ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 991 จากทั้งหมด 6215 หน้า แสดงรายการที่ 19801 - 19820 จากข้อมูลทั้งหมด 124285 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
19801 | เสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในการลงนามโปรแกรมปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ ปี 2015 ของโครงการจัดการระบบนิเวศวิทยาขนาดใหญ่ ในอ่าวเบงกอล | กษ | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบโปรแกรมปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Action Programme) ปี ๒๐๑๕ ของโครงการจัดการระบบนิเวศวิทยาขนาดใหญ่ในอ่าวเบงกอล (Bay of Bengal Large Marine Ecosystem) และกิจกรรมหรือการดำเนินงานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้โปรแกรมปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ดังกล่าวก่อนการลงนาม มีสาระสำคัญเป็นการระบุถึงแผนปฏิบัติการในหลายแนวทาง เพื่อจัดการปัญหาในเรื่องการทำประมง ความสมบูรณ์ของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม รวมถึงประเด็นปัญหาทางสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน ซึ่งนำไปสู่ความมั่นคงทางอาหาร และขจัดความยากจนให้กับชุมชนในพื้นที่ ๒. เห็นชอบให้อธิบดีกรมประมง และอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือผู้แทนที่อธิบดีฯ ได้มอบหมาย เป็นผู้ลงนามในโปรแกรมปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19802 | ขอความเห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยการต่ออายุบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระบบรางระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งแห่งสาธารณรัฐเกาหลี | คค | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยการต่ออายุบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระบบรางระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งแห่งสาธารณรัฐเกาหลี มีสาระสำคัญเป็นการต่ออายุบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับลงนามวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้อหา และจะมีผลใช้บังคับในวันที่มีการลงนามครบทั้งสองฝ่าย โดยมีอายุ ๒ ปี และต่ออายุได้อีก ๒ ปี ตามความเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยสำหรับการลงนามดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปรับถ้อยคำบางประการในร่างบันทึกความเข้าใจฯ เพื่อความเหมาะสมและชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาจัดทำแผนที่นำทาง (Roadmap) ในการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางของประเทศ ซึ่งจะช่วยให้การกำหนดขอบเขตกิจกรรมของความร่วมมือทางวิชาการภายใต้บันทึกความร่วมมือระบบรางกับประเทศต่าง ๆ เป็นไปอย่างชัดเจน และก่อให้เกิดการสั่งสมความรู้และการถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ และสามารถต่อยอดความรู้ความเชี่ยวชาญดังกล่าวไปพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19803 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาไทย - กัมพูชา (ฉบับแก้ไข) | ศธ | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาไทย-กัมพูชา ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชนและกีฬาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (ฉบับแก้ไข) (Memorandum of Understanding between the Ministry of Education of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Education, Youth and Sport of the Kingdom of Cambodia on Cooperation in Education) ในช่วงระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๑๐ ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๙ ณ ประเทศไทย มีสาระสำคัญเพื่อใช้เป็นกรอบความร่วมมือทางการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้บริหารระดับสูง การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ข้อมูลและสื่อการศึกษา ตลอดจนการจัดประชุม สัมมนา ซึ่งอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคู่ภาคี โดยได้ระบุให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านการศึกษาไทย-กัมพูชา เพื่อใช้เป็นเวทีการหารือกิจกรรม/โครงการความร่วมมือระหว่างกัน กำหนดระยะเวลาในการบังคับใช้และสิ้นสุดของบันทึกความเข้าใจฯ เป็นระยะ ๕ ปี ซึ่งแตกต่างจากบันทึกความเข้าใจฉบับเดิมที่มิได้ระบุกำหนดการสิ้นสุดไว้ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเพื่อดำเนินการต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19804 | ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) | นร11 | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) มีประเด็นสำคัญ ได้แก่ (๑) ภาพรวมการพัฒนาในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ (๒) การประเมินสภาพแวดล้อมการพัฒนาประเทศ (๓) วัตถุประสงค์และเป้าหมายการพัฒนาในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ (๔) ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และ (๕) การขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ สู่การปฏิบัติ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ในขั้นตอนการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ สู่การปฏิบัติ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี และแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ อาทิ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมความพร้อมของ แผนงาน/โครงการ ภายใต้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ ให้เหมาะสม มีความครอบคลุมครบถ้วนในเชิงบูรณาการที่ยึดโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ และคำนึงถึงกรอบระยะเวลาในการตรากฎหมายหรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามที่ร่างรัฐธรรมนูญฯ กำหนดไว้ รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์ การมีภูมิคุ้มกันของคน ชุมชน และสังคม ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน การให้ความสำคัญกับความมั่นคงเป็นรากฐานของการพัฒนาในทุกมิติและถือเป็นเรื่องของทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกศาสนา ทุกสาขาอาชีพ ในอันที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานด้านความมั่นคง และการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ในแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์ในรูปแบบของประชารัฐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19805 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2548 | กห | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๔๘ (เรื่อง การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและขอทราบแนวทางการปฏิบัติในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งผลิตภัณฑ์ของเอกชนตามคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๗ ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม) โดยให้ยกเลิกเฉพาะประเด็น “ให้ระงับการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งผลิตภัณฑ์ของเอกชน ตามคำสั่ง ปร. ๓๗ ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม ซึ่งส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทยไว้ทั้งหมด” ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ๒. ในส่วนของการขออนุญาตขายหรือจำหน่ายอาวุธ โดยการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ให้กระทรวงกลาโหมขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ ต่อไป ๓. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการพิจารณาส่งอาวุธตามแบบ อาวุธเล็กและอาวุธเบา กระสุน หรือยุทธภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ออกไปนอกราชอาณาจักรควรคำนึงถึงตราสารและสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนอาวุธตามแบบที่ไทยยึดถือหรือกำลังพิจารณาเข้าเป็นภาคีประกอบการพิจารณาอนุมัติการส่งออกด้วย นอกจากนี้ การพิจารณาอนุญาตให้ส่งออกอาวุธฯ และสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-use Items : DUI) ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบเป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องและคำนึงถึงความมั่นคงของประเทศเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19806 | สรุปผลการประชุมสุดยอดอาเซม ครั้งที่ 11 | นร04 | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมสุดยอดอาเซม (Asia-Europe Meeting : ASEM) ครั้งที่ ๑๑ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ณ กรุงอูลานบาตอร์ มองโกเลีย และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการติดตามผลการหารือในประเด็นต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปผลการประชุม ดังนี้ ๑.๑ ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือของ ASEM ในทศวรรษที่สาม โดยเฉพาะการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเอเชียกับยุโรปในทุกมิติและการร่วมกันรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร ลัทธิสุดโต่งและการก่อการร้าย รวมทั้งได้จัดทำเอกสารผลลัพธ์การประชุม ได้แก่ (๑) ปฏิญญาอูลานบาตอร์ ซึ่งจัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ ๒๐ ปี ของการก่อตั้ง ASEM และ (๒) แถลงการณ์ประธาน ซึ่งได้สรุปผลการหารือของผู้นำและแสดงถึงความมุ่งมั่นของสมาชิก ASEM ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเอเชียกับยุโรปในด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ออกแถลงการณ์ของผู้นำ ASEM ว่าด้วยการก่อการร้ายระหว่างประเทศเพิ่มเติมเพื่อแสดงพลังของสมาชิก ASEM ในการร่วมกันต่อสู้กับการก่อการร้ายด้วย ๑.๒ การหารือทวิภาคี (๑) นายกรัฐมนตรีได้พบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีมองโกเลีย โดยได้แจ้งพัฒนาการทางการเมืองของไทยที่มีเสถียรภาพ และขอให้ฝ่ายมองโกเลียสนับสนุนการลงทุนไทยในมองโกเลีย และได้หารือกับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็กในลักษณะ pull-aside meeting ซึ่งฝ่ายเช็กแสดงความประสงค์ที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางการทหารกับไทย และ (๒) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือทวิภาคีกับผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง และรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐฮังการี เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและสานต่อประเด็นความร่วมมือที่คั่งค้าง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เห็นควรผลักดันให้เอเชียและยุโรปร่วมกันดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในการป้องกันความท้าทายที่จะเกิดขึ้นจากโลกไร้พรมแดน ซึ่งรวมถึงการจัดการกับปัญหาการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ การค้ามนุษย์ การต่อต้านการก่อการร้าย และการบริหารจัดการชายแดน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19807 | ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | นร02 | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ๑.