ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 631 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 12601 - 12620 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12601 | ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดประกอบการดำเนินงานก่อสร้างอาคารที่ทำการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ | นร | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. เปลี่ยนแปลงรายละเอียดประกอบรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ รายการค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จากเดิม ตั้งอยู่ที่แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็น ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยใช้งบประมาณภายในวงเงิน ๘๒๔.๔๑๒๖ ล้านบาท ๒. ก่อหนี้ผูกผันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานจ้างเหมาก่อสร้างอาคารที่ทำการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ระยะเวลาก่อหนี้ผูกพัน ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔) โดยใช้งบประมาณภายในวงเงิน ๒๔.๗๓๒๔ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12602 | การกำหนดเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นของกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมสำหรับอนุกรรมการอื่นตามพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ. 2562 | นร08 | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นของกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล กรรมการบริหารศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และอนุกรรมการอื่นที่กำหนดให้มีขึ้นตามพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ. ๒๕๖๒ (มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา) โดยอัตราเบี้ยประชุมที่เสนอในครั้งนี้เทียบเคียงจากประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดรายชื่อคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายเดือนและอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือนและรายครั้งสำหรับกรรมการ อนุกรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งอาศัยอำนาจตามมาตรา ๖ มาตรา ๗ และมาตรา ๑๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒. สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมอนุกรรมการอื่นซึ่งกำหนดให้มีขึ้นตามพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ. ๒๕๖๒ แต่ยังไม่ได้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ ให้เบิกจ่ายเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยอนุโลม ทั้งนี้ การเบิกจ่ายเบี้ยประชุมดังกล่าว เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จากงบประมาณที่ได้รับจัดสรรแล้วมาดำเนินการในโอกาสแรก สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป เห็นควรให้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12603 | มาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ | อก | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบมาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ ประกอบด้วย มาตรการทางกฎหมาย มาตรการสนับสนุนจากภาครัฐในการสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร และมาตรการขอความร่วมมือด้านการบริหารจัดการ และเห็นชอบโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร ปี ๒๕๖๒-๒๕๖๔ โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสนับสนุนสินเชื่อให้แก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สถาบันชาวไร่อ้อย กลุ่มบุคคล และวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย ปรับพื้นที่ปลูกอ้อยเป็นแปลงใหญ่ให้เหมาะสมกับเครื่องจักรกลการเกษตร และจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยบางส่วน (ขึ้นอยู่กับประเภทของผู้กู้) จำนวนรวมทั้งสิ้น ๙๔๓.๗๑ ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๗๒ สำหรับกำหนดระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยของโครงการฯ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณานำวงเงินสินเชื่อที่คงเหลือจากการดำเนินการในปีก่อน ไปใช้ดำเนินการในปีต่อ ๆ ไปด้วย ทั้งนี้ ภายในกรอบวงเงินสินเชื่อรวมทั้งสิ้น ๖,๐๐๐ ล้านบาท ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ไม่เกินวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรประชาสัมพันธ์และชี้แจงทำความเข้าใจแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สถาบันชาวไร่อ้อย และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ทุกระดับเกี่ยวกับรายละเอียดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยพึงจะได้รับจากโครงการฯ และควรระบุหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และข้อกำหนดของโครงการฯ ให้ชัดเจน เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยเข้าถึงแหล่งทุนสำหรับการพัฒนาแหล่งน้ำและจัดทำระบบบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อยในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการ/โครงการ เพิ่มมูลค่าหรือใช้ประโยชน์จากใบอ้อยที่เหลือจากการตัดอ้อยสดให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยลดการเผาอ้อยก่อนเก็บเกี่ยวและเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยอีกทางหนึ่งด้วย ๓. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่าง ๆ ข้างต้น ให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด สอดคล้องกับหลักการขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) และพันธกรณีระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12604 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2513 เพื่อขอกันพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบริเวณที่กรมป่าไม้อนุมัติให้องค์การสวนยางเข้าทำประโยชน์ จังหวัดนครศรีธรรมราช สำหรับดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช | กษ | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๓ (เรื่อง ขอกันพื้นที่ป่าไม้เพื่อใช้ในกิจการสวนยาง จังหวัดนครศรีธรรมราช) โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าทำประโยชน์บริเวณพื้นที่ป่าคลองกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื้อที่จำนวน ๓,๙๕๐ ไร่ เพื่อใช้ดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติที่เห็นควรให้มีมาตรการปลูกป่าทดแทนตามระเบียบของกรมป่าไม้ เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้พื้นที่ป่าต้นน้ำและป้องกันการชะล้างของตะกอนไม่ให้ไหลลงอ่างเก็บน้ำ และมาตรการในการส่งเสริมอาชีพให้แก่ผู้รับผลกระทบ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยไม่ด้อยไปกว่าเดิม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12605 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน และกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ โดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง พ.ศ. .... | กค | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน และกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ โดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน และกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ โดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง พ.ศ. ๒๕๖๐ และกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนและกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเพิ่มเติมลักษณะของพัสดุที่รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุน และกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจงสำหรับพัสดุดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการให้ความหมายของพัสดุส่งเสริมสุขภาพและสาธารณสุข ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12606 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. .... | กษ | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร เพื่อให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้นำเข้าสินค้าเกษตรที่ประสงค์จะขอรับการตรวจสอบเพื่อขอรับใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรถือปฏิบัติต่อไปได้ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12607 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อใช้ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. .... | อก | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อใช้ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์การส่งเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย อันเนื่องมาจากยกเลิกการกำหนดราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายที่ใช้บริโภคในราชอาณาจักร และการยกเลิกโควตา เพื่อให้โรงงานน้ำตาลทรายที่ไม่ได้จำหน่ายน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักรต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเช่นเดียวกันกับโรงงานน้ำตาลทรายที่จำหน่ายน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักร และให้มีผลใช้บังคับย้อนหลังตั้งแต่วันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12608 | ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดชนิดและแหล่งกำเนิดวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ในโรงงาน พ.ศ. .... | อก | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดชนิดและแหล่งกำเนิดวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ในโรงงาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการห้ามมิให้โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (ไม่รวมเศษจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า) ซึ่งเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ มาเป็นวัตถุดิบในโรงงาน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่เห็นควรพิจารณากลไกการกำหนดรายการวัตถุอันตราย ภายใต้คำจำกัดความของ..”ขยะอิเล็กทรอนิกส์” ให้มีพลวัติ เพื่อให้ครอบคลุมขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นปัญหาในปัจจุบันและสารอันตรายรายการใหม่ ซึ่งมีโอกาสพบในขยะอิเล็กทรอนิกส์ และควรพิจารณาการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากกลไกการรับรองสินค้าที่สอดคล้องกับระเบียบการจำกัดการใช้สารอันตราย (ข้อกำหนด RoHS; Restriction of Hazardous Substances) ซึ่งเป็นข้อกำหนดว่าด้วยเรื่องของการใช้สารที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลบังคับใช้ในสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ มาประกอบการพิจารณาอนุญาตนำเข้า “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” ไปประกอบการตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับข้อสังเกตของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การตรวจพิสูจน์ว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่โรงงานนำมาใช้เป็นวัตถุนั้นเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าหรือไม่อย่างไร การป้องกันปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบของโรงงาน รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้ประกอบการโรงงานปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดการออกประกาศห้ามนำเข้าซึ่งสินค้าอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้แล้วที่นำมาถอดแยกเพื่อนำโลหะกลับมาใช้ตามพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. ๒๕๒๒ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12609 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์) | พณ | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพาณิชย์ (นักวิชาการพาณิชย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12610 | การปรับปรุงแก้ไขการจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน อำนาจหน้าที่ของส่วนงาน และอัตรากำลังของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร | นร51 | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้าง การแบ่งส่วนงานของ กอ.