ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 995 จากทั้งหมด 6215 หน้า แสดงรายการที่ 19881 - 19900 จากข้อมูลทั้งหมด 124284 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
19881 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ 2/2559 | นร11 | 06/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเสนอ รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ ดังนี้
๑. รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เช่น การขอรับการส่งเสริมการลงทุนมีเอกชนยื่นความประสงค์จำนวน ๓๙ โครงการ วงเงินรวม ๗,๒๐๐.๕๒ ล้านบาท รายงานความก้าวหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ๑๐ พื้นที่ และการอนุญาตให้แรงงานสัญชาติกัมพูชาและเมียนมาสามารถเข้ามาทำงานในลักษณะ ไป-กลับ หรือตามฤดูกาลได้ ๒. เห็นชอบโครงการและมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ (๑) โครงการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยในที่ราชพัสดุเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตราด (พื้นที่บริเวณชุมชนไม้รูด) (๒) โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดระบบกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนแบบครบวงจร ตำบลไม้รูด อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด (๓) โครงการก่อสร้างถนนลาดยางเลียบขอบพื้นที่โครงการด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ และ (๔) โครงการสถานีขนส่งผู้โดยสารและศูนย์บริการนักท่องเที่ยวครบวงจร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19882 | การประชุมคณะรัฐมนตรี (วันอังคารที่ 6 กันยายน 2559) | นร05 | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๘ และครั้งที่ ๒๙ และการประชุมสุดยอดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ ๖-๘ กันยายน ๒๕๕๙ ดังนั้น การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๙ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) จะทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมแทน ทั้งนี้ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๑๙/๒๕๕๘ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน ลงวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19883 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรายงานและบัญชีแสดง ชนิด ปริมาณ และการรับจ่ายประจำวันของวัตถุหรืออาวุธที่ใช้ในการผลิตอาวุธ หรืออาวุธที่ผลิตขึ้น พ.ศ. .... | กห | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรายงานและบัญชีแสดง ชนิด ปริมาณ และการรับจ่ายประจำวันของวัตถุหรืออาวุธที่ใช้ในการผลิตอาวุธ หรืออาวุธที่ผลิตขึ้น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรายงานและบัญชีแสดง ชนิด ปริมาณ และการรับจ่ายประจำวันของวัตถุหรืออาวุธที่ใช้ในการผลิตอาวุธ หรืออาวุธที่ผลิตขึ้น รวมทั้งวัตถุหรืออาวุธดังกล่าวที่เสียหาย ใช้ไม่ได้ หรือไม่ได้ใช้ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงกลาโหมเร่งรัดการออกกฎหมายลำดับรองตามมาตรา ๔ (๔) แห่งพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ เพื่อให้กฎหมายแม่บทมีผลใช้บังคับโดยสมบูรณ์และสามารถปฏิบัติให้เกิดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19884 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร05 | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้จัดประชุมปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าวแล้ว โดยประเด็นการตรวจสอบและติดตามนิติบุคคลไทยซึ่งมีกรรมการเป็นคนต่างด้าวในการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการแจ้งคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตรวจสอบติดตามการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของคนต่างด้าวในพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งแจ้งจังหวัดให้ตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด และให้กรมที่ดินแจ้งสำนักงานที่ดิน ตลอดจนการประชาสัมพันธ์และแนะนำผู้ที่จะมาจดทะเบียนการเช่าให้ทราบถึงกรณีนิติบุคคลที่ถือว่าเป็นคนต่างด้าวตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ ส่วนประเด็นการแต่งตั้งผู้แทนผู้เช่าและผู้แทนผู้ให้เช่าเป็นกรรมการในคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมทุกระดับ มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำหนังสือแจ้งให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแสดงความยินยอมเป็นหนังสือก่อนที่จะออกคำสั่งแต่งตั้ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19885 | ความคืบหน้าการพัฒนาการเชื่อมต่อระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ (ElectronicToll