ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1174 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 23461 - 23480 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23461 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ จดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 30/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยเห็นควรกำหนดให้การออกกฎกระทรวงกำหนดวิธีการตรวจสอบและมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจสอบ ต้องกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับคุณสมบัติว่า ผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนจะต้องเป็นวิศวกรที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมวิธีการตรวจสอบเครื่องจักร รวมทั้งกำหนดมาตรฐานจริยธรรมแห่งวิชาชีพ นอกจากนี้ จะต้องมีมาตรการทางบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ มีการฝึกอบรมผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบ มีหน่วยรับเรื่องร้องเรียนการกระทำความผิดหรือบกพร่องของผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน ตลอดจนอาจกำหนดข้อแนะนำต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น การประกาศรายชื่อผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตในเว็บไซต์ เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ให้ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปทราบ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||
23462 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคลังสินค้า ไซโลและห้องเย็น พ.ศ. .... | สว | 30/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น พ.ศ. .... ที่เห็นควรมีการแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติฯ และกรณีการตัดหมวด ๔ คลังสินค้า ไซโล และห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเองออกทั้งหมด เพื่อมิให้เป็นการสร้างภาระอันเกินความจำเป็นให้แก่ภาคเอกชนทั่วประเทศซึ่งมีคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนอง รวมทั้งมิให้กระทบต่อการรักษาความลับทางการค้าของผู้ประกอบกิจการ อย่างไรก็ดี กรณีดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องมีกลไกที่เข้มแข็ง รัดกุม และมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบเพื่อป้องกันและกำกับดูแลมิให้ผู้มีคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเองประกอบกิจการคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็น โดยมิได้รับอนุญาต ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่แก้ไขเพิ่มเติมตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตดังกล่าวได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบและหากไม่มีข้อทักท้วงใด ๆ ให้ถือเป็นมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่เสนอ
|
||||||||||||||||||
23463 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดลังกา ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 30/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดลังกา ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดลังกา ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จำนวน ๒ แปลง แปลงที่ ๑ โฉนดที่ดินเลขที่ ๙๐๓๓ เนื้อที่ ๑ งาน ๖๒ ตารางวา แปลงที่ ๒ โฉนดที่ดินเลขที่ ๙๐๓๔ เนื้อที่ ๒ งาน ๖๓ ตารางวา รวมเนื้อที่ทั้งหมด ๑ ไร่ ๒๕ ตารางวา ให้แก่กรมชลประทานในการก่อสร้างพนังสายคันโอบแม่กลอง-อัมพวา เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ตามโครงการป้องกันน้ำเค็ม ที่ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
23464 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 30/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาเทคโนโลยี สาขาวิชานิเทศศาสตร์ สาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ และสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์เพิ่มขึ้น และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา รวมทั้งกำหนดสีประจำสาขาวิชาสำหรับสาขาวิชาดังกล่าว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
23465 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดโพธาราม ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 30/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดโพธาราม ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการโอนที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดโพธาราม ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน ๓ แปลง แปลงที่ ๑ ที่วัด เนื้อที่ ๓ ไร่ ๒ งาน ๘๗ ตารางวา แปลงที่ ๒ ที่ธรณีสงฆ์ เนื้อที่ ๒ ไร่ ๒ งาน ๙๔ ตารางวา และแปลงที่ ๓ เนื้อที่ ๖ ไร่ ๑๐ ตารางวา ให้แก่กรมชลประทาน เพื่อก่อสร้างคลองระบายน้ำสายใหญ่จรเข้สามพัน ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
