คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐ ตั้งแต่ต้นปีจน
ถึงสิ้นสัปดาห์ที่  2  ของเดือนกรกฎาคม  2545  โดยผลการเบิกจ่ายเงินในภาพรวม มีจำนวนทั้งสิ้น 694,230
ล้านบาท  หรือร้อยละ  67.86  ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร  เป็นรายจ่ายประจำ 558,218 ล้าน
บาท หรือร้อยละ 73.79 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ  และรายจ่ายลงทุน 136,012 ล้านบาท หรือร้อยละ
51.03 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน  สำหรับการเบิกจ่ายงบกลางรายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้น
เศรษฐกิจ จำนวน 58,000 ล้านบาท  ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 30,946 ล้านบาท 
มีการเบิกจ่ายแล้ว  10,399  ล้านบาท  หรือร้อยละ  33.60  ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ  และการเบิกจ่ายเงินงบ
ประมาณโครงการถ่ายโอน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  มีการเบิกจ่ายแล้ว 21,987 
หรือร้อยละ  81.24  ของวงเงินงบประมาณที่จัดสรรให้แก่โครงการ    นอกจากนี้   ผลการเบิกจ่ายเงินนอกงบ
ประมาณในส่วนของกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนมีการเบิกจ่ายเงิน จำนวน  92  กองทุน    เป็นเงิน  94,993
ล้านบาท  หรือร้อยละ  78.15  ของแผนการใช้จ่ายเงิน   การเบิกจ่ายในส่วนของเงินกู้ต่างประเทศ มีการเบิก
จ่ายแล้ว 37,395ล้านบาท หรือร้อยละ 74.28 ของแผนการใช้จ่ายเงินกู้ต่างประเทศ   รวมทั้งผลการเบิกจ่าย
เงินของรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายแล้ว  1,004,440  ล้านบาท   หรือร้อยละ  72.86  ของแผนการใช้จ่ายเงิน 
ทั้งนี้ ผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐดังกล่าว เมื่อหักรายการซ้ำซ้อนจำนวน 100,813  ล้านบาทแล้ว  มีการเบิก
จ่ายเงินจำนวนทั้งสิ้น 1,730,245 ล้านบาท หรือร้อยละ 73.03 ของแผนการใช้จ่ายเงินภาครัฐ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับแผนการจำหน่ายหุ้นของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 
การปรับแผนการนำรัฐวิสาหกิจเข้าจดทะเบียนและกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และแนว
ทางการดำเนินกิจการบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด และโครงการจัดหาเรือเพื่อประกอบกิจการขนส่งสินค้า
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายปองพล อดิเรกสาร) ประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ
เสนอ และตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เสนอ
เพิ่มเติม (เกี่ยวกับการปรับแผนการนำรัฐวิสาหกิจเข้าจดทะเบียนและกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดย
กำหนดช่วงระยะเวลาให้รัฐวิสาหกิจหลายแห่งดำเนินการจดทะเบียนและกระจายหุ้น ฯ พร้อมกันในลักษณะ
กระจุกตัวโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 4  ของปี  พ.ศ. 2546   แต่ต้องเกลี่ยให้เหมาะสม   โดยให้กระทรวงเจ้า
สังกัดและรัฐวิสาหกิจหารือร่วมกับกระทรวงการคลังต่อไป)    ทั้งนี้    คณะรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนหากรัฐ
วิสาหกิจใดสามารถดำเนินการได้เร็วกว่ากรอบเวลาตามแผนที่กำหนดในส่วนของโรงงานยาสูบ ซึ่งมีแผนที่
ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทภายในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2545 ขอนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเดือนเมษายน 
2545 โดยการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้ารวม 55.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น
จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว  6.15  ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ  12.49  โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจำนวน 11
