้นในสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่ข้าราชการพลเรือน และแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของศูนย์นักบริหารระดับสูง เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
25745 | ร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียน ในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 12 และร่างปฏิญญากังวอนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน | ทส | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียน สำหรับการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ ๑๒ โดยร่างแถลงการณ์ฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกันในระดับรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม ๑.๒ เห็นชอบในการรับรองร่างปฏิญญากังวอนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีการลงนาม และมอบหมายให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยเป็นผู้ร่วมรับรองปฏิญญาฯ ๑.๓ เห็นชอบประเด็นนำเสนอแลกเปลี่ยนสำหรับหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วย การบูรณาการความหลากหลายทางชีวภาพสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและวาระหลังปี ๒๐๑๕ การบูรณาการแผนปฏิบัติการความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติสู่การพัฒนาในระดับประเทศและท้องถิ่น การวางแผนพัฒนาและกลยุทธ์ขจัดความยากจน การใช้ระบบนิเวศที่สมบูรณ์เพื่อบรรเทาผลกระทบ/แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ท้าทายในระดับโลก และความหลากหลายทางชีวภาพและเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ๑.๔ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างแถลงการณ์ฯ และร่างปฏิญญาฯ ที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้เป็นดุลยพินิจของหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเป็นผู้พิจารณา โดยไม่ต้องนำกลับมาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาใหม่ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) เกี่ยวกับด้านต่างประเทศด้วย |
||||||||||||||||||||||||
25746 | การปรับปรุงคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค | นร04 | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๒๑/๒๕๕๗ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิรูปราชการในภูมิภาค เพื่อให้การตรวจราชการตามคำสั่งดังกล่าวครอบคลุมถึงการตรวจสอบความถูกต้องในการดำเนินโครงการและการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ และให้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
25747 | ร่างกฎบัตรสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย | กต | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างกฎบัตรสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย (Indian Ocean Rim Association : IORA) ซึ่งระบุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกรอบความร่วมมือสาขาความร่วมมือหลัก ประกอบด้วย ความปลอดภัยและความมั่นคงทางทะเล การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน การจัดการด้านการประมง การจัดการความเสี่ยงของภัยพิบัติ ความร่วมมือด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม โดยยึดหลักฉันทามติการปรับตัวเปลี่ยนแปลง และการไม่แทรกแซงในการดำเนินงาน การเปิดกว้างสมาชิกภาพให้กับรัฐอธิปไตยในภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย การให้สถานะคู่เจรจาหรือผู้สังเกตการณ์แก่รัฐหรือองค์กรอื่น กลไกการทำงาน (สภารัฐมนตรี คณะกรรมการเจ้าหน้าที่อาวุโส เวทีภาคธุรกิจ คณะทำงานด้านวิชาการ คณะทำงานด้านการค้าและการลงทุน ฯลฯ) บทบาทและหน้าที่ของสำนักเลขาธิการและเลขาธิการสมาคม การแต่งตั้งและวาระการดำรงตำแหน่งของเลขาธิการสมาคม การจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะทางเพื่อส่งเสริมกิจกรรมความร่วมมือ แหล่งที่มาและการบริหารจัดการงบประมาณและกองทุนพิเศษ และการรับรองและแก้ไขกฎบัตร ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ได้รับมอบหมายร่วมลงนามและให้การรับรองร่างกฎบัตรดังกล่าว (ในกรณีนี้มอบหมายรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) ๑.๓ ในกรณีที่ร่างกฎบัตรดังกล่าวเป็นหนังสือสัญญา มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม ๑.๔ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างกฎบัตรดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่องข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) เกี่ยวกับด้านต่างประเทศด้วย |
||||||||||||||||||||||||
25748 | เอกสารผลการประชุมสภารัฐมนตรีสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย ครั้งที่ 14 | กต | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแถลงการณ์เพิร์ทสำหรับการประชุมสภารัฐมนตรีสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย ครั้งที่ ๑๔ (14th Meeting of Council of Minister of Indian Ocean Rim Association) และร่างปฏิญญาด้านเศรษฐกิจ IORA หรือปฏิญญาสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย (Indian Ocean Rim Association : IORA) ว่าด้วยหลักการร่วมสำหรับการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยร่างเอกสารทั้งสองฉบับเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ด้านนโยบายทางการเมืองร่วมกันของรัฐสมาชิก IORA โดยกำหนดแนวทางเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายร่วมกันเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย โดยมุ่งให้เกิดความร่วมมือและการตระหนักถึงประเด็นด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สตรีและเด็ก ความมั่นคง การจัดการความเสี่ยงของภัยพิบัติ และความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างเอกสารทั้งสองฉบับ ๑.๓ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารทั้งสองฉบับที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) เกี่ยวกับด้านต่างประเทศด้วย |
