ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 206 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 4101 - 4120 จากข้อมูลทั้งหมด 9659 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 4101 | นางสุภาณี นุริศักดิ์ ขอคืนที่ดินที่บริจาคให้แก่ทางราชการ (ยกเลิกโดยมติครม. วันที่ 1สิงหาคม 2550) | กค | 03/01/2550 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลข
ทะเบียนที่ มค.961 โฉนดที่ดินเลขที่ 15420 ตำบลคันธารราษฎร์ อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม คืน ให้แก่นางสุภาณี นุริศักดิ์ ผู้ยกให้ และให้ทุกส่วนราชการถือปฏิบัติว่า ในการรับบริจาคที่ดินจากเอกชนเพื่อ ใช้ประโยชน์ในทางราชการนั้น หากส่วนราชการใดไม่มีแผนงานหรือโครงการที่ชัดเจนรองรับการใช้ประโยชน์ ในที่ดินตามวัตถุประสงค์ของผู้ที่แสดงความประสงค์จะยกที่ดินให้แก่ทางราชการ ส่วนราชการนั้น ๆ ไม่ควรรับ บริจาคที่ดินดังกล่าวไว้ตั้งแต่ต้น เนื่องจากจะเป็นปัญหาในภายหลัง หากทางราชการมิได้เข้าใช้ประโยชน์ในที่ ดินนั้นจริง และผู้ยกให้หรือทายาทได้แจ้งความประสงค์ขอที่ดินคืน
|
|||||||||||||||||||||
| 4102 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 10 จำนวน 6 ราย (1. นายศานิต ร่างน้อยฯ) | กค | 03/01/2550 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน
สามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน 6 ราย ดังนี้ นายศานิต ร่างน้อย ดำรง ตำแหน่งอธิบดี กรมสรรพากร นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมสรรพสามิต นางพันธ์ทิพย์ สุรทิณฑ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมธนารักษ์ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนัก งานปลัดกระทรวงการคลัง นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมศุลกากร และนาย ช. นันท์ เพ็ชญไพศิษฏ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
| 4103 | รายงานประจำปี 2548 ของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย | กค | 26/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานในปี พ.ศ. 2548 ของ
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) โดยผลการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ มีการรับโอนสินทรัพย์ ด้อยคุณภาพ จำนวนสุทธิ 777,179 ล้านบาท และได้บริหารจัดการจนได้ข้อยุติ จำนวน 772,260 ล้านบาท โดยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ได้ข้อยุติส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประเภทอุตสาหกรรม รองลงมาคือ ธุรกิจเกี่ยวกับอสัง หาริมทรัพย์ ส่วนผลการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย มีการรับโอนทรัพย์สินรอการขายโดยมีมูลค่าต้น ทุนที่รับโอนประมาณ 75,028 ล้านบาท สามารถจำหน่ายได้ตามมูลค่าสัญญาขายรวมทั้งสิ้น 12,283 ล้าน บาท จากมูลค่าที่รับโอนประมาณ 9,125 ล้านบาท คงเหลือที่ต้องดำเนินการบริหารจัดการต่อไปประมาณ 65,903 ล้านบาท สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน เช่น การไม่ได้รับความร่วมมือจากลูกหนี้ใน การปรับโครงสร้าง ความล่าช้าในการค้นหาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับลูกหนี้ และความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล เป็น ต้น
|
|||||||||||||||||||||
| 4104 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 | กค | 26/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและ
ขาดทุน ของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 โดยงบ ดุล บัญชีกำไรและขาดทุนในปี พ.ศ. 2548 บบส. มีสินทรัพย์รวม 28,527.69 ล้านบาท หนี้สินรวม 11,996.74 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 16,530.95 บ้านบาท รายได้รวม 2,398.50 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายรวม 1,195.41 ล้านบาท โดยในปี พ.ศ. 2548 บบส. มีกำไรจากการดำเนินงานรวม 1,203.09 ล้านบาท สำหรับ ผลการดำเนินงานของ บบส. ในปี พ.ศ. 2548 ด้านการบริหารและจัดการสินทรัพย์ ได้มีการปรับโครงสร้าง หนี้ที่ประมูลมาจาก ปรส. กรมบังคับคดี อบส. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยธนาคาร จำนวน 229,251 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการประนอมหนี้ได้พิจารณาเรื่องทั้งหมดแล้ว ด้านการจำหน่ายทรัพย์ สิน บบส. มียอดอนุมัติการจำหน่ายทรัพยสินทั้งสิ้น 1,004 ล้านบาท ลดลงจากปี 2547 จำนวน 1,416 ล้าน บาท โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 บบส. มียอดเงินรับจากโครงการ Consortium เป็นจำนวนเงินสะสม 503 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
| 4105 | การเสนอให้คณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคงอยู่ (กระทรวงการคลัง) | กค | 26/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ ให้คณะกรรมการคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อ