23466 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติออกจากแผนการเสนอร่างกฎหมายในระยะ 1 ปี (ตุลาคม 2557 - ตุลาคม 2558) ตามข้อสั่งการด้านกฎหมายของนายกรัฐมนตรี | นร09 | 30/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอขอถอนร่างพระราชบัญญัติออกจากแผนการเสนอร่างกฎหมายในระยะ ๑ ปี (ตุลาคม ๒๕๕๗-ตุลาคม ๒๕๕๘) ตามข้อสั่งการด้านกฎหมายของนายกรัฐมนตรี รวม ๗ ฉบับ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติการบริหารสินค้าใช้ได้สองทาง พ.ศ. .... ๓. ร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม พ.ศ. .... ๔. ร่างพระราชบัญญัติการควบคุมยาง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๕. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนสวัสดิการชาวนา พ.ศ. .... ๖. ร่างพระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. .... ๗. ร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การปฏิบัติการของอากาศยานและผู้ประจำหน้าที่)
|
||||||||||||||||||
23467 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 30/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การแก้ไขอำนาจหน้าที่ในการออกใบอนุญาตของคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรม และอำนาจหน้าที่ในการอนุญาตของรัฐมนตรีไปเป็นอำนาจของเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เห็นควรให้เลขาธิการฯ รายงานผลการดำเนินการต่อคณะกรรมการฯ เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด หรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ๑.๒ คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมควรมีการพิจารณากำหนดแก้ไขหรือยกเลิกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้รวดเร็วและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทางการค้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ๑.๓ เห็นควรให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรับไปพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของอัตราโทษตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ๒. มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||
23468 | รายงานผลการจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมรัตนโกสินทร์ "ใต้ร่มพระบารมี 233 ปี กรุงรัตนโกสินทร์" | วธ | 25/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมรายงานผลการจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมรัตนโกสินทร์ “ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๓ ปี กรุงรัตนโกสินทร์” (The 233rd Year of Rattanakosin City under Royal Benevolence) ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๑ เมษายน ๒๕๕๘ ณ บริเวณท้องสนามหลวง สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่มาของการจัดงาน เนื่องจากวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๓๒๕ เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีฝังหลักพระนคร และทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเป็นเมืองหลวงของประเทศ ยืนยาวมาเป็นเวลา ๒๓๓ ปี จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีที่ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ กระทรวงวัฒนธรรมจึงกำหนดจัดงาน "ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๓ ปี กรุงรัตนโกสินทร์" ขึ้น ๒. กิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ ริ้วขบวน “ใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์” นิทรรศการภาพเก่าเล่าเรื่องกรุงรัตนโกสินทร์ การแสดงชุด “รำอาเศียรวาทราชสดุดี” และ “รำแว่นเทียน” กิจกรรมรำวงย้อนยุคและลีลาศย้อนยุค การประกวดกุลสตรีศรีรัตนโกสินทร์ และดนตรีร่วมสมัย การแสดงมหกรรมโขน และการแสดงของศิลปินแห่งชาติ กิจกรรมทางศาสนา (ประกอบด้วย พิธีบวงสรวงเทพยดาและดวงพระวิญญาณสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พิธีเจริญพระพุทธมนต์และตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน ๒๓๔ รูป และพิธีศาสนามหามงคล โดยประกอบกิจกรรมทางศาสนา ๕ ศาสนา และไหว้พระ ๙ วัดสืบสิริสวัสดิ์ ๙ รัชกาล) ศิลปะการแสดงเวทีกลาง (ประกอบด้วย กิจกรรมทางวัฒนธรรมของชุมชนรอบเกาะรัตนโกสินทร์และทุกเขตในกรุงเทพมหานคร มหกรรมภาพยนตร์ย้อนยุค มหกรรมว่าวไทยและว่าวนานาชาติ การสาธิตจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมและของดีบ้านฉันทั่วประเทศ การละเล่นพื้นบ้านและกีฬาไทยในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ และการเสวนาทางวิชาการ เรื่อง เหลียวหลังแลหน้ากรุงรัตนโกสินทร์) ๓. ผลการดำเนินงาน การจัดพิธีเปิดงาน “ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๓ ปี กรุงรัตนโกสินทร์” เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๘ มีคนเข้าร่วมชมขบวนแสดงประมาณ ๑,๐๙๐,๐๐๐ คน จากการเผยแพร่ผ่านช่องทาง Online Media โดยการถ่ายทอดสดทางทีวีช่อง ๕ ทั้งในและต่างประเทศครอบคลุม ๑๗๗ ประเทศ ใช้เวลา ๑.