รมน. ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ (เรื่อง การขอจัดตั้งหน่วยงานตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ) ซึ่งกำหนดให้ส่วนราชการต้องพิจารณาปรับปรุงบทบาท ภารกิจ โครงสร้างและวิธีทำงานที่มีอยู่เดิมเป็นลำดับแรกก่อน และปรับวิธีการทำงานให้มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมก่อนเสนอให้มีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ รวมทั้งต้องเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอย่างแท้จริงเท่านั้น ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. โดยในส่วนของกรอบอัตรากำลังประจำ ให้บริหารจัดการภายใต้กรอบอัตรากำลังประจำที่มีอยู่เดิม สำหรับกรอบอัตรากำลังช่วยราชการ ให้พิจารณาตามเหตุผลความจำเป็นของภารกิจตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ๒. ให้ กอ.รมน. รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีของหน่วยงานก่อนในโอกาสแรก สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการดังกล่าว ต้องเป็นไปตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยคำนึงถึงหลักความคุ้มค่าและประหยัด ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12611 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศสำหรับดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยและดอกเบี้ยพันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน) | กค | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศและมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย สำหรับดอกเบี้ยพันธบัตรที่ได้รับจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือดอกเบี้ยพันธบัตรที่ได้รับจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ได้รับ ตั้งแต่วันที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๗/๒๕๖๑ เรื่อง การยกเว้นภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากรบางกรณี ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ถูกยกเลิกเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ควรกำหนดให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๗/๒๕๖๑ เรื่อง การยกเว้นภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากรบางกรณี ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ ไว้ในร่างพระราชกฤษฎีกานี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบังคับใช้ ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12612 | การรับรองแถลงการณ์รัฐมนตรีในการประชุมรัฐมนตรีด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ค.ศ. 2019 | ดศ | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการส่งเสริมอนาคตด้านดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก หรือ “Singapore Statement of the Asia-Pacific ICT Ministers on Co-creating a Connected Digital Future in the Asia-Pacific” ฉบับแก้ไขสุดท้าย มีสาระสำคัญเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย ๕ หัวข้อสำคัญ ได้แก่ (๑) การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) (๒) นวัตกรรมและการสร้างสรรค์ทางดิจิทัล (Digital Innovation and Creativity) (๓) ชุมชนดิจิทัล (Digital Community) (๔) ความเชื่อมั่นด้านดิจิทัล (Digital Trust) และ (๕) ความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและความร่วมมือในทุกภาคส่วน (Digital Skills and Partnerships) โดยจะมีการรับรองร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีฯ ในการประชุมรัฐมนตรีด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ค.ศ. ๒๐๑๙ ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติที่เห็นควรปรับแก้ไขข้อความในหน้าที่ ๔ บรรทัดที่ ๓ หัวข้อ B. Digital Innovation and Creativity เรื่อง 5G จาก “re-farming 2G/3G Spectrum” เป็น “unused and/or underutilized spectrum bands” เพื่อทำให้ความหมายถูกต้องตามข้อเท็จจริง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12613 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ [การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2561] | กค | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. รับทราบรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองได้ภายในกำหนดระยะเวลาตามพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งกระทรวงการคลังรายงานว่า เนื่องจากการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน การจะกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขดังกล่าว จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณา ต้องหารือผู้ที่เกี่ยวข้อง และต้องพิจารณาให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการประกอบธุรกิจไม่ให้เกิดผลเสียต่อรัฐ รวมทั้งต้องสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ในการจำหน่ายหนี้สูญของภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๘๖ (พ.ศ. ๒๕๓๔) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ ดังนั้น จึงทำให้การดำเนินการไม่อาจแล้วเสร็จภายในระยะเวลา ๙๐ วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๑ ใช้บังคับ ได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12614 | การประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่ 4 และร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่ 4 | กก | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ ๔ (Draft Joint Statement of the 4th ACMECS Tourism Ministerial Meeting) มีสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานภายใต้แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕ ในประเด็นต่าง ๆ เช่น (๑) รับทราบสรุปผลการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ ๘ โดยผู้นำจาก ๕ ประเทศสมาชิก (ไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม) เกี่ยวกับการรับรองแผนแม่บท ACMECS (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖) (๒) รับทราบจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ACMECS ในปี ๒๕๖๑ จำนวน ๗๘.