ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 103 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 2041 - 2060 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2041 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายฉัตรชัย บางชวด) | นร.08 | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายฉัตรชัย บางชวด ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2042 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ ฯลฯ รวม 6 ราย) (จำนวน 5 ราย) | รง. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง รวม ๖ ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน และทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑. นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงสูง) ตำแหน่งเลขที่ ๙ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน ๒. นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ๓. นางสาวบุปผา เรืองสุด ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน ๔. เรือเอก สาโรจน์ คมคาย ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ๕. นางมารศรี ใจรังษี ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ (นักบริหารสูง) สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ๖. นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2043 | การปรับปรุงอัตราเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกของคลินิกและโรงพยาบาลเอกชน ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงอัตราเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกของคลินิกและโรงพยาบาลเอกชนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.)
จากอัตราเท่าที่จ่ายจริงครั้งละไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท และรวมกันปีละไม่เกิน
๓,๖๐๐ บาท เป็น อัตราเท่าที่จ่ายจริงโดยไม่จำกัดอัตราการเบิกในแต่ละครั้ง
และรวมกันปีละไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้ ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
เพื่อให้เกิดความรัดกุมและไม่ทับซ้อนกับสิทธิหรือประกันการรักษาพยาบาลที่ผู้ปฏิบัติงานหรือบุคคลในครอบครัวได้รับทางอื่นด้วย
รวมทั้งเร่งนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในองค์กรเพื่อบริหารจำนวนบุคลากรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ตลอดจนดำเนินการเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานอื่นให้เป็นไปตามแนวทางหรือแผนที่กำหนดไว้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2044 | การมอบหมายให้กรมท่าอากาศยานมอบความรับผิดชอบการบริหารท่าอากาศยานตากให้กับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร | คค. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมอบหมายให้กรมท่าอากาศยานมอบความรับผิดชอบการบริหารท่าอากาศยานตากให้กับกรมฝนหลวงและการบินเกษตรตามนัยข้อ
๑ (๔) แห่งกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกอบข้อ
๑ (๕) แห่งกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พ.ศ. ๒๕๕๖ ก่อนกรมท่าอากาศยาน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
และกรมธนารักษ์ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้กระทรวงคมนาคม (กรมท่าอากาศยาน)
และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมฝนหลวงและการบินเกษตร) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงาน ก.พ. รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงมหาดไทย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและค่าบริหารจัดการท่าอากาศยานตากที่จะเกิดขึ้นให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และ/หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายประมาณ โดยคำนึงถึงภารกิจ
ความคุ้มค่า ประหยัด ความจำเป็นและเหมาะสม ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน
และประโยชน์ที่ทางราชการและประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป สำนักงาน ก.พ. เห็นว่ากรมท่าอากาศยานควรกำหนดแผนการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานตาก
เพื่อรองรับการดำเนินการตามแนวทางการมอบความรับผิดชอบการบริหารท่าอากาศยานดังกล่าว
โดยต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ
และระเบียบที่เกี่ยวข้องตามประเภทของบุคลากรด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2045 | การขอเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการตุลาการแทนการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง (โครงการ 2) | ศย. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานศาลยุติธรรมก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการตุลาการแทนการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง
(โครงการ ๒) จำนวน ๓๔ คัน ระยะเวลาสัญญาเช่า ๕
ปี ปีละ ๑๕,๙๕๕,๒๐๐ บาท ระยะเวลาเช่า ๕ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ - พ.ศ. ๒๕๗๒ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๗๙,๗๗๖,๐๐๐ บาท ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
โดยค่าเช่าในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ที่ได้รับจัดสรรภายใต้แผนงานพื้นฐานด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
ผลผลิตการอำนวยความยุติธรรมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตามที่กฎหมายบัญญัติงบเงินอุดหนุน
เงินอุดหนุนทั่วไป รายการค่าใช้จ่ายดำเนินงาน
ที่ได้จัดสรรเป็นค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งสำหรับผู้มีสิทธิ์ได้รับรถประจำตำแหน่ง
ในวงเงิน ๑,๗๐๐,๑๖๐,๐๐๐ บาท
โดยในการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันขอให้สำนักงานศาลยุติธรรมคำนึงถึงวงเงินงบประมาณและระยะเวลาที่คงเหลือในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2046 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ | ปช. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการพนันออนไลน์
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒.
มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงยุติธรรรม
(กรมสอบสวนคดีพิเศษ) สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ โดยให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมสรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2047 | ขออนุมัติดำเนินโครงการปรับปรุงคลองชักน้ำแม่น้ำยมฝั่งขวา จังหวัดสุโขทัย | กษ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมชลประทาน ดำเนินโครงการปรับปรุงคลองชักน้ำแม่น้ำยมฝั่งขวา จังหวัดสุโขทัย
มีกำหนดแผนงานโครงการ ๖ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ - ๒๕๗๓) กรอบวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น
๓,๕๕๗ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2048 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 เรื่อง การขยายระยะเวลาแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรตามโครงการปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร (คปร.) และโครงการแผนฟื้นฟูการเกษตร (ผกก.) | กษ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรตามโครงการแผนฟื้นฟูการเกษตร
และโครงการปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร ออกไปเป็นระยะเวลา ๕ ปี
จากเดิมจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ เป็นสิ้นสุดโครงการในวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๗๒ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรกำหนดแผนการดำเนินงานและระยะเวลาการดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรลูกหนี้ในโครงการแผนฟื้นฟูการเกษตร
และโครงการปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตรให้ชัดเจน
และอาจพิจารณากำหนดให้ผลการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวเป็นตัวชี้วัดของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้สามารถเร่งรัดและติดตามผลการดำเนินงานได้อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น กำหนดให้ส่วนราชการเจ้าของโครงการดำเนินการฟื้นฟู
พัฒนาและสร้างอาชีพเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพอชำระหนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรพิจารณาแนวทางและสนับสนุนให้เกษตรกรพัฒนาอาชีพและรายได้ที่เหมาะสมกับศักยภาพทางการผลิตในพื้นที่และความต้องการของตลาด
เพื่อให้มีรายได้ที่เพียงพอสำหรับการดำเนินชีวิตและการชำระหนี้คืน ตลอดจนเร่งรัดการติดตามหนี้สินที่ค้างอยู่ให้เป็นไปตามกำหนด
รวมทั้งการสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรรักษาวินัยทางการเงิน
เพื่อให้กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้รับชำระหนี้คืนเพื่อนำไปสนับสนุนในโครงการอื่น
ๆ ต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2049 | การขอต่ออายุเงินกู้ระยะสั้นแบบ Credit Line ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่ออายุเงินกู้ระยะสั้นแบบ
Credit Line ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
วงเงินปีละ ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท ระยะเวลา ๓ ปี นับตั้งแต่วันที่
๑๑ กันยายน ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ภายใต้เงื่อนไขเดิม ประกอบด้วย กู้เบิกเกินบัญชี
ตั๋วสัญญาใช้เงิน การทำ Trust Receipt (T/R) และการทำสัญญากู้เงินเมื่อทวงถาม
(Call Loan) โดยให้พิจารณาทำสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินที่เสนอรูปแบบที่มีต้นทุนต่ำที่สุดตามอัตราดอกเบี้ยตลาด
โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยจากการกู้เงิน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้
ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นควรบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และพิจารณาเบิกเงินกู้เท่าที่จำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดภาระดอกเบี้ยต่อองค์กรในระยะยาว
โดยการดำเนินการกู้เงินดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ภายใต้วัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอย่างถูกต้องครบถ้วน
และคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกมิติ ตลอดจนความสามารถในการชำระหนี้และการกระจายภาระการชำระหนี้อย่างเหมาะสม
ตามนัยมาตรา ๔๙ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2050 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2566 | สคทช | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
(คทช.) ครั้งที่ ๓/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม
๒๕๖๖ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ โดยที่ประชุมได้มีมติในเรื่องต่าง ๆ เช่น ๑. รับทราบผลการดำเนินงานของฝ่ายเลขานุการ
คทช. และคณะอนุกรรมการภายใต้ คทช. เช่น (๑) ภาพรวมผลการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๖ มีพื้นที่เป้าหมาย ๑,๕๘๒ พื้นที่ ใน ๗๑ จังหวัด เนื้อที่ ๕.๘๙ ล้านไร่ โดยได้จัดคนเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินแล้ว
๘๕,๔๐๓ ราย ๑๐๕,๖๕๗ แปลง เนื้อที่ ๕๘๗,๓๕๗ แสนไร่ ใน ๓๙๓ พื้นที่ (๒) การสร้างมูลค่าที่ดินที่รัฐจัดให้กับประชาชนมีเป้าหมายให้เกษตรกรและคนยากจนที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจากรัฐสามารถนำเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินหรือหนังสือ/เอกสารให้ใช้ที่ดินที่ได้รับจากรัฐไปใช้เป็นหลักประกันการเข้าถึงแหล่งทุนสำหรับการประกอบอาชีพ
(๓) การขับเคลื่อนนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศไปสู่การปฏิบัติ
แบ่งเป็น ๒ ส่วน ได้แก่ ๑) เสริมสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับทราบทิศทางและกรอบแนวทางนโยบายและแผนผ่านการปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ
(พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ระยะ ๕ ปี ๒) การขับคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่ดินทิ้งร้างหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์
เป็นต้น ๒.
เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐
(One Map) และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐของกลุ่มจังหวัดที่
๔ จำนวน ๑๑ จังหวัด ตามที่คณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน
๑ : ๔๐๐๐ (One Map) และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐเสนอ
และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐต่อไป ๓. เห็นชอบในหลักการให้
สคทช.
กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน
๑ : ๔๐๐๐ (One Map) และนำแนวทางปฏิบัติฯ
ดังกล่าว เสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและเมื่อได้รับความเห็นชอบให้นำไปจัดทำแผนที่แนบท้ายกฎหมายโดยไม่ต้องแจ้งเวียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตามมติคณะรัฐมนตรี
(๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕) และมติคณะรัฐมนตรี (๒๒ มีนาคม ๒๕๖๕)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2051 | มาตรการป้องกันความเสี่ยงต่อการทุจริตในกระบวนการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายในที่ดินของรัฐ | ปช. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบมาตรการป้องกันความเสี่ยงต่อการทุจริตในกระบวนการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายในที่ดินของรัฐ
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒.
มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ โดยให้กระทรวงมหาดไทยสรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2052 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาและขยายกรอบวงเงินโครงการ โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา | กษ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล
- บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากเดิม ๕ ปี (ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒ - พ.ศ. ๒๕๖๖) เป็น ๘ ปี (ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒ - พ.ศ. ๒๕๖๙) และให้เพิ่มกรอบวงเงินโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล -
บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากเดิม ๒๑,๐๐๐ ล้านบาท เป็น ๒๕,๔๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่า เนื่องจากมีกิจกรรมการแก้ไขรูปแบบงานก่อสร้าง
เพิ่มเติมอาคารประกอบ และส่วนประกอบอื่นของโครงการ ควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมชลประทาน ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และประชาสัมพันธ์โครงการก่อนการก่อสร้าง
รวมทั้งควรพิจารณาเร่งรัดดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานดำเนินการภายในระยะเวลา และกรอบวงเงินอย่างเคร่งครัด
เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่ตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่อพื้นที่ชุมชน
และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดย กรมชลประทาน ควรรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล -
บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำที่เกี่ยวข้อง และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติทราบ
ทุก ๖ เดือน เพื่อติดตามและกำกับโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้
เนื่องจากเป็นโครงการสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างให้มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2053 | กรอบและงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2568 | นร.11 สศช | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2054 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 | สคทช | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
(คทช.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๐
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ โดยที่ประชุมได้มีมติในเรื่องต่าง
ๆ เช่น ๑. รับทราบผลการดำเนินงานของฝ่ายเลขานุการ คทช. และคณะอนุกรรมการภายใต้
คทช. เช่น (๑) ภาพรวมผลการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ - ปัจจุบัน
มีพื้นที่เป้าหมาย จำนวน ๑,๕๘๒
พื้นที่ ใน ๗๒ จังหวัด เนื้อที่ ประมาณ ๕.๘๙ ล้านไร่
โดยได้จัดคนเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินแล้ว ๘๖,๑๘๘ ราย ๑๐๖,๓๐๒ แปลง เนื้อที่ ๕๘๗,๔๓๙ ไร่ (๒) การปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยมอบหมายกรมแผนที่ทหาร
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบเป็นการเร่งด่วน
เพื่อเสนอ คทช. พิจารณาต่อไป ๒. เห็นชอบการขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรี (๘ เมษายน ๒๕๔๖) เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐให้เข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่าง
ๆ ในพื้นที่นำร่องจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดแม่ฮ่องสอน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2055 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ และนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ) | อก. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2056 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายพรรณธนู วรรณกางซ้าย และนายอัฐฐเสฏฐ จุลเสฏฐพานิช) | ดศ. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายพรรณธนู วรรณกางซ้าย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2057 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายอนันต์ แก้วกำเนิด) | นร.07 | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอนันต์
แก้วกำเนิด ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑
ตุลาคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2058 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสมคิด เชื้อคง ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | นร.04 | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นายสมคิด เชื้อคง ๒. นางสาวธีราภา ไพโรหกุล
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2059 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต) | พน. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสาวอรพินทร์
เพชรทัต เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2060 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ และนายอารี ไกรนรา) | รง. | 01/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑. นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
|