ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 35 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 681 - 700 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 681 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (พันตำรวจตรี วิชาญ กาญจนถวัลย์) | สธ | 19/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พันตำรวจตรี วิชาญ กาญจนถวัลย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาออร์โธปิดิกส์) กลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านออร์โธปิดิกส์ กลุ่มภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 682 | บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan) | สธ | 19/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan) มีสาระสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยกับภูฏาน โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นความสนใจร่วมกันรวม ๑๐ ประเด็น ได้แก่ (๑) การควบคุมโรค (๒) การแพทย์ดั้งเดิม (๓) ผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอาง (๔) การรับรองคุณภาพห้องปฏิบัติการ (๕) ทรัพยากรบุคคลด้านสาธารณสุข (๖) การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (๗) การให้บริการด้านการบำบัดและรักษายาเสพติด (๘) การวิจัยและการศึกษาด้านการแพทย์ (๙) ระบบการกำกับดูแลยาของประเทศ และ (๑๐) สาขาความร่วมมืออื่น ๆ โดยจะมีการลงนามในระหว่างที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขภูฏานจะเดินทางเยือนประเทศไทยในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๐ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศไม่ต้องออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๔. ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมต่อยอดให้เกิดประโยชน์จากความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจฯ โดยเฉพาะในเรื่องการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ด้านการแพทย์ดั้งเดิมและสมุนไพรหายากของภูฏาน รวมทั้งประสบการณ์ในการบริหารจัดการน้ำดื่มในชนบทภูฏานมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 683 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงสาธารณสุข) (จำนวน 4 ราย 1. นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ฯลฯ) | สธ | 19/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสุระ วิเศษศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายสุเทพ เพชรมาก ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 684 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2558 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงการแจ้งและการดำเนินการเกี่ยวกับการแจ้ง เชื้อโรค กลุ่มที่ 2 และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ 1 พ.ศ. ....) | สธ | 12/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวการงแจ้งและการดำเนินการเกี่ยวกับการแจ้ง เชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ และพิษจากสัตว์กลุ่มที่ ๑ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแจ้งและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ประสงค์จะผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงปานกลางหรืออันตรายปานกลางและพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๑ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ไม่ร้ายแรงและและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเฉพาะเชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงสูงหรืออันตรายสูง หรือพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ร้ายแรงและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้งกรณีที่มีเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายเนื่องจากกระบวนการหรือขั้นตอนที่เกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ ต้องแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบเมื่อเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายต่อบุคคล สิ่งแวดล้อม หรือสาธารณชน ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกรณีที่ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการกรณีผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ กำหนดรายการเชื้อโรคและพิษจากสัตว์โดยคำนึงถึง “ความเสี่ยงหรืออันตราย” ดังนั้น หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ควรใช้หลักการความเสี่ยงหรืออันตรายที่สูงขึ้นแทนการใช้หลัก “ระดับความรุนแรงสูงขึ้น” ๒.๒ สิทธิการอุทธรณ์ตามหมวด ๘ ของพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดสิทธิอุทธรณ์ได้ทั้งกรณีการไม่ออกหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาตและการไม่อนุญาตให้ต่ออายุหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาต แต่ขณะที่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ยังไม่ได้กำหนดสิทธิอุทธรณ์เรื่องดังกล่าว ๒.๓ วิธีการทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ในร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๔ ในข้อ ๓ ที่กำหนดให้การทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคและพิษจากสัตว์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ออกตามความในมาตรา ๖ (๑๕) ของพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ ข้อ ๑.๒ และข้อ ๑.๓ มิได้ระบุเรื่องดังกล่าวไว้ ๒.๔ การกำหนดวันที่ต้องดำเนินการ ควรกำหนดในรูปแบบของจำนวนวันทำการให้สอดคล้องกันในทุกฉบับ ๒.๕ หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ กำหนดให้เมื่อเชื้อโรคและพิษจากสัตว์มีระดับความรุนแรงสูงขึ้นกว่าระดับที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการแจ้ง ให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้ได้รับอนุญาตแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบทันที ทั้งนี้ ควรกำหนดนิยามของความไม่ปลอดภัยไว้ให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 685 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2558 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เชื้อโรค กลุ่มที่ 3 และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ 2 พ.