||||||||||||||||||||||||
25749 | แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายสุรเดช วลีอิทธิกุล) | รง | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสุรเดช วลีอิทธิกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
25750 | การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ( นักบริหารระดับสูง) (นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ) | นร04 | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอนและแต่งตั้งนายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหารระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้กำหนดชื่อในสายงานตามตัวบุคคลผู้ได้รับการแต่งตั้ง โดยยังคงตำแหน่งในสายงานเดิมและให้ผู้ได้รับแต่งตั้งได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์อื่นที่ได้รับอยู่เดิม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
25751 | การมอบหมายให้ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ และมอบอำนาจการบังคับบัญชาให้รัฐมนตรี | นร04 | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๓๔/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ เรื่อง มอบหมายให้ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ และมอบอำนาจการบังคับบัญชาให้รัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
25752 | การปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี | นร04 | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๓๒/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ และคณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
25753 | ขอความเห็นชอบหลักการให้ข้าราชการการเมืองตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 และกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ | นร | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบหลักการให้ข้าราชการการเมืองตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕ และกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ดังนี้ ๑.๑ ต้องไม่ดำรงตำแหน่งกรรมการหรือที่ปรึกษาของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือองค์กรอื่นของรัฐ เว้นแต่การเป็นกรรมการตามที่กฎหมายบัญญัติหรือได้รับแต่งตั้งในการบริหารราชการแผ่นดิน ๑.๒ ต้องไม่เป็นคู่สัญญาอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอนหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ขัดหรือแย้งกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือองค์กรอื่นของรัฐ ทั้งนี้ โดยให้มีผลภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ๒. เห็นชอบในหลักการให้แก้ไขความในข้อ ๑๑ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ ให้สอดคล้องตามหลักการในข้อ ๑ โดยมอบหมายให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ดังกล่าว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
25754 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [ร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | นร | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
25755 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๔/๒๕๕๗ วันพฤหัสบดีที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๗ และครั้งที่ ๑๕/๒๕๕๗ วันศุกร์ที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน จำนวน ๑๐ ฉบับ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) เสนอ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงหน่วยงานที่ได้รับยกเว้นภาษีประจำปี) ๓. ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดความผิดเกี่ยวกับการถ่ายวีดิโอในโรงภาพยนตร์) ๔. ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (คุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิ) ๕. ร่างพระราชบัญญัติความลับทางการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๖. ร่างพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๗. ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ส่งใบสั่งทางไปรษณีย์) ๘. ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดสัญญาณจราจรเพิ่มเติมกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้ไฟฉายเรืองแสงในการแสดงสัญญาณจราจรได้) ๙. ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... ๑๐. ร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||
25756 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดสัญญาณจราจรเพิ่มเติม กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้ไฟฉายเรืองแสงในการแสดงสัญญาณจราจรได้)] | นร | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดสัญญาณจราจรเพิ่มเติมกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้ไฟฉายเรืองแสงในการแสดงสัญญาณจราจรได้) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
25757 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวม 2 ฉบับ) | นร | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่
๑. ร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงหน่วยงานที่ได้รับยกเว้นภาษีประจำปี)
|
||||||||||||||||||||||||
25758 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวม 2 ฉบับ) | นร | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่
๑. ร่างพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ส่งใบสั่งทางไปรษณีย์)
|
||||||||||||||||||||||||
25759 | ร่างพระราชบัญญัติราชบัณฑิตย์สภา พ.ศ. .... | รถ | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติราชบัณฑิตย์สภา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยราชบัณฑิตยสถาน โดยเปลี่ยนชื่อ “ราชบัณฑิตยสถาน” เป็น “ราชบัณฑิตย์สภา” ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของราชบัณฑิตย์สภาและการบริหารงานวิชาการของราชบัณฑิตย์สภา จัดตั้งกองทุนสวัสดิการสมาชิกราชบัณฑิตย์สภา และกำหนดให้รายได้ที่ราชบัณฑิตย์สภาได้รับจากการให้บริการทางด้านวิชาการและการจัดการศึกษาอบรม ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) เสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
