คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามโครงการโอนกิจการของธนาคารศรีนคร
จำกัด (มหาชน) ให้แก่ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)  ซึ่งจะมีการรวมกิจการของธนาคารทั้ง  
สองแห่งเข้าด้วยกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2545  เป็นต้นไป  โดยธนาคารศรีนคร  ฯ  จะโอนกิจการซึ่ง
ได้แก่  สินทรัพย์  หนี้สิน  รวมทั้งภาระผูกพันทั้งหมดให้แก่ธนาคารนครหลวงไทย ฯ เพื่อเป็นการเสริม
สร้างความมั่นคงให้แก่ธนาคารทั้งสองและระบบสถาบันการเงินของประเทศ และเห็นชอบร่างประกาศ
กระทรวงการคลัง  เรื่อง  ให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีอากรในการโอนกิจการของธนาคารศรีนคร
จำกัด (มหาชน) ให้แก่ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกต
ของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า  เมื่อดำเนินการตามโครงการนี้แล้ว อาจจะมีการยุบเลิกสาขาบาง
แห่งของธนาคารทั้งสองที่อยู่ใกล้เคียงกันหรือสาขาที่หมดความจำเป็นแล้ว ดังนั้น หากธนาคารพัฒนา
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยที่จะจัดตั้งขึ้น
ในอนาคตมีความจำเป็นจะต้องจัดตั้งสาขาของธนาคาร ควรพิจารณาซื้ออาคารและสถานที่ของสาขาที่
ยุบเลิกดังกล่าวก่อน เพื่อเป็นการประหยัดและไม่เป็นการลงทุนที่ซ้ำซ้อน  ส่วนการบรรจุพนักงานของ
ธนาคารที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ให้พิจารณาจากพนักงานของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากโครงการนี้เป็น
ลำดับแรกเพื่อมิให้พนักงานดังกล่าวต้องเดือดร้อน ประกอบกับเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ในงาน
ธนาคารอันจะเป็นประโยชน์กับธนาคารที่จัดตั้งขึ้นใหม่ด้วย

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคาร
อาคารสงเคราะห์  จำนวน 8 ราย  โดยมี  นายวิสุทธิ์  ศรีสุพรรณ  ผู้แทนกระทรวงการคลัง  เป็นประธาน
กรรมการ นายสุกรี คุ้มพันธุ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นายชัยเกษม นิติสิริ นายปิยพันธุ์ นิมมานเหมินท์
นางสาวสุภา ปิยะจิตติ  นายฉัตรชัย วีระเมธีกุล  นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ  และพลตำรวจตรี ศิริพงษ์ สรรพ
ตานนท์ เป็นกรรมการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2545 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับหลักการของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงิน
ร่างสัญญาเงินกู้ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง  โดยรัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  (กฟภ.)  กู้
เงินโดยผ่านธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ (JBIC) จำนวน 2,326 ล้านเยน  สำหรับโครงการ
พัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ 7  ส่วนที่ 2  อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 2.2 ต่อปี  ระยะเวลา
การชำระคืนเงินกู้ 25 ปี  รวมระยะปลอดหนี้ 7 ปี  และให้ กฟภ.  กู้เงินจาก JBIC  โดยมีกระทรวงการคลัง
ในนามรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้  และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับหนังสือแลกเปลี่ยนฯ
และกับ JBIC สำหรับสัญญาค้ำประกันเงินกู้ และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ ตามที่กระทรวงการ
คลังเสนอ

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้มีการเจรจาจัดทำอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่าง
ประเทศไทยกับสาธารณรัฐสโลวัก รอบแรก  ณ  กรุงเทพมหานคร  ระหว่างวันที่ 13 - 17 พฤษภาคม
2545 และแลกเปลี่ยนต้นร่างอนุสัญญาระหว่างกันต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2545  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2545  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  (นายวราเทพ รัตนากร)  รายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
การเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ฯ ถึงวันที่ 18 มีนาคม 2545 มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 417,596 ล้านบาท
หรือร้อยละ  40.82  ของวงเงินงบประมาณ 1,023,000 ล้านบาท  สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายเงินใน
ช่วงระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ  4.40   ส่วนค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมีการเบิกจ่าย
ทั้งสิ้น 6,696 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.54  ของวงเงิน  58,000  ล้านบาท  ทั้งนี้  ให้ส่วนราชการ
และรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินด้วย   รวมทั้งเห็นชอบแนวทางการดำเนินงานกรณีที่ส่วนราช
การและรัฐวิสาหกิจไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในไตรมาสที่ 2 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
100  ปี  โรงเรียนนายร้อยตำรวจ  พ.ศ. ....  (จัดทำเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว  (ทองแดงผสมนิกเกิล)
ราคายี่สิบบาทสองชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ 100 ปี โรงเรียนนายร้อยตำรวจใน
วันที่ 19 เมษายน 2545)  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการจัดสรรเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (เงินกู้ SAL)
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ   ทั้งนี้   คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตเพิ่มเติมกรณีที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะ
นำเงินกู้ในส่วนของโครงการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง  จำนวน 200,000,000 บาท  ไปลงทุน
ระยะยาวในพันธบัตรรัฐบาล  และนำรายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิสถาบันวิจัย
นโยบายเศรษฐกิจการคลัง  นั้น   ให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาว่าจะสมควรใช้เงินอื่นใดหรือมีแนวทาง
ดำเนินการเรื่องนี้ที่เหมาะสมอย่างไร  แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง  ส่วนโครงการติดตามและประเมิน
ผลค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
ชาติ วงเงินกู้  120,000,000  บาท  โดยจะนำเงินกู้ดังกล่าวมาเป็นค่าใช้จ่ายว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินงาน
ติดตามและประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการใช้จ่ายเงินงบสำรองเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ (58,000
ล้านบาท) ที่จัดสรรให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ เป็นวงเงินค่อนข้างสูงมาก  จึงให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  พิจารณาใช้จ่ายเงินดังกล่าวอย่างประหยัดตามความจำเป็นและเหมาะสม  
และให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  โดยโครงการในแผนการก่อหนี้ ฯ  ที่ได้ปรับปรุงแล้ว  ลดลงจาก 16
โครงการ วงเงิน 1,193.46 ล้านเหรียญสหรัฐ  เหลือ 14 โครงการ วงเงิน 986.31 ล้านเหรียญสหรัฐ
แบ่งเป็น โครงการหลัก 7 โครงการ วงเงิน 546.24 ล้านเหรียญสหรัฐ  และโครงการสำรอง  7  โครง
การ วงเงิน 440.07 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ภาระหนี้เงินกู้จากต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออก
สินค้าและบริการ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ตามกรอบเพดานเงินกู้ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ  จะ
อยู่ที่ร้อยละ 5.41 และในระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2546-2550  จะอยู่ในระดับร้อยละ 3.24  โดย
วงเงินกู้สูงสุดที่พึงกู้จากต่างประเทศไม่ควรเกิน 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งยังคงสอดคล้องกับความ
สามารถในการจัดหารายได้เป็นเงินตราต่างประเทศ เพื่อการชำระหนี้ในอนาคต โดยประมาณว่าจะมี
สัดส่วนภาระหนี้เมื่อเทียบกับรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ ไม่เกินร้อยละ  3.58  ต่อปี  ใน
ช่วง  5  ปีข้างหน้า  สำหรับโครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่จะกู้เงินในประเทศทดแทนเงินกู้จากต่าง
ประเทศ มี 3 โครงการ วงเงิน 3,116.50 ล้านบาท

              คณะรัฐมนตรีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 2 
(ฝ่ายเศรษฐกิจ)  ที่มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกระเบียบเงินทดรองราชการ พ.ศ. 2523  และเห็นชอบร่าง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ พ.ศ. ....  (ปรับปรุงแก้ไขระเบียบเงินทดรองราช
การให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการปฏิบัติงานของส่วนราชการยิ่งขึ้น)  ตามที่กระทรวงการคลัง 
เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขา
ธิการคณะรัฐมนตรี  (เกี่ยวกับการกำหนดคำนิยามคำว่า  "ส่วนราชการ"  ได้มีการกำหนดไว้แล้วใน
กฎหมายแม่บท  ส่วนการให้กระทรวงการคลังไปกำหนดวิธีปฏิบัติอื่นใดเกี่ยวกับเงินทดรองราชการ
ได้เอง  โดยไม่ต้องผ่านความเห็นของคณะรัฐมนตรีก่อน  น่าจะเป็นข้อกำหนดที่เกินอำนาจกฎหมาย
แม่บท    รวมทั้งการให้ถือปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการโดยไม่ระบุให้ชัดเจนว่าเป็นระเบียบใด
จะทำให้ไม่มีแนวทางปฏิบัติที่เป็นมาตรฐาน อาจทำให้เกิดความสับสนว่าจะใช้ระเบียบใดและอาจทำ
ให้มีการใช้ดุลพินิจผิดพลาดได้) ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการออกพันธบัตร  Samurai  Bond
รุ่นที่ 18 19 และ 20 ของกระทรวงการคลัง โดยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2544 กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งคณะ
ผู้แทนเดินทางไปกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น  เพื่อจัดทำ Roadshow  และเจรจารายละเอียดขั้นสุดท้าย  รวมทั้ง
ทำความตกลงกำหนดราคาและอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรที่จะออกจำหน่าย  และลงนามในความตกลงต่าง ๆ ที่
เกี่ยวข้อง  และเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2544 กระทรวงการคลังได้โอนเงินจำนวนสุทธิ 34,813,650,000 เยน
ที่ได้จากการออกพันธบัตรให้การไฟฟ้านครหลวง  (กฟน.)  จำนวน  11,936,108,571  เยน  และให้บริษัท 
การบินไทย จำกัด (มหาชน)  จำนวน  22,877,541,429  เยน  เรียบร้อยแล้ว  ซึ่งการออก  Samurai Bond 
ในครั้งนี้   ทำให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของ  Samurai  Bond  ของประเทศไทยที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นลดลง
จากร้อยละ 2.88 ต่อปี เป็น  2.38  ต่อปี ขยายอายุเฉลี่ยของพันธบัตร จากเดิม 3.2 ปี เป็น 4.1 ปี  ตลอดจน
ได้รับการตอบสนองที่ดีมากจากนักลงทุน ทั้งนี้ การทำ  Refinance  เงินกู้ของ กฟน.  โดยการออก Samurai 
Bond สามารถประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยได้ประมาณ  3,610  ล้านเยน  หรือ  1,260  ล้านบาท  และในกรณี
บริษัท  การบินไทย  ฯ  จะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ที่มีต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำลงและสอดคล้องกับความ
สามารถในการชำระหนี้

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลัง โดยสำนักบริหารหนี้สาธารณะ รายงาน
สรุปผลการกู้เงินในรูป  Euro Commercial Paper (ECP)  ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2544  ซึ่งสำนัก
บริหารหนี้ ฯ  ได้ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นในลักษณะ Bridge Financing  ภายใต้ ECP Programme รวม
13 ครั้ง เป็นเงิน 118,937,000,000 เยน  และ 410,000,000 เหรียญสหรัฐ  รวมเป็นเงินเทียบเท่า
1,405,038,902 เหรียญสหรัฐ  โดยแบ่งเป็นเงินในส่วนของกระทรวงการคลังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง
ประเทศไทย  การไฟฟ้านครหลวง  การประปานครหลวง  บริษัท การบินไทย จำกัด  (มหาชน)  องค์
การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และบริษัท ปตท. จำกัด  (มหาชน)  ซึ่งผลของการกู้เงินเพื่อ Refinance
ให้แก่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดังกล่าวสามารถลดภาระดอกเบี้ย  เป็นเงิน  2,256,142,169  เยน
และ 3,585,715 เหรียญสหรัฐ เทียบเท่ากับ  1,020,891,946  บาท  ทั้งนี้  ยอดเงินกู้คงค้างภายใต้
ECP Programme  ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 เป็นยอดเงินกู้สกุลเงินเยน จำนวน 47,646,000,000
เยน และยอดเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐ จำนวน 320,000,000 เหรียญสหรัฐ  รวมเป็นเงินเทียบเท่า
718,611,227 เหรียญสหรัฐ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 2
(ฝ่ายเศรษฐกิจ) ที่มีมติเห็นชอบให้มีการทบทวนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับที่ดินที่
สงวนหรือหวงห้ามไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในราชการอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้   ให้กรมธนารักษ์สรุปรายละเอียดข้อเท็จจริงและประเด็นปัญหาให้ชัดเจน    และส่งให้สำนักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อดำเนินการต่อไป  โดยในระหว่างที่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎี
กายังไม่ได้ข้อยุติ   ให้กรมธนารักษ์ดำเนินการในที่ดินประเภทนี้ตามแนวทางปฏิบัติเดิมตามกฎหมาย
ว่าด้วยที่ราชพัสดุไปก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการ
คลัง (นายวราเทพ รัตนากร) เสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐประจำเดือนมกราคม
2545 โดยผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนรวมงบประมาณรายจ่ายประจำ เบิกจ่ายไปแล้วรวม
ร้อยละ  35.74 (จากเงินงบประมาณรวม 1,023,000 ล้านบาท) เฉพาะส่วนของงบประมาณรายจ่ายลงทุน
ได้เบิกจ่ายไปแล้วร้อยละ  22.65  (จากงบประมาณรายจ่ายลงทุนทั้งหมด 266,257 ล้านบาท)  เป็นวงเงิน 
60,304 ล้านบาท  และเฉพาะส่วนของงบประมาณรายจ่ายประจำได้เบิกจ่ายไปแล้วร้อยละ 40.35 (จากงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปีทั้งหมด 756,743 ล้านบาท) เป็นวงเงิน 305,340 ล้านบาท ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้
มีมติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการใช้จ่ายเงิน   โดยให้ดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้เสร็จสิ้นภายใน
ไตรมาสที่  2  ของปีงบประมาณ  และมอบหมายให้กระทรวงการคลังรับไปจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อติดตาม
ผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐในปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545  ปรากฏว่า  ขณะนี้มีแนวโน้มว่าหลายส่วนราชการไม่
สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในกำหนดเวลา    จึงขอความร่วมมือให้รัฐมนตรีรับไปเร่งรัดส่วนราชการใน
สังกัดด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายจักรมณฑ์  ผาสุกวนิช  เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนา
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย แทน นาย
สรรเสริญ วงศ์ชอุ่ม ที่ลาออก ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (5 มีนาคม 2545) ตามที่กระทรวงการคลัง
เสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการปรับลดอัตราอากรศุลกากรรายการสินค้ากลุ่มวัตถุดิบตามขั้น
ตอนการผลิตและปัจจัยการผลิตที่ไม่มีผลิตในประเทศ และเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวง
การคลังเรื่อง การลดอัตราอากรและการยกเว้นอากรศุลกากร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และให้
ส่งร่างประกาศ ฯ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ 
ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ  พ.ศ. 2535  (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง
(พ.ศ. 2537) ฯ  เพื่อปรับลดระยะเวลาการปิดประกาศเชิญชวน  การให้เอกชนยื่นเอกสารแสดงคุณสมบัติ
เพื่อเข้ารับการคัดเลือก และการส่งสำเนาประกาศเชิญชวนให้แก่ผู้ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติเบื้องต้น)  ที่
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และให้ดำเนินการต่อ
ไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภาคราชการประจำกระทรวง โดยให้
เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2545  เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการลงนามในกรอบความตกลงทางการ
เงินในการให้สินเชื่อแบบผสมระหว่างรัฐบาลไทยกับ Danida โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มอบหมาย
ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (ร้อยเอกสุชาติ  เชาว์วิศิษฐ) เป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลแห่งราชอาณา
จักรไทย    และเอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทยเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลเดนมาร์ก  เมื่อวันที่  13 
ธันวาคม 2544

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุแปลงโฉนดเลขที่ 9813 หมายเลขทะเบียน
ที่ นฐ. 370  ตำบลห้วยจรเข้  อำเภอเมืองนครปฐม  จังหวัดนครปฐม  เนื้อที่ประมาณ 3-0-00 ไร่  คืนให้แก่
ทายาทของนายบัญชา  เวศย์วรุตม์  ผู้ยกให้  โดยให้ผู้รับโอนรับภาระชำระค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด 
(ถ้ามี) อันเนื่องมาจากการดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