ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 539 จากทั้งหมด 6211 หน้า แสดงรายการที่ 10761 - 10780 จากข้อมูลทั้งหมด 124213 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
10761 | รายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 | กค | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ร้อยละ ๔๑.๖๙ ๒. สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ ร้อยละ ๒๘.๒๖ ๓. สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด ร้อยละ ๒.๗๓ ๔. สัดส่วนภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ ร้อยละ ๐.๑๘
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10762 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 2/2563 เรื่อง โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก | สกพอ | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10763 | การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... | นร07 | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กำหนดจำนวนกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... จำนวน ๔๓ คน ประกอบด้วย ๑.๑ กรรมาธิการที่คณะรัฐมนตรีเสนอชื่อ จำนวนไม่เกิน ๑๐ คน โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอุตตม สาวนายน) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายสันติ พร้อมพัฒน์) และปลัดกระทรวงการคลัง (นายประสงค์ พูนธเนศ) เป็นกรรมาธิการในสัดส่วนที่คณะรัฐมนตรีเสนอชื่อ สำหรับจำนวนกรรมาธิการที่ยังไม่ระบุรายชื่ออีก จำนวน ๗ คน ให้ผู้แทนพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลประสานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อแจ้งรายชื่อกรรมาธิการในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรีให้สำนักงบประมาณเพื่อดำเนินการต่อไป ๑.๒ กรรมาธิการที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเลือก จำนวน ๓๓ คน โดยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล จำนวน ๑๘ คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน จำนวน ๑๕ คน ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10764 | การผ่อนปรนการอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและการทำงานให้กับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานตามข้อตกลงที่รัฐบาลไทยได้ลงนามกับรัฐบาลประเทศคู่ภาคี | รง | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๑.๑ เห็นชอบการผ่อนปรนการอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและการทำงานให้กับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานตามข้อตกลงที่รัฐบาลไทยได้ลงนามกับรัฐบาลประเทศคู่ภาคี พร้อมทั้งร่างประกาศ รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑.๑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขยายระยะเวลาการยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักร ตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานกรณีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่.. พ.ศ. .... เพื่อผ่อนผันให้คนต่างด้าว ๓ สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา) ซึ่งเข้ามาทำงานตาม MoU ที่การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด สามารถอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวได้ต่อไป ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑.๑.๒ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขยายระยะเวลาการยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา และเมียนมา ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม กรณีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่.. พ.ศ. .... เพื่อผ่อนผันให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา และเมียนมา ซึ่งเข้ามาทำงานในประเทศไทยโดยใช้บัตรผ่านแดนที่การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดสามารถอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวได้ต่อไป ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑.๑.๓ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่...... เพื่อผ่อนผันให้คนต่างด้าวที่การอนุญาตทำงานสิ้นสุดสามารถทำงานไปพลางก่อนได้ ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑.๒ หลังสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงดำเนินการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุมดำเนินคดีนายจ้าง แรงงานผิดกฎหมายที่ลักลอบทำงานและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงแรงงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10765 | การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนสมัยพิเศษและการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนบวกสามสมัยพิเศษว่าด้วยโควิด - 19 | พณ | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสารจำนวน ๒ ฉบับ ที่จะมีการรับรองในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนสมัยพิเศษและการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนบวกสาม (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) สมัยพิเศษว่าด้วยโควิด-๑๙ (Special AEM Meeting and Special AEM Plus Three Consultations on COVID-19) ได้แก่ ๑.๑.๑ ร่างแผนปฏิบัติการฮานอยว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานของอาเซียนให้เข้มแข็งในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-๑๙ มีวัตถุประสงค์เป็นการดำเนินการตามปฏิญญาของการประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ประกอบด้วยเนื้อหาหลัก ๓ ส่วน ได้แก่ ขอบเขตความร่วมมือของประเทศสมาชิกอาเซียน การส่งเสริมความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานให้เข้มแข็ง และกลไกเชิงสถาบันเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของแผนปฏิบัติการฮานอยฯ ๑.๑.๒ ร่างถ้อยแถลงร่วมของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนบวกสามว่าด้วยการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีเศรษฐกิจจากประเทศสมาชิกอาเซียน และรัฐมนตรีเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ในการนำถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ เรื่อง โควิด-๑๙ มาหาแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาตลาดการค้าและการลงทุนที่เปิดกว้างเพื่อเสริมสร้างการฟื้นตัวและความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานในระดับภูมิภาค และคงไว้ซึ่งการเคลื่อนย้ายที่จำเป็นของสินค้าและบริการ เพื่อให้สอดคล้องกับสิทธิและพันธกรณีภายใต้ความตกลงที่เกี่ยวข้องขององค์การการค้าโลก และเห็นด้วยที่จะหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการที่ไม่จำเป็นอันอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายของสินค้าจำเป็น รวมทั้งสนับสนุนการแสวงหามาตรการอำนวยความสะดวกที่จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้การรับรองร่างเอกสารดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10766 | การเตรียมความพร้อมการจัดการศึกษาขึ้นพื้นฐานก่อนการเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2563 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | ศธ | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. แนวทางการนับเวลาเรียน การสอนชดเชย และการอนุมัติการจบการศึกษา/การออกเอกสารหลักฐานการศึกษา การจัดการเรียนการสอนทางไกล การวัดประเมินผล ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ๒. การกำหนดแนวทางการดำเนินงานและบริหารงบประมาณการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ รายการค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (เพิ่มเติม) ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) คือ ให้สถานศึกษาสามารถจัดกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนทางไกลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เช่น วัสดุผลิตสื่อการเรียนการสอน ใบงาน แบบฝึกหัด และค่าใช้จ่ายในการติดตามและเยี่ยมบ้านนักเรียนที่เป็นค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นต้น เพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนทางไกลให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ๓. แนวทางการบริหารจัดการสำหรับศูนย์การศึกษาพิเศษ กรณียังไม่สามารถเปิดให้บริการฟื้นฟูสมรรถภาพได้ตามปกติ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ และโรงเรียนเฉพาะความพิการ กรณีจัดการเรียนการสอนทางไกล ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10767 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ รายสัปดาห์ ครั้งที่ 3 | นร10 | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ รายสัปดาห์ ครั้งที่ ๓ โดยสรุปข้อมูล ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ซึ่งได้รับข้อมูลจาก ๑๔๕ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๙๘ ของส่วนราชการทั้งหมด (๑๔๗ ส่วนราชการ) ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ (Work From Home) ส่วนราชการร้อยละ ๑๐๐ (๑๔๕ ส่วนราชการ) มีการมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ โดยมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๒๐ (๒๙ ส่วนราชการ) และมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการได้ร้อยละ ๕๐ ขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ ๕๗ (๘๓ ส่วนราชการ) โดยมีการมอบหมายให้ปฏิบัติงานที่บ้านในหลายรูปแบบ เช่น ปฏิบัติงานที่บ้านสลับกับการมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของส่วนราชการวันเว้นวัน สัปดาห์ละ ๑ วัน สัปดาห์ละ ๒ วัน สัปดาห์เว้นสัปดาห์ เป็นต้น ๒. การเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ ส่วนใหญ่ร้อยละ ๕๕ กำหนดการเหลื่อมเวลาการปฏิบัติงานเป็น ๓ ช่วงเวลา คือ เวลา ๐๗.๓๐-๑๕.๓๐ น. เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. และเวลา ๐๙.๓๐-๑๗.๓๐ น. รวมทั้งมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามวันเวลาปกติในบางลักษณะงาน เช่น งานให้บริการประชาชน งานรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล งานในห้องปฏิบัติการ งานรับ-ส่งเอกสารราชการ และงานจัดเก็บภาษี เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10768 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 7/2563 | นร | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๗/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๓ โดยสาระสำคัญของการประชุมฯ ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒) รายงานการประเมินผลการดำเนินมาตรการผ่อนคลาย (๓) รายงานผลการดำเนินงานแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” (๔) ข้อเสนอมาตรการผ่อนคลายระยะที่ ๓ และ (๕) แนวทางการบริหารจัดการเรียนการสอนสถานศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในการเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10769 | ร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท พ.ศ. .... | กค | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราร้อยละ ๙๐ ตามมาตรา ๕๕ แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้แก่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ใช้ประโยชน์อื่นนอกจากประกอบเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย และที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ สำหรับปีภาษี พ.ศ. ๒๕๖๓ และเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท พ.ศ. .... ที่กำหนดให้ลดภาษีเฉพาะในปีภาษี พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10770 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ | กค | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) จำนวน ๕๖ แห่ง ในสัปดาห์ช่วงระหว่างวันที่ ๑๘-๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (ปฏิบัติงานที่บ้านหรือที่พักหรือสถานที่ตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด) รัฐวิสาหกิจ ๕๑ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง และมีรัฐวิสาหกิจ ๕ แห่ง ที่ให้พนักงานกลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามปกติแล้ว เช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓) ทั้งนี้ จากจำนวนพนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด จำนวน ๓๐๐,๑๗๔ คน มีพนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง จำนวน ๗๗,๒๑๒ คน หรือคิดเป็นร้อยละ ๒๖ ๒. การปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ มีรัฐวิสาหกิจ ๓๓ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา โดยมีช่วงเวลาเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น.-๑๐.๓๐ น. เช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10771 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม 2563) | นร04 | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันเสาร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10772 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดชื่อสถานพยาบาล และการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถานพยาบาลผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่น และสิทธิของผู้ป่วย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....) | สธ | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10773 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....) | สธ | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10774 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดวิชาชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล (ฉบับที่..) พ.ศ. ....) | สธ | 02/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10775 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม 2563) | นร | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันพุธที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๓ และครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10776 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน เขตอำนาจ และวันเปิดทำการของศาลแขวง ในจังหวัดกระบี่ พ.