ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 14 จากทั้งหมด 6209 หน้า แสดงรายการที่ 261 - 280 จากข้อมูลทั้งหมด 124177 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
261 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตในกระบวนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment: EIA) | ทส. | 22/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาผลการดำเนินการ และความเห็นในภาพรวมต่อข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตในกระบวนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
(Environmental Impact
Assessment : EIA) ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติได้พิจารณาข้อเสนอแนะฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยสรุปผลการพิจารณาดังกล่าว ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการในปัจจุบันซึ่งสอดคล้องตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติอยู่แล้ว
เช่น (๑) การกำหนดให้การจัดทำแผนงานโครงการของหน่วยงานของรัฐ
ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ โดยหากเป็นโครงการที่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงาน EIA ให้เสนอเรื่องต่อผู้มีอำนาจอนุมัติ อนุญาต และในขั้นตอนการจัดทำคำของบประมาณ
ซึ่งตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑
ได้กำหนดขั้นตอนการจัดทำและเสนอรายงาน EIA เพื่อให้หน่วยงานเจ้าของโครงการสามารถวางแผนโครงการได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว
(๒) การให้รัฐบาลและ สำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ให้ความสำคัญต่อปัญหาการมีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างหน่วยงานของรัฐและบริษัทที่ปรึกษาต่าง
ๆ โดยควรกำหนดให้ในขั้นตอนการศึกษาความเหมาะสมของโครงการหรือจัดทำรายงาน EIA
หน่วยงานของรัฐผู้รับผิดชอบโครงการต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ
และต้องเปิดเผยข้อมูลจากการรับฟังความคิดเห็นให้สาธารณชนทราบ ซึ่งการว่าจ้างให้จัดทำรายงาน
EIA หน่วยงานที่รับผิดชอบได้มีการควบคุม กำกับการดำเนินงานให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๐ รวมทั้งระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการรับฟังความเห็นด้วยแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีการดำเนินการในบางประเด็นที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับไปพิจารณาศึกษา
ทบทวน ปรับปรุง และพัฒนาการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมยิ่งขึ้นต่อไป
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
262 | แนวทางการผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติกัมพูชาเข้ามาทำงานบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา | รง. | 22/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางการผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติกัมพูชาเข้ามาทำงานบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
และเห็นชอบในหลักการร่างประกาศของกระทรวงแรงงาน จำนวน ๑ ฉบับ
รวมถึงอนุมัติในหลักการร่างประกาศของกระทรวงมหาดไทย จำนวน ๑ ฉบับ รวม ๒ ฉบับ เพื่อบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
และกระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และหน่วยงานในพื้นที่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้นายจ้าง/ผู้ประกอบการ
แรงงานต่างด้าว และผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบข้อมูลการดำเนินการดังกล่าวอย่างทั่วถึง
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒. เห็นชอบ ๒.๑ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักร ตามมาตรา ๖๔
แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
... ๒.๒ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักร ตามมาตรา
๖๔ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓.
ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลไม่ให้มีการเรียกรับผลประโยชน์กับแรงงานในการดำเนินการขั้นตอนต่าง
ๆ รวมทั้งให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
เห็นว่าแนวทางดังกล่าวถือเป็นมาตรการระยะเร่งด่วนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ
ตลอดจนไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนบริเวณชายแดน
ควรพิจารณาถึงความจำเป็นและความเหมาะสมให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
จนกว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าในการดำเนินการกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการวางแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อให้แรงงานกลุ่มดังกล่าวสามารถรายงานตัวได้ทันตามกรอบระยะเวลากำหนด
และควรพิจารณาจัดทำแนวทางในการบริหารจัดการความเสี่ยงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว หากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนมีความยืดเยื้อ
เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนแรงงานและมีการลักลอบเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
263 | แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง" ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 - 2570 และระยะ 5 ปีต่อไป | ทส. | 22/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
264 | ร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีของการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (High - level Political Forum on Sustainable Development: HLPF) ประจำปี ค.ศ. 2025 | กต. | 22/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีของการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน
ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๕ และให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยที่จะเข้าร่วมการประชุม HLPF หรือเอกอัครราชทูต
ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ร่วมรับรองร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีของการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน
ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๕ โดยร่างปฏิญญาฯ
มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางดำเนินการเพื่อบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable
Development Goals : SDGs) ค.ศ. ๒๐๓๐ เช่น (๑)
การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน
การจ้างงานอย่างเต็มรูปแบบ และมีผลิตภาพ (๒) การเสริมสร้างการป้องกัน
การเตรียมพร้อมรับมือ และการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และ (๓)
การส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ รวมทั้งการจัดการกับความรุนแรงทางเพศและการเลือกปฏิบัติต่อสตรีและเด็กหญิง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรติดตามประเมินผล และสื่อสารผลลัพธ์ของการดำเนินงานให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้ทราบถึงประโยชน์ที่ไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
