คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานกิจการประจำปี  งบดุล  บัญชีกำไรและขาด
ทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544 และ 2543 ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว  โดยฐานะการเงินของธนาคาร ฯ  ประจำปี พ.ศ. 2544
ประกอบด้วย เงินกองทุน 8,693.06 ล้านบาท  สินทรัพย์ 51,100.08 ล้านบาท  และหนี้สิน  42,407.02  ล้าน
บาท  ทั้งนี้  ในปี พ.ศ. 2544  ธนาคาร ฯ มีกำไรก่อนหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญรวม 1,494.37 ล้านบาท ทำให้
ธนาคารมีผลกำไรสุทธิ 266.72 ล้านบาท และให้นำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการและเงื่อนไขให้กระทรวงการคลังกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตร
ชนิดจำหน่ายทั่วไปในตลาดทุนต่างประเทศ (Global Bond) วงเงิน 800-1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ   โดยมี
Citigroup/SSB Deutsche  Bank  JP  Morgan  และ  Morgan  Stanley  เป็นหัวหน้าคณะผู้จัดการจำหน่าย
(Lead  Underwriter)  และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  หรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
มอบหมายเป็นผู้ลงนามในความตกลงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกพันธบัตรและการกู้เงินดังกล่าวในนาม
ราชอาณาจักรไทยและให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการพิจารณาการจัดตั้งสำนักงานคลัง
จังหวัด ณ อำเภออุ้มผาง  จังหวัดตาก  ซึ่งผลการพิจารณาปรากฏว่า  ไม่ผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ที่คณะ
รัฐมนตรีกำหนด  และไม่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่รัฐจะต้องลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับประโยชน์ที่จะได้รับ  ประกอบ
กับจังหวัดตากมีสำนักงานคลังอยู่ถึง 2 แห่ง ซึ่งเพียงพอที่จะให้บริการแล้ว จึงไม่ควรจัดตั้งสำนักงานคลังจังหวัด
ณ อำเภออุ้มผางขึ้นอีก

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น ครั้งที่ 27 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยรับหลัก
การของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น ร่างสัญญาเงิน
กู้ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง  สำหรับโครงการเงินกู้ ฯ  รวม  2  โครงการ  ได้แก่  โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ของบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด  และโครงการแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลัง
ไฟฟ้า  ฉบับที่ 9  ของการไฟฟ้านครหลวง  โดยให้รัฐวิสาหกิจเจ้าของโครงการกู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือ
ระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น  โดยมีกระทรวงการคลังในนามรัฐบาลไทย เป็นผู้ค้ำประกัน  รวมทั้งให้รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทยกับรัฐบาล
ญี่ปุ่นสำหรับหนังสือแลกเปลี่ยน ฯ   และกับธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นสำหรับสัญญาค้ำ
ประกันเงินกู้ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเกี่ยวกับการผ่อนผันให้ก่อหนี้ผูกพันหลังไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 
พ.ศ. 2545  โดยเห็นควรแจ้งให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ขอผ่อนผันพิจารณากลั่นกรองว่ารายการดัง
กล่าวเป็นรายการที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งควรได้รับการผ่อนผันเป็นกรณีพิเศษ โดยสำนักงบประมาณ
จะผ่อนผันให้ไม่เกินสิ้นเดือนกันยายน 2545 หากล่วงเลยเวลาดังกล่าว ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจขอ
อนุมัติกระทรวงการคลังเพื่อกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพันตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ 
พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 27 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วย
การยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ยกเว้นภาษีเงินได้  ภาษีมูลค่าเพิ่ม  และอากรแสตมป์  ให้แก่ผู้เสีย
ภาษี เฉพาะจำนวนภาษี เงินเพิ่ม และหรือเบี้ยปรับที่เจ้าพนักงานประเมินจะต้องทำการประเมินซึ่งมีจำนวน
ไม่ถึงหนึ่งร้อยบาท) คืนไปได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

                        อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 2  (คกก.2) 
ที่มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจปฏิบัติการเกี่ยวกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 
(กำหนดเรื่องการล่วงละเมิดมิได้ในพื้นที่ตั้งของสำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย รวมทั้งการยกเว้นอากรนำ
เข้าสำหรับเครื่องตกแต่งบ้าน ของใช้ส่วนตัว และรถยนต์ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย 
ในเวลาที่เข้ามารับตำแหน่งครั้งแรก) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตรวจพิจารณา   แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา  ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎร
พิจารณาต่อไป  ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของ  คกก.2  (เกี่ยวกับการพิจารณาแก้ไขกฎหมายว่าด้วย
พิกัดอัตราศุลกากร  เพื่อยกเว้นอากรนำเข้าสิ่งของของเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศอื่น  ๆ 
ให้เป็นมาตรฐานเดียวกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานผู้แทนขององค์การสหประชาชาติและทบวงการชำนัญพิเศษใน
กรอบสหประชาชาติ)  ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติเกี่ยวกับการแปลงสภาพการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย 
เป็นบริษัท ท่าอากาศยานไทย  จำกัด  (มหาชน)  ตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ 
ครั้งที่ 3/2545 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายปองพล อดิเรกสาร) ประธานคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐ
วิสาหกิจเสนอ   และให้ดำเนินการต่อไปได้   รวมทั้งเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจ สิทธิ และ
ประโยชน์ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย  จำกัด  (มหาชน)  พ.ศ. ....  (กำหนดอำนาจ  สิทธิ  และประโยชน์
ของบริษัทท่าอากาศยานไทย  จำกัด  (มหาชน))  และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงื่อนไขเวลายกเลิกกฎ
หมายว่าด้วยการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... (กำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการท่า
อากาศยานแห่งประเทศไทย) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อ
ไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติความตกลงกลไกการชำระเงินแบบทวิภาคีระหว่างประเทศไทย
และมาเลเซีย ในวงเงิน  50  ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ  โดยรัฐบาลจะให้ความคุ้มครองธนาคารเพื่อการส่งออกและ
นำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.)  ตามมาตรา 23  ของพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่ง
ประเทศไทย พ.ศ. 2536 และสละเอกสิทธิ์ในการได้รับความคุ้มครองบนทรัพย์สินแห่งรัฐ กรณีที่ประเทศไทย
ผิดนัดชำระหนี้ และให้ ธสน. ลงนามในข้อตกลงกลไกการชำระเงินแบบทวิภาคีในนามของรัฐบาลไทยร่วมกับ
ธนาคารกลางแห่งประเทศมาเลเซีย โดยให้ ธสน. ดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงการคลัง  (เกี่ยวกับ
การลดความเสี่ยงโดยใช้เครื่องมือทางการเงินในการบริหารฐานะเงินตราต่างประเทศให้สมดุล  ได้แก่   การ
กำหนดอัตราซื้อขายเงินตราล่วงหน้าเพื่อรองรับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจจะเกิดขึ้น ตลอดจน
จัดทำระบบบัญชีแยกต่างหากจากระบบบัญชีปกติสำหรับทำการหักบัญชีระหว่างกัน และสร้างระบบติดตาม
หนี้หรือการชำระคืนอย่างรัดกุมระหว่างศูนย์หักบัญชีกับธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมความตกลง   และระหว่าง
ธนาคารพาณิชย์กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมความตกลง และให้รายงานผลการดำเนินการตามความตกลงดัง
กล่าวแก่กระทรวงการคลังเป็นระยะ  เพื่อประโยชน์ในการติดตามและประเมินความตกลง)  รวมทั้งให้  ธสน.