ศ. .... ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน เขตอำนาจ และวันเปิดทำการของศาลแขวง ในจังหวัดตรัง พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บทบัญญัติมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 บังคับสำหรับคดีที่เกิดขึ้นในบางท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ (กำหนดวันเปิดทำการศาลแขวงกระบี่และศาลแขวงตรัง วันที่ 1 ตุลาคม 2563 และกำหนดให้ศาลจังหวัดซึ่งยังมิได้มีศาลแขวงเปิดทำการสามารถนำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง มาใช้บังคับในศาลจังหวัดสำหรับคดีอาญาที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงซึ่งเกิดขึ้นในบางท้องที่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป) | ศย | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10777 | ขออนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง | กษ | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการ จำนวน ๒,๑๖๔.๑ ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวเป็นการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้านที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องในการประกอบอาชีพอันเนื่องมาจากการปฏิรูปภาคการประมงไทย ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการประมงต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการปรับปรุงเรือ เครื่องมือ และอุปกรณ์ทำการประมง รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงาน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการ จำนวน ๒,๑๖๔.๑ ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าชดเชยดอกเบี้ย จำนวน ๒,๑๖๓ ล้านบาท ให้ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามขั้นตอนต่อไป สำหรับค่าใช้จ่ายในการชี้แจง ประชาสัมพันธ์ และติดตามโครงการ จำนวน ๑.๑ ล้านบาท นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) พิจารณาโอนเงินจัดสรร เปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนแล้วแต่กรณีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ธ.ก.ส. รับไปพิจารณาดำเนินการให้ผู้ประกอบการประมงพื้นบ้านขนาดเล็กสามารถกู้เงินในรูปแบบกลุ่มได้ด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นว่า (๑) ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ต้องจัดทำบัญชีสำหรับการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการที่ได้รับมอบหมายแยกต่างหากจากบัญชีการดำเนินงานทั่วไป พร้อมทั้งเสนอรายงานผลการดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายและผลสัมฤทธิ์ต่อรัฐมนตรี เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ รวมทั้งเผยแพร่ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (๒) การพิจารณาให้สินเชื่ออาจพิจารณาตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับ IUU เนื่องจากเป็นประเด็นร่วมมือสำคัญกับ EU รวมทั้งพิจารณาความสอดคล้องกับ WTO (๓) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีระบบติดตามการนำเงินกู้ไปใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ (๔) ควรตรวจสอบรายละเอียดคุณสมบัติผู้ประกอบการประมงในการขอสินเชื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดอย่างเคร่งครัด และมีการประเมินผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ เป็นรายปี และ (๕) ควรให้ความสำคัญกับกลไกและกระบวนการป้องกันและกำกับดูแล ไม่ให้มีการนำเงินทุนที่ได้รับไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยเฉพาะกับการทำประมงอย่างไม่ถูกต้อง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการทำประมงให้ชัดเจนและขับเคลื่อนการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป เช่น ปัญหาการทำประมงทับซ้อนของผู้ประกอบการประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน การบริหารจัดการการทำประมงสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ ทั้งในและนอกน่านน้ำไทย การคุ้มครองเรือประมงของไทยทั้งในและนอกน่านน้ำไทย การติดตาม ตรวจสอบ และปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย และการปราบปรามเรือประมงสองสัญชาติ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10778 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา (FEALAC FMM) ครั้งที่ 9 ณ สาธารณรัฐโดมินิกัน และเอกสาร Santo Domingo Declaration | กต | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา [Forum for East Asia-Latin America Cooperation : FEALAC FMM (Foreign Ministers Meeting)] ครั้งที่ ๙ ระหว่างวันที่ ๗-๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ สาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งที่ประชุมฯ ได้มีการรับรองปฏิญญากรุงซันโตโดมิงโก “๒๐ ปี : ปฏิบัติการใหม่เพื่ออนาคตที่ดีกว่า” (Santo Domingo Declaration “20 Years : New Actions for a Better Future”) และเห็นชอบการปรับปรุงข้อกำหนดเงื่อนไขกองทุน FEALAC เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกเสนอโครงการได้โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ๒ ใน ๓ ของคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุน และการจัดประชุมระดับผู้นำสมัยพิเศษ (Special Commemorative Summit) ในโอกาสที่เหมาะสม นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้มีการหารือในประเด็นอื่น ๆ กับผู้แทนคิวบา โดยเห็นพ้องที่จะส่งเสริมและขยายความร่วมมือในมิติที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะสาขาการแพทย์และอุตสาหกรรมยา การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การโรงแรมและการท่องเที่ยว ซึ่งฝ่ายคิวบาประสงค์จะรับองค์ความรู้จากไทย ตลอดจนการสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีระหว่างประเทศ รวมทั้งหารือกับผู้แทนโดมินิกันเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา และความร่วมมือทางวิชาการในด้านการพัฒนาทุนมนุษย์ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10779 | รายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำหรับปีบัญชี 2562 | อก | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำหรับปีบัญชี ๒๕๖๒ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ของ กนอ. เสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีความเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของปี ๒๕๖๒ ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญ ตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10780 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานศาลยุติธรรม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 | ศย | 26/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานศาลยุติธรรม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า รายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
|
.....