ศ. ....) | สธ | 12/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวการงแจ้งและการดำเนินการเกี่ยวกับการแจ้ง เชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ และพิษจากสัตว์กลุ่มที่ ๑ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแจ้งและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ประสงค์จะผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงปานกลางหรืออันตรายปานกลางและพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๑ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ไม่ร้ายแรงและและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเฉพาะเชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงสูงหรืออันตรายสูง หรือพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ร้ายแรงและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้งกรณีที่มีเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายเนื่องจากกระบวนการหรือขั้นตอนที่เกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ ต้องแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบเมื่อเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายต่อบุคคล สิ่งแวดล้อม หรือสาธารณชน ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกรณีที่ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการกรณีผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ กำหนดรายการเชื้อโรคและพิษจากสัตว์โดยคำนึงถึง “ความเสี่ยงหรืออันตราย” ดังนั้น หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ควรใช้หลักการความเสี่ยงหรืออันตรายที่สูงขึ้นแทนการใช้หลัก “ระดับความรุนแรงสูงขึ้น” ๒.๒ สิทธิการอุทธรณ์ตามหมวด ๘ ของพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดสิทธิอุทธรณ์ได้ทั้งกรณีการไม่ออกหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาตและการไม่อนุญาตให้ต่ออายุหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาต แต่ขณะที่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ยังไม่ได้กำหนดสิทธิอุทธรณ์เรื่องดังกล่าว ๒.๓ วิธีการทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ในร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๔ ในข้อ ๓ ที่กำหนดให้การทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคและพิษจากสัตว์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ออกตามความในมาตรา ๖ (๑๕) ของพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ ข้อ ๑.๒ และข้อ ๑.๓ มิได้ระบุเรื่องดังกล่าวไว้ ๒.๔ การกำหนดวันที่ต้องดำเนินการ ควรกำหนดในรูปแบบของจำนวนวันทำการให้สอดคล้องกันในทุกฉบับ ๒.๕ หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ กำหนดให้เมื่อเชื้อโรคและพิษจากสัตว์มีระดับความรุนแรงสูงขึ้นกว่าระดับที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการแจ้ง ให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้ได้รับอนุญาตแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบทันที ทั้งนี้ ควรกำหนดนิยามของความไม่ปลอดภัยไว้ให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 686 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2558 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้งกาณีที่มีเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายเนื่องจากกระบวนการหรือขั้นตอนที่เกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ พ.ศ. ....) | สธ | 12/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวการงแจ้งและการดำเนินการเกี่ยวกับการแจ้ง เชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ และพิษจากสัตว์กลุ่มที่ ๑ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแจ้งและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ประสงค์จะผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงปานกลางหรืออันตรายปานกลางและพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๑ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ไม่ร้ายแรงและและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเฉพาะเชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงสูงหรืออันตรายสูง หรือพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ร้ายแรงและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้งกรณีที่มีเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายเนื่องจากกระบวนการหรือขั้นตอนที่เกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ ต้องแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบเมื่อเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายต่อบุคคล สิ่งแวดล้อม หรือสาธารณชน ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกรณีที่ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการกรณีผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ กำหนดรายการเชื้อโรคและพิษจากสัตว์โดยคำนึงถึง “ความเสี่ยงหรืออันตราย” ดังนั้น หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ควรใช้หลักการความเสี่ยงหรืออันตรายที่สูงขึ้นแทนการใช้หลัก “ระดับความรุนแรงสูงขึ้น” ๒.๒ สิทธิการอุทธรณ์ตามหมวด ๘ ของพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดสิทธิอุทธรณ์ได้ทั้งกรณีการไม่ออกหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาตและการไม่อนุญาตให้ต่ออายุหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาต แต่ขณะที่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ยังไม่ได้กำหนดสิทธิอุทธรณ์เรื่องดังกล่าว ๒.๓ วิธีการทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ในร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๔ ในข้อ ๓ ที่กำหนดให้การทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคและพิษจากสัตว์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ออกตามความในมาตรา ๖ (๑๕) ของพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ ข้อ ๑.๒ และข้อ ๑.๓ มิได้ระบุเรื่องดังกล่าวไว้ ๒.๔ การกำหนดวันที่ต้องดำเนินการ ควรกำหนดในรูปแบบของจำนวนวันทำการให้สอดคล้องกันในทุกฉบับ ๒.๕ หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ กำหนดให้เมื่อเชื้อโรคและพิษจากสัตว์มีระดับความรุนแรงสูงขึ้นกว่าระดับที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการแจ้ง ให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้ได้รับอนุญาตแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบทันที ทั้งนี้ ควรกำหนดนิยามของความไม่ปลอดภัยไว้ให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 687 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2558 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกรณีที่ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล พ.ศ. ....) | สธ | 12/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงการแจ้งและการดำเนินการเกี่ยวกับการแจ้ง เชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ และพิษจากสัตว์กลุ่มที่ ๑ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การแจ้งและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ประสงค์จะผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรค กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงปานกลางหรืออันตรายปานกลางและพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๑ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ไม่ร้ายแรงและและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต เชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ และพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเฉพาะเชื้อโรค กลุ่มที่ ๓ ได้แก่ เชื้อโรคที่มีความเสี่ยงสูงหรืออันตรายสูง หรือพิษจากสัตว์ กลุ่มที่ ๒ ได้แก่ พิษจากสัตว์ที่ทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ ในระดับที่ร้ายแรงและมีวิธีรักษาที่ได้ผล ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้งกรณีที่มีเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายเนื่องจากกระบวนการหรือขั้นตอนที่เกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ ต้องแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบเมื่อเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยและอันตรายต่อบุคคล สิ่งแวดล้อม หรือสาธารณชน ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกรณีที่ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการกรณีผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้รับใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ กำหนดรายการเชื้อโรคและพิษจากสัตว์โดยคำนึงถึง “ความเสี่ยงหรืออันตราย” ดังนั้น หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ควรใช้หลักการความเสี่ยงหรืออันตรายที่สูงขึ้นแทนการใช้หลัก “ระดับความรุนแรงสูงขึ้น” ๒.๒ สิทธิการอุทธรณ์ตามหมวด ๘ ของพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดสิทธิอุทธรณ์ได้ทั้งกรณีการไม่ออกหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาตและการไม่อนุญาตให้ต่ออายุหนังสือรับรองการแจ้งหรือใบอนุญาต แต่ขณะที่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ยังไม่ได้กำหนดสิทธิอุทธรณ์เรื่องดังกล่าว ๒.๓ วิธีการทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคหรือพิษจากสัตว์ในร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๔ ในข้อ ๓ ที่กำหนดให้การทำลายหรือส่งมอบเชื้อโรคและพิษจากสัตว์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ออกตามความในมาตรา ๖ (๑๕) ของพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่ร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ ข้อ ๑.๒ และข้อ ๑.๓ มิได้ระบุเรื่องดังกล่าวไว้ ๒.๔ การกำหนดวันที่ต้องดำเนินการ ควรกำหนดในรูปแบบของจำนวนวันทำการให้สอดคล้องกันในทุกฉบับ ๒.๕ หมวด ๓ ของร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ กำหนดให้เมื่อเชื้อโรคและพิษจากสัตว์มีระดับความรุนแรงสูงขึ้นกว่าระดับที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการแจ้ง ให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งหรือผู้ได้รับอนุญาตแจ้งให้อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทราบทันที ทั้งนี้ ควรกำหนดนิยามของความไม่ปลอดภัยไว้ให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 688 | แผนยุทธศาสตร์วัณโรคระดับชาติ พ.ศ. 2560 - 2564 | สธ | 12/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. ให้ปรับชื่อแผนยุทธศาสตร์ให้เหมาะสม จากเดิม “แผนยุทธศาสตร์วัณโรคระดับชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔” เป็น “แผนปฏิบัติการระดับชาติด้านการต่อต้านวัณโรค พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔” ๒. เห็นชอบในหลักการแผนปฏิบัติการระดับชาติด้านการต่อต้านวัณโรค พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ซึ่งมีเป้าประสงค์เพื่อลดอัตราอุบัติการณ์ของวัณโรคลงร้อยละ ๑๒.๕ ต่อปี จาก ๑๗๑ ต่อประชากรแสนคน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้เหลือ ๘๘ ต่อประชากรแสนคน เมื่อสิ้นปี พ.ศ. ๒๕๖๔ และมีกลไกติดตามประเมินผลเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการลดโรคระดับสากลที่ ๑๐ ต่อประชากรแสนคน ในปี พ.ศ. ๒๕๗๘ โดยแผนยุทธศาสตร์ฯ ประกอบด้วย ๕ ยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ (๑) เร่งรัดค้นหาผู้ติดเชื้อวัณโรคและผู้ป่วยวัณโรคให้ครอบคลุมโดยการคัดกรองในกลุ่มเสี่ยงเป้าหมาย (๒) ลดการเสียชีวิตในผู้ป่วยวัณโรค (๓) พัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อป้องกัน ดูแลรักษา และควบคุมวัณโรค (๔) สร้างกลไกการบริหารจัดการเชิงยุทธศาสตร์อย่างยั่งยืน และ (๕) ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการป้องกัน ดูแลรักษา และควบคุมวัณโรค ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ ๒.