ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 993 จากทั้งหมด 6215 หน้า แสดงรายการที่ 19841 - 19860 จากข้อมูลทั้งหมด 124285 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
19841 | ขออนุมัติร่างแถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชน (Joint Press Statement) ของการประชุมประจำปีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ครั้งที่ 6 | กต | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชน (Joint Press Statement) ของการประชุมประจำปีระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ครั้งที่ ๖ (The Sixth Annual Consultation between the Prime Minister of Thailand and the Prime Minister of Malaysia) ในวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๙ ณ กรุงเทพมหานคร โดยเป็นเอกสารเพื่อเผยแพร่ผลลัพธ์ของการประชุมฯ ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีในระดับสูงสุดระหว่างไทยและมาเลเซีย มีสาระสำคัญเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการร่วมกัน และประเด็นที่เห็นพ้องที่จะเร่งรัด พัฒนา และ/หรือผลักดันให้เกิดความคืบหน้า โดยเฉพาะความร่วมมือด้านความมั่นคง และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมสาระสำคัญบางประการในร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19842 | บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐเม็กซิโกว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ | กต | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐเม็กซิโกว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (Memorandum of Understanding between the Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Foreign Affairs of the United Mexican States on Technical Cooperation) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ส่งเสริมการศึกษาและโครงการที่ก่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ สิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกอบรม ความร่วมมือในลักษณะไตรภาคี และความร่วมมือในรูปแบบอื่นที่ตกลงร่วมกัน ทั้งนี้ ให้นำข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นว่า บันทึกความเข้าใจฯ จัดทำขึ้นระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐเม็กซิโก ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ มีสาระสำคัญเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งความร่วมมือในรูปแบบอื่นที่ตกลงร่วมกัน อันเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่จะดำเนินการได้ กรณีจึงเป็นการทำความตกลงในระดับหน่วยงาน มิใช่ระดับรัฐ และไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๒๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ไปประกอบการพิจารณาด้วย ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19843 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข | สธ | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในช่วงระหว่างวันที่ ๑๐-๑๓ กันยายน ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19844 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19845 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2559) | นร | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ๒. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19846 | ร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19847 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดให้มีรถตรวจรางรถไฟในเส้นทางรถไฟสายใต้ให้เพียงพอและให้ประสานความร่วมมือในการดำเนินงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งภาคประชาชน เพื่อให้สามารถให้บริการผู้โดยสารและขนส่งสินค้าได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19848 | แนวทางการดำเนินงานเสริมสร้างความซื่อสัตย์สุจริตของประเทศไทย (Thailand Integrity Review) | นร12 | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการดำเนินงานเสริมสร้างความซื่อสัตย์สุจริตของประเทศไทย (Thailand Integrity Review) ซึ่งรวมถึงแนวทางความร่วมมือที่จะดำเนินการต่อไปในส่วนของการลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการ (Memorandum of Understanding : MOU) อย่างเป็นทางการร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Cooperation and Development : OECD) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลตามกรอบการเสริมสร้างความซื่อสัตย์สุจริตของประเทศไทย ใน ๓ มิติ ได้แก่ (๑) การประมวลภาพรวมและการบูรณาการหน่วยงานขับเคลื่อนการเสริมสร้างความซื่อสัตย์สุจริต (๒) วัฒนธรรมการเสริมสร้างความซื่อสัตย์สุจริตภาครัฐของเจ้าหน้าที่รัฐ และ (๓) การควบคุมและการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จะดำเนินการเพื่อเตรียมให้ผู้เชี่ยวชาญจาก OECD มาวิเคราะห์ประเมินจุดอ่อน จุดแข็ง พร้อมให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับแนวทางการสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริตของภาครัฐ และแปลงไปสู่การปฏิบัติระดับประเทศในรูปแบบบทความทางวิชาการต่อไป ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19849 | รายงานการเสร็จสิ้นการชำระบัญชีของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) | กค | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเสร็จสิ้นการชำระบัญชีของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) ที่คณะกรรมการผู้ชำระบัญชีได้ดำเนินการชำระบัญชีกิจการของ บบส. เสร็จสิ้นแล้ว ตามพระราชบัญญัติยุบเลิกบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป และให้ถือวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นวันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19850 | รายงานผลการจัดงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษมของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการจัดงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษมของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระหว่างวันที่ ๕-๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ณ บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการจัดงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ภายใต้แนวคิด “ทส.ตลาดสร้างสรรค์ ของขวัญจากทรัพยากรธรรมชาติ” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพิ่มช่องทางการตลาดทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มเกษตรกร ฯลฯ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตพบกับผู้บริโภคโดยตรง รวมถึงส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร อีกทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและภาคีเครือข่ายให้สาธารณชนได้รับรู้โดยทั่วกัน ๒. กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย (๑) การจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ (๒) กิจกรรมภาคบันเทิงและกิจกรรมส่งเสริมการขาย และ (๓) กิจกรรมส่งเสริมการสร้างวินัยคนในชาติในการจัดการขยะอย่างยั่งยืน โดยมีผู้เข้าชมและซื้อสินค้า ๖๖,๖๘๙ คน ยอดจำหน่ายสินค้า ๒๔,๖๒๕,๗๐๐ บาทและผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้า ๓๘๗ บูธ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19851 | รายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและบริษัทย่อยปี 2558 | กค | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และบริษัทย่อยปี ๒๕๕๘ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า มีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน พร้อมข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ประจำปี ๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป เพื่อให้เป็นตามมาตรา ๘๒ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19852 | ร่างยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ ระยะ 20 ปี (กรกฎาคม พ.ศ. 2559 - 2579) | พณ | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ ระยะ ๒๐ ปี (กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๗๙) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจการค้าของประเทศด้วยการยกระดับความสามารถทางการแข่งขัน สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจการค้าของประเทศด้วยการผลักดันความเชื่อมโยงกับโลก และสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการค้าของประเทศด้วยการสร้างแรงยึดเหนี่ยวในระบบเศรษฐกิจการค้าของประเทศ รวมทั้งกำหนดยุทธศาสตร์ในระยะ ๒๐ ปี ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การพัฒนาผู้ประกอบการแบบครบวงจร ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การพัฒนาระบบการค้าให้มีประสิทธิภาพ ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การเสริมสร้างบทบาทผู้บริโภค และยุทธศาสตร์ที่ ๔ การบูรณาการกับระบบการค้าโลก ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19853 | แจ้งมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กรณีถอดถอนนายประชา ประสพดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกจากตำแหน่ง | สว | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กรณีถอดถอนนายประชา ประสพดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่ โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตา ๑๒๓/๑ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19854 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19855 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องอบผ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ..... | อก | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องอบผ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องอบผ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับไปพิจารณาดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลและสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อให้ผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19856 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา ภาคที่ 1 เรื่อง แนวทางการส่งเสริมนวัตกรรมการออกกำลังกายและการสร้างเสริมสมรรถภาพผู้สูงอายุ ของ คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สธ | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษา ภาคที่ ๑ เรื่อง แนวทางการส่งเสริมนวัตกรรมการออกกำลังกายและการสร้างเสริมสมรรถภาพผู้สูงอายุตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สรุปได้ว่า กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยกับรายงานคณะกรรมาธิการฯ ดังกล่าว โดยมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เช่น ควรสนับสนุนให้มีการจัดตั้งชมรมเครือข่ายการออกกำลังกายชุมชน ส่งเสริมให้มีการทดสอบสมรรถภาพทางกายผู้สูงอายุเบื้องต้นแบบง่าย ๆ ด้วยตนเองในชมรม ส่งเสริมให้มีการประยุกต์ใช้อุปกรณ์หรือศิลปวัฒนธรรมไทยในท้องถิ่นนั้น ๆ มาเป็นนวัตกรรมการออกกำลังกายร่วมกับการใช้หลักวิทยาศาสตร์การกีฬา ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19857 | ร่างกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การพักใช้ใบอนุญาต และเพิกถอนใบอนุญาต เป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจสอบเครื่องจักร หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบเครื่องจักร และการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเครื่องจักร ของผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | อก | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงรวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การพักใช้ใบอนุญาต และการเพิกถอนใบอนุญาต เป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับบุคคลหรือนิติบุคคลใดที่ประสงค์จะเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน เพื่อให้ผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องชัดเจน ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจสอบเครื่องจักร หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบเครื่องจักร และการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเครื่องจักร ของผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจสอบเครื่องจักร เพื่อให้ผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนสามารถปฏิบัติงานเป็นมาตรฐานเดียวกับพนักงานเจ้าหน้าที่ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรดำเนินการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนและการขอรับบริการการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร โดยแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของการขอรับบริการการตรวจสอบ ทั้งกรณีตรวจสอบโดยพนักงานเจ้าหน้าที่และโดยผู้ตรวจสอบเอกชน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ขอรับบริการและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19858 | การขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในเรื่อง การอนุรักษ์พลังงานโดยใช้ข้อบัญญัติเกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน (Building Energy Code : BEC) และการปฏิรูปการบริหารงานสอบสวนและการให้บริการประชาชนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ | นร04 | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) เสนอ ดังนี้