ไป โดยมีอำนาจหน้าที่และองค์ประกอบคงเดิม จำนวน 10 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการป้องปรามธุรกิจการเงิน นอกระบบ คณะกรรมการพิจารณาการขาย การแลกเปลี่ยน การให้ การจำหน่ายจ่ายโอนหรือจัดหาประโยชน์ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลไทยในต่างประเทศ คณะกรรมการกลั่นกรองจัดเอาประกันภัยทรัพย์สินของ รัฐ คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการกำกับนโยบายราคากลาง งานก่อสร้าง คณะกรรมการพิจารณากำหนดประเภทและอัตราค่าอวัยวะเทียม และอุปกรณ์ในการบำบัดรักษา โรค คณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ คณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงาน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษระดับจังหวัด คณะกรรมการดำเนินการเขตการค้าเสรีอาเซียน และคณะกรรมการบรรษัท ภิบาลแห่งชาติ และให้คณะกรรมการคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยปรับปรุงองค์ประกอบ ส่วนอำนาจหน้าที่คง เดิม จำนวน 1 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการเพื่อพิจารณากำหนดขอบเขตที่ดินกำแพงเมือง-คูเมือง กับให้ยกเลิก คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร คณะ กรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการใช้เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ (เงินกู้ SAL) และคณะกรรมการพิกัด อัตราศุลกากร
|
|||||||||||||||||||||
| 4106 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2549 ระหว่างเดือนเมษายน - กันยายน 2549 และสถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2549 | กค | 26/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้
สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ระหว่างเดือนเมษายน-กันยายน และสถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้น เดือนกันยายน 2549 โดยในส่วนของสถานะหนี้สาธารณะ ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 มีจำนวน 3,233,120 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.28 ของ GDP ประกอบด้วย หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,967,704 ล้านบาท หนี้ของรัฐ วิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 911,473 ล้านบาท หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบัน การเงิน จำนวน 273,515 ล้านบาท และหนี้องค์กรของรัฐอื่น 80,428 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงาน ตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตั้งแต่เดือนเมษายน - กันยายน มีดังนี้ (1) การบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดย การออกตั๋วเงินคลัง ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มหรือลดวงเงินการออกตั๋วเงินคลังให้สอดคล้องกับฐานะเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2549 มียอดตั๋วเงินคลังคงค้างเป็นเงินทั้งสิ้น 250,000 ล้านบาท รวมทั้งได้ Roll-over ตั๋ว สัญญาใช้เงินที่ครบกำหนดไถ่ถอนจำนวน 5,000 ล้านบาท และ Prepayment ตั๋วสัญญาใช้เงินธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 5,000 ล้านบาท ซึ่งมีอายุคงเหลือ 6.6 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.75 ต่อปี (2) การ บริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) กองทุน ฯ ได้ไถ่ถอนพันธบัตร FIDF2 จำนวน 20,000 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2549 บัญชีเงินทดรอง จ่ายของกองทุนฯ มียอดเงินจำนวน 15,277.45 ล้านบาท กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกพันธบัตร FIDF 3 จำนวน 78,799.89 ล้านบาท เป็นพันธบัตรลงทุน จำนวน 74,500 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ จำนวน 4,299.89 ล้านบาท (3) การบริหารเงินกู้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของระบบสถาบันการเงิน กระ ทรวงการคลังได้ดำเนินการไถ่ถอนพันธบัตร Tier 2 ที่ออกให้กับบริษัททุนธนชาต จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ก่อนครบกำหนด จำนวน 473 ล้านบาท และจำนวน 105 ล้านบาท ตาม ลำดับ (4) การบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการกู้เงินในประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 58,791.40 ล้านบาท เป็นเงินกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน 40,181.40 ล้านบาท และไม่ค้ำประกัน จำนวน 18,610 ล้านบาท (5) การกู้เงินตามแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ ธนาคาร เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประ เทศไทย ได้ดำเนินการกู้เงินจากต่างประเทศจำนวนทั้งสิ้น 161.62 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 6,185.02 ล้านบาท กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน (6) การบริหารหนี้ต่างประเทศกระทรวงการคลังและ รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการบริหารหนี้ต่างประเทศรวม 82,398.48 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