Collection System: ETCS) ระหว่างกรมทางหลวง (M-Pass) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (Easy Pass) | คค | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการพัฒนาการเชื่อมต่อระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ (Electronic Toll Collection System : ETCS) ระหว่างกรมทางหลวง (M-PASS) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (Easy Pass) ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บค่าผ่านทางและเกิดความสะดวกต่อประชาชนผู้ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorway) และทางด่วนในการชำระค่าบริการ ด้วยการใช้บัตรเพียงใบเดียวและสามารถวิ่งผ่านช่องเก็บเงินบนระบบ ETC ของทั้ง ๒ หน่วยงาน โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดใช้งานระบบ ETC เชื่อมต่อระหว่างกรมทางหลวง (M-Pass) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (Easy Pass) ได้ ภายในเดือนตุลาคม ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19886 | แผนปฏิรูปภารกิจที่สำคัญในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลังที่จะดำเนินการ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 - 2560 | นร04 | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนปฏิรูปภารกิจที่สำคัญในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลังที่จะดำเนินการในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๐ ประกอบด้วย ๒๐ ภารกิจ ได้แก่ (๑) กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) (๒) การลงทะเบียนคนจน (๓) การปฏิรูประบบภาษี (ภาษีสรรพากร ภาษีสรรพสามิต ภาษีศุลกากร และภาษีประเภทใหม่) (๔) พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (๕) แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงการบริการระบบชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (e-Payment) (๖) มาตรการบัญชีเล่มเดียว (Single Account) (๗) การขจัดการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง (ยกร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจhางและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ....) (๘) การสำแดงราคาที่เป็นจริง (๙) โครงการ One Stop Service ในการจัดเก็บภาษีอากรจากการนำเข้าสินค้าและส่งออกสินค้า (๑๐) โครงการยกระดับการผ่านพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการเชื่อมโยงข้อมูลตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับกรมศุลกากรผ่านระบบ National Single Window : NSW (๑๑) โครงการเชื่อมโยงข้อมูลและเอกสารระหว่างประเทศตามระบบ National Single Window : NSW และ ASEAN Single Window : ASW (๑๒) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและด่านศุลกากรในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (๑๓) การรวมพระราชบัญญัติศุลกากรทุกฉบับไว้เป็นฉบับเดียวกัน (๑๔) สำรวจข้อมูลเพื่อประเมินราคาที่ดินรายแปลง (๑๕) โครงการนำที่ราชพัสดุมาสนับสนุนพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (๑๖) โครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสถานีรถไฟมักกะสัน (๑๗) โครงการบ้านประชารัฐ (๑๘) การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund) (๑๙) มาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP Fast Track) และ (๒๐) การผลักดันร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... แล้วส่งให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติไปประกอบการพิจารณาต่อไป โดยแจ้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ผ่านคณะกรรมการประสานงานรวม ๓ ฝ่าย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19887 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 | กค | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลรุ่น LB167A ที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙ จำนวน ๓๖,๐๐๐ ล้านบาท โดยชำระคืนต้นเงิน จำนวน ๗,๒๙๑.๓๘ ล้านบาท จากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และบัญชีเงินฝากจากการกู้เงินเพื่อช่วยเหลือกองทุนฯ ส่วนที่เหลือกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน ๒๘,๗๐๘.๖๒ ล้านบาท ประกอบด้วย ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) และออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (R-Bill) ทั้งนี้ ได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงเกี่ยวกับผลการกู้เงินดังกล่าว จำนวน ๒ ฉบับ เพื่อนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19888 | รายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนมิถุนายน ปี 2559 | พณ | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนมิถุนายน ปี ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การส่งออกของไทยเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและหดตัวต่ำสุดในรอบ ๓ เดือน แต่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นไปอย่างเปราะบางและมีความไม่แน่นอนสูง รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรและน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๙ ยังคงหดตัวที่ร้อยละ ๐.