๓๐ ชั่วโมง มีผู้ชมประมาณ ๓๕ ล้านคนทั่วโลก และถ่ายทอดผ่าน You Tube หลังจากการจัดงาน มีผู้ชม ๗,๔๓๗ คน รวมตลอดระยะเวลาการจัดงานดังกล่าวระหว่างวันที่ ๑๗-๒๑ เมษายน ๒๕๕๘ มีผู้เข้าชมงานกว่า ๔๕๒,๑๑๕ คน มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม จำนวน ๑๘,๗๒๕,๒๖๑ บาท โดยเป็นการจ่ายในหมวดอาหารมากที่สุด มีเม็ดเงินสะพัดกว่า ๘๔ ล้านบาท รวมเงินทุนมีเงินทุนหมุนเวียนกระจายตัวในระบบเป็นเงินจำนวนกว่า ๑๖๗ ล้านบาท ผู้เข้าชมงานมีความพึงพอใจมากที่สุด คือนิทรรศการภาพเก่าเล่าเรื่องกรุงรัตนโกสินทร์ รองลงมา คือ การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมบนเวทีริ้วขบวน "ใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์" กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ไหว้พระ ๙ วัดสืบสิริสวัสดิ์ ๙ รัชกาล มหกรรมว่าวและการเล่นพื้นบ้าน ตามลำดับ ความพึงพอใจโดยรวมจากกลุ่มตัวอย่าง ๔,๖๙๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๘๖.๙๕ สูงกว่าการจัดงานปีที่ผ่านมา
|
||||||||||||||||||
23469 | สรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2558 | กษ | 23/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน ทั้งมาตรการเร่งด่วน มาตรการระยะ ๓ เดือน และมาตรการระยะยาว โดยมาตรการเร่งด่วนให้กรมการค้าภายในกำหนดราคาแนะนำในการรับซื้อผลปาล์มทะลาย ผลปาล์มร่วง และน้ำมันปาล์มดิบ โดยออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยรับซื้อผลปาล์มทะลายและผลปาล์มร่วงในราคาเดียวกัน อัตราน้ำมันร้อยละ ๑๗ ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๔.๒๐ บาท ณ หน้าโรงสกัดน้ำมันปาล์มและจุดรับซื้อในพื้นที่ (ลานเท) รวมทั้งกำหนดให้โรงกลั่นฯ โรงผลิตไบโอดีเซล และผู้รับซื้อน้ำมันดิบทั่วไปรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๒๖.๒๐ บาท ณ หน้าคลังผู้รับซื้อในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ๑.๒ เห็นชอบการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเก็บสต็อกตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้องค์การคลังสินค้าซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ปริมาณ ๑๐๐,๐๐๐ ตัน จากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๒๖.๒๐ บาท ส่งมอบ ณ หน้าคลังสินค้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล โดยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มจะต้องแสดงหลักฐานในการรับซื้อผลปาล์มทะลายและผลปาล์มร่วงจากเกษตรกรที่อัตราน้ำมันร้อยละ ๑๗ ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๔.๒๐ บาท ๑.๓ เห็นชอบผลการคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ๑.๔ มอบหมายให้กรมศุลกากร กระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการลักลอบนำเข้าและการนำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ ทุก ๑๕ วัน ๑.๕ เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ๒. ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินการตามแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน และการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเก็บสต็อก รายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการต่าง ๆ ให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะต่อไป ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ |
||||||||||||||||||
23470 | รายงานผลการดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 | คค | 23/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ ๒ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ ๒ อยู่ระหว่างรอการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ประชุมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เพื่อปรับขั้นตอนการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว คาดว่าจะผ่านการพิจารณาภายในปลายเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ หรือต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ และสามารถประกวดราคา ก่อสร้าง ได้ทันในปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๘ หรือต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑.๒ โครงการก่อสร้างทางวิ่งขึ้นลง (Runway) ที่ ๓ อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ก่อนนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต่อไป ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ประชุมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ทอท. เพื่อพิจารณาแนวทางเร่งรัดการพิจารณาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) เพื่อให้สามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างทางวิ่งขึ้นลง (Runway) ที่ ๓ ภายในต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑.๓ โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ ๒ อยู่ระหว่าง ทอท. พิจารณาปรับปรุงแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยบรรจุโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ ๒ ไว้ในแผนแม่บทฯ และจะเร่งรัดเสนอโครงการให้กระทรวงคมนาคมนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติในหลักการ เพื่อสามารถดำเนินการออกแบบและก่อสร้างต่อไป ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ที่เห็นควรเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการภายใต้แผนงานโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ ๒ ให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายภายในปี ๒๕๖๒ โดยในการปรับลดการลงทุน ให้ ทอท. พิจารณาความเหมาะสมของราคาค่าก่อสร้างที่เกินความจำเป็นโดยไม่กระทบต่อระดับและมาตรฐานคุณภาพการให้บริการ (Level of Service) พร้อมทั้งเร่งปรับปรุงพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองให้มีขีดความสามารถในการรองรับปริมาณผู้โดยสารสายการบินต้นทุนต่ำที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และให้เร่งดำเนินการตามแผนโครงการก่อสร้างทางวิ่งขึ้นลง (Runway) ที่ ๓ ระยะทาง ๓,๗๐๐ เมตร แทนการก่อสร้างทางวิ่งสำรองความยาว ๒,๙๐๐ เมตร โดยดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับปัญหาทางวิ่งที่มีอยู่เดิม ความจำเป็นที่จะต้องสร้างทางวิ่งขึ้นลงเพิ่มเติม และขีดความสามารถของทางวิ่งที่จะเพิ่มขึ้น รวมถึงวิธีการกำหนดหลักเกณฑ์ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางเสียง พร้อมกับเร่งการจ่ายชดเชยผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินโครงการดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งเห็นควรปรับปรุงแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง โดยให้ความสำคัญกับความสามารถในการอำนวยความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางของผู้โดยสารและอากาศยานในระดับคุณภาพบริการที่เป็นสากล และมาตรฐานความปลอดภัยตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศเป็นลำดับแรก ตลอดจนพิจารณาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องที่มีอยู่เดิมเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการลงทุน นอกจากนี้ ให้ ทอท. พิจารณาทางเลือกในการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผลกระทบโดยรวมต่อการให้บริการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และการลงทุนระหว่างการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ ๒ และอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศใต้ พร้อมกับจัดทำแผนการบริหารจัดปริมาณการจราจรทางอากาศทั้งในเขตการบิน (Airside) และเขตนอกการบิน (Landside) ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
23471 | ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558 | ทก | 23/06/2558 | |||||||||||||||
|
||||||||||||||||||
23472 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขายทอดตลาดห้องชุดในอาคารชุดและที่ดินจัดสรร) | นร09 | 23/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยเพิ่มมาตรา ๓๐๙ จัตวา เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การขายทอดตลาดห้องชุดในอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด และที่ดินจัดสรรตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||
23473 | รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในการได้รับบริการจากรัฐ กรณีกลุ่มบุคคลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ขอความช่วยเหลือเยียวยา | สม | 23/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในการได้รับบริการจากรัฐ กรณีกลุ่มบุคคลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ขอความช่วยเหลือเยียวยา ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งได้เสนอให้มีการพิจารณาแนวทางการกำหนดให้มีกระบวนการโต้แย้งหรืออุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ๓ ฝ่าย ฝ่ายระดับอำเภอในพื้นที่เกิดเหตุ (ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ พนักงานวินิจฉัยฝ่ายปกครอง) และการพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดกระบวนการหรือวิธีการโต้แย้งหรืออุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ๓ ฝ่ายในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการบูรณาการการแก้ไขปัญหาและสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคประชาชน อันจะนำไปสู่การลดปัญหาหรือขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้) กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รับข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดังกล่าว ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายฯ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้หรือไม่ประการใดก่อน โดยให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้) เป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการแล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||