| 4107 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการหักรายรับจ่ายขาดและการถอนคืนเงินรายรับ พ.ศ. .... | กค | 26/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่า
ด้วยการหักรายรับจ่ายขาดและการถอนคืนเงินรายรับ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกระเบียบกระทรวงการ คลังว่าด้วยการหักรายรับจ่ายขาดและการถอนคืนเงินรายรับ พ.ศ. 2545 และระเบียบกรมบัญชีกลางว่าด้วยวิธี ปฏิบัติเกี่ยวกับการหักรายรับรายจ่ายขาดและการถอนคืนเงินรายรับ พ.ศ. 2545 และกำหนดหลักเกณฑ์และ วิธีปฏิบัติในการหักรายรับจ่ายขาดในส่วนที่เกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการในการนำเงินที่เหลือจากการหักรายรับจ่าย ขาดส่งคลังในระบบ GFMIS รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการถอนคืนเงินรายรับในส่วนที่เกี่ยวกับ การเบิกเงินจากคลังในระบบ GFMIS และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ คณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 4108 | การกู้เงินของธนาคารอาคารสงเคราะห์ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวน 38,138 ล้านบาท | กค | 26/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กู้
เงินในประเทศ จำนวน 38,138 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและอื่น ๆ ประกอบด้วย เงินกู้เพื่อชำระ หนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย จำนวน 7,800 ล้านบาท เงินกู้เพื่อชำระหนี้เงินกู้ต่างประเทศ จำนวน 8,338 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 22,000 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน และการค้ำประกันในแต่ละครั้ง ได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น และอนุมัติตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายสมหมาย ภาษี) ที่ขอเพิ่มเติมข้อเสนอของกระทรวงการคลังเป็นข้อเสนอข้อ 2 (และให้ข้อเสนอข้อ 2 เดิม เป็นข้อเสนอข้อ 3) ดังนี้ "2. อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงินในส่วนที่เป็นการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (securitization) จำนวน 10,000 ล้านบาท หากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 นี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สามารถเสนอแผนที่จะดำเนินการได้อย่างเหมาะสม"
|
|||||||||||||||||||||
| 4109 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสิน จำนวน 12 ราย (1. นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณฯ) | กค | 26/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่น
ในคณะกรรมการธนาคารออมสิน จำนวน 12 ราย โดยมีนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ เป็นประธานกรรมการ นาง อรอนงค์ มณีกาญจน์ นายเชิดชัย ขันธ์นะภา นางดวงสมร วรฤทธิ์ นายสมพงษ์ วนาภา นายปรีชา จรุงกิจ อนันต์ นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ พลตำรวจตรี เจตน์ มงคลหัตถี นายปัญจะ เสนา ดิสัย นายวิศิษฐ์ วงศ์รวมลาภ และนายดุสิต นนทะนาคร เป็นกรรมการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (26 ธันวาคม 2549) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
| 4110 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ พ.ศ. .... | กค | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิก
จ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการ ปฏิบัติงานนอกเวลาราชการในวันทำการและในวันหยุดราชการ ดังนี้ วันทำการ (จันทร์-ศุกร์) ตั้งแต่เวลา 16.30-20.30 น. (รวม 4 ชั่วโมง) ได้รับอัตราค่าตอบแทนชั่วโมงละ 50 บาท รวม 4 ชั่วโมง เป็นเงิน 200 บาท ต่อวัน และวันหยุดราชการ (เสาร์, อาทิตย์) และวันหยุดพิเศษอื่นๆ ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. (รวม 7 ชั่วโมง) ได้รับอัตราค่าตอบแทนชั่วโมงละ 60 บาท รวม 7 ชั่วโมง เป็นเงิน 420 บาท ต่อวัน ซึ่งคณะ กรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 4111 | รายงานสรุปผลการกู้เงินในรูป Euro Commercial Paper (ECP) ประจำปีงบประมาณ 2549 | กค | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการกู้เงินในรูป Euro Commercial
