ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 32 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 621 - 640 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 621 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยผู้ดำเนินการสถานพยาบาลตามประเภท และลักษณะการให้บริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาล พ.ศ. .... | สธ | 15/05/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยผู้ดำเนินการสถานพยาบาลตามประเภท และลักษณะการให้บริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงว่าด้วยผู้ดำเนินการสถานพยาบาลตามประเภทและลักษณะการให้บริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ เพื่อกำหนดประเภทและลักษณะการให้บริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาลที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทันตกรรม การพยาบาลและการผดุงครรภ์ กายภาพบำบัด เทคนิคการแพทย์ การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ และผู้ประกอบโรคศิลปะ มีสิทธิได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ดำเนินการ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 622 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายนิพัทธ์ สีมาขจร) | สธ | 08/05/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายนิพัทธ์ สีมาขจร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 623 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายวิศัลย์ มูลศาสตร์) | สธ | 01/05/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายวิศัลย์ มูลศาสตร์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานการรักษา กลุ่มบริการเฉพาะทาง สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๐ ๒. นางจิตสุดา บัวขาว ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม) กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 624 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางจิตสุดา บัวขาว) | สธ | 01/05/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายวิศัลย์ มูลศาสตร์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานการรักษา กลุ่มบริการเฉพาะทาง สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๐ ๒. นางจิตสุดา บัวขาว ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม) กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 625 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดการศึกษา การฝึกอบรมหรือการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบโรคศิลปะหรือการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข พ.ศ. .... | สธ | 24/04/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดการศึกษา การฝึกอบรม หรือการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบโรคศิลปะหรือการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ให้สถานพยาบาลที่จะดำเนินการจัดการศึกษา การฝึกอบรม หรือการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขต้องดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 626 | ร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. .... | สธ | 17/04/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งสถาบันพระบรมราชชนกเป็นสถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งรัฐ มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงาน ก.พ. และข้อสังเกตของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลในสถาบันพระบรมราชชนกซึ่งมีบุคลากรหลายประเภทการจ้าง กระทรวงสาธารณสุขควรพิจารณาประเด็นข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรบุคคลแต่ละประเภทอย่างรอบคอบและครอบคลุม ควรจัดการเรียนการสอนเฉพาะด้านการแพทย์การพยาบาล หรือการสาธารณสุขเท่านั้น และควรมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาอื่นทั้งในและต่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 627 | บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐคิวบาว่าด้วยความร่วมมือในสาขาสาธารณสุขและการวิจัยทางการแพทย์ | สธ | 17/04/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐคิวบาว่าด้วยความร่วมมือในสาขาสาธารณสุขและการวิจัยทางการแพทย์ มีสาระสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขและแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างไทยกับคิวบาในสาขาโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ การวิจัยทางการแพทย์ เภสัชวิทยา และเทคโนโลยีชีวภาพ นโยบายเกี่ยวกับเภสัชกรรม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ระบบสุขภาพและการสาธารณสุขมูลฐาน แพทยศาสตรศึกษา เทคโนโลยีชีวภาพ และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ระหว่างการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐคิวบาอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๘ เมษายน ๒๕๖๑ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขนำประเด็นเกี่ยวกับการผลิตยาจากสมุนไพรไทยไปเจรจาเพื่อจัดทำความร่วมมือเพิ่มเติมกับฝ่ายคิวบาด้วย และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 628 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (1. นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 2. นายอุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ) | สธ | 17/04/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไม่อาจปฏิบัติราชการได้ และไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ ดังนี้ (๑) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์) และ (๒) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายอุดม คชินทร) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขด้วย และให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข) ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๗ เมษายน ๒๕๖๑) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 629 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสำอาง พ.ศ. .... | สธ | 17/04/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสำอาง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสำอาง เพื่อประโยชน์ในการควบคุมคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ สุขอนามัย และความปลอดภัยของผู้ใช้ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 630 | ร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 17/04/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาอนุญาตเครื่องมือแพทย์ เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗๗/๒๕๕๙ เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการพิจารณาอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพ สั่ง ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เพื่อให้กระบวนการพิจารณาอนุญาตเครื่องมือแพทย์มีประสิทธิภาพ สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่งรวมกับร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ [เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลาและกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 631 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดสุขลักษณะการจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน พ.ศ. .... | สธ | 20/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดสุขลักษณะการจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรการในการควบคุมหรือกำกับดูแลการจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชนให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสุขภาพและอนามัยของประชาชน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับการบริหารจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน การแก้ไขข้อกำหนดบางประการในร่างกฎกระทรวง และการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 632 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 20/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จากตำรายาแผนไทยของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ และค่าธรรมเนียมคำขออนุญาต คำขอขึ้นทะเบียน และคำขอจดทะเบียน เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 633 | โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยารังสิตระยะที่สอง | สธ | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้องค์การเภสัชกรรมดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยารังสิตระยะที่สอง โดยเป็นการสร้างโรงงานผลิตยาพร้อมติดตั้งระบบและเครื่องจักรในการดำเนินการให้ได้มาตรฐานการผลิตสากลตามหลักการของ GMP PIC/S และเป็นการทดแทนโรงงานผลิตยาพระราม ๖ ซึ่งมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการรองรับการขยายกำลังการผลิตในอนาคตขององค์การเภสัชกรรม ดำเนินการในที่ดินราชพัสดุที่องค์การเภสัชกรรมเช่าจากกรมธนารักษ์ บริเวณคลอง ๑๐ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พื้นที่ประมาณ ๙๘ ไร่ วงเงินลงทุนรวม ๕,๖๐๗.๘๔ ล้านบาท โดยให้ใช้แหล่งเงินลงทุนจากเงินรายได้ขององค์การเภสัชกรรม จำนวน ๒,๒๔๓.๑๔ ล้านบาท และเงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ จำนวน ๓,๓๖๔.๗๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สำหรับการกู้เงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนก่อสร้างในโครงการฯ วงเงิน ๓,๓๖๔.๗๐ ล้านบาท เห็นควรให้องค์การเภสัชกรรมใช้เงินกู้ในประเทศ โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินกู้ ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุข (องค์การเภสัชกรรม) กำกับดูแลการบริหารโครงการฯ เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับกำหนดเวลาตามแผนงาน อาทิ การมีที่ปรึกษาด้านการบริหารโครงการฯ ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพและการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงให้ครอบคลุมการดำเนินงานของโครงการฯ โดยเฉพาะปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความล่าช้าของโครงการฯ และฐานะการเงินขององค์กร ตามความเห็นของกระทรวงการคลังและคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๓. ให้องค์การเภสัชกรรมพิจารณากำหนดแนวทางการลงทุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมยาที่เป็นภาพรวมของประเทศสำหรับการสร้างรายได้จากการขยายสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนควบคู่กับการเสริมสร้างความมั่นคงของระบบยาและการเข้าถึงยาของประชาชน โดยให้มีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศ ตามความเห็นของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 634 | ขออนุมัติงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 และกรอบงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | สธ | 13/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ วงเงิน ๑๘๑,๕๘๔.๐๙ ล้านบาท จำแนกเป็น ๒ รายการหลัก คือ (๑) งบประมาณค่าบริการทางการแทพย์เหมาจ่ายรายหัว วงเงิน ๑๖๖,๔๔๕.๒๓ ล้านบาท และ (๒) งบประมาณค่าบริการทางการแพทย์อื่น วงเงิน ๑๕,๑๓๘.๘๖ ล้านบาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน (ในคราวประชุมคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน ครั้งที่ ๑๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๐) เช่น ควรให้ความสำคัญกับความพร้อมและศักยภาพของผู้ให้บริการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดบริการที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และมีการติดตามประเมินผลตามตัวชี้วัดที่สะท้อนถึงผลลัพธ์ของนโยบายดังกล่าว ควรเร่งดำเนินการด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแก่ประชาชนทั่วไปโดยเร่งด่วน พร้อมทั้งให้มีการบริหารจัดการและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณค่ารักษาพยาบาล โดยเฉพาะการบริการผู้ป่วยในให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพตามมาตรฐาน ควรพิจารณาบริการที่มีแนวโน้มบริการเพิ่มขึ้นและอาจส่งผลต่องบประมาณที่ได้รับ รวมทั้งควรให้มีเกณฑ์การวัดคุณภาพบริการของหน่วยบริการ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุข สปสช. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการบูรณาการการดำเนินงานด้านการป้องกันโรคร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโครงการคลินิกหมอครอบครัว (Primary Care Cluster : PCC) ซึ่งเป็นบริการเชิงรุกเพื่อเน้นการดูแลป้องกันก่อนการเจ็บป่วยเพื่อลดความซ้ำซ้อนของการปฏิบัติงานและภาระงบประมาณด้านสาธารณสุขในพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งเพื่อลดภาระงบประมาณในระยะยาวต่อไป ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๑ (เรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการจัดบริการสาธารณสุขปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑) ๓. สำหรับกรอบงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้ สปสช. ดำเนินการตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ กฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการให้เป็นไปตามปฏิทินงบประมาณ ตลอดจนแนวทางต่าง ๆ ตามที่สำนักงบประมาณกำหนด โดยให้ สปสช. ประสานงานกับสำนักงบประมาณอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การพิจารณางบประมาณเป็นไปด้วยความเหมาะสมและถูกต้องตามขั้นตอนต่อไป ๔. ให้กระทรวงสาธารณสุขและ สปสช. สร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการดำเนินการของระบบหลักประกันสุขภาพ ตลอดจนภาระงบประมาณของภาครัฐในการดำเนินการดังกล่าวต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 635 | บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขและแพทยศาสตรศึกษาแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข | สธ | 06/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขและแพทยศาสตรศึกษาแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ซึ่งจะมีการลงนามระหว่างการเยือนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๑ โดยบันทึกความเข้าใจฯ จะมีส่วนช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และมีส่วนช่วยในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านสาธารณสุขซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เช่น การพัฒนาระบบประกันสุขภาพ การผลิตยาและเครื่องมือทางการแพทย์ และการพัฒนาเวชศาสตร์ครอบครัว (โครงการหมอครอบครัว) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยกระทรวงการต่างประเทศไม่ต้องออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตามหลักการของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ [เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers)] ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ในกรณีมีความจำเป็นต้องจัดทำข้ออนุวัติการเพื่อรองรับการดำเนินงานของบันทึกความเข้าใจฯ ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดส่งร่างความตกลงให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 636 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการจัดบริการสาธารณสุข ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | สธ | 06/03/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณ จำนวน ๕,๑๘๖.๑๓ ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการบริการสาธารณสุขและเพื่อลดปัญหาการขาดสภาพคล่องของหน่วยบริการ จำนวน ๒ รายการ ประกอบด้วย (๑) ค่าใช้จ่ายบริการสำหรับผู้ป่วยในสำหรับหน่วยบริการทุกสังกัด ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จำนวน ๔,๑๘๖.๑๓ ล้านบาท และ (๒) ค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๑,๐๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการบูรณาการการดำเนินงานด้านการป้องกันโรคร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโครงการคลินิกหมอครอบครัว (Primary Care Cluster : PCC) ซึ่งเป็นบริการเชิงรุกเพื่อเน้นการดูแลป้องกันก่อนการเจ็บป่วย เพื่อลดความซ้ำซ้อนของการปฏิบัติงานและภาระงบประมาณด้านสาธารณสุขในพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งเพื่อลดภาระงบประมาณในระยะยาวต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจัดทำข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับระบบการให้บริการสาธารณสุขของไทยเปรียบเทียบกับต่างประเทศ และชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 637 | การลงนามในกรอบข้อตกลงการดำเนินงานกับกองทุนโลกเพื่อต่อสู้โรคเอดส์ วัณโรคและมาลาเรีย พ.ศ. 2561-2563 | สธ | 27/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการลงนามในกรอบข้อตกลงการดำเนินงาน (Framework Agreement) ระหว่างรัฐบาลไทยกับกองทุนโลกเพื่อต่อสู้โรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๓ ๑.๒ เห็นชอบเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทกับกองทุนโลกฯ โดยวิธีอนุญาโตตุลาการที่กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส โดยใช้ภาษาอังกฤษ ตามกฎเกณฑ์ของอนุญาโตตุลาการของกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ (UNCITRAL Arbitration Rules) ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นคู่สัญญาแทนรัฐบาลไทย โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในกรอบข้อตกลงการดำเนินงานในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย ๑.๔ มอบหมายกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคลงนามในเอกสารยืนยันการรับทุน (Grant Confirmation) กับกองทุนโลกฯ และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกองทุนโลกฯ ในแต่ละรอบการให้ทุนของกองทุนโลกฯ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีตามข้อ ๑ วรรค ๑.๑(๒) (a) (ii) ของกรอบข้อตกลงฯ ซึ่งกำหนดให้ควรมีการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยเงินสนับสนุนจากกองทุนโลกฯ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการร่วมกับกองทุนโลกฯ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการให้เอกสิทธิ์และความคุ้มกันและสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่กองทุนโลกฯ หรือองค์กรที่มีลักษณะเดียวกันในอนาคต ตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 638 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (จำนวน 8 ราย 1. นายสมชาย ไวกิตติพงษ์ ฯลฯ) | สธ | 27/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๘ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายสมชาย ไวกิตติพงษ์ ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลยะลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๙ ๒. นายเจริญ เกียรติวัชรชัย ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๙ ๓. นายวิศิษฎ์ ประสิทธิศิริกุล ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มวิจัยและพัฒนาโรคเอดส์และโรคติดเชื้อสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๐ ๔. นายนพดล ไพบูลย์สิน ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานพัฒนารูปแบบการควบคุมโรค กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ๕. นายสมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ๖. นายสุรพร ลอยหา ดำรงตำแหน่ง สาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ ๗. นายไพศาล ธัญญาวินิชกุล ดำรงตำแหน่ง สาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ ๘. นางวิระวรรณ ถิ่นยืนยง ดำรงตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ด้านสุขาภิบาล) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 639 | การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan) | สธ | 27/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเลื่อนการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan) ซึ่งเป็นบันทึกความเข้าใจฉบับเดียวกันกับที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๐ มีสาระสำคัญ เช่น การส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยกับภูฏาน เช่น การควบคุมโรค ความปลอดภัยของอาหาร การแพทย์แผนดั้งเดิม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษาและวิจัยทางการแพทย์ เป็นต้น ซึ่งเดิมกำหนดการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๐ เป็นกำหนดการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 640 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางสาวนิลเนตร วีระสมบัติ) | สธ | 27/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวนิลเนตร วีระสมบัติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) (ด้านเวชกรรม) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