23474 | ร่างพระราชกฤษฎีกาการทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. .... | นร09 | 23/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาการทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยได้ปรับปรุงร่างพระราชกฤษฎีกาโดยตัดความในวรรคสามของร่างมาตรา ๑๑ ออก และแก้ไขเพิ่มเติมร่างมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง โดยกำหนดให้การเบิกจ่ายและการใช้จ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายที่ได้รับเป็นไปตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าด้วยเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนากฎหมาย และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
23475 | รายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 22 (การประชุมครั้งที่ 90/2558) | นร | 23/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๒๒ (การประชุมครั้งที่ ๙๐/๒๕๕๘) เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาปรึกษาหารือเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน ๔ ประเด็น ประกอบด้วย
๑. ประเด็นการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ๒. ประเด็นการเปลี่ยนแปลงชื่อ “คณะอนุกรรมาธิการพิจารณายกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่จำเป็นต้องตราขึ้นตามร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ” เป็น “คณะอนุกรรมาธิการศึกษาเตรียมการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญและคณะอนุกรรมาธิการศึกษาเตรียมการจัดทำร่างพระราชบัญญัติที่จำเป็นต้องตราขึ้นตามร่างรัฐธรรมนูญ” ๓. ประเด็นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๔. ประเด็นของดใช้ข้อบังคับเพื่อใช้ในการปฏิบัติงานยกร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๗ บางส่วน
|
||||||||||||||||||
23476 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และระยะเวลาของที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน พ.ศ. .... | คค | 23/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และระยะเวลาของที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยานมีระยะเวลาการใช้งานตามภารกิจที่ขออนุญาตจัดตั้ง แต่ต้องไม่เกินสองปีติดต่อกันนับแต่วันที่อนุญาต ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
23477 | รายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 21 (การประชุมครั้งที่ 89/2558) | นร04 | 23/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๒๑ (การประชุมครั้งที่ ๘๙/๒๕๕๘) เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๘ โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับประเด็นการอภิปรายของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติต่อร่างรัฐธรรมนูญ โดยเห็นควรให้มีการสื่อสารต่อสังคมและประชาชนในประเด็นที่อาจยังไม่ชัดเจนเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ตรงตามเจตนารมณ์ของการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ เช่น กรณีประเด็น “สมัชชาพลเมือง” และ “สภาตรวจสอบภาคพลเมือง” เพื่อเป็นกลไกในการเพิ่มสิทธิแก่พลเมืองให้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมเกี่ยวกับการบริหารงานระดับท้องถิ่นนั้น ควรขยายความให้ชัดเจนเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่า องค์การทั้งสองเป็นกลไกที่ทำหน้าที่แตกต่างกันและไม่ซ้ำซ้อนกัน โดย “สมัชชาพลเมือง” ออกแบบให้เป็นองค์กรของพลเมืองที่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่ทั้งระดับจังหวัด ระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่อื่น เช่น พื้นที่ลุ่มน้ำระดับท้องถิ่น ส่วน “สภาตรวจสอบภาคพลเมือง” ออกแบบให้เป็นองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐระดับจังหวัดของพลเมือง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการวางหลักการให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปที่ต้องการสร้างให้พลเมืองเป็นใหญ่ เป็นต้น ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||
23478 | รายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง นโยบายของรัฐบาล "เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ทั่วถึงทุกคน" | สม | 23/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง นโยบายของรัฐบาล “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ทั่วถึงทุกคน” และผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ได้จัดประชุมหารือร่วมกันระหว่างคณะอนุกรรมการบริหารระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินในโรงพยาบาล ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นอนุกรรมการบริหารระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินในโรงพยาบาล ภายใต้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไป เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ ซึ่งมีผลการพิจารณาพร้อมกับผลการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย โดยรับข้อเสนอแนะและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปเป็นแนวทางปฏิบัติแล้ว และได้รายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว พร้อมกับผลการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||
23479 | รายงานผลความคืบหน้ามาตรการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อย (สินเชื่อ Nano - Finance) | กค | 23/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลความคืบหน้ามาตรการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อย (สินเชื่อ Nano-Finance) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผู้ยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อ Nano-Finance ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๘-๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ มีจำนวนทั้งหมด ๒๐ บริษัท แบ่งออกได้เป็น ๔ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว จำนวน ๕ บริษัท กลุ่มที่อยู่ระหว่างการจัดส่งเอกสารให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเพิ่มเติม จำนวน ๑๑ บริษัท กลุ่มที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง จำนวน ๒ บริษัท และกลุ่มที่ขอยกเลิกคำขออนุญาตเนื่องจากมีคุณสมบัติไม่ครบและยังไม่พร้อมดำเนินการ จำนวน ๒ บริษัท ๒. บริษัทที่เปิดให้บริการแล้ว ๒ ราย ได้แก่ บริษัทไทยเอช แคปปิตอล จำกัด เริ่มให้สินเชื่อประมาณ ๑๕ ราย รายละ ๑๐,๐๐๐-๑๕,๐๐๐ บาท ผู้ขอกู้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร และบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด เริ่มให้สินเชื่อประมาณ ๕๐ ราย รายละ ๑๐,๐๐๐ บาท ผู้ขอกู้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในจังหวัดปทุมธานี ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทั้งสองบริษัทจะต้องส่งรายงานปริมาณสินเชื่อ Nano-Finance งวดแรกในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘ ให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยภายในวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ ๓. ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประมาณการการให้สินเชื่อ Nano-Finance โดยพิจารณาจากส่วนของผู้ถือหุ้นและสินทรัพย์ของผู้ประกอบธุรกิจ ภายใต้สมมติฐานว่า ผู้ยื่นคำขอทั้ง ๑๘ ราย ได้รับอนุญาต คาดว่าจะสามารถให้สินเชื่อ Nano-Finance รวมสูงสุดประมาณ ๘๐,๒๔๒ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||
23480 | สรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 7 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2557 - 30 เมษายน 2558) | นร | 23/06/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๗ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗-๓๐ เมษายน ๒๕๕๘) ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) เสนอ ซึ่งมีผลงานสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ มีผลงานที่สำคัญ ได้แก่ โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์โดยผ่านกลไกระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น โครงการส่งเสริมสนับสนุนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยผ่านกลไกคณะกรรมการหมู่บ้าน โครงการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยเพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ การแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนร้องทุกข์โดยศูนย์ดำรงธรรม และจากการประเมินผลสำเร็จในการดำเนินงาน ขณะนี้ไม่มีปัญหาความขัดแย้งรุนแรง การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต้องแก้ไขที่แนวคิดของประชาชนและแกนนำให้มีความคิดร่วมที่จะทำเพื่อประเทศชาติส่วนรวมไม่ยึดผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นใหญ่ ๑.๒ การปฏิรูปประเทศ กขร. ได้แจ้งให้กระทรวงพลังงานและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปของสภาปฏิรูปแห่งชาติ เรื่อง การส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และเรื่อง ข้อเสนอการปฏิรูประบบเพื่อรองรับสังคมสูงวัยของคณะกรรมการปฏิรูประบบรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย ซึ่ง กขร. จะได้ติดตามรายงานผลการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวต่อไป ๑.๓ การบริหารราชการแผ่นดิน มีผลงานที่สำคัญ ได้แก่ การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาความมั่นคงของรัฐและต่างประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน การบริหารเศรษฐกิจ การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียนการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนาและนวัตกรรม สนับสนุนการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาของประเทศ การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ และการปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ๒. ให้คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลดำเนินการโดยเน้นการปรองดองซึ่งเกิดขึ้นจากจิตใจของตนเอง ไม่ถูกบังคับ บิดเบือน ชักจูง ให้คิดเป็น และเข้าใจประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ซึ่งอาจเห็นต่างแต่ต้องไม่ขัดแย้ง โดยร่วมสนับสนุนการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาล เข้าใจผลประโยชน์ชาติ เพื่อสร้างสรรค์ เผื่อแผ่ แบ่งปันให้คนไทยทั้งประเทศ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีด้วย
|
.....