ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 105 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 2081 - 2100 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2081 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (นายกำธร ชีพชัยอิสสระ) | รง. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายกำธร ชีพชัยอิสสระ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
แทนประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2082 | รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประจำปี 2566 | กสทช. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประจำปี ๒๕๖๖ ประกอบด้วย ๑)
ผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของ กสทช. ปี ๒๕๖๖ ๒) นโยบาย แผนการดำเนินงาน
และงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ ๓) งบการเงิน และการตรวจสอบภายใน ประกอบด้วย
งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ๔) ปัญหาและอุปสรรคในการประกอบกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมที่มีความสำคัญต่อประชาชน ๕) คุณภาพการให้บริการและอัตราค่าบริการโทรคมนาคมประเภทต่าง
ๆ ที่มีความสำคัญต่อประชาชน ๖) ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ๗) การบริหารงาน กทปส. และ ๘) รายงานสภาพตลาดและการแข่งขันในกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ตามที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2083 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2559 เรื่อง คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการกำหนดอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ 4 เมษายน พุทธศักราช 2559 พ.ศ. .... | สผ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๑๔/๒๕๕๙ เรื่อง คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
และการกำหนดอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ ๔
เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ๒.
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๑๔/๒๕๕๙ เรื่อง คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
และการกำหนดอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ ๔
เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๑๔/๒๕๕๙ เรื่อง คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
และการกำหนดอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ ๔
เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ พ.ศ. ....
ของสภาผู้แทนราษฎรเป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓.
มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
ของสภาผู้แทนราษฎรดังกล่าว ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2084 | รายงานประจำปีผลการดำเนินงานคณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทำที่บ้าน ชุดที่ 4 ปีที่ 2 | รง. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีผลการดำเนินงานคณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทำที่บ้าน
ชุดที่ ๔ ปีที่ ๒ (๔ ตุลาคม ๒๕๖๕ - ๓ ตุลาคม ๒๕๖๖) โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ ๑)
การประชุมคณะกรรมการฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ เช่น
พิจารณาให้สภาเด็กและเยาวชนเป็นกลไกในการขับเคลื่อนกิจกรรมการสร้างรายได้ด้วยการรับงานไปทำที่บ้าน
๒) พัฒนากลไกในการพัฒนาการคุ้มครองงานที่รับไปทำที่บ้าน เช่น แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่คณะกรรมการฯ
มอบหมาย เช่น คณะอนุกรรมการพัฒนากฎหมายคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้านเพื่อพิจารณาให้ข้อเสนอแนะ
(ร่าง)
แนวปฏิบัติการส่งเสริมและคุ้มครองสตรีมีครรภ์/ให้นมบุตร/หลังคลอดที่เป็นผู้รับงานไปทำที่บ้าน
(สำหรับเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน) และ ๓)
การส่งเสริมและพัฒนาผู้รับงานไปทำที่บ้าน โดยได้ดำเนินกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ
เช่น ตรวจแรงงานนอกระบบเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในกลุ่มลูกจ้าง
คัดเลือกบุคคลและเครือข่ายแรงงานนอกระบบดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2085 | รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2566 สภาองค์กรของผู้บริโภค | สอบ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี
๒๕๖๖ สภาองค์กรของผู้บริโภค ตามที่สภาองค์กรของผู้บริโภคเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. ผลการดำเนินงานตามขอบเขตอำนาจและแผนงาน ได้แก่
๑) งานคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค ๒)
งานพัฒนานโยบายและมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค ๓)
งานสนับสนุนหน่วยงานประจำจังหวัดและองค์กรผู้บริโภค ๔)
งานสื่อสารเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค และ ๕) งานบริหารจัดการสำนักงานและพัฒนาศักยภาพองค์กรของผู้บริโภค ๒. ผลการดำเนินงานที่เป็นกรณีเด่น รวม ๓ เรื่อง
ได้แก่ ๑) กรณีปัญหาเกี่ยวกับบริการสินเชื่อส่วนบุคคลของบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น
จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ๒)
การจัดทำข้อเสนอแนวคิดรถไฟมวลชนทุกคนขึ้นได้ทุกวัน และ ๓) การดำเนินงานทดสอบคุณภาพและประสิทธิภาพของหมวกนิรภัยสำหรับการขับขี่รถจักรยานยนต์ ๓. ปัญหา อุปสรรค และความท้าทาย เช่น ๑)
กระบวนการเสนองบประมาณมีขั้นตอนมากและซับซ้อนกว่าปกติเนื่องจากสภาองค์กรของผู้บริโภคต้องเสนองบประมาณผ่านสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
๒) หน่วยงานภาครัฐส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสำคัญต่อข้อเสนอนโยบายและมาตรการของสภาองค์กรของผู้บริโภค
และ ๓) ความรู้และความตระหนักในสิทธิของผู้บริโภคตามไม่ทันพัฒนาการของปัญหาที่ซับซ้อนและรุนแรงขึ้น ๔. รายงานการเงินของสภาองค์กรของผู้บริโภคปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน
โดยบริษัท สำนักงานสามสิบสี่ ออดิต จำกัด เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบบัญชีแล้วเห็นว่า
งบการเงินที่แสดงฐานะการเงินของสภาองค์กรของผู้บริโภค สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๖ ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2086 | รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2566 ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) | ส.ส.ท | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี
๒๕๖๖ ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย โดยมีผลการดำเนินการที่สำคัญ ได้แก่ ๑)
การขับเคลื่อนองค์กรสู่การเปลี่ยนแปลง ๒) รายงานผลการดำเนินงานด้านธรรมาภิบาล ๓)
รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงิน ๔) รายงานการตรวจสอบภายใน ๕) รายงานของคณะกรรมการประเมินผล
๖) การรับฟังความคิดเห็นจากสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ ๗)
ความคิดเห็นของผู้ชมและผู้ฟังที่มีต่อการนำเสนอรายการของไทยพีบีเอส และ ALTV ๘)
ผังรายการปี ๒๕๖๖ และ ๙) แผนนบริหารกิจการและแผนงบประมาณ ประจำปี ๒๕๖๗ ตามที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2087 | รายงานผลการดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทาน | นร.01 | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทาน
ประจำเดือน มกราคม-มีนาคม ๒๕๖๗ โดยมีผลการดำเนินการของส่วนราชการต่าง ๆ เช่น ๑) การรายงานผลการลงทะเบียนเป็นจิตอาสาพระราชทาน
(มท.) โดยมีประชาชนลงทะเบียนแล้ว ๗,๑๖๓,๐๖๘ คน ๒)
การจัดกิจกรรมจิตอาสาของส่วนราชการต่าง ๆ (๑๘ หน่วยงาน) ประกอบด้วย จิตอาสาพัฒนา จิตอาสาภัยพิบัติ
จิตอาสาเฉพาะกิจ และวิทยากรจิตอาสา ๙๐๔ มีการจัดกิจกรรม ๒๐,๗๓๙
ครั้ง และ ๓) การติดตามความก้าวหน้าโครงการในภารกิจของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน
เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรีโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร โครงการก่อสร้างสายพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2088 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง | ศป. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ ของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ตามมาตรา ๙๓
แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบด้วย
การพิจารณาพิพากษาคดีด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม
การวิเคราะห์เหตุแห่งการฟ้องคดีปกครอง การวางหลักกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติราชการทางปกครอง
ผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้งบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ผลสัมฤทธิ์จากการประชุมที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2089 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 | รง. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย
งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อทราบ
และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2090 | ร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. .... | นร 05 | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง
พ.ศ. ....