๑ ด้านการบริหารจัดการ กระทรวงสาธารณสุขควรพิจารณาใช้กลไกการบริหารจัดการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ คือ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการทำงานและบูรณาการการทำงานด้านการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ โดยรายงานผลการดำเนินการ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ เพื่อประกอบการกำหนดแนวทางและมาตรการในการป้องกันและควบคุมวัณโรคให้สอดคล้องกับแนวนโยบายระดับชาติแก่รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการบริหารราชการกระทรวงสาธารณสุขทราบเป็นระยะ ๒.๒ ด้านการพัฒนาระบบฐานข้อมูล กระทรวงสาธารณสุขควรพิจารณาแนวทางการใช้ระบบฐานข้อมูลผู้ป่วยวัณโรคร่วมกับฐานข้อมูลโรคติดต่ออื่น ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพของข้อมูล และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ข้อมูลร่วมกันได้ ลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงานอันจะเป็นการใช้งบประมาณและทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาฐานข้อมูลผู้ป่วยโรคติดต่อในระดับชาติ ๒.๓ สำหรับการจัดตั้งกองทุนพิเศษ กระทรวงสาธารณสุขควรดำเนินการตามพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๘ รวมทั้งข้อกฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดทำงบประมาณของแผนปฏิบัติการตามแผนยุทธศาสตร์วัณโรคระดับชาติ กระทรวงสาธารณสุขควรพิจารณาถึงความเชื่อมโยงสอดคล้องกับแผนงานและโครงการที่เกี่ยวข้องด้วยเพื่อเป็นการลดภาระด้านงบประมาณที่จะเกิดขึ้นต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 689 | มาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการเบิกจ่ายยาตามสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ | สธ | 12/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบมาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการเบิกจ่ายยาตามสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) เสนอ และผลการพิจารณาเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการทุจริตฯ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีข้อเสนอแนะเชิงระบบ เช่น ผลักดันให้มีการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (Rational Drug Use หรือ ROU) จัดให้มีศูนย์ประมวลข้อมูลสารสนเทศด้านสุขภาพและยาที่เชื่อมโยงข้อมูลการใช้ยากับสถานพยาบาลทุกสังกัดเพื่อตรวจสอบการใช้ยาอย่างเหมาะสม และเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมบัญชีกลางเพื่อตรวจสอบการใช้สิทธิรักษาพยาบาลของข้าราชการได้ และกำหนดหลักเกณฑ์การจัดซื้อยา รวมทั้งข้อเสนอแนะเชิงภารกิจ เช่น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ผลักดันให้มีการปฏิบัติตามเกณฑ์จริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการขายยา และการสร้างมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมของภาคเอกชนเพื่อป้องกันการส่งเสริมการขายยาที่ไม่เหมาะสม ๑.๒ กระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเห็นชอบตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ และมีข้อสังเกตในบางประเด็น เช่น กรณีที่ให้มีศูนย์ประมวลข้อมูลสารสนเทศฯ เพื่อตรวจสอบการใช้สิทธิรักษาพยาบาลของข้าราชการนั้น กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างพัฒนาระบบเพื่อให้สามารถรับรู้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ในทันทีซึ่งจะป้องกันผู้ใช้สิทธิทุจริตโดยการเวียนรับยาซ้ำตามโรงพยาบาลต่าง ๆ (ช็อปปิ้งยา) ได้ ๒. ให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เร่งรัดการดำเนินโครงการบัตรสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการเพื่อป้องกันการทุจริตการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของผู้ใช้สิทธิข้าราชการให้แล้วเสร็จโดยเร็วและสามารถเริ่มใช้งานได้ภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 690 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางสาววรรณา หาญเชาว์วรกุล) | สธ | 05/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานวิจัยทางคลินิก กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ๒. นายสมควร หาญพัฒนชัยกูร ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านควบคุมป้องกันโรค (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) (ด้านเวชกรรมป้องกัน) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ๓. นางสาววรรณา หาญเชาว์วรกุล ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน สาขาระบาดวิทยา) สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 691 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายสมควร หาญพัฒนชัยกูร) | สธ | 05/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานวิจัยทางคลินิก กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ๒. นายสมควร หาญพัฒนชัยกูร ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านควบคุมป้องกันโรค (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) (ด้านเวชกรรมป้องกัน) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ๓. นางสาววรรณา หาญเชาว์วรกุล ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน สาขาระบาดวิทยา) สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 692 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ) | สธ | 05/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานวิจัยทางคลินิก กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ๒. นายสมควร หาญพัฒนชัยกูร ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านควบคุมป้องกันโรค (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) (ด้านเวชกรรมป้องกัน) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ๓. นางสาววรรณา หาญเชาว์วรกุล ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน สาขาระบาดวิทยา) สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 693 | รายงานสรุปผลการเข้าร่วมประชุม ASEAN-Japan Health Ministers Meeting on Universal Health Coverage (UHC) and Population Ageing และการลงนามบันทึกความร่วมมือสาขาการดูแลสุขภาพระหว่างกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น กับกระทรวงสาธารณสุข ราชอาณาจักรไทย | สธ | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการเข้าร่วมประชุม