ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 826 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 16501 - 16520 จากข้อมูลทั้งหมด 124222 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16501 | การเสนอเรื่องประเภทนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนงาน โครงการต่อคณะรัฐมนตรี | นร | 28/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๘ และวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เกี่ยวกับการเสนอเรื่องประเภทนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนงาน โครงการต่อคณะรัฐมนตรี โดยให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องถือปฏิบัติ ดังนี้
๑. แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของยุทธศาสตร์ แผนบูรณาการหรือแผนปฏิบัติการ กับยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ และแผนปฏิรูปด้วย ๒. กำหนดแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน ประกอบด้วย (๑) แผนปฏิบัติการที่จะดำเนินการในช่วงระยะเวลา ๓ เดือน ๖ เดือน ๙ เดือน และ ๑ ปี (๒) ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ โดยให้กำหนดเป้าหมาย ผลสัมฤทธิ์ และตัวชี้วัดที่ชัดเจนสามารถติดตามและประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ (๓) แผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณหรือแหล่งเงินอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการ นั้น เพื่อให้การเสนอเรื่องประเภทนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนงาน โครงการต่อคณะรัฐมนตรีมีข้อมูลสำคัญครบถ้วนเพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีได้อย่างรอบคอบและถูกต้อง จึงให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติเพิ่มเติมด้วยว่า ในการเสนอเรื่องประเภทนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนงาน โครงการต่อคณะรัฐมนตรี ให้ระบุข้อมูลที่ชัดเจนว่าในแต่ละปี จะมีแนวทางการดำเนินการและมีผลสัมฤทธิ์ที่คาดหมายได้เป็นประการใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี ๒๕๖๑-๒๕๖๓ ทั้งนี้ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบเรื่องต่าง ๆ ดังกล่าว ให้มีข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16502 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 28/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่รัฐบาลได้บริหารจัดการและแก้ไขปัญหายางพารามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดูแลเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา นั้น เพื่อให้การบริหารจัดการยางพาราของประเทศเป็นระบบ และครบวงจรตั้งแต่ในขั้นตอนของการวางแผนการดูแลต้นทาง เช่น การลดพื้นที่การปลูกยางพารา กลางทาง เช่น การแปรรูปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และปลายทาง เช่น การนำยางไปใช้ประโยชน์ จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑.๑ ให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการจัดทำแผนการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบ โดยมีรายละเอียดของแผนการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ในแผนการบริหารจัดการดังกล่าวให้ดำเนินการให้ครบวงจรตั้งแต่การผลิต การตลาด และการแปรรูป โดยให้ครอบคลุมถึงเรื่องการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูก การกำหนดพื้นที่เพาะปลูก การปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน มาตรการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อการเพาะปลูก รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามแผนด้วย ตลอดจนการสนับสนุนให้โรงงานเอกชนประกอบกิจการแปรรูปให้มากขึ้น โดยในการดำเนินการให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการนำข้อเสนอของเครือข่ายชาวสวนยางในหลายจังหวัดภาคใต้ไปพิจารณาดำเนินการ และหารือประสานข้อมูลร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการบูรณาการเชื่อมโยงการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งระบบ ๑.๑.๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการลดพื้นที่เพาะปลูกยางพาราทั้งในพื้นที่สวนยางและพื้นที่บุกรุกพื้นที่ป่า โดยให้มีมาตรการในการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูก ตลอดจนการปลูกพืชเสริมหรือประกอบอาชีพอื่นแทนการเพาะปลูกยางพาราที่ชัดเจน มีเป้าหมาย/ตัวชี้วัดในการดำเนินการแต่ละปีว่าครอบคลุมพื้นที่ใด วิธีใด ผลเป็นอย่างไร และประสานส่งข้อมูลดังกล่าวให้ กยท. เพื่อใช้ประกอบการจัดทำแผนการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบ ๑.๑.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กยท. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน พิจารณากำหนดมาตรการส่งเสริมให้ภาคเอกชนรับซื้อยางพาราหรือผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางพารา เช่น ยางรถยนต์ ยางรถจักรยานยนต์ หลักกิโลเมตรบอกระยะทาง แผ่นการ์ดเรลตามแนวโค้งถนน และขับเคลื่อนให้นำยางพาราสำเร็จรูป เช่น ยางปูพื้นคอกสัตว์ ยางรองอ่างเก็บน้ำ ยางรองคอสะพาน มาใช้ในโครงการของภาครัฐ โดยกำหนดเป้าหมายให้มีการใช้ยางในภาครัฐเพิ่มขึ้น ๑ แสนตันต่อปี ทั้งนี้ ให้ กยท. นำแผนการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๓ เดือน และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ๒. ด้านสังคม มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กำกับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน เร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทยเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (TIP Report) ให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ และให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำรายงานดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ ให้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายในวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๑ ก่อนนำเสนอต่อสหรัฐอเมริกาภายในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๑ ต่อไป ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ในการแสดงผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้นำมาจัดแสดงตามสถานที่ราชการหรือการประชุมต่าง ๆ เช่น การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ให้ผู้บริหารของทุกส่วนราชการ ตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ให้ความสำคัญกับผลงานดังกล่าวและนำมาพิจารณาดำเนินการให้เกิดการต่อยอดหรือการนำไปพัฒนาในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประโยชน์กับการดำเนินงานของส่วนราชการ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์ การใช้น้ำมันปาล์มกับเครื่องจักรกลทางการเกษตร เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่นักวิจัย/นักประดิษฐ์ไทยและกระตุ้นการทำวิจัยและพัฒนานวัตกรรมไทยให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการรับฟังความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคของการดำเนินการวิจัยในเรื่องต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16503 | ร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติเงินคงคลัง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2560) | นร | 28/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติเงินคงคลัง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16504 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ. .... | สว | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ. .... โดยกระทรวงการคลังได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ ดังนี้ ได้จัดทำร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดผู้มีหน้าที่รายงานตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ. .... เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่มีหน้าที่รายงานข้อมูล ซึ่งได้มีการนำเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ พิจารณาด้วยแล้ว