265 | การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ สมัยที่ 15 | ทส. | 22/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ดังนี้
๑. รับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ
สมัยที่ ๑๕ (Ramsar COP15) ภายใต้หัวข้อ “ปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่ออนาคตร่วมกันของเรา”
(Protecting Wetlands for Our Common) ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๓๑
กรกฎาคม ๒๕๖๘ ณ สาธารณรัฐซิมบับเว โดยมีรายละเอียดการดำเนินการของไทย ประกอบด้วย องค์ประกอบคณะผู้แทนไทยในการเข้าร่วมการประชุม
รวมทั้งสิ้น ๑๕ ราย โดยมีรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายประเสริฐ
ศิรินภาพร) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทรัพยากรน้ำ
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมพัฒนาที่ดิน
เป็นองค์ประกอบคณะผู้แทนไทย ๒. เห็นชอบต่อ (ร่าง)
ท่าทีของประเทศไทยสำหรับการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ สมัยที่
๑๕ โดยร่างท่าทีของไทยฯ มีสาระสำคัญ เช่น เห็นควรสงวนท่าทีการเพิ่มวงเงินอุดหนุนของไทยเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับงบประมาณของประเทศสมาชิก
และสนับสนุนให้เยาวชนกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้พิการเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ ๓. เห็นชอบต่อ (ร่าง) ถ้อยแถลงในการประชุมระดับสูง
สำหรับการประชุมหารือระดับรัฐมนตรี ในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ
สมัยที่ ๑๕ โดยร่างถ้อยแถลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการเน้นย้ำว่าไทยให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำในทุกระดับ
โดยดำเนินมาตรการ เช่น จัดตั้ง คณะกรรมการพื้นที่ชุ่มน้ำระดับจังหวัด และจัดตั้งเครือข่ายผู้ใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่มน้ำทั่วประเทศ ๑.๔ เห็นชอบในหลักการต่อ (ร่าง) ปฏิญญาวิกตอเรีย
ฟอลส์ (Victoria Falls Declaration) สำหรับการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ สมัยที่ ๑๕ และมอบหมายหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทยเป็นผู้ให้การรับรอง
โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับพื้นที่ชุ่มน้ำของประเทศสมาชิก
เช่น ลงทุนในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้เข้าใจนิเวศวิทยาของพื้นที่ชุ่มน้ำ
และเรียกร้องให้องค์กรพันธมิตรระหว่างประเทศสนับสนุนด้านการเงินและเทคนิควิชาการสำหรับการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
266 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดข้าราชการฝ่ายพลเรือนตามพระราชบัญญัติเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา พุทธศักราช 2484 พ.ศ. .... | นร 05 | 22/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดข้าราชการฝ่ายพลเรือนตามพระราชบัญญัติเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา
พุทธศักราช ๒๔๘๔ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้พนักงานส่วนตำบลและพนักงานเมืองพัทยาเป็นข้าราชการอื่นซึ่งปฏิบัติราชการในลักษณะเดียวกับข้าราชการฝ่ายพลเรือนตามกฎหมายว่าด้วยเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา
เพื่อให้พนักงานส่วนตำบลและพนักงานเมืองพัทยาอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการเสนอขอพระราชทานเหรียญจักรพรรดิมาลา
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอและให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
267 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงแบบรูปรายละเอียดรายการก่อสร้าง แก้ไขชื่อรายการ พื้นที่ใช้สอย รายการบริหารจัดการ ขอสนับสนุนงบประมาณวงเงินเพิ่มเติม ขออนุมัติขยายระยะเวลา และขออนุมัติเปลี่ยนแปลงสัดส่วนวงเงินโครงการรายจ่ายลงทุนเพื่อใช้จ่ายเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (โครงการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข) | สธ. | 22/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบและอนุมัติเปลี่ยนแปลงแบบรูปรายละเอียดรายการก่อสร้าง
แก้ไขชื่อรายการ พื้นที่ใช้สอย รายการบริหารจัดการ ขอสนับสนุนงบประมาณวงเงินเพิ่มเติม
ขออนุมัติขยายระยะเวลา
และขออนุมัติเปลี่ยนแปลงสัดส่วนวงเงินโครงการรายจ่ายลงทุนเพื่อใช้จ่ายเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
(โครงการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข)
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สำหรับวงเงินที่เพิ่มขึ้นให้กระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
พิจารณานำเงินบำรุงหรือเงินรายได้ของโรงพยาบาลมาสมทบในการดำเนินโครงการด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๒/๖๑๔๕ ลงวันที่ ๑๑ มิถุนายน
๒๕๖๘) ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย รวมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๑๐๘/๙๖๗
ลงวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘) ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลทั้ง
๕ แห่ง เตรียมความพร้อมในการดำเนินการและการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา
เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันที
รวมทั้งควรกำหนดตัวชี้วัดและจัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
รวมถึงการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม
สำหรับการติดตามและประเมินผลโครงการฯ เพื่อให้โครงการเกิดความยั่งยืนและสอดคล้องกับมาตรฐานของแหล่งเงินกู้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
268 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์) | รง. | 22/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
269 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ) | มท. | 22/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
270 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายพีรวัส สมวงศ์ และ จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ) | พณ. | 22/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑. นายพีรวัส สมวงศ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
(นายสุชาติ ชมกลิ่น) ๒. จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
[ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสุชาติ ชมกลิ่น)]
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
271 | รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (นายจาง เจี้ยนเหว่ย์) | กต. | 15/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายจาง เจี้ยนเหว่ย์ (Mr. Zhang Jianwei) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายหาน จื้อเฉียง (Mr. Han Zhiqiang)
ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
272 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายเอกนิติ รมยานนท์) | อก. | 15/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเอกนิติ รมยานนท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑
ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