ทำความตกลงกับประเทศอื่นได้ ในนามของรัฐบาลไทย ทั้งนี้ การกำหนดวงเงินและรายละเอียดปลีกย่อย ให้
อยู่ภายใต้ดุลพินิจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง   และรายงานผลการทำความตกลงให้คณะรัฐมนตรี
ทราบ แต่กรณีที่มีความแตกต่างจากกรณีของประเทศไทยและประเทศมาเลเซียอย่างมีนัยสำคัญให้กระทรวง
การคลังนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นางธาริษา วัฒนเกส ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการธนาคาร
แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2545 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิด และลักษณะของแสตมป์สรรพสามิต
สำหรับสินค้าเครื่องปรับอากาศ  พ.ศ. ....  และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์  วิธีการในการใช้แสตมป์
สรรพสามิตเพื่อให้ปรากฏว่าได้เสียภาษีแล้ว สำหรับสินค้าเครื่องปรับอากาศ พ.ศ. .... รวม  2  ฉบับ  ตามที่
กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้  คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า   ปัจจุบันมีการลักลอบนำผลิตภัณฑ์ซีดีที่ผิดกฎหมายและละเมิดลิขสิทธิ์มา
จำหน่ายเป็นจำนวนมาก  ซึ่งมีผลเสียหายแก่เศรษฐกิจของประเทศ  เจ้าของลิขสิทธิ์   และผู้ประกอบการที่
ปฏิบัติตามกฎหมาย  ดังนั้น หากจะนำระบบการติดแสตมป์สรรพสามิต หรือเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี
อื่นใดมาใช้กับผลิตภัณฑ์ซีดีจะสามารถดำเนินการได้และมีความเหมาะสมหรือไม่ เพียงใด

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังจัดส่งสำเนาเอกสารรายงานผลการศึกษาของคณะ
กรรมการ ศศปร. ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินคงชั้นความลับชั้น
"ลับมาก" ไว้  และให้ใช้เอกสารดังกล่าวเฉพาะเพื่อประกอบการตรวจสอบผลกระทบจากความเสียหายอันเกิด
จากการปกป้องค่าเงินบาทที่มีต่อฝ่ายกิจการธนาคาร  ฝ่ายออกบัตรธนาคาร  และทุนรักษาระดับอัตราแลก
เปลี่ยนเงินตราเท่านั้น  โดยไม่อนุญาตให้นำเอกสารไปเผยแพร่ต่อหน่วยงานหรือบุคคลอื่น   ตามที่กระทรวง
การคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ตั้งแต่
ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่  31  กรกฎาคม  2545  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และรัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงการคลัง  (นายวราเทพ  รัตนากร)  เสนอเพิ่มเติม  จนถึงวันที่  28  สิงหาคม  2545  โดยการเบิก
จ่ายเงินงบประมาณประจำปี  พ.ศ. 2545    ในภาพรวม  ยอดวงเงินงบประมาณทั้งหมด  1,023,000  ล้าน
บาท (รวมงบกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งจำนวน 58,000 ล้านบาท) ได้มีการขออนุมัติเงินประจำงวดไว้แล้ว จำนวน
973,314 ล้านบาท (ร้อยละ 95.14) และเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้วจำนวน  804,433 ล้านบาท (ร้อยละ 
78.63) และหากคิดยอดวงเงินงบประมาณ  จำนวน 995,915 ล้านบาท  (รวมงบกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะที่
คณะรัฐมนตรีอนุมัติ  30,915 ล้านบาท)  จะทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณคิดเป็น ร้อยละ 80.77 การเบิก
จ่ายงบประมาณของปี 2545  (รวมงบกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 58,000 ล้านบาท)  สูงกว่าการเบิกจ่ายงบ
ประมาณของปี 2544 เป็นจำนวน 115,238 ล้านบาท (ร้อยละ  2.89) และหากคิดยอดวงเงินงบประมาณ
ของปี  2545  (รวมงบกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ  30,915  ล้านบาท)  จะทำให้การ
เบิกจ่ายงบประมาณปี  2545  สูงกว่าปี  2544  คิดเป็นร้อยละ  5.03   ทั้งนี้   คาดว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณ
พ.ศ. 2545 การเบิกจ่ายงบประมาณจะมียอดรวมสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางและมาตรการในการส่งเสริม  สนับสนุน  และช่วยเหลือธุรกิจ
บริการออกแบบและก่อสร้างไทยไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ   และมอบหมายให้ธนาคารเพื่อการส่งออก
และนำเข้าแห่งประเทศไทยดำเนินการตามมาตรการทางการเงิน  โดยให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า
แห่งประเทศไทยพิจารณากำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือค้ำประกันต่าง ๆ  ที่ผู้ประกอบการ
ไปวางประกันตามระดับความเสี่ยงของหนังสือค้ำประกันแต่ละประเภท และให้บริการประกันความเสี่ยงทาง
การเมืองแก่ผู้ประกอบการ ฯ ที่ไปดำเนินการในต่างประเทศ  และร่วมกับสหพันธ์ธุรกิจบริการออกแบบและ
ก่อสร้างแห่งประเทศไทยในการบริหารกองทุนหรือบัญชีที่ตั้งขึ้น  เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเตรียมการ
เพื่อไปประมูลงาน  ให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศมอบหมายหน่วยงานในสังกัดที่อยู่ใน
ต่างประเทศ ติดตามและจัดส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและก่อสร้างในประเทศต่าง ๆ มายังศูนย์ข้อ
มูลของกรมการส่งออก  ทั้งนี้  ให้กระทรวงพาณิชย์เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างศูนย์ข้อมูลของกรมการส่งออกกับ
ศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาไทยของสำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการ  งบดุล  งบกำไรขาดทุนและผลการดำเนินงานประจำปี
พ.ศ. 2544 (1 มกราคม-31 ธันวาคม 2544) ของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย  (บตท.)  โดยผลการ
ดำเนินกิจการของ บตท. ประจำปี พ.ศ. 2544  ได้แก่  การจัดซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินต่าง ๆ 
การพัฒนาการจัดซื้อและริเริ่มโครงการใหม่  การผลักดันให้เกิดบริษัทอำนวยสินเชื่อเคหะการ  รวมทั้งแต่งตั้ง
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่เพื่อทดแทนกรรมการชุดเดิมที่ครบวาระ  และประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร  ความ
คืบหน้าในการดำเนินกิจการด้วยความโปร่งใส  พร้อมทั้งจัดทำ  Website  เพื่อนำเสนอผลงานและข้อมูลของ
องค์กรให้แก่นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ใช้ประโยชน์ สำหรับในปี พ.ศ. 2545 บตท. ได้พัฒนาธุรกรรมอย่าง
ต่อเนื่องจากปี พ.ศ. 2544  เพื่อให้ บตท.  สามารถจัดซื้อสินเชื่อหรือมีปริมาณธุรกรรมที่มากพอ  ได้แก่  การ
ปรับกลยุทธ์เชิงรุกในการทำตลาดมากขึ้น โดยเพิ่มฝ่ายการตลาด/สินเชื่อ เป็น 3 ฝ่าย คือ  ฝ่ายการตลาด ฯ
1 รับผิดชอบธนาคารพาณิชย์ ภาคเอกชน  ฝ่ายการตลาด ฯ 2 รับผิดชอบธนาคารพาณิชย์ภาครัฐ และกึ่งรัฐ
และฝ่ายการตลาด ฯ 3 รับผิดชอบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และสถาบันการเงินอื่น ดำเนินการจัดซื้อ
สิทธิเรียกร้องตามสัญญาเช่าซื้อของลูกหนี้จากการเคหะแห่งชาติ ประสานกับบริษัทบริหารสินทรัพย์เอกชน
(บบส.) ในการรับซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ บบส. เอกชน ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และมีการผ่อน
ชำระจนเป็นหนี้ปกติระยะหนึ่งแล้ว มุ่งเน้นการจัดซื้อสินเชื่อด้วยวิธี Bonds Exchange Program ตลอดจนผลัก
ดันให้ผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นผู้ขายสินเชื่อแก่  บตท.    และขยายขอบเขตรับซื้อสินเชื่อประเภท
โครงการอสังหาริมทรัพย์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้นำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการเกี่ยวกับมาตรการและแนวทางให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่
ประสบอุทกภัยตามที่คณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (คณะกรรมการ ธ.ก.ส.)
เสนอ และอนุมัติงบประมาณเพื่อชดเชยค่าดอกเบี้ยเงินกู้เกษตรกรให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
การเกษตร  (ธ.ก.ส.)  จำนวน  689.51  ล้านบาท ในการดำเนินงานตามมาตรการ โดยงดคิดดอกเบี้ยเงิน
กู้ตามสัญญาเดิม และลดดอกเบี้ยเงินกู้ตามสัญญาใหม่  และให้  ธ.ก.ส.  เบิกเงินชดเชยจากงบประมาณแผ่น
ดินได้ตามข้อเท็จจริงของเกษตรกรแต่ละรายโดยให้มีการชดเชยแก่ ธ.ก.ส. เป็นปี ๆ ไป ตามที่กระทรวงการ
คลังเสนอ   โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  (เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร
ที่ประสบภัยธรรมชาติเป็นมาตรการที่เหมาะสม  และควรมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่เกิดภัยรุน
แรง สำหรับการชดเชยดอกเบี้ยของเกษตรกรจากการงดคิดดอกเบี้ยเงินกู้สัญญาเดิม และลดดอกเบี้ยเงินกู้
สัญญาใหม่  โดยคิดจากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ  8  ต่อปี  เป็นอัตราค่อนข้างสูง  หากสามารถปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ยลงได้จะช่วยลดภาระด้านงบประมาณของรัฐบาลได้ในระดับหนึ่ง)  ไปพิจารณาดำเนินการ และให้
จัดส่งข้อมูลงบการเงินในปีที่ได้รับเงินชดเชยให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองทุกปีต่อไป
ด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเดือนพฤษภาคม
2545 โดยการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้ารวม 46.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจาก
เดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 1.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 2.70 โดยมีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นจำนวน  9  ราย
การ ตั้งแต่ร้อยละ 0.62 (ผลไม้) ถึงร้อยละ 65.80 (เครื่องประดับที่ทำด้วยคริสตัล) และมี 8 รายการ ที่มีมูลค่า
นำเข้าลดลงตั้งแต่ร้อยละ 0.10 (ปากกาและอุปกรณ์) ถึงร้อยละ 41.85 (กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง) ทั้งนี้ มูล
ค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่ม เปรียบเทียบกับมูลค่านำเข้ารวมของสินค้าทุกชนิดในเดือนพฤษภาคม
2545  (5,284.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)  แล้ว  มูลค่านำเข้ามีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ  0.88  ของมูลค่านำเข้าทั้ง
หมด  ส่วนมูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 (ตุลาคม 2544 - พฤษภาคม 2545) 
มีมูลค่านำเข้ารวม 384.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เปรียบเทียบกับต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2544  (ตุลาคม 2543
- พฤษภาคม 2544) มีมูลค่าลดลง 10.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 2.61

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้เบิกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการศึกษาวิจัย การจัดระบบการเงิน
การคลัง   เพื่อสร้างความเข้มแข็งของโครงสร้างเศรษฐกิจของคณะกรรมการศึกษาและเสนอแนะมาตรการเพิ่ม
ประสิทธิภาพและบริหารจัดการระบบการเงินของประเทศ  เพื่อป้องกันการเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจที่จะ
เกิดขึ้นก่อนได้รับอนุมัติเงินประจำงวดจากสำนักงบประมาณ    และให้ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบ
สำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่เกี่ยว
ข้องตามภารกิจของโครงการศึกษา และเสนอแนะมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบการเงิน
ของประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

                             รับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  (นายวราเทพ  รัตนากร)
รายงานความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546
ว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวใกล้จะเสร็จแล้ว ซึ่ง
คาดว่าจะนำเสนอสภา ฯ ได้ในวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2545 และอาจนำเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2  ของ
สภา ฯ ในวันพุธที่ 4  และวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2545  ซึ่งเป็นกรณีที่คณะกรรมาธิการ ฯ  จะต้องชี้แจง
ต่อสภา ฯ แต่อาจมีการอภิปรายพาดพิงถึงการบริหารงานของรัฐบาล จึงขอให้รัฐมนตรีทุกท่านติดตามการ
อภิปรายโดยตลอด เพื่อจะได้ชี้แจงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานที่รับผิดชอบ  และเมื่อร่างพระราชบัญญัติ ฯ  ได้
รับความเห็นชอบจากสภา ฯ  แล้ว   อาจได้รับการบรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาของวุฒิสภาในวันศุกรที่  20 
และวันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2545 ซึ่งคณะรัฐมนตรีจะต้องไปร่วมกันชี้แจงต่อวุฒิสภาด้วยต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (คกก.2)
ที่มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้า
ราชการ พ.ศ. ....  (ปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญ
ข้าราชการ)  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้รับความเห็นของ คกก.2 (เกี่ยวกับการกำหนดขอบเขตการ
ลงทุนในหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นว่าเมื่อรวมกันทุกบริษัทต้องไม่
เกินร้อยละ  20  ของเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กับให้ชะลอการนำเงินของกองทุน ฯ  ไป
ลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและมีความผันผวนในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน
เงินตราระหว่างประเทศ  ซึ่งยากต่อการบริหาร  และเนื่องจากกองทุน ฯ เป็นกองทุนที่เป็นฐานการออมขนาด
ใหญ่    หากจะดำเนินการขยายขอบเขตการลงทุนใด  ๆ   ควรสร้างหลักประกันความเชื่อมั่นในการบริหารจัด
การเรื่องของความเสี่ยง รวมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการลงทุนแก่สมาชิกกบข.  ด้วย)  ไปพิจารณา
ดำเนินการและแก้ไขปรับปรุงร่างกฎกระทรวง  ฯ   แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้