๒ มอบหมายให้หน่วยงานระดับกระทรวงนำนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔) ไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ระดับกระทรวง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ รวมทั้งส่งแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ฯ ดังกล่าว และรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ฯ ให้คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติได้ทราบ ๑.๓ เห็นชอบให้หน่วยงานระดับกระทรวงนำนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔) ไปใช้ประกอบการจัดทำคำขอตั้งงบประมาณ ตามแผนงาน/โครงการประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔ ทั้งนี้ เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ของชาติเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีเอกภาพ ๑.๔ ให้คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้มีการประเมินผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ฯ การกำหนดประเด็นการประชาสัมพันธ์ และเร่งรัดการดำเนินงานโครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จ ตลอดจนเร่งรัดการสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนให้เพิ่มขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพัฒนารูปแบบและวิธีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย และให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณในประเด็นค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์และการจัดนิทรรศการการประชาสัมพันธ์ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19808 | ขออนุมัติผ่อนผันการลงนามจัดจ้าง รายการลักษณะงบลงทุนในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2559 | มท | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินรายการที่ไม่ได้ปรากฏในพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๑ รายการ คือ รายการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองพังงา บ้านควน หมู่ ๑ ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ความยาว ๒๐๐ เมตร ซึ่งเป็นรายการที่ได้ผู้รับจ้างแล้วและสามารถดำเนินการได้ทันที เป็นเงิน ๑๐,๙๕๒,๐๐๐ บาท โดยให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลและเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณให้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19809 | การโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของสำนักความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เฉพาะ ในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานไปเป็นของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) | รง | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้มีการโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของสำนักความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ที่มีอยู่ในวันที่พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๘ ใช้บังคับ ไปเป็นของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับบทบาท ภารกิจ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยบูรณาการเชื่อมโยงการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับอย่างประหยัดตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยคำนึงถึงการยุบเลิกสายงานหรือบุคลากรให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจที่เป็นปัจจุบัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19810 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลท่าข้าม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... | กษ | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลท่าข้าม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลท่าข้าม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างคลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบ ตามโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดชลบุรี ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดดำเนินการก่อสร้างระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19811 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ลักษณะ 2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง) | นร09 | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ลักษณะ ๒ การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง) ของกระทรวงยุติธรรม ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในส่วนที่เกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา และการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ใช้บังคับอยู่บางประการ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุด อาทิ เห็นควรพิจารณาโดยรอบคอบในการให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจควบคุมหรือจับกุมตัวบุคคล เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของการบังคับคดีทางแพ่ง การบัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจบังคับคดีเอากับทรัพย์สินของบุคคลอื่น ควรดำเนินการโดยรอบคอบและควรมีการตรวจสอบโดยศาล เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิบุคคลภายนอกเกินสมควร การยึดสิทธิของลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามใบอนุญาตประทานบัตร อาชญาบัตร สัมปทานหรือสิทธิอย่างอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่จะกระทบต่ออำนาจหน้าที่ของหน่วยงานผู้อนุญาตหรือให้สัมปทานด้วย มิใช่เป็นกรณีที่เป็นสิทธิของลูกหนี้เพียงลำพัง ไปพิจารณาด้วย ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19812 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายสมชาย กิจสนาโยธิน) | สธ | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมชาย กิจสนาโยธิน ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตกรรม) กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลสุโขทัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19813 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) (นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ) | ศอบต | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแต่งตั้ง นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติงานให้เกิดการบูรณาการ ทั้งด้านความมั่นคงและด้านการพัฒนา รวมทั้งดำเนินการทุกยุทธศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นรูปธรรม ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19814 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดท่าหรือที่ สนามบินศุลกากร ทางอนุมัติ ด่านพรมแดน และด่านศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สนามบินศุลกากรหนองคาย) | กค | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดท่าหรือที่ สนามบินศุลกากร ทางอนุมัติ ด่านพรมแดน และด่านศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สนามบินศุลกากรหนองคาย) มีสาระสำคัญเป็นการเปลี่ยนที่ทำการด่านศุลกากรหนองคาย ไปตั้งอยู่ที่ เลขที่ ๒๒๔ หมู่ที่ ๒ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒ (ช่วงถนนเฉลิมพระเกียรติ) ตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย พร้อมกับกำหนดทางอนุมัติและด่านศุลกากร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19815 | การเปลี่ยนชื่อ ร่างพระราชบัญญัติสถาบันการพยาบาลแห่งสภากาชาดไทย พ.ศ. .... | สกช | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเปลี่ยนชื่อร่างพระราชบัญญัติ จาก “ร่างพระราชบัญญัติสถาบันการพยาบาลแห่งสภากาชาดไทย พ.ศ. ....” เป็น “ร่างพระราชบัญญัติสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิราสภากาชาดไทย พ.ศ. ....” ตามที่สภากาชาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19816 | บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข | สธ | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข มีสาระสำคัญในการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขในสาขาต่าง ๆ และแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในการประชุมทวิภาคีระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ กันยายน ๒๕๕๙ ณ กรุงเทพมหานคร ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้สามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19817 | การขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นสำหรับโครงการ บริหารจัดการไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเพื่อเป็นค่าก่อสร้างอาคารที่ได้รับผลกระทบของกองทัพบก | นร01 | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๗๗,๔๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการก่อสร้างอาคารของกองทัพบก ประกอบด้วย ค่าก่อสร้างอาคารหอประชุมกองทัพบกและอาคารกรมสวัสดิการทหารบก จำนวน ๒๗๖,๕๐๐,๐๐๐ บาท และค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารหอประชุมกองทัพบก จำนวน ๙๒๐,๐๐๐ บาท ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19818 | ขอความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาการประชุมระดับสูงเรื่องการจัดการการย้ายถิ่นขนาดใหญ่ของผู้ลี้ภัยและผู้โยกย้ายถิ่นฐานในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ร่างคำมั่นของไทยที่จะประกาศในการประชุมสุดยอดระดับผู้นำด้านผู้ลี้ภัยของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและกรอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมทั้งสอง | กต | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบ (๑) ร่างปฏิญญาการประชุมระดับสูงเรื่องการจัดการการย้ายถิ่นขนาดใหญ่ของผู้ลี้ภัยและผู้โยกย้ายถิ่นฐานในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปสู่การแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระดับโลกในการร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเพื่อสนับสนุนประเทศเจ้าบ้านที่ได้รับผู้ลี้ภัยไปแล้วจำนวนมาก (๒) ร่างคำมั่นของไทยที่จะประกาศในการประชุมสุดยอดระดับผู้นำด้านผู้ลี้ภัยของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาผู้โยกย้ายถิ่นฐานกลุ่มต่าง ๆ ในไทย และ (๓) กรอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมทั้งสองข้างต้น ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ก่อนมีการรับรอง/ประกาศคำมั่น ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๑.