25760 | ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรี | นร | 07/10/2557 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๑.๑ ให้ทุกส่วนราชการเร่งดำเนินโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึงให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน เช่น การจัดหารถเมล์ NGV ใหม่ โรงงานกำจัดขยะ เป็นต้น ๑.๒ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการและจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการระยะ ๓ เดือน ๖ เดือน ๙ เดือน และ ๑ ปี พร้อมทั้งกำหนดผลสัมฤทธิ์และระยะเวลาแต่ละกิจกรรมเพื่อให้มีความชัดเจนในการปฏิบัติ รวมทั้งสามารถติดตามและประเมินผลการดำเนินการได้ แล้วส่งให้นายกรัฐมนตรีภายในวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๗ ๑.๓ ให้ทุกส่วนราชการจัดเตรียมข้อมูลในความรับผิดชอบเพื่อชี้แจงประชาชนผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทยที่ออกอากาศทุกวันทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งนี้ หากส่วนราชการใดมีเรื่องจำเป็นจะต้องชี้แจงอย่างเร่งด่วนสามารถส่งเรื่องที่ต้องการชี้แจงให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาก่อนได้ ๑.๔ ให้ทุกส่วนราชการติดตามข้อมูลข่าวสารและความคิดเห็นจากสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับภารกิจหรือการดำเนินงานในความรับผิดชอบ เพื่อใช้ประกอบการปรับปรุงแก้ไขให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และหากข้อมูลใดที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงให้ส่วนราชการนั้นชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องด้วย ๑.๕ ตามที่มีข่าวแพร่หลายอยู่ในขณะนี้ว่า จะมีการยุบเลิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งชี้แจงสร้างความเข้าใจให้ส่วนราชการในสังกัดและประชาชนว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายในเรื่องดังกล่าว ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ ให้ส่วนราชการที่มีหน้าที่ในการพิจารณาอนุญาตเกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐานของสินค้า บริการ และอื่น ๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หาแนวทางการลดขั้นตอนในการพิจารณาอนุญาตเพื่อให้มีความสะดวก รวดเร็ว และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ๒.๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินขึ้น โดยให้มีผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ รวมทั้งให้มีผู้แทนจากภาคเอกชนและภาคประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในคณะกรรมการด้วย ๒.๓ โดยที่ปัจจุบันประชาชนนิยมสัญจรด้วยรถจักรยานส่งผลให้มีความต้องการซื้อรถจักรยานสูงขึ้น แต่เนื่องจากรถจักรยานที่มีประสิทธิภาพมักจะมีราคาแพงและประเทศไทยยังมีช่องทางเดินรถสำหรับรถจักรยานน้อย จึงให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาหาแนวทางการผลิตรถจักรยานที่มีมาตรฐานและจำหน่ายในราคาถูก และให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทยพิจารณาจัดช่องทางเดินรถที่มีความปลอดภัยสำหรับรถจักรยานในทุกจังหวัดด้วย ๓. ด้านสังคม ๓.๑ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีนโยบายในการจัดระเบียบสังคม เช่น การจัดระเบียบทางเท้า การจัดระเบียบชายหาด การจัดระเบียบพื้นที่เกษตรกรรมที่บุกรุกป่าสงวน นั้น ส่งผลให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่เคยใช้ประโยชน์ในพื้นที่เหล่านั้นได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก จึงให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาหาแนวทางการจัดพื้นที่ทำกินหรือใช้ประกอบอาชีพให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว เช่น การจัดตลาดนัดถนนคนเดินเพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบมีพื้นที่ในการค้าขายเป็นการชั่วคราว ๓.๒ ให้ทุกหน่วยงานนำข้อมูลโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น เผยแพร่ต่อสาธารณชนในสื่อต่าง ๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะทางสื่อออนไลน์ เพื่อให้สะดวกในการเข้าถึงข้อมูล นอกจากนี้ ให้ห้องสมุดของสถานศึกษาจัดให้มีข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นแหล่งความรู้ในสถานศึกษาด้วย ๔. ด้านการต่างประเทศ ๔.๑ ในการให้ความช่วยเหลือตามที่ต่างประเทศหรือองค์กรนานาชาติร้องขอ โดยการส่งบุคลากรเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ เช่น การฟื้นฟูภัยพิบัติ การระงับภัยจากโรคระบาด นั้น ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาความจำเป็น เหมาะสม โดยคำนึงถึงความพร้อมของบุคลากร ความปลอดภัยและการป้องกันความเสี่ยงสำหรับบุคลากรที่จะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศ ๔.๒ ให้กระทรวงการต่างประเทศประชาสัมพันธ์ชี้แจงการดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีที่มุ่งเน้นการสร้างความสมานฉันท์ปรองดอง ความสงบเรียบร้อยของประเทศ โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ต่างชาติมีความเข้าใจที่ถูกต้องในแนวทางการทำงานข้างต้น ๔.๓ ในการเตรียมประเด็นเพื่อใช้ในการเจรจาระหว่างประเทศ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณานำ ๔ ประเด็นหลักที่ทุกเวทีโลกให้ความสำคัญ ประกอบด้วย ๑) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ๒) การแพร่ระบาดของโรคร้ายแรง (Pandemics) ๓) การก่อการร้ายของกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง (ISIS/ISIL) และ ๔) การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) รวมในประเด็นการเจรจา รวมทั้งให้มุ่งนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อเดินหน้าประเทศไทยตาม Roadmap ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
|
.....