Paper (ECP) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ซึ่งกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้ ทำการ Rollover 1 ครั้ง วงเงิน 200,000,000 เหรียญสหรัฐ และเพื่อ Refinance เงินกู้ตามแผนการบริหาร หนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ประกอบด้วย เงินกู้ของกระทรวงการคลัง ได้แก่ เงินกู้ IBRD จำนวน 1 สัญญา และ ADB จำนวน 2 สัญญา วงเงินรวม 156,000,000 เหรียญสหรัฐ เงินกู้ FRN จำนวน 500,000,000 เหรียญสหรัฐ และเงินกู้ JBIC จำนวน 21,700,000,000 เยน และเงินกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้แก่ เงินกู้ Samurai Bond รุ่นที่ 15 จำนวน 141,511,848.34 เหรียญสหรัฐ ซึ่งผลการกู้ เงินและการ Refinance ดังกล่าวทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้เป็นเงินรวม 1,268,194.99 เหรียญสหรัฐ และ 96,926,723 เยน รวมเป็นเงินเทียบเท่า 80,052,612.52 บาท (คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันกู้ เงิน) และในการชำระคืนเงินกู้ ECP รวมถึงการใช้งบชำระหนี้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 สมทบการชำระ คืนเงินกู้เดิมทำให้กระทรวงการคลังสามารถลดยอดหนี้คงค้าง รวมทั้งลดภาระดอกเบี้ยนอนาคตได้จำนวนรวม ทั้งสิ้น 9,382.87-9,491.87 ล้านบาท สำหรับยอดเงินกู้คงค้างภายใต้ ECP Programme ณ วันที่ 30 กันยา ยน 2549 เป็นเงินรวม 823,832,261.95 เหรียญสหรัฐ จึงยังคงเหลือวงเงินกู้ภายใต้ ECP Programme ที่ สามารถเบิกใช้ได้อีกจำนวน 1,176,167,738.05 เหรียญสหรัฐ
|
|||||||||||||||||||||
| 4112 | การแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจและคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ จำนวน 8 ราย (1. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง 2.ฯ) | กค | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจและคณะกรรมการกำกับนโยบาย
ด้านรัฐวิสาหกิจเสนอแต่งตั้ง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายเกษรี ณรงค์เดช นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และ นายรพี สุจริตกุล เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ และแต่งตั้ง นายกานต์ ตระกูลฮุน นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ นายสมภพ อมาตยกุล และนายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ เป็นกรรมการผู้ทรง คุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (19 ธันวาคม 2549) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
| 4113 | การแต่งตั้งกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (นายกำชัย จงจักรพันธ์) | กค | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายกำชัย จงจักรพันธ์ เป็นกรรมการผู้
ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี มีมติ (19 ธันวาคม 2549) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
| 4114 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (นายการุณ กิตติสถาพร) | กค | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีโดยคำแนะนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการ
คลังเสนอแต่งตั้ง นายการุณ กิตติสถาพร เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ต่อ ไปอีกวาระหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||
| 4115 | การจัดตั้งงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้และค่าใช้จ่ายระหว่างการชำระบัญชีขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ จำนวน 2,070 ล้านบาท | กค | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการจัดตั้งงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2550 งบรายจ่ายอื่น รายการค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้และค่าใช้จ่ายระหว่างการชำระบัญชี ขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) จำนวน 2,070 ล้านบาท ไว้ที่ ร.ส.พ. |
|||||||||||||||||||||
| 4116 | โครงการเพื่อการสาธารณประโยชน์จากรายได้โดยการออกสลากพิเศษ | กค | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เสนอหยุดการ
ออกสลากพิเศษตั้งแต่งวดแรกของปี พ.ศ. 2550 (งวดประจำวันที่ 16 มกราคม 2550) เป็นต้นไป โดยให้สำนัก งานสลาก ฯ พิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลเพิ่มเติมในจำนวนที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของตลาด และ หากจะมีการออกสลากเพื่อหารายได้บำรุงการกุศล ก็ให้เป็นการออกเฉพาะกรณีที่สมควรเป็นคราว ๆ ไปดังที่ เคยดำเนินการก่อนโครงการนี้ โดยหน่วยงานที่ประสงค์จะใช้เงิน ให้แจ้งความประสงค์เพื่อพิจารณาดำเนินตาม ความเหมาะสมเฉพาะครั้งต่อไป โดยการออกสลากพิเศษ งวดประจำวันที่ 1 ธันวาคม 2549 จนถึงการออก สลากพิเศษงวดสุดท้าย ให้สำนักงานสลาก ฯ นำส่งเงินร้อยละ 28 เป็นรายได้แผ่นดินเช่นเดียวกับสลากกินแบ่ง รัฐบาล ทั้งนี้ เงินรายได้ของโครงการเพื่อการสาธารณประโยชน์จากรายได้โดยการออกสลากพิเศษให้พิจารณา ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องได้จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2549 หลังจากนั้นให้กระทรวงการคลังนำเงินส่วนที่เหลือ หลังหักรายการค้างจ่ายและรายการที่เป็นภาระผูกพันแล้วส่งเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 4117 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินสดสำรองและดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. .... | กค | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงิน
กองทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงิน สดสำรองและดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. .... โดยร่าง กฎกระทรวง ฯ ทั้ง 2 ฉบับ มีสาระสำคัญดังนี้ กำหนดหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนของธนาคารเพื่อการ เกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เพื่อให้มีเสถียรภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และกำหนดหลัก เกณฑ์การดำรงเงินสดสำรองและดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของ ธกส. เพื่อให้มีสภาพคล่องที่เหมาะสมกับการ ดำเนินงานและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 4118 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ประจำปีงบประมาณ 2549 | กค | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระ
ราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ซึ่งกระทรวงการคลังได้ดำเนิน การบริหารและจัดการหนี้สาธารณะตามกรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ เป็นเงินทั้งสิ้น 731,834.16 ล้าน บาท คิดเป็นร้อยละ 76.77 ของแผน ฯ เมื่อรวมกับการกู้เงินและบริหารหนี้ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้กรอบ เพดานการกู้เงินและบริหารหนี้ของแผน ฯ จำนวน 133,111.51 ล้านบาท กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้กู้ เงินและบริหารหนี้รวม 864,945.67 ล้านบาท แบ่งเป็นการกู้เงินใหม่ 270,818.92 ล้านบาท และการบริหาร หนี้ 594,126.75 ล้านบาท ทั้งนี้ จากการดำเนินการดังกล่าวทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้ 37,763.32 ล้านบาท ลดภาระดอกเบี้ยได้ 3,439.14 ล้านบาท ประหยัดดอกเบี้ยได้ 2,086 ล้านบาท และลดต้นทุนเงินกู้ สุทธิ 2,339 ล้านบาท สำหรับต้นทุนโดยเฉลี่ยเงินกู้ที่ได้ผูกพันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เท่ากับร้อยละ 5.961 ต่อปี ระยะเงินกู้เฉลี่ย 10.18 ปี ต่ำกว่าผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) ของโครงการโดยเฉลี่ยที่มีอัตราผลตอบ แทนร้อยละ 9.303 และการดำเนินการยังคงอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลัง คือ หนี้สาธารณะต่อ GDP เท่ากับร้อยละ 41.28 ซึ่งไม่เกินร้อยละ 50 และภาระหนี้ต่องบประมาณ เท่ากับร้อยละ 12.62 ซึ่งไม่เกินร้อยละ 15 และให้นำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 4119 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 พ.ศ. .... | กค | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราช
กำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดบริษัท บริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 เพื่อให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สามารถรับซื้อ รับโอน และรับจ้างบริหารสิน ทรัพย์ด้อยคุณภาพและสินทรัพย์ของสถาบันการเงินที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ เลิก หรือถูกเพิกถอนใบ อนุญาตประกอบการธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจเงินทุน หรือธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ตลอดจนหลักประกันของ สินทรัพย์นั้น เพื่อนำมาบริหารหรือจำหน่ายจ่ายโอนต่อไป และกำหนดหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมในการกำกับ ดูแลและควบคุมตรวจสอบการดำเนินกิจการของบริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อให้การบริหารจัดการสินทรัพย์ ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ ตรวจพิจารณาแล้ว และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 4120 | แผนการเจรจาจัดทำอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2550 | กค | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ รับทราบแผนการเจรจาจัดทำอนุสัญญาเพื่อการ
เว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยได้กำหนดแผน การเจรจา ฯ กับกลุ่มประเทศที่ยังคงมีประเด็นติดค้างจำนวน 4 ประเทศ ได้แก่ ทาจิกิสถาน (รอบสอง) เคนยา (รอบสอง) เปรู (รอบสอง) และเอสโตเนีย (รอบสอง) และกลุ่มประเทศที่ขอทาบทามเปิดเจรจา ฯ ในรอบแรก จำนวน 5 ประเทศ ได้แก่ โมซัมบิก บราซิล เซเนกัล มอลโดวา และอาเซอร์ไบจาน รวมทั้งอนุมัติให้มีการเปิด เจรจาจัดทำอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับประเทศต่าง ๆ โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีอำนาจแต่งตั้งคณะผู้แทนรัฐบาลไทยในการเจรจาจัดทำอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนทั้งภายในและ ภายนอกประเทศพร้อมหลักเกณฑ์ที่เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
.....