ซึ่งจะสิ้นกำหนดเวลาหนึ่งร้อยยี่สิบวันตามสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่งในวันที่
๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๗ สมควรที่จะกำหนดให้ปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำครั้งที่หนึ่ง
ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2091 | การผ่อนผันให้ส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และดำเนินการซ่อมแซม ปรับปรุง และฟื้นฟูสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ | ทส. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการซ่อมแซม
ปรับปรุง และฟื้นฟูสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติที่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้ในเขตป่าอนุรักษ์ได้
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว
และ/หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
จากรายการที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้วและมีงบประมาณเหลือจ่าย และหรือรายการที่หมดความจำเป็น
หรือรายการที่คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
โดยโอนงบประมาณรายจ่าย โอนเงินจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรแล้วแต่กรณี
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ในโอกาสแรกก่อน และควรมอบหมายส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ ที่กำหนดให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องส่งเรื่องเกี่ยวกับมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบอุทกภัย
โดยรายงานต่อศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุกทภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม
(ศปช.) เพื่อบูรณาการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2092 | การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | กต. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2093 | แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2568 | กค. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติและรับทราบตามข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ตามมติที่ประชุม
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๗ ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ
ดังนี้ ๑.๑
อนุมัติแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ ที่ประกอบด้วย แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม ๑,๒๐๔,๓๐๔.๔๔ ล้านบาท
แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงินรวม ๑,๗๘๓,๘๘๙.๖๔
ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ วงเงินรวม ๔๘๙,๑๑๐.๗๐ ล้านบาท ๑.๒
อนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ จำนวน ๔ แห่ง ได้แก่ ขสมก. รฟท. กคช. และ ธพส. ที่มีสัดส่วน
DSCR ต่ำกว่า ๑ เท่า
สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ โดยให้รัฐวิสาหกิจทั้ง
๔ แห่งดังกล่าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการด้วย
รวมทั้งเห็นควรให้หน่วยงานที่บรรจุกรอบวงเงินกู้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘
เร่งรัดการดำเนินการตามแผนฯ ดังกล่าวด้วย ๑.๓
รับทราบแผนความต้องการเงินกู้ระยะปานกลาง ๕ ปี (ปีงบประมาณ ๒๕๖๘ - ๒๕๗๒) และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดประสานงานกับรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มโครงการที่ยังขาดความพร้อมในการดำเนินการ
เพื่อเร่งรัดการดำเนินการและการลงทุนเพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในระยะต่อไป ๒. อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่
การกู้มาและการนำให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะฯ
มาตรา ๗
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๗ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ รวมทั้งขออนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา
และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้กรอบวงเงินของแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘
และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน
วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง
ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นว่าการดำเนินโครงการภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ จะต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบ
แผนการใช้จ่ายและการลงทุนต้องเป็นไปตามกฎหมาย
และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความสามารถในการชำระหนี้ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2094 | ขอผ่อนผันยกเว้นมติคณะรัฐมนตรี เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4027 สายท่าเรือ - เมืองใหม่ ตอน บ้านเมืองใหม่ - ทางแยกเข้าสนามบินภูเก็ต ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต | คค. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
ดังนี้ ๑) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕
ธันวาคม ๒๕๓๐ (เรื่อง
การจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนประเทศไทย) ๒) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ (เรื่อง รายงานการศึกษาสถานภาพปัจจุบันของป่าไม้ชายเลนและปะการังของประเทศ)
๓) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ
เรื่อง การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) และ ๔) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๔๓ เรื่อง
การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน
เนื้อที่ ๐-๒-๑๗ ไร่ สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๔๐๒๗ สายท่าเรือ - เมืองใหม่
ตอน บ้านเมืองใหม่ - ทางแยกเข้าสนามบินภูเก็ต ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง
จังหวัดภูเก็ต ของกรมทางหลวง (โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๔๐๒๗)
เพื่อให้สามารถดำเนินการในขั้นตอนการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและดำเนินงานโครงการก่อสร้างตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นสำหรับการดำเนินการปลูกป่าทดแทนและบำรุงป่า
เห็นควรให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ เรื่อง
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ เรื่อง การดำเนินการโครงการใด ๆ
ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า
ให้ได้ข้อยุติก่อน หากมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการปลูกป่าทดแทนและบำรุงรักษาป่าดังกล่าว
ให้หน่วยงานจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามผลการสำรวจและคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการตามระเบียบฯ
ก่อนเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2095 | ขอความเห็นชอบต่อเอกสารผลลัพธ์ด้านแรงงานสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | รง. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อเอกสาร (for notation) ทั้ง ๒ ฉบับ สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ ๔๔ และ ๔๕ ระหว่างวันที่ ๖ - ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ณ
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน (ASEAN
Labour Ministers Meeting : ALMM) ครั้งที่ ๒๘ และการประชุมที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่
๒๘ - ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ได้แก่ ๑)
แนวทางอาเซียนว่าด้วยการเชื่อมโยงสิทธิประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติ (ASEAN
Guidelines on Portability of Social Security Benefits for Migrant Workers) มีสาระสำคัญเป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศอาเซียนเพื่อกำหนดมาตรฐานและแนวทางในการจัดทำความตกลง
ด้านการประกันสังคมระหว่างประเทศ ในรูปแบบทวิภาคีหรือพหุภาคี
ซึ่งหมายรวมถึงสัญญาระหว่างประเทศ (Agreement/Memorandum of Agreements:
MOA) บันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding MOU) และบันทึกความร่วมมือ (Memorandum of Cooperation : MOC) โดยให้ใช้ร่วมกันในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเป็นพื้นฐานความเข้าใจที่ตรงกัน
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปรียบเทียบตลอดจนเชื่อมโยงสิทธิประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติที่ย้ายถิ่นฐานภายในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนอันจะเป็นข้อมูลแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนและผู้เชี่ยวชาญจากภูมิภาคอื่น
ๆ และ ๒) แนวทางอาเซียนว่าด้วยการบรรจุงานและการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติในภาคประมง (ASEAN
Guidelines on the Placement and Protection of Migrant Fishers)
มีสาระสำคัญเป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศอาเซียนในการดูแลและคุ้มครองแรงงานข้ามชาติในเรือประมงให้มีสภาพการทำงานและสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสม
มีความปลอดภัยในการทำงาน ได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม เข้าถึงความยุติธรรมและการเข้าถึงความคุ้มครองทางสังคม
ซึ่งรวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับแรงงานข้ามชาติในภาคประมงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและสถานการณ์ฉุกเฉินบนเรือ
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเอกสารผลลัพธ์ด้านแรงงานฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
และให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับการจัดให้มีการระดมความคิดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
(หนังสือกระทรวงยุติธรรม ด่วนที่สุด ที่ ยธ o๒๐๐๔/๙๕๓๒
ลงวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๗) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2096 | ขออนุมัติใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ 160 ยูนิต 11 ชั้น (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 1 หลัง | สธ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
ก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ ๑๖๐ ยูนิต ๑๑ ชั้น (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว)
โรงพยาบาลสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน ๑ หลัง ในวงเงิน ๒๑๗,๕๘๙,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามนัยมาตรา
๓๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2097 | การขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 32 และร่างเอกสารผลลัพธ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | พม. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2098 | เอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 ที่กรุงโดฮา | กต. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อการรับรองร่างปฏิญญาโดฮา (Doha Declaration) ว่าด้วยการทูตผ่านกีฬา
: (Sports Diplomacy) ซึ่งเป็นเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย
(Asia Cooperation Dialogue Summit : ACD Summit) ครั้งที่ ๓ ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ และให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างปฏิญญาฯ
ในที่ประชุมระดับผู้นำ ACD ครั้งที่ ๓ โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองในระดับผู้นำของประเทศสมาชิกACD
ในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการทูตผ่านกีฬา เพื่อส่งเสริม ACD ให้เป็นเวทีหารือและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความท้าทายและการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์อย่างสร้างสรรค์ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่ก้าวข้ามการเมืองและยอมรับความแตกต่าง
การเน้นย้ำบทบาท และการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและพัฒนาสภาพแวดล้อมทางการเงินและการค้า
รวมถึงความเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานของระบบคมนาคมและดิจิทัล
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2099 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง - ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. 2566 ระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย | มท. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง
- ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
และอนุมัติให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคระบาดอันตราย
โดยดำเนินการผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูล การฝึกอบรม เป็นต้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังนี้ กระทรวงการต่างประเทศ เห็นว่าร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงมหาดไทยควรวิเคราะห์และประเมินผลจากการร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์การดำเนินงานที่เกี่ยวข้องให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับด้วย
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2100 | การจัดทำความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ/พิเศษระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งรัฐกาตาร์ | กต. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||