๑. รับทราบการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในเรื่อง การอนุรักษ์พลังงานโดยใช้ข้อบัญญัติเกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน (Building Energy Code : BEC) และการปฏิรูปการบริหารงานสอบสวนและการให้บริการประชาชนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของ กขร. แล้วรายงานความคืบหน้าให้ กขร. ทราบ ได้แก่ ๒.๑ เรื่อง การอนุรักษ์พลังงานโดยใช้ข้อบัญญัติเกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน (Building Energy Code : BEC) ให้กระทรวงพลังงานรับไปพิจารณาแนวทางมาตรการในการสนับสนุนช่วยเหลือให้เหมาะสม และสร้างแรงจูงใจ รวมถึงเตรียมความพร้อมในเรื่องการขออนุญาต และให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมอาคาร โดย กขร. จะได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๙ ๒.๒ เรื่อง การปฏิรูปการบริหารงานสอบสวนและการให้บริการประชาชนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสถานีตำรวจ หรือ ระบบ CRMES (Criminal Record Information Management Enterprise System) ควรจะได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย และจะต้องสร้างระบบการบริหารจัดการข้อมูลให้มีความทันสมัย ถูกต้องตลอดเวลา โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานงานกับกระทวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อขอความร่วมมือในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้สัมฤทธิ์ผลต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงยุติธรรมเชื่อมโยงแผนปฏิรูปกิจการตำรวจให้มีความสอดคล้องกันและสนับสนุนซึ่งกันและกัน รวมถึงให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับไปพิจารณาเรื่องล่ามภาษาเพื่อแก้ไขการขาดแคลนล่ามและที่ปรึกษาในด้านต่าง ๆ ด้วย ๓. ให้หน่วยงานสรุปความคืบหน้าการดำเนินการตามห้วงระยะเวลาให้ชัดเจน เพื่อจะได้สร้างการรับรู้ การบูรณาการร่วมกัน การประชาสัมพันธ์และการปฏิบัติด้านข้อมูลข่าวสาร
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19859 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลปากช่อง ตำบลปากดุก ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านไร่ และตำบลช้างตะลูด อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... | กษ | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลปากช่อง ตำบลปากดุก ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านไร่ และตำบลช้างตะลูด อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลปากช่อง ตำบลปากดุก ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านไร่ และตำบลช้างตะลูด อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ ตามโครงการระบบส่งน้ำห้วยขอนแก่น (ระยะที่ ๓) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณานำกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน/ชุมชนเข้ามาดำเนินการตั้งแต่ระยะเริ่มวางแผนโครงการ เพื่อให้ประชาชน/ชุมชนในพื้นที่โครงการได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจและแก้ไขประเด็นข้อขัดแย้ง และนำไปสู่การสร้างความยอมรับให้ดำเนินโครงการในพื้นที่ได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19860 | การประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียตะวันออกด้านครอบครัวและความเสมอภาคระหว่างเพศ (The East Asia Ministerial Forum on Families and Gender Equality) | พม | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในการเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียตะวันออกด้านครอบครัวและความเสมอภาคระหว่างเพศ (The East Asia Ministerial Forum on Families and Gender Equality) ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๙ โดยค่าใช้จ่ายในการจัดการประชุมจะใช้งบประมาณประจำปี ๒๕๕๙ ของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ได้รับการจัดสรรแล้ว จำนวน ๑๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการเตรียมการด้านสารัตถะควรพิจารณาประเด็นสำคัญ ได้แก่ เอกสารผลลัพธ์ควรสอดคล้องต่อเนื่องกับผลการประชุมฯ ครั้งล่าสุด ระหว่างวันที่ ๓-๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี อาทิ ข้อเสนอให้มีการพัฒนาดัชนีระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อมทางสังคมที่เป็นมิตรกับครอบครัว (International family-friendly social environment index) ซึ่งเสนอให้มีการทำวิจัยและนำผลการศึกษาดังกล่าวมาหารือในการประชุมในประเทศไทย รวมทั้งการจัดระเบียบวาระการประชุมและเอกสารผลลัพธ์ควรสะท้อนความเชื่อมโยงและรักษาดุลยภาพของการให้ความสำคัญระหว่างเรื่องครอบครัวกับความเสมอภาคทางเพศด้วย ตลอดจนควรใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผลักดันประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญ หรือประสงค์ให้เกิดความร่วมมือระดับภูมิภาค อาทิ การส่งเสริมความตระหนักรู้โดยทุกภาคส่วน การแบ่งบทบาทหน้าที่ในครอบครัวโดยสะท้อนความเสมอภาคระหว่างเพศ อีกทั้งควรจัดลำดับความสำคัญของประเด็นให้อยู่ภายใต้โครงการหลักของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติ นอกจากนี้ ในการจัดประชุมและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า และประโยชน์สูงสุดที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....