รายการ ตั้งแต่ร้อยละ 1.75  (ไฟแช็คและอุปกรณ์)  ถึงร้อยละ 150.16  (เครื่องแก้วชนิดใช้บนโต๊ะอาหาร ฯ) 
และมี 6 รายการ ที่มีมูลค่านำเข้าลดลงตั้งแต่ร้อยละ 3.57 (นาฬิกาและอุปกรณ์) ถึงร้อยละ 43.88 (กระเป๋า
หนังและเข็มขัดหนัง) ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่ม  เปรียบเทียบกับมูลค่านำเข้ารวมของ
สินค้าทุกชนิดในเดือนเมษายน 2545 (5,164.40  ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มูลค่านำเข้ามีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ
1.07 ของมูลค่านำเข้าทั้งหมด  ส่วนมูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  (ตุลาคม 
2544 - เมษายน 2545)  มีมูลค่านำเข้า  338.35  ล้านดอลลาร์สหรัฐ    เปรียบเทียบกับต้นปีงบประมาณ 
พ.ศ. 2544 (ตุลาคม 2543 - เมษายน 2544) มีมูลค่าลดลง 9.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 2.60

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยให้สัตยาบันสารหรือสารแสดงการรับรองในพิธีสารเพื่อ
ให้ข้อผูกพันการค้าบริการด้านการเงินภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียนมีผลบังคับ
ใช้   และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดทำสัตยาบันสารหรือสารแสดงการรับรองใน
พิธีสาร ฯ และยื่นต่อเลขาธิการอาเซียนภายใน 30 กันยายน 2545 ต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ
ที่ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2513 และวันที่  17  สิงหาคม  2519  เกี่ยวกับสิทธิพิเศษ
ขององค์การเภสัชกรรม โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และ
ที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ  61  และข้อ 62  เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ของส่วนราชการ   ตามที่
กระทรวงการคลังเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานโครงการธนาคารประชาชน ครบรอบ  1  ปี 
ในช่วงเดือนมิถุนายน 2544-มิถุนายน 2545 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ขณะนี้มีจำนวนสมาชิก 525,874 
ราย จำนวนเงินฝากรวม 1,345,910,274 บาท จำนวนสมาชิกที่ขอกู้ 402,121 ราย  คิดเป็นร้อยละ 76.47  
ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด จำนวนสมาชิกที่ได้รับสินเชื่อ  351,974  ราย  คิดเป็นร้อยละ 87.53 ของจำนวน
สมาชิกที่ขอกู้ทั้งหมด  จำนวนเงินให้สินเชื่อ  5,276,078,754  บาท  สินเชื่อรับชำระคืน  2,620,609,942
บาท สินเชื่อคงเหลือ 2,655,468,812 บาท จำนวนสมาชิกที่ค้างชำระ เกินกว่า 3 เดือนขึ้นไป (ณ สิ้นเดือน
พฤษภาคม 2545) มีจำนวน 9,870 ราย  จำนวนเงิน  104,530,630.47  บาท  โดยหนี้ค้างชำระเทียบกับ
สินเชื่อคงค้างทั้งหมดเหลือ คิดเป็นร้อยละ 4.13  ส่วนการรับฝากเงินนอกสถานที่ (ณ สิ้นเดือน พฤษภาคม
2545) จำนวนครั้งที่ออกรับฝากเงิน 51,693 ครั้ง/เดือน  จำนวนเงินที่ออกรับฝาก  7,584.89  ล้านบาท 
รวมทั้งได้มีการพัฒนาบุคลากร   พัฒนาอาชีพให้กับสมาชิก   และระบบงานการให้บริการ   สำหรับปัญหา
และอุปสรรคประชาชนบางกลุ่มไม่ใช่คนในท้องถิ่น  แต่มาประกอบกิจการในต่างพื้นที่ อาจมีการย้ายสถาน
ประกอบธุรกิจได้ง่าย  และบางกลุ่มมีการประกอบอาชีพจริง  แต่ประสบปัญหาในด้านค่าใช้จ่ายสูง  รายได้
ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย  ไม่สามารถชดใช้หนี้คืนธนาคารได้ตามกำหนด  รวมทั้งสถานที่ประกอบการอยู่ใน
บริเวณ สถานบริการตอนกลางคืน สถานเริงรมย์  พนักงานต้องอยู่ในสภาวะค่อนข้างเสี่ยงในการไปสำรวจ
กิจการ   สำหรับแนวทางแก้ไข มีการตรวจสอบสถานที่ประกอบการว่ามีการประกอบกิจการจริง และระยะ
เวลาประกอบนานเพียงใด และต้องมีการออกสำรวจด้วยความระมัดระวัง มีการรวมกลุ่มกันออกสำรวจ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2545  ไตรมาสที่ 3  (ตุลาคม 2544 - มิถุนายน 2545)  โดยผลการเบิกจ่ายเงินในภาพรวม  กรณีรวมงบ
ประมาณรายจ่ายงบกลาง  58,000  ล้านบาท  ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว  672,944
ล้านบาท หรือร้อยละ 65.78 ของวงเงินงบประมาณ  (1,023,000 ล้านบาท)  เป็นการเบิกจ่ายในส่วนของราย
จ่ายประจำ 545,035 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 127,909 ล้านบาท ส่วนกรณีไม่รวมงบประมาณรายจ่าย ฯ
มีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 663,135 ล้านบาท  หรือร้อยละ 68.72 ของวงเงินงบประมาณ (965,000 ล้าน
บาท) นอกจากนี้  ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท  จำนวน 
26 แห่ง มีจำนวน 95,931 ล้านบาท หรือร้อยละ  59.47  ของงบประมาณรายจ่ายลงทุนในกลุ่มนี้  รวมทั้งการ
เบิกจ่ายเงินงบประมาณของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  มีการ
เบิกจ่ายจำนวน 20,903 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ  77.23  ของวงเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน  ฯ  และผล
การเบิกจ่ายเงินงบประมาณงบกลางรายการค่าใช้จ่ายสำรองกระตุ้นเศรษฐกิจ (58,000  ล้านบาท) มีการเบิก
จ่ายจำนวน 9,809 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.07 ของวงเงินที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ สำหรับการเบิกจ่ายเงิน
นอกงบประมาณของ 92 กองทุน มีจำนวนทั้งสิ้น 92,485 ล้านบาท  หรือร้อยละ  82.14  ของแผนการใช้จ่าย
เงิน   เงินกู้ต่างประเทศมีการเบิกจ่าย  36,258  ล้านบาท   หรือร้อยละ  77.90  ของแผนการใช้จ่ายเงินกู้ต่าง
ประเทศ และการเบิกจ่ายเงินของรัฐวิสาหกิจ มีการเบิกจ่าย 998,231 ล้านบาท  ทั้งนี้  เมื่อหักรายการซ้ำซ้อน
จำนวน 99,238 ล้านบาทแล้ว  ทำให้การเบิกจ่ายเงินภาครัฐในไตรมาสที่ 3  ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  มี
จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,700,680 ล้านบาท

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอเกี่ยวกับเรื่องการชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรม
การกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่  3  (คกก.3)  และความเห็นเพิ่มเติมเรื่องแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ
ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545 - 2564) เนื่องจาก คกก.3 ได้มอบให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการออกกฎหมาย
เพื่อรองรับมาตรการลดหย่อนภาษีรายได้ให้เฉพาะบุตร ซึ่งเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูผู้สูงอายุที่เป็นบุพการีของตน
เองเท่านั้น โดยบุพการีของผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่ไม่มีเงินได้และไม่ได้รับผลประโยชน์อื่นใดมาก่อน กระทรวงการ
คลังชี้แจงว่า ได้กำหนดมาตรการทางภาษีที่เกื้อกูลต่อผู้สูงอายุทั้งทางตรงและทางอ้อมหลายประการ  และยัง
มีมาตรการภาษีอื่น ๆ อีก   หากจะกำหนดให้มีการหักลดหย่อนเงินได้สำหรับการคำนวณภาษีให้แก่ผู้เลี้ยงดู
บุพการีเพิ่มเติมอีกจะเกิดความยุ่งยากต่อการบริหารจัดเก็บภาษี และอาจก่อให้เกิดความไม่สะดวกต่อทั้งผู้เสีย
ภาษีและเจ้าหน้าที่ผู้จัดเก็บภาษี   จึงพิจารณาเห็นว่า  ควรมีการกำหนดมาตรการอื่น   เช่น   การกำหนดงบ
ประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่เป็นบุพการีให้มากขึ้นกว่าในปัจจุบันทั้งด้านการให้
สวัสดิการสังคม  การให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพ  ฯลฯ   อาจจะเป็นประโยชน์โดยตรงและเหมาะสมกว่าวิธี
การทางภาษีอากร

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการระดมทุนจากภาคเอกชนในการแปรสภาพ
องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.)  โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะกรรมการ  ผู้แทน
กระทรวงการคลัง  ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด  ผู้อำนวยการ ทศท. เป็นกรรมการ  รองผู้อำนวยการ ทศท.