๑ ๒. มูลค่าการค้าในรูปของเงินบาท เดือนมิถุนายน ๒๕๕๙ การส่งออกมีมูลค่า ๖๔๒,๓๘๘ ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ ๖.๕ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า ๕๗๙,๖๖๑ ล้านบาท หดตัวร้อยละ ๔.๒ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้การค้าเกินดุล ๖๒,๗๒๗ ล้านบาท สำหรับมูลค่าการค้าในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนมิถุนายน ๒๕๕๙ การส่งออกมีมูลค่า ๑๘,๑๔๖ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ ๐.๑ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า ๑๖,๑๘๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หดตัวร้อยละ ๑๐.๑) ส่งผลให้การค้าเกินดุล ๑,๙๖๕ ดอลลาร์สหรัฐ ๓. การส่งออกรายสินค้า มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๓ ตามการลดลงของทั้งปริมาณการส่งออกและราคาสินค้าเกษตรสำคัญ โดยสินค้าสำคัญที่ลดลง ได้แก่ ข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และน้ำตาล ในขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ ๓ เดือน โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ ๔. ตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัวต่อเนื่อง ได้แก่ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และเอเชียใต้ โดยขยายตัวร้อยละ ๕๖.๑ ๔.๗ และร้อยละ ๓.๑ ตามลำดับ ในขณะที่สหภาพยุโรปกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ ๔ เดือน ที่ร้อยละ ๐.๙ ส่วนตลาดอาเซียน จีน และญี่ปุ่น ยังหดตัวต่อเนื่อง โดยหดตัวร้อยละ ๑๖.๙ ๑๑.๙ และร้อยละ ๓.๘ ตามลำดับ ๕. การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนมิถุนายน ๒๕๕๙ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยการค้าชายแดน (ระหว่างไทยกับมาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา) มีมูลค่า ๘๑,๒๔๐ ล้านบาท (ลดลงร้อยละ ๑.๙) ในขณะที่การค้าผ่านแดน (สิงคโปร์ จีนตอนใต้ เวียดนาม) มีมูลค่า ๑๑,๗๗๒ ล้านบาท (ลดลงร้อยละ ๒.๕)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19889 | แนวทางการพัฒนาทรัพยากรน้ำและป่า ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ | กค | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการพัฒนาทรัพยากรน้ำและป่า ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน ได้จัดทำโครงการ ๘๔ พรรษา ประชาชนรวมใจภักดิ์ รักษ์น้ำ รักษ์ป่า มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ และเพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19890 | รายงานผลการดำเนินการตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ และข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน 2559) | ทส | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน ๒๕๕๙) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ประเด็นเรื่องที่เป็นหลักการ ๑.๑ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ/องค์การมหาชน จากงบประมาณทั้งสิ้น ๓๗,๕๔๒.๙๖๑๕ ล้านบาท เบิกจ่ายได้ ๑๘,๓๙๒.๒๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๓ ๑.๒ การเจรจาหรือจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ได้แก่ การประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Assembly : UNEA) ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๒ การจัดทำความตกลง/บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งสหพันธรัฐรัสเซียและสาธารณรัฐเกาหลี กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทย แผนงานการเจรจาหรือจัดทำความตกลงฯ ล่วงหน้าโครงการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๑.๓ การจัดทำโครงการต่าง ๆ ของส่วนราชการ ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ อย่างเคร่งครัด การประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจได้ทราบล่วงหน้าในระบบ e-GP และเว็บไซต์ของหน่วยงานให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้องและดำเนินการอย่างโปร่งใส การจัดทำมาตรการป้องกันและลดโอกาสการทุจริตและประพฤติมิชอบ แจ้งเวียนขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างฯ ให้หน่วยงานภายในทราบและถือปฏิบัติ พร้อมทั้งจัดทำคู่มือขั้นตอนการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง และเผยแพร่บนเว็บไซต์ของหน่วยงาน ตลอดจนกำชับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามกระบวนการ ข้อระเบียบ กฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแจ้งข้อมูลข่าวสารให้หน่วยงานภายนอกทราบ ๑.๔ การเสนอร่างกฎหมายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีการขับเคลื่อนกฎหมาย รวมจำนวน ๑๕ ฉบับ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ ๓ ประการ คือ (๑) ต้องเป็นการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่แท้จริงของการบังคับใช้กฎหมาย (๒) พึงระวังการแก้ไขกฎหมายที่เป็นการเพิ่มอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ และ (๓) ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงหลักการและเหตุผลด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ๑.๕ การแต่งตั้งคณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจ ได้แจ้งรัฐวิสาหกิจในสังกัดให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ โดยเคร่งครัด ๒. เรื่อง/โครงการสำคัญเร่งด่วน ๒.๑ การปรับโครงสร้างและการบริหารจัดการด้านพลังงาน อยู่ระหว่างเตรียมการจัดทำโครงการสร้างโรงไฟฟ้าจาก RDF (Refuse Derived Fuel) ในพื้นที่ทหาร โดยให้เอกชนลงทุน ๒.๒ การบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของประเทศ การจัดทำโครงการแก้มลิงเพื่อเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำ โดยใช้พื้นที่ราชพัสดุ พื้นที่ราชการ หรือพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม และการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเพื่อการอุปโภค บริโภค และนิคมอุตสาหกรรม ๒.๓ การแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรในระยะยาวและการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) การดำเนินการกำหนดแนวทางและมาตรการเชิงรุกในการดำเนินการแก้ไขปัญหาพืชผลทางการเกษตรในระยะยาวเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๒.๔ การจัดหาที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร โดยแนวทางการจัดหาที่ดินให้แก่เกษตรกรในลักษณะที่ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแต่อนุญาตให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากที่ดินประเภทต่าง ๆ และแนวทางการจัดพื้นที่ทำกินในลักษณะป่าเศรษฐกิจตามแนวทางโครงการธนาคารอาหารชุมชนตามพระราชดำริ (Food Bank) ๒.๕ การจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสีย องค์การจัดการน้ำเสียได้ดำเนินการโครงการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย โดยสามารถบำบัดน้ำได้ตามมาตรฐานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดไว้ก่อนระบายลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดทำคู่มือประมวลหลักการปฏิบัติ (Code of Practice : COP) และกรมควบคุมมลพิษได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานตาม Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย ๒.๖ การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม ให้บริการประชาชนเกี่ยวกับการรับแจ้งเรื่องร้องเรียนและประสานส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขตามอำนาจหน้าที่ ๒.๗ การรวบรวมกฎหมายระเบียบที่ล้าสมัยหรือเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและพิจารณาความจำเป็นเร่งด่วนและจัดลำดับความสำคัญของร่างกฎหมาย ปรับปรุงกฎหมายเดิมและเสนอร่างกฎหมายใหม่ จำนวน ๑๕ ฉบับ ประกาศใช้แล้ว ๕ ฉบับ อยู่ระหว่างดำเนินการ ๑๐ ฉบับ เช่น ร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19891 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรให้ความชัดเจนต่อเกณฑ์ในการระบุประเทศที่มีมาตรฐานและผลการตรวจสอบรับรองที่น่าเชื่อถือทัดเทียมกับมาตรฐานไทย เพื่อที่ทุกฝ่ายมีความเข้าใจไปในแนวทางเดียวกันและเพื่อเป็นการเลี่ยงการเกิดปัญหาในการตีความในภายภาคหน้า รวมทั้งแก้ไขเพิ่มสาระสำคัญบางประการในร่างพระราชบัญญัติฯ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะเกษตรกร ผู้ส่งออก ผู้นำเข้าสินค้าเกษตร และประชาชนที่เกี่ยวข้องอย่างทั่วถึง เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อภาคเกษตรของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19892 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สองของปี 2559 และแนวโน้มปี 2559 | นร11 | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สองของปี ๒๕๕๙ และแนวโน้มปี ๒๕๕๙ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สองของปี ๒๕๕๙ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวร้อยละ ๓.๕ เร่งขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ ๓.๒ ในไตรมาสแรก และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สองของปี ๒๕๕๙ ขยายตัวจากไตรมาสแรกปี ๒๕๕๙ ร้อยละ ๐.๘ รวมครึ่งแรกของปี ๒๕๕๙ เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ ๓.๔ ๒. แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี ๒๕๕๙ คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ ๓.๐-๓.๕ เร่งขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ ๒.๘ ในปี ๒๕๕๘ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก (๑) การใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ โดยในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีเม็ดเงินภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอีกประมาณ ๑,๖๔๕,๔๗๖.๔ ล้านบาท (๒) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ประกาศเพิ่มเติมในเดือนกันยายน ๒๕๕๘-เมษายน ๒๕๕๙ โดยในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอีกประมาณ ๑๐๐,๔๘๘ ล้านบาท (๓) จำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง (๔) ราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และ (๕) การปรับตัวดีขึ้นของรายได้ครัวเรือนภาคการเกษตร เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งที่ผ่อนคลายลง และการปรับตัวดีขึ้นของราคาสินค้าเกษตรสำคัญ ๆ ๓. ประเด็นการบริหารเศรษฐกิจในปี ๒๕๕๘ ควรให้ความสำคัญกับ (๑) การเบิกจ่ายและการขับเคลื่อนโครงการของภาครัฐให้เป็นไปตามแผน (๒) การดำเนินการตามมาตรการที่อยู่ภายใต้กรอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้มีการอนุมัติไปแล้วให้สัมฤทธิ์ผล (๓) การฟื้นฟูเกษตรกรและการเตรียมเกษตรกรให้มีความพร้อมสำหรับปีการเพาะปลูก ๒๕๕๙/๒๕๖๐ โดยสนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูกฤดูกาลใหม่ การดูแลคุณภาพและราคาปัจจัยการผลิต การส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ การประกันภัยพืชผล และการเตรียมมาตรการและการจัดหาตลาดเพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว (๔) การสนับสนุนการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน (๕) การดูแลและขับเคลื่อนภาคการส่งออก และ (๖) การสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวและการลงทุน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19893 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่น ด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ครั้งที่ 8 (The 8th Mekong - Japan Economic Ministers Meeting) | นร11 | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่น ด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ครั้งที่ ๘ (The 8th Mekong-Japan Economic Ministers Meeting) เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๙ ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบต่อแผนงาน (Work Programme) ภายใต้วิสัยทัศน์การพัฒนาอุตสาหกรรมในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong Industrial Development Vision : MIDV) ประกอบด้วยโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและญี่ปุ่น ในช่วง ๕ ปี (๒๕๕๙-๒๕๖๓) รวมทั้งเห็นชอบต่อแถลงข่าวร่วม (Joint Media Statement) ซึ่งมีสาระสำคัญในการรายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีระหว่างภาครัฐและเอกชนภายใต้กรอบความร่วมมือประเทศลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่นด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ครั้งที่ ๙ พร้อมทั้งสั่งการให้คณะทำงานประสานการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมตามแนวทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก-ตะวันออก (AMEICC WEC) ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ฯ โดยใช้กลไกติดตามประเมินผล PDCA (Plan Do Check Act) เพื่อให้สามารถรายงานผลในการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือประเทศลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่นด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ครั้งที่ ๙ ต่อไป ๒. แนวทางการดำเนินการต่อไป ๒.๑ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันการดำเนินงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้านให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งผลักดันการดำเนินงานการอำนวยความสะดวกการคมนาคมขนส่ง และการค้าในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้เกิดผลในทางปฏิบัติ และสนับสนุนการดำเนินแผนงานโครงการ (Work Programme) ภายใต้วิสัยทัศน์การพัฒนาอุตสาหกรรมในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อมุ่งให้เกิดการเชื่อมโยงการผลิตระหว่างไทยและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงต่อไป ๒.๒ การประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขงและญี่ปุ่น ครั้งที่ ๘ มีกำหนดจัดในเดือนกันยายน ๒๕๕๙ ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๘ (The 28th ASEAN Summit) และการประชุมระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่นด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ครั้งที่ ๙ มีกำหนดจัดขึ้นในปี ๒๕๖๐ ณ ประเทศฟิลิปปินส์ ในช่วงของการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ ๔๙ (The 49th ASEAN Economic Ministers’ Meeting)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19894 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 50/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 6 และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 51/2559 เรื่อง การดำเนินการกับของที่เก็บในเขตปลอดอากรและเขตประกอบการเสรีและของที่ใช้เป็นยุทธภัณฑ์เพื่อบรรเทาสาธารณภัย | สลธ.คสช. | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๐/๒๕๕๙ เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ ๖ สั่ง ณ วันที่ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๑/๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการกับของที่เก็บในเขตปลอดอากรและเขตประกอบการเสรีและของที่ใช้เป็นยุทธภัณฑ์เพื่อบรรเทาสาธารณภัย สั่ง ณ วันที่ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19895 | รายงานผลคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์เดินทางเยือนสหราชอาณาจักร | พณ | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ นำโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) เดินทางเยือนสหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙ และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการเยือน ซึ่งมีสาระสำคัญ ได้แก่ การจัดตั้งสภานักธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักร (Thai-UK Business Leadership Council) เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกัน การผลักดันให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนในทักษะและการศึกษาเพื่อส่งเสริมการค้า เพิ่มนวัตกรรม และช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาตนเองให้เติบโตได้ การแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน การส่งเสริมภาพพจน์สินค้าไทยว่าเป็นสินค้าคุณภาพและเร่งประชาสัมพันธ์ตราสินค้าไทยให้มีความเข้มแข็งในตลาดยุโรป รวมทั้งการให้ความสำคัญในการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางเศรษฐกิจของไทย-สหราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19896 | การปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี | นร04 | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๘๒/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๙ เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายและมอบอำนาจให้ รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19897 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนกรรมการ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหา การเลือกกรรมการ วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนกรรมการ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหา การเลือกกรรมการ วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการสภาการศึกษา หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหา และเลือกกรรมการ รวมทั้งแก้ไขระยะเวลาในการดำเนินการสรรหา การเลือก และการแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่เป็นการล่วงหน้าให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการพิจารณาเพิ่มจำนวนกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษาที่เป็นผู้แทนจากภาคเอกชน โดยปรับลดจำนวนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิลงเพื่อให้ครอบคลุมหน่วยงานที่เป็นผู้ใช้กำลังคน การกำหนดให้ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และให้มีปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและปลัดกระทรวงแรงงานเป็นกรรมการโดยตำแหน่งเช่นเดิม การกำหนดให้มีผู้แทนจากองค์กรศาสนาต่าง ๆ ทำหน้าที่ในการพิจารณาเสนอแผนการศึกษาแห่งชาติหรือการอื่นใดเกี่ยวกับการศึกษา รวมทั้งความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่เห็นว่า หากมีการเพิ่มกรรมการโดยตำแหน่งในคณะกรรมการสภาการศึกษา ตามความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นั้น เห็นควรเพิ่มกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการศึกษาเอกชน ด้านการศึกษาพิเศษ ด้านการกีฬา กิจการเยาวชน ลูกเสือ ยุวกาชาด และเนตรนารี ในคณะกรรมการสภาการศึกษา เพื่อให้สัดส่วนของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีความสอดคล้องกับกรรมการโดยตำแหน่ง ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19898 | สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นจากประชาชน ไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | นร01 | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นจากประชาชน ไตรมาสที่ ๓ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยสถิติการแจ้งเรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นจากประชาชนที่ยื่นเรื่องผ่านช่องทางการร้องทุกข์ ๑๑๑๑ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งสิ้น ๔๐,๗๐๐ ครั้ง รวมจำนวน ๒๔,๑๑๓ เรื่อง และประเด็นเรื่องที่ประชาชนร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นมากที่สุด ได้แก่ เหตุเดือดร้อนรำคาญ รองลงมาคือ ขอให้แก้ไขปัญหากระแสไฟฟ้าขัดข้อง แจ้งเบาะแสการลักลอบจำหน่ายและเสพยาเสพติด แจ้งเบาะแสการลักลอบเปิดบ่อนและเล่นการพนัน และการเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายและโครงการของรัฐในประเด็นที่หลากหลาย ตามลำดับ ทั้งนี้ สามารถดำเนินการจนได้ข้อยุติ คิดเป็นร้อยละ ๘๗.๒๓ และอยู่ระหว่างการดำเนินการของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง คิดเป็นร้อยละ ๑๒.๗๗ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. มอบหมายให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสำคัญกับการเร่งรัดการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ให้มีผลเป็นที่ยุติด้วยความเป็นธรรมภายในระยะเวลาที่เหมาะสม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19899 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยองค์การมหาชน เพื่อให้การบริหารงานและการปฏิบัติภารกิจของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรปรับแก้ข้อความในร่างมาตรา ๑๕ เป็น “การบัญชีของสถาบัน ให้จัดทำตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนดซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐ และต้องจัดให้มีการตรวจสอบภายในเกี่ยวกับการเงิน การบัญชี และการพัสดุของสถาบัน ตลอดจนรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการทราบอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ...” เพื่อให้สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) มีความชัดเจนในการเลือกใช้มาตรฐานการบัญชี โดยมาตรฐานการบัญชีภาครัฐกำหนดขึ้นจากบริบทของการดำเนินงานในภาครัฐที่มิได้มีวัตถุประสงค์ในการมุ่งค้าหากำไรเป็นหลัก ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการจัดทำงบการเงินรวมของแผ่นดิน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19900 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2559 ครั้งที่ 3 | กค | 30/08/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ครั้งที่ ๓ ที่มีวงเงินปรับลดลงสุทธิ ๑๓๖,๐๐๕.๔๔ ล้านบาท จากเดิม ๑,๕๔๘,๘๕๐.๔๐ ล้านบาท เป็น ๑,๔๑๒,๘๔๔.๙๖ ล้านบาท ๑.๒ รับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐที่ไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรีภายใต้กรอบแผนฯ ที่มีวงเงินปรับเพิ่มขึ้น ๘,๒๙๑.๕๓ ล้านบาท จากเดิม ๑๒๔,๔๖๓.๕๕ ล้านบาท เป็น ๑๓๒,๗๕๕.๐๘ ล้านบาท ๑.๓ อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ การปรับโครงสร้างหนี้ การบริหารความเสี่ยง และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งขออนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อดำเนินโครงการลงทุนและการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ปรับปรุงครั้งที่ ๓ ๑.๔ อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ปรับปรุงครั้งที่ ๓ ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เองก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ๑.๕ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามผูกพันการกู้เงินและหรือการค้ำประกันเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะรายงานผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะดังกล่าวตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๙ ๒. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงเจ้าสังกัดและหน่วยงานเจ้าของเงินกู้กำกับติดตามการดำเนินแผนงาน/โครงการให้เกิดความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบได้ และเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ รวมทั้งให้กระทรวงการคลังกำกับดูแลการบริหารหนี้สาธารณะให้อยู่ภายในกรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดต่อไป
|
.....