๒ เห็นชอบให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยร่วมรับรองปฏิญญาทางการเมือง (Political Declaration) ในที่ประชุมระดับสูงฯ และให้คำมั่นของไทย (Thailand’s Pledges) ต่อการประชุมสุดยอดฯ ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ๑.๓ ในกรณีที่ในการประชุมสุดยอดฯ ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีเอกสารผลลัพธ์การประชุม โดยมีสาระสำคัญที่สอดคล้องกับกรอบท่าทีไทย และเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการด้านมนุษยธรรมของไทย โดยไม่มีการจัดทำเป็นความตกลงหรือหนังสือสัญญาขึ้น เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศและหัวหน้าคณะผู้แทนไทยที่เข้าร่วมการประชุมสามารถรับรองเอกสารผลลัพธ์ดังกล่าวได้ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการสนับสนุนการให้ผู้ลี้ภัยได้รับการศึกษา และ/หรือทำงานได้อย่างถูกกฎหมายในประเทศผู้รับมากขึ้น ควรพิจารณาถึงระยะเวลาในการอยู่และสวัสดิการที่พึงได้รับตามพื้นฐานความจำเป็นของหลักสิทธิมนุษยชน และควรให้มีการสร้างกลไกความร่วมมือในการพัฒนาแนวทางร่วมกันบนพื้นฐานการไม่เลือกปฏิบัติ (Non-discrimination basis) ในการจัดการปัญหาผู้ลี้ภัยตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติและการขึ้นทะเบียน การกำหนดแนวทางและมาตรฐานการคุ้มครองผู้ลี้ภัยในประเทศต่าง ๆ ให้ใกล้เคียงกัน ตลอดจนการจัดทำระบบฐานข้อมูลที่ผู้ลี้ภัยและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันสำหรับการแก้ปัญหาร่วมกันทั้งประเทศต้นทาง ปลายทาง และประเทศที่สามที่คำนึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพผู้ลี้ภัยเป็นหลัก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19819 | สรุปผลการดำเนินการตามโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ | มท | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินการตามโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับใช้ในการดำเนินโครงการฯ แล้ว ได้แก่ (๑) จัดสรรงบประมาณให้แก่จังหวัด โดยให้ที่ทำการปกครองจังหวัดเป็นหน่วยเบิกจ่ายให้แก่หมู่บ้าน ๆ ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท งบประมาณทั้งสิ้น ๑๔,๙๑๗,๖๐๐,๐๐๐ บาท และ (๒) จัดสรรงบประมาณให้แก่กรมการปกครอง สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการให้แก่ส่วนกลาง จังหวัด อำเภอ และหมู่บ้าน งบประมาณทั้งสิ้น ๘๒,๔๐๐,๐๐๐ บาท โดยกรมการปกครองได้โอนจัดสรรให้แก่จังหวัด อำเภอ และหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว ๒. กระทรวงการคลังได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเบิกจ่ายงบประมาณให้จังหวัดถือปฏิบัติเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ได้เน้นย้ำให้จังหวัดถือปฏิบัติตามนัยหนังสือกระทรวงการคลังอย่างเคร่งครัด ๓. ผลการดำเนินการของหมู่บ้าน ข้อมูล ณ วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๙ (วันสิ้นสุดโครงการฯ) จำนวนหมู่บ้าน ๗๔,๕๘๘ แห่ง จำนวนโครงการที่เสนอ ๘๕,๓๙๗ โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น ๑๔,๙๐๑,๗๘๐,๕๖๔ บาท โครงการที่หมู่บ้านดำเนินการแล้วเสร็จ ๘๕,๓๙๓ โครงการ คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๙๙ งบประมาณทั้งสิ้น ๑๔,๘๘๘,๕๕๖,๖๗๘ บาท คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๙๑ ๔. การประเมินผลการดำเนินการตามโครงการฯ พบว่าประชาชนมีความพึงพอใจและได้รับประโยชน์จากการดำเนินการตามโครงการฯ เป็นอย่างมาก สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างแท้จริง สร้างรายได้ สร้างอาชีพ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงใช้งบประมาณในการดำเนินการตามโครงการฯ ได้อย่างคุ้มค่า และได้รับข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในครั้งต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19820 | การเตรียมการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ | อื่นๆ | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ ดังนี้
๑. รับทราบบัญชีเรื่องที่จะต้องดำเนินการ และหน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละเรื่อง ในการเตรียมการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประกอบด้วย บัญชีการดำเนินงาน กรอบระยะเวลา และหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย ๒. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กำกับดูแลให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบดำเนินการตามบัญชีดังกล่าวให้เรียบร้อยและทันเวลาตามที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนด ๓. มอบหมายให้คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ ๓ คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปด้านระบบราชการ กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ประสานฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการตามบัญชีดังกล่าว และให้รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ
|
.....