(กำกับดูแลด้านการเงิน)  เป็นกรรมการและเลขานุการ  ทั้งนี้  คณะกรรมการดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่หลักใน
การประสานงานกับคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งบริษัทของ  ทศท.  ในการกำหนดโครงสร้างการบริหาร/
โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท รวมทั้งบริษัทลูกที่จะจัดตั้งขึ้นและอำนาจหน้าที่อื่นอีก 4 ประการ  ตามที่รอง
นายกรัฐมนตรี (นายปองพล อดิเรกสาร) ประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เกี่ยวกับการให้ความสนับสนุนโครงการก่อ
สร้างที่ประเทศสาธารณรัฐมัลดีฟส์ โดยการให้สินเชื่อของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
(ธสน.) ในโครงการก่อสร้างที่พักอาศัยและระบบสาธารณูปโภคบนเกาะ  Hulhumale  ที่ประเทศสาธารณรัฐ
มัลดีฟส์ จำนวน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ  ให้ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติธนาคาร
เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2536  ทั้งนี้ การให้สินเชื่อดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์
ที่ว่าผู้รับเหมาหลักในโครงการจะต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยซึ่งมีทุนเกินกึ่งหนึ่งของนิติ
บุคคลนั้นถือโดยคนไทย  และผู้รับเหมาจะต้องใช้วัสดุก่อสร้างจากประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 30  ของมูล
ค่าการก่อสร้างรวม   เพื่อให้เกิดความรัดกุมและควบคุมดูแลความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง ตลอดจนเอื้อประโยชน์
ต่อประเทศ ควรกำหนดเงื่อนไขให้มีการค้ำประกันโครงการดังกล่าวโดยรัฐบาลมัลดีฟส์  และให้ดำเนินการต่อ
ไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเดือนมีนาคม
2545  โดยการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้ารวม 47.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง
จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 9.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 16.78 โดยมีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นจำนวน
3  รายการ  ตั้งแต่ร้อยละ  1.58  (เครื่องประดับที่ทำด้วยคริสตัล)  ถึงร้อยละ 57.12  (เครื่องแก้วชนิดใช้บน
โต๊ะอาหาร ฯ)  และมี 14 รายการ  ที่มีมูลค่านำเข้าลดลงตั้งแต่ร้อยละ 1.07 (น้ำหอมและเครื่องสำอาง)  ถึง
ร้อยละ 51.21 (ผ้าทอทำด้วยขนสัตว์) ทั้งนี้  มูลค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง  17  กลุ่ม  เปรียบเทียบกับ
มูลค่านำเข้ารวมของสินค้าทุกชนิดในเดือนมีนาคม 2545  (5,270.16  ล้านดอลลาร์สหรัฐ)  มูลค่านำเข้ามี
สัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 0.90 ของมูลค่านำเข้าทั้งหมด ส่วนมูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 
พ.ศ. 2545 (ตุลาคม 2544-มีนาคม 2545) มีมูลค่านำเข้ารวม  282.99  ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เปรียบเทียบ
กับต้นปีงบประมาณ  พ.ศ. 2544 (ตุลาคม 2543-มีนาคม 2544) มีมูลค่าลดลง 15.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือร้อยละ 5.09

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกงาน
ชุมนุมลูกเลือโลก ครั้งที่ 20 พ.ศ. 2546  พ.ศ. ....  (กำหนดชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด 
อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลายและลักษณะอื่น ๆ  ของเหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาวและสีทอง) ราคา
สิบบาทหนึ่งชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสงานชุมนุมลูกเสือโลก ครั้งที่ 20 พ.ศ. 2546 ระหว่าง
วันที่  28  ธันวาคม  2545 - 7  มกราคม  2546)  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการคงสิทธิตามโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการ
ที่โอนหรือลาออกจากราชการเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกกรณี และให้ข้าราชการดัง
กล่าวได้รับสิทธิในการได้รับยกเว้นการชดใช้เงินส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการ ฯ  ตามพระราช
กฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย  พ.ศ. 2535   ทั้งนี้   นับตั้งแต่วันที่ข้าราชการโอนหรือลาออกจากราช
การเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดให้มีการประชุมคณะศึกษาด้านการบริหารและ
ค้นคว้าทางภาษีอากรแห่งเอเซีย ครั้งที่ 32 ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2545  ณ  โรงแรม Dusit Resort อำเภอ
ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  โดยรับข้อมูลเพิ่มเติมของกระทรวงการต่างประเทศ  (เกี่ยว
กับแนวทางการปฏิบัติกับไต้หวัน)  ไปดำเนินการด้วย  สำหรับค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามที่สำนักงบประมาณได้จัด
เตรียมไว้แล้ว

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราช
บัญญัติสุรา พ.ศ. 2493  (ลดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเกี่ยวกับการทำและขายสุราแช่ ชนิดสุราผลไม้
สุราแช่พื้นเมือง ฯ ที่เป็นโรงงานขนาดเล็ก)  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกครบ 100
 ปี การนำธนบัตรออกใช้เป็นครั้งแรก พ.ศ. .... (กำหนดชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก  ขนาด  อัตรา
เผื่อเหลือเผื่อขาด  ลวดลายและลักษณะอื่น ๆ  ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคายี่สิบ
บาท สองชนิด  ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ 100 ปี  การนำธนบัตรออกใช้เป็นครั้งแรก ในวันที่ 7 
กันยายน 2545) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว
ดำเนินการต่อไปได้

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ศุลกากร พุทธศักราช 2469  (กำหนดเพิ่มเติมให้ด่านศุลกากรนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นที่
สำหรับส่งออกซึ่งของที่ขอคืนอากรขาเข้าหรือของที่มีทัณฑ์บนทุกประเภท)  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และ
ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายขรรค์  ประจวบเหมาะ  ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำหรับการกำหนดค่าจ้าง รวมทั้งเงื่อนไขการจ้างผู้บริหารให้เป็นไปตามที่คณะ
กรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์กำหนด โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง  ตามที่กระทรวงการ
คลังเสนอ โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (9 กรกฎาคม 2545) เป็นต้นไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงแนวทางการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ  ประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2545 รวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรค สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2546  โดยรายการ
รายจ่ายลงทุนตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี  (ยกเว้นงบกลาง   รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐ
กิจ 58,000 ล้านบาท)  ที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันในไตรมาสที่  3  ของปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2545   ให้ขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2545   โดยรายการที่ยังไม่
ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง  ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณขอโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ
กับสำนักงบประมาณเพื่อไปตั้งจ่ายเป็นค่าสาธารณูปโภคที่ค้างชำระ  (ถ้ามี)  เป็นลำดับแรกก่อน    และหากมี
งบประมาณเหลือ  ให้นำไปตั้งจ่ายในรายการที่มีความพร้อมและมีความจำเป็นเร่งด่วนอื่น  ๆ  ที่ดำเนินการได้
แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม  2545     และหากไม่สามารถดำเนินการได้  ก็ให้เสนอขอผ่อนผันต่อสำนักงบ
ประมาณเป็นกรณี ๆ  ไป   ส่วนงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  (58,000  ล้านบาท)
ผ่อนผันให้มีระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพัน 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโครงการ   สำหรับ
แนวทางในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี  พ.ศ. 2546     ให้หน่วย
งานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามแนวทางที่กระทรวงการคลังเสนอโดยเคร่งครัดต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบ
ประมาณ และให้ส่งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติต่อไป