ASEAN-Japan Health Ministers Meeting on Universal Health Coverage (UHC) and Population Ageing ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ณ ประเทศญี่ปุ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางใหม่และแนวทางปฏิบัติที่ดีในการผลักดันให้เกิดความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและวิถีชีวิตสูงวัยอย่างมีศักยภาพ โดยที่ประชุมฯ ได้มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนในประเด็นสำคัญ ๒ ประเด็น ได้แก่ (๑) การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และ (๒) การพัฒนาระบบสุขภาพสู่สังคมสูงอายุ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งได้ลงนามบันทึกความร่วมมือสาขาการดูแลสุขภาพระหว่างกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น กับกระทรวงสาธารณสุข ราชอาณาจักรไทย มีสาระสำคัญเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือด้านสาธารณสุข และแสวงหาโอกาสในการส่งเสริมความร่วมมือสาขาการดูแลสุขภาพในประเด็นที่ทั้งสองประเทศมีความสนใจร่วมกัน เช่น หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การเตรียมการรองรับสังคมผู้สูงอายุ การป้องกันและรักษาโรคไม่ติดต่อ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 694 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางสุณี วงศ์คงคาเทพ) | สธ | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสุณี วงศ์คงคาเทพ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตสาธารณสุข) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 695 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายวิทยา ยินดีเดช) | สธ | 01/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 696 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการและเพิ่มวงเงินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการโรคหัวใจ มะเร็งและวินิจฉัยรักษาเป็นอาคาร คสล. 7 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 22,000 ตารางเมตร โรงพยาบาลสระบุรี ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี | สธ | 01/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มวงเงินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการโรคหัวใจ มะเร็งและวินิจฉัยรักษา เป็นอาคาร คสล. ๗ ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ ๒๒,๐๐๐ ตารางเมตร โรงพยาบาลสระบุรี ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี จากที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ วงเงิน ๔๓๗,๘๕๐,๐๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๔๕๖,๔๔๓,๕๘๐.๘๘ บาท โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อเป็นค่างานส่วนที่เพิ่มขึ้นตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ในการดำเนินการก่อสร้างและการขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการดังกล่าว ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐนมตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนด้วย ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๒.๑ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาการปรับแก้ไขแบบอาคาร ซึ่งทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณการก่อสร้างอาคารดังกล่าวเพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้ตามแผนเดิม และกระทบต่อประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนเนื่องจากต้องเลื่อนกำหนดการเปิดให้บริการอาคารดังกล่าวออกไปจากเดิม โดยให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒.๒ ให้กำกับดูแลการดำเนินโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัดให้เป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ) อย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 697 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงสาธารณสุข) (จำนวน 10 ราย 1. นายสุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย ฯลฯ) | สธ | 01/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๐ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการและทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายสุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมโรค ๒. นายเกียรติภูมิ วงศ์รจิต ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์การเลือก ๓. นางประนอม คำเที่ยง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ๔. นายสมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์ ๕. นายมรุต จิรเศรษฐสิริ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นางพรรณพิมล วิปุลากร ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. นายบุญชัย ธีระกาญจน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดปลัดกระทรวง ๑๐. นายเจษฎา ฉายคุณรัฐ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 698 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายอนุศักดิ์ เลียงอุดม) | สธ | 01/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายอนุศักดิ์ เลียงอุดม ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาประสาทศัลยกรรม) กลุ่มงานประสาทศัลยศาสตร์ กลุ่มภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๙ ๒. นายวิทยา ยินดีเดช ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตกรรม) กลุ่มงานทันตกรรม กลุ่มภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 699 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 | สธ | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ เพื่อปรับปรุงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยาแผนโบราณให้ทันสมัย ตามข้อกำหนดของหลักวิชาการ และสอดคล้องกับหลักสากล ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 700 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงสาธารณสุข) (นายเจษฎา โชคดำรงสุข) | สธ | 25/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเจษฎา โชคดำรงสุข ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