๘๓ ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๙.๓๖ จากปี ๒๕๖๐ และ (๓) การกำหนดทิศทางการดำเนินความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวภายใต้แผนแม่บทการท่องเที่ยว ACMECS ปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖ ๑.๒ ให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายโชติ ตราชู) ซึ่งได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะรัฐมนตรีท่องเที่ยว ACMECS ของไทย ร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ โดยไม่มีการลงนาม ในการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยว ACMECS ครั้งที่ ๔ ณ จังหวัดเชียงราย ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12615 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรี G20 ด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานและสิ่งแวดล้อมโลก เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน | พน | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุม G20 Ministerial Meeting on Energy Transitions and Global Environment for Sustainable Growth (การประชุมระดับรัฐมนตรี G20 ด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานและสิ่งแวดล้อมโลกเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ เมืองคารุอิซาว่า ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ (๑) แถลงการณ์ G20 Communique (Joint Part) (๒) แถลงการณ์ G20 Communique (Energy Part) (๓) แผนปฏิบัติการ G20 Innovation Action Plan และ (๔) แผนปฏิบัติการ G20 Energy Innovation Action Plan และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยให้การรับรองร่างเอกสารฯ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงพลังงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12616 | โครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version) | วธ | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการดำเนินโครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version) ในนามรัฐบาล โดยการบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม มหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อถวายพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวิชรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่พระองค์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย และประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และเพื่อเป็นการเผยแผ่และสืบทอดพระพุทธศาสนาสู่ประชาคมโลก ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้กรมการศาสนาพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณไปดำเนินการก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป เห็นควรให้กรมการศาสนาจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรี (๒๗ มกราคม ๒๕๕๘) เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12617 | ขอปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 | สกพอ | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการเจรจาต่อรองกับผู้ยื่นข้อเสนอ และเห็นชอบการปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ ๓ ช่วงที่ ๑ โดย (๑) เปลี่ยนแปลงจำนวนเงินร่วมลงทุนของรัฐ หักค่าสิทธิการร่วมลงทุนจากเอกชนสุทธิ ๗๑๐ ล้านบาทต่อปี เป็นระยะเวลา ๓๐ ปี และ (๒) เปลี่ยนแปลงผลตอบแทนทางการเงินขั้นต่ำของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจากการร่วมลงทุนกับเอกชน ช่วงที่ ๑ และช่วงที่ ๒ รวมเท่ากับมูลค่าปัจจุบันสุทธิประมาณ ๖,๗๒๑ ล้านบาท (อัตราคิดลดร้อยละ ๖.๔๘) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการติดตามผลประกอบการของโครงการฯ โดยเฉพาะในส่วนของรายได้ที่ผันแปรกับปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านท่าเทียบเรือ เพื่อให้สามารถกำหนดแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินของกิจการได้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12618 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (เรืออากาศโท อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร และคณะ) | กต | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เรืออากาศโท อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ๒. นายสุนทร ชัยยินดีภูมิ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ๔. นายชัยณรงค์ กีรติยุตวงศ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12619 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายธีรวุธ กลั่นเลี้ยง) | นร04 | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธีรวุธ กลั่นเกลี้ยง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านยุทธศาสตร์และการวางแผน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12620 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมตรีกำหนด [การลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)] | อื่นๆ | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด มีสาระสำคัญเป็นการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (บจธ.) โดยให้ บจธ. และคู่สัญญาได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของ บจธ. กรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ตามอัตราค่าเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ในอัตราร้อยละ ๒ และร้อยละ ๑ ให้เหลือในอัตราร้อยละ ๐.๐๑ ตามที่ บจธ. เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....