273 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายสมฤกษ์ จึงสมาน) | สธ. | 15/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมฤกษ์ จึงสมาน ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๘
เป็นต้นไป ได้ยกเลิกชั้นความลับนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
274 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | คค. | 15/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงคมนาคม
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑. นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ๓. นายปัญญา ชูพานิช ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
275 | ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 3/2568 | นร.08 | 15/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัดตานี
ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ
อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง
อำเภอยะหา อำเภอรามัน อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง ออกไปอีก ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่
๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๘
ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒. เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ ดังนี้ ๒.๑
เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง
อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง อำเภอยะหา อำเภอรามัน
อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง และร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒
รับทราบร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ รวม
๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
276 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข | สธ. | 15/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายอนุชา
สะสมทรัพย์) ๒. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายชัยชนะ
เดชเดโช)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
277 | การมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย | มท. | 15/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นางสาวธีรรัตน์
สำเร็จวาณิชย์) ๒. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายเดชอิศม์
ขาวทอง)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
278 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายกิตติกร โล่ห์สุนทร) | นร.04 | 15/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายกิตติกร โล่ห์สุนทร
เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย)
รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบด้วยแล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
279 | ปรับปรุงการมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 | นร.07 | 15/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการปรับปรุงการมอบหมายรองนายกรัฐมนตรี
เป็นประธานคณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ และผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ แผนบูรณาการ ประธานรรมการ ๑.
การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายภูมิธรรม
เวชยชัย ๒. การป้องกัน ปราบปราม
และแก้ไขปัญหายาเสพติด นายภูมิธรรม
เวชยชัย ๓.
การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว นายสุริยะ
จึงรุ่งเรืองกิจ ๔.
การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ นายสุริยะ
จึงรุ่งเรืองกิจ ๕.
การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสังคมสูงวัย นายพีระพันธุ์
สาลีรัฐวิภาค ๖.
การพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต นายพีระพันธุ์
สาลีรัฐวิภาค ๗. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก นายพิชัย
ชุณหวชิร ๘. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ นายประเสริฐ
จันทรรวงทอง ๙. รัฐบาลดิจิทัล นายประเสริฐ
จันทรรวงทอง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
280 | ขออนุมัติท่าทีไทยสำหรับการประชุมคณะอนุกรรมาธิการด้านการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-สหพันธรัฐรัสเซีย ครั้งที่ 5 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | พณ. | 15/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมคณะอนุกรรมาธิการด้านการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-สหพันธรัฐรัสเซีย ครั้งที่ ๕ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง และหากในการประชุมดังกล่าว
มีผลให้มีเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าในประเด็นอื่น ๆ
อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยกับรัสเซีย
ให้ผู้แทนไทยสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยกระทรวงพาณิชย์ได้จัดประชุมเตรียมการฝ่ายไทยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อพิจารณาประเด็นที่ฝ่ายไทยประสงค์จะผลักดันในการประชุมฯ
ตลอดจนประเด็นที่คาดว่าฝ่ายรัสเซียจะหยิบยกขึ้นหารือในช่วงการประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ
และได้จัดเตรียมท่าทีไทยสำหรับการหารือในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ ครั้งที่ ๕
ดังกล่าวแล้ว เช่น การขยายความร่วมมือเศรษฐกิจระหว่างกัน
โดยร่วมพิจารณาหาแนวทางการอำนวยความสะดวกและการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างสองประเทศ
ส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายจะได้รับประโยชน์ร่วมกัน และผลักดันการดำเนินการต่าง
ๆ ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ASEAN ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (หนังสือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ด่วนที่สุด ที่ นร
๐๙๐๗/๑๕๙ ลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๘) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงพลังงาน เห็นว่าท่าทีไทยดังกล่าวเป็นแนวทางการหารือความร่วมมือในภาพกว้างที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับด้านพลังงานในประเด็นการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
โดยการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายจะได้รับประโยชน์ร่วมกัน
ซึ่งมีความสอดคล้องกับการดำเนินนโยบายพลังงานของไทยในด้านการแสวงหาความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ
จึงควรคำนึงถึงบริบทและสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
ควรผลักดันความร่วมมือทางการค้ากับรัสเซีย
โดยเฉพาะสินค้าที่ประเทศไทยมีศักยภาพและรัสเซียมีมูลค่าการนำเข้าจากต่างประเทศสูง
อาทิ ยานยนต์ และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์จากพลาสติก
และอุปกรณ์การแพทย์ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดคู่ค้าหลักของไทย
รวมถึงเพิ่มโอกาสให้ไทยขยายการค้าไปยังสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (Eurasian Economic Union : EAEU) ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพใหม่ที่มีประชากรจำนวนมากและมีกำลังซื้อสูง
|