ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 39 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 761 - 780 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 761 | บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา | สธ | 15/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ ๆ ได้แก่ การเฝ้าระวังโรคติดต่อ การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อและโรคติดต่ออุบัติใหม่ การพัฒนาทรัพยากรบุคคลสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข การเสริมสร้างระบบการส่งต่อข้ามพรมแดน และการเสริมสร้างการประสานงานด้านสาธารณสุขในระดับท้องถิ่นระหว่างจังหวัดชายแดน โดยผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล การพัฒนาทรัพยากรบุคคล การวิจัยและการศึกษาร่วมกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขไทย-กัมพูชา (Thailand-Cambodia Ministerial Meeting on Health Cooperation) ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ณ กรุงเทพมหานคร ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 762 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสุปราณี ดาโลดม) | สธ | 08/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสุปราณี ดาโลดม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตสาธารณสุข) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 763 | ขออนุมัติ "แผนยุทธศาสตร์การพัฒนางานด้านกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 สำหรับช่วงปี พ.ศ. 2560 - 2564" | สธ | 08/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติ “แผนยุทธศาสตร์การพัฒนางานด้านกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๘ สำหรับช่วงปี พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔” ประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑) ยุทธศาสตร์เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง (๒) ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบการตรวจจับโรคและภัยสุขภาพให้มีความรวดเร็วและแม่นยำ (๓) ยุทธศาสตร์ดำเนินการควบคุมโรคและภัยสุขภาพอย่างรวดเร็ว เป็นระบบ มีความเป็นเอกภาพ มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย และ (๔) ยุทธศาสตร์พัฒนาและปรับปรุงระบบสนับสนุนการดำเนินงานและบริหารจัดการ และให้กระทรวงสาธารณสุขประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อการจัดทำแผนปฏิบัติการ ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนางานด้านกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๘ สำหรับช่วงปี พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการเพื่อรายงานประจำปีต่อองค์การอนามัยโลก ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดทำแผนปฏิบัติการที่เห็นควรมีการกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบหลักและหน่วยงานสนับสนุนที่สอดคล้องกับภารกิจและหน้าที่ของหน่วยงานในแต่ละยุทธศาสตร์ และให้มีการบูรณาการเชื่อมโยงกับแผนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดความเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติ ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขขอรับการประเมินผลการปฏิบัติตามกฎอนามัยระหว่างประเทศจากองค์การอนามัยโลกตามเครื่องมือการประเมินผลโดยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกร่วมกับผู้เชี่ยวชาญภายในประเทศภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้กระทรวงสาธารณสุขประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประเมินดังกล่าวด้วย ๓. งบประมาณสำหรับการดำเนินงานภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนางานด้านกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๘ สำหรับช่วงปี พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ เห็นควรให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ส่วนค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๔. ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านการสาธารณสุข เพื่อใช้เป็นแผนหลักในการดำเนินการด้านสาธารณสุขของประเทศโดยบูรณาการและรวบรวมแผนยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ของกระทรวงสาธารณสุขไว้ด้วยกัน ทั้งนี้ แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวควรแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ที่มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ และประเด็นการปฏิรูปประเทศ แล้วนำเสนอสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ [เรื่อง แผนงานในภารกิจหลักของหน่วยงานระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙)] ต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 764 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2559)) | สธ | 08/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็ก พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 765 | การขยายเวลาพำนักในราชอาณาจักรไทย รวม 90 วัน สำหรับผู้ป่วยและผู้ติดตาม กรณีเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล ในกลุ่มประเทศ CLMV และสาธารณรัฐประชาชนจีน | สธ | 01/11/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการขยายเวลาพำนักในราชอาณาจักรไทย รวม ๙๐ วัน สำหรับผู้ป่วยและผู้ติดตาม กรณีเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลในกลุ่มประเทศ CLMV และสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการออกประกาศกระทรวงมหาดไทยในส่วนที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญต่อความเห็นของหน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับผลกระทบด้านความมั่นคง การพิจารณาผลกระทบจากการดำเนินการดังกล่าวต่อประสิทธิภาพในการให้บริการด้านสุขภาพของประชาชนไทยในภาพรวม การตรวจสอบและคัดกรองบุคคลสัญชาติดังกล่าวเพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลกรณีหากเข้ามาเคลื่อนไหวหรือประกอบกิจกรรมผิดกฎหมายที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของไทยในภายหลัง เป็นต้น รวมทั้งความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย ดังนี้ ๒.๑ เนื่องจากปัจจุบันสถานพยาบาลของไทยที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับยังมีขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยได้ค่อนข้างจำกัด การขยายโอกาสให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทยจึงอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการให้บริการด้านสาธารณสุขสำหรับชาวไทย ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรวางแผนเพื่อรองรับกรณีหากเกิดปัญหาดังกล่าว โดยให้ความสำคัญกับการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขสำหรับผู้ป่วยชาวไทยเป็นลำดับแรกก่อน ๒.๒ ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันหามาตรการป้องกันผลกระทบด้านความมั่นคงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการขยายระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักรไทยดังกล่าว ๒.๓ โดยที่มาตรการขยายเวลาพำนักในราชอาณาจักรไทยดังกล่าวจะดึงดูดให้มีผู้ป่วยเข้ามารักษาในประเทศไทยมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขควรกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ ที่มีผู้ป่วยเป็นพาหะด้วย ทั้งโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ เพื่อป้องกันมิให้โรคดังกล่าวระบาดในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นภาระงบประมาณที่ต้องใช้ในการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยชาวไทยด้วย ๒.๔ ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้การส่งเสริมและสนับสนุนด้านอื่น ๆ ไปพร้อมกันเป็น Package ด้วย เช่น การลดภาษีสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย การส่งเสริมให้ผู้รับบริการได้ใช้บริการการแพทย์แผนไทย การฝึกอบรมทักษะด้านภาษาแก่บุคลากรด้านสาธารณสุข การเดินทางที่สะดวก สถานพักฟื้นและฟื้นฟูผู้ป่วยในแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 766 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการดำเนินการเกี่ยวกับเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... | สธ | 25/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการดำเนินการเกี่ยวกับเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมหนังสือรับรอง ใบอนุญาต ใบแทน คำขอ และการต่ออายุหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาตดำเนินการเกี่ยวกับเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เห็นควรกำหนดเพิ่มเติมในกฎกระทรวงดังกล่าว ให้มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับ “ใบอนุญาตนำเข้าเชื้อโรคและพิษจากสัตว์” และ “ใบอนุญาตส่งออกเชื้อโรคและพิษจากสัตว์” ให้กับหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงานวิจัยร่วมกับหน่วยงานวิชาการต่างประเทศ โดยกรมปศุสัตว์ยังคงปฏิบัติตามระเบียบดำเนินการอื่นตามวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ อย่างเคร่งครัด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เห็นควรแจ้งห้องปฏิบัติการทางไมโครที่ครอบครองเชื้อโรค แบคทีเรีย และพิษจากสัตว์เพื่อการเตรียมพร้อมและปฏิบัติตามร่างกฎกระทรวงดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 767 | ร่างกฎกระทรวงแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. .... | สธ | 25/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตามพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดการเสนอกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๖ มาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ มาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๓ มาตรา ๒๖ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๖ และมาตรา ๘๐ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้กฎหมายแม่บทมีผลใช้บังคับโดยสมบูรณ์ และสามารถปฏิบัติให้เกิดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 768 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... | สธ | 25/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการนำสาระสำคัญของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๓๕ และพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. ๒๕๓๕ มารวมเป็นกฎหมายฉบับเดียวกัน รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติบางประการให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับข้อสังเกตของกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นควรออกประกาศห้ามการแสดงภาพ ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะจูงใจให้เกิดการบริโภคยาสูบ รวมถึงไม่เปิดเผยข้อมูลรายการส่วนประกอบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพื่อมิให้กระทบต่อสิทธิของเจ้าของความลับทางการค้า เว้นแต่ ในกรณีที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองสุขภาพอนามัยของสาธารณชน และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่เห็นควรให้มีมาตรการรณรงค์เพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ปัจจุบันและไม่เพิ่มผู้สูบบุหรี่รายใหม่ รวมทั้งให้มีการกำหนดพื้นที่การสูบบุหรี่ให้เหมาะสมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๓. รับทราบผลการดำเนินการขอจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบขึ้นเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 769 | ร่างพระราชบัญญัติสุขภาพจิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 25/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสุขภาพจิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยกำหนดเพิ่มเติมบทนิยาม เพิ่มเติมองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ กำหนดสิทธิผู้ป่วยที่จะต้องได้รับ การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกัน และควบคุมปัจจัยที่คุกคามสุขภาพจิต กำหนดให้เจ้าหน้าที่จากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติเป็นผู้ช่วยเหลือพนักงานเจ้าหน้าที่ กำหนดให้คณะกรรมการสถานบำบัดมีอำนาจให้ความยินยอมในการบำบัดรักษาทางกายแทนบุคคล (ผู้ป่วย) รวมทั้งกำหนดให้คณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติจัดทำแผนยุทธศาสตร์การสร้างเสริมสุขภาพจิต การป้องกันและควบคุมปัจจัยที่คุกคามสุขภาพจิต แบบมีส่วนร่วม โดยเชื่อมโยงและประสานสอดคล้องกันทั้งระดับชาติ ระดับจังหวัด และระดับท้องถิ่น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับร่างมาตรา ๑๙/๑ เนื่องจากความยินยอมในการเข้ารับการรักษาของคนไข้ โดยหลักควรจะต้องเกิดจากความยินยอมของคนไข้ หรือผู้มีอำนาจให้ความยินยอมตามกฎหมาย เนื่องจากการรักษาอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตหรือร่างกายได้ไม่มากก็น้อย เช่น ฉีดยา ผ่าตัด หากเป็นกรณีที่คนไข้มีอาการทางกายจนน่าจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตแต่ไม่อยู่ในวิสัยที่จะให้ความยินยอมได้ กรณีนี้อาจบังคับตามเหตุแห่งความจำเป็นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๗ ได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 770 | ร่างนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560 - 2569) ว่าด้วยการส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโต อย่างมีคุณภาพ | สธ | 18/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๙) ว่าด้วยการส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขจุดอ่อนของนโยบายและยุทธศาสตร์ฉบับที่แล้ว และคำนึงถึงความต่อเนื่องและประโยชน์ต่อประชาชนเป็นสำคัญ รวมถึงเพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในการแก้ไขป้องกันและแก้ไขปัญหาคุณภาพการเกิดและการเจริญเติบโตของเด็กปฐมวัย ซึ่งร่างนโยบายและยุทธศาสตร์ฉบับนี้ ประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑) พัฒนากฎหมาย นโยบายและยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง (๒) พัฒนาระบบบริการสาธารณสุขและสร้างการเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม (๓) พัฒนาระบบจัดสวัสดิการสังคม และ (๔) พัฒนาระบบสารสนเทศและการสื่อสารสังคม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเพิ่มเติมมาตรการที่เอื้อต่อการสร้างครอบครัวและมีบุตรให้สอดคล้องกับหลักแนวคิดของแผนดังกล่าวในส่วนของการสนับสนุนการผลิตสื่อสร้างสรรค์ที่มีรูปแบบหลากหลายที่ให้ความรู้ในการเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กปฐมวัย การจัดให้สถานประกอบการมีการจ้างงานที่ยืดหยุ่น และการจัดให้มีระบบช่วยเหลือพิเศษสำหรับครอบครัวที่ไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรได้ รวมทั้งควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์ที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ เช่น อัตราการตายของทารกแรกเกิด ซึ่งประเทศไทยสามารถบรรลุได้ตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ แต่ในบางจังหวัดกลับพบว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูง เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 771 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณงานก่อสร้างอาคารหน่วยกามโรคและโรคเอดส์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 (ชื่อเดิม : สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3) ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จำนวน 1 หลัง | สธ | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเพิ่มวงเงินรายการก่อสร้างอาคารหน่วยกามโรคและโรคเอดส์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๖ ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จำนวน ๒,๖๔๑,๕๑๐.๖๗ บาท มาสมทบกับวงเงินค่าก่อสร้างที่สำนักงบประมาณเห็นชอบไว้แล้ว จำนวน ๒๘,๒๗๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๓๐,๙๑๑,๕๑๐.๖๗ บาท โดยใช้เงินบำรุงของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๖ จังหวัดชลบุรี สมทบเพิ่มเติมตามสัญญาที่จะแก้ไขเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรตรวจสอบข้อเท็จจริง ความคลาดเคลื่อนจากการออกแบบ ซึ่งจะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชาชีพ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ความคลาดเคลื่อนในลักษณะดังกล่าวก่อให้เกิดความสูญเสียและเสียหายต่อรัฐ และให้เกิดความรอบคอบในการดำเนินงาน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 772 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายกำพล กาญจโนภาศ) | สธ | 04/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้ง นายกำพล กาญจโนภาศ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม) งานบริการสุขภาพชุมชน กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลหาดใหญ่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 773 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตให้ศึกษาวิจัยหรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า พ.ศ. .... | สธ | 04/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตให้ศึกษาวิจัยหรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาตให้ต่อใบอนุญาต และการขอและการออกใบแทนใบอนุญาตให้ศึกษาวิจัยหรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 774 | (ร่าง) แผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2560 - 2564 | สธ | 04/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติ (ร่าง) แผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศส่งออกวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนำของอาเซียนภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ และมูลค่าของวัตถุดิบสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างน้อย ๑ เท่าตัวภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑) ส่งเสริมผลิตผลของสมุนไพรไทยที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ (๒) พัฒนาอุตสาหกรรมและการตลาดสมุนไพรให้มีคุณภาพระดับสากล (๓) ส่งเสริมการใช้สมุนไพรเพื่อการรักษาโรคและการสร้างเสริมสุขภาพ และ (๔) สร้างความเข้มแข็งของการบริหารและนโยบายภาครัฐเพื่อการขับเคลื่อนสมุนไพรไทยอย่างยั่งยืน กรอบวงเงินงบดำเนินการและงบลงทุนรวมประมาณ ๑๘,๕๐๐ ล้านบาท ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงหลักทั้ง ๙ กระทรวง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ๑.๓ เห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ มีบทบาทหน้าที่ในการกำหนด นโยบายขับเคลื่อน และติดตามผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทฯ รวมถึงให้ข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสมุนไพรของประเทศ โดยมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ๒. ส่วนเรื่องงบประมาณค่าใช้จ่ายให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดแผนการปฏิบัติงานภายใต้กรอบทิศทางตามแผนแม่บทฯ ให้มีความชัดเจน และปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการปีแรก โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า และการบูรณาการการดำเนินงานเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติงาน ตลอดจนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการประเมินผลเป็นรายปี และควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับนโยบายด้านสาธารณสุขในภาพรวม นโยบายส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness) ความคุ้มค่าด้านงบประมาณ สามารถเข้าถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ที่ ๓ ส่งเสริมการใช้สมุนไพรเพื่อการรักษาโรคและการสร้างเสริมสุขภาพ ควรครอบคลุมการพัฒนาระบบการจัดการความเสี่ยงจากผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่อันตรายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค เช่น การสร้างระบบการเฝ้าระวังและเครือข่ายในการจัดการปัญหา และระบบติดตามการตลาดหลังการขายที่เข้มงวดและมีบทลงโทษที่เหมาะสม รวมทั้งควรเพิ่มเติมกิจกรรมที่จะทำให้การขับเคลื่อนแผนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการ ๓.๑ เร่งรัดการสรรหาบุคคลผู้ซึ่งสมควรดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ แล้วนำเสนอประธานกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ๓.๒ บูรณาการการทำงานตามแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทยตามที่เสนอในครั้งนี้กับยุทธศาสตร์ Medical Hub ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๙ [เรื่อง ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๘) ระยะ ๑๐ ปี] เพื่อให้การดำเนินการมีความเหมาะสม เป็นปัจจุบัน ไม่ซ้ำซ้อน และสอดคล้องกันต่อไป รวมทั้งกำหนดเป้าหมายการดำเนินการและผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมในปี ๒๕๖๐ ด้วย ๓.๓ พิจารณาทบทวนปรับปรุงกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒ รวมทั้งร่างพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. .... ให้มีความเหมาะสม เป็นปัจจุบัน ไม่ซ้ำซ้อน และสอดคล้องกันต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 775 | ขอความเห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนาและการแก้ไขปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียสำหรับหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข | สธ | 27/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบยุทธศาสตร์การพัฒนาและการแก้ไขปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียสำหรับหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๕ มีสาระสำคัญเป็นการดำเนินการเพื่อให้สถานพยาบาลมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งพัฒนาให้มีระบบสนับสนุน บุคลากรที่มีองค์ความรู้ และนวัตกรรมที่สามารถรองรับการดำเนินงานได้ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการออกแบบรายละเอียดระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียควรคำนึงถึงอัตราการเกิดของปริมาณน้ำเสียให้ครอบคลุมทุกแหล่งกำเนิดภายในโรงพยาบาล การออกแบบรายละเอียดก่อสร้างควรพิจารณาระบบรวบรวมน้ำเสีย ระบบท่อแยก และโรงพยาบาลควรพิจารณานำน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่โรงพยาบาล หากมีการปล่อยออกสู่ระบบระบายน้ำหรือแหล่งน้ำสาธารณะ ควรมีการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำให้ได้มาตรฐานน้ำทิ้งอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังตรวจสอบและติดตามมิให้มีการปล่อยน้ำเสียหรือกรณีชำรุดรั่วไหลออกสู่ภายนอกอันอาจก่อให้เกิดผลกระทบกับชุมชนบริเวณโดยรอบ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ฯ ตามกรอบระยะเวลาการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๙ (เรื่อง การเสนอโครงการที่ต้องขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี) และปรับระยะเวลาของยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้สอดคล้องกับระยะเวลาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 776 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเสริมสร้างความเข็มแข็งและก้าวหน้าของประเทศตามแนวทางปฏิรูป เพิ่มเติม [โครงการขับเคลื่อนและปฏิรูประบบบริการสุขภาพ : การพัฒนารูปแบบการจัดบริการเครือข่ายบริการปฐมภูมิเขตเมือง (PCC)] | สธ | 27/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเสริมสร้างความเข้มแข็งและก้าวหน้าของประเทศตามแนวทางปฏิรูปสำหรับดำเนินโครงการขับเคลื่อนและปฏิรูประบบบริการสุขภาพ : การพัฒนารูปแบบการจัดบริการเครือข่ายบริการปฐมภูมิเขตเมือง (Primary Care Cluster : PCC) จำนวน ๓๕๖,๙๔๕,๖๐๐ บาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างศูนย์สุขภาพชุมชน ๔ ชั้น ในพื้นที่ ๘ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ กำแพงเพชร ขอนแก่น เพชรบูรณ์ ตรัง เชียงใหม่ พิษณุโลก และน่าน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเกี่ยวกับการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ขอให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส และถูกต้อง มีการแข่งขันการประมูลอย่างเป็นธรรม ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 777 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 5 ราย 1. นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ ฯลฯ) | สธ | 27/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง) ประเภทบริหารระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๕ ราย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ ๑.๒ นางพรรณพิมล วิปุลากร ๑.๓ นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ๑.๔ นายไพศาล ดั่นคุ้ม ๑.๕ นางวารุณี จินารัตน์ ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๔๗ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการแต่งตั้งข้าราชการระดับ ๑๐ หรือ ระดับ ๑๑) และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งภายหลังวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 778 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 รวม 6 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริการอื่นในกิจการสปา พ.ศ. ....) | สธ | 20/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ รวม ๖ ฉบับ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการควบคุม กำกับดูแลมาตรฐานของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพของผู้ประกอบการกิจการ ผู้ดำเนินการ และผู้ให้บริการ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริการอื่นในกิจการสปา พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยผู้ดำเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... ๕. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... ๖. ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัยและการให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 779 | ร่างกฎกระทรวงการขอขึ้นทะเบียน การออกใบสำคัญการขึ้นทะเบียน และการเพิกถอนการขึ้นทะเบียนที่ดินที่เป็นถิ่นกำเนิดของสมุนไพร หรือที่จะใช้ปลูกสมุนไพร พ.ศ. .... | สธ | 20/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขอขึ้นทะเบียน การออกใบสำคัญการขึ้นทะเบียน และการเพิกถอนการขึ้นทะเบียนที่ดินที่เป็นถิ่นกำเนิดของสมุนไพร หรือที่จะใช้ปลูกสมุนไพร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการขอขึ้นทะเบียน การออกใบสำคัญ และการเพิกถอนการขึ้นทะเบียนที่ดินที่เป็นถิ่นกำเนิดสมุนไพรหรือที่จะใช้ปลูกสมุนไพร ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือหรือการสนับสนุน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เห็นควรกำหนดนิยาม “ที่ดิน” ให้ชัดเจนว่า ที่ดินเอกชนต้องเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ หรือมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับที่ดินของรัฐต้องเป็นที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และตัดข้อความใน ข้อ ๙(๕) การใช้ประโยชน์ที่ดินจะต้องเป็นไปตามแผนงานหรือโครงการ... ออก เนื่องจากเป็นข้อความเดียวกันกับข้อ ๙ (๔) นอกจากนี้ ข้อ ๖ การออกใบสำคัญการขึ้นทะเบียน ควรกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาที่ดินที่มีผู้อื่นยื่นคำขอเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของนายทะเบียนในการออกใบสำคัญการขึ้นทะเบียนที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งข้อ ๙ ผู้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียน มีหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไข... ข้อความในข้อ (๔) และข้อ (๕) ซ้ำกัน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ในข้อ ๔(๒) ของร่างกฎกระทรวงฯ ที่ระบุให้การยื่นหลักฐานเพื่อขอขึ้นทะเบียนจะต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับการสำรวจพื้นที่เพื่อระบุข้อมูลพื้นฐานของสมุนไพร รวมถึงชื่อและชนิดของสมุนไพรที่เกิดตามธรรมชาติ ควรให้ความสำคัญกับการดำเนินการร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยเฉพาะการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการที่ชัดเจนและการสนับสนุนข้อมูลเชิงวิชาการเพื่ออำนวยความสะดวกในขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียนที่ดินสำหรับการปลูกสมุนไพรให้แก่ผู้ครอบครองที่ดิน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 780 | ขอความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติเรื่องการดื้อยาต้านจุลชีพ (Political Declaration of the High-level Meeting of the General Assembly on Antimicrobial Resistance) | สธ | 20/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติเรื่องการดื้อยาต้านจุลชีพ (Political Declaration of the High-level Meeting of the General Assembly on Antimicrobial Resistance) ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองในการจัดการกับปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพ โดยจะมีการรับรองร่างปฏิญญาฯ ในการประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติเรื่องการดื้อยาต้านจุลชีพ [United Nations General Assembly (UNGA) High-level Meeting on Antimicrobial Resistance] ในวันพุธที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๙ ณ สำนักงานสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ๑.๒ ให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการต่างประเทศร่วมรับรองร่างปฏิญญาดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติเรื่องการดื้อยาต้านจุลชีพที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