และกระทรวงการคลังจะได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้นำส่งข้อสังเกตเกี่ยวกับการออกกฎกระทรวงของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการรายงานข้อมูลซึ่งจำเป็นต้องกำหนดรูปแบบโดยใช้ภาษาไทยควบคู่กับภาษาอังกฤษด้วย และรัฐควรอำนวยความสะดวกโดยกำหนดให้สามารถรายงานได้ทั้งในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้กรมสรรพากรดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว ส่วนการดำเนินการแก้ไขปัญหาความแตกต่างระหว่างความตกลง FATCA ฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการประสานกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังของประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อขอดำเนินการปรับปรุงในส่วนของคำแปลในฉบับภาษาไทยให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของความตกลง FATCA และในการจัดทำคู่มือแนวทางการปฏิบัติตามความตกลง FATCA นั้น กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งคณะทำงานจัดทำคู่มือเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติตามความตกลง FATCA แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16505 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร01 | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงการกำหนดตำแหน่ง ประเภท และระดับของข้าราชการพลเรือนตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ การจัดตำแหน่งของข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ รวมทั้งข้าราชการประเภทอื่นที่อยู่ในบังคับของระเบียบตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการประเภทนั้น และครอบคลุมพนักงานราชการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับความเห็นสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่า ปัจจุบันระบบสารบรรณของทุกส่วนราชการได้ปรับเปลี่ยนเป็นระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งเทคโนโลยีดิจิทัลได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว สมควรปรับปรุงร่างระเบียบฯ ให้สอดคล้องกับระบบสารบรรณที่ส่วนราชการดำเนินการในปัจจุบัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16506 | ร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... | ดศ | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การสรรหาประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการองค์การมหาชน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมร่างระเบียบฯ บางประการ รวมทั้งแก้ไขหลักเกณฑ์การสรรหาประธานกรรมการและกรรมการในร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อมิให้ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีอีก ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16507 | ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ตำรวจกองประจำการ) | นร09 | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ตำรวจกองประจำการ) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีตำรวจกองประจำการและกำหนดหน้าที่ของตำรวจกองประจำการดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ตามมาตรา ๒๕๘ ง. ด้านกระบวนการยุติธรรม (๔) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่กำหนดให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ตามมาตรา ๒๖๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จะต้องดำเนินการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน ๑ ปี นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ดำเนินการพร้อมกับการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ไปในคราวเดียวกันต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16508 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลรับร่อ และตำบลหินแก้ว อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... | กษ | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลรับร่อ และตำบลหินแก้ว อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินเพื่อประโยชน์แก่การชลประทานในการก่อสร้างประตูระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบตามโครงการประตูระบายน้ำบ้านหาดแตง จังหวัดชุมพร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาหามาตรการชดเชยหรือเยียวยาเพิ่มเติมสำหรับราษฎรที่ถูกเวนคืนที่ดินจากโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคสาธารณูปการของรัฐให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16509 | การยุติการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | อส | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้พิจารณาตัดสินชี้ขาดการดำเนินคดีระหว่างส่วนราชการกับเอกชน และข้อพิพาทระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจด้วยกันเอง รวม ๕ เรื่อง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะประธานกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอ และแจ้งให้สำนักงานอัยการสูงสุดส่งเรื่องคืนตัวความหรือส่งคำตัดสินชี้ขาดและมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ให้คู่กรณีทราบและถือปฏิบัติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16510 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับหลักประกัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับหลักประกัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเฉพาะกรณีกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ นิติบุคคลซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อ และให้เช่าแบบลีซชิ่ง และนิติบุคคลซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจให้สินเชื่อเป็นทางการค้าปกติ เป็นผู้รับหลักประกันเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการกำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเฉพาะกรณีกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐเป็นผู้รับหลักประกันอาจไม่เป็นไปตามกรอบโครงสร้างการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐที่สนับสนุนให้ SMEs มีเงินทุนที่จะสามารถพัฒนาธุรกิจให้มีศักยภาพเพียงพอที่จะเข้าสู่ระบบการเงินปกติของสถาบันการเงินเอกชนได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16511 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดชื่อสถานพยาบาล และการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถานพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นและสิทธิของผู้ป่วย พ.ศ. .... | สธ | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดชื่อสถานพยาบาล และการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถานพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นและสิทธิของผู้ป่วย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดชื่อสถานพยาบาลและการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถานพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการและสิทธิของผู้ป่วย พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้การกำหนดชื่อสถานพยาบาลและการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถานพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการและสิทธิของผู้ป่วย เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16512 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร บางชนิดหรือบางประเภท รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....) | มท | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... และ (๒) ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม พ.ศ. .... กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลเจ้าพนักงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวง ฯ อย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16513 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พ.ศ. 2558) | มท | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พ.ศ. ๒๕๕๘) โดยเป็นการแก้ไขข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง และที่ดินประเภทสถาบันราชการ การสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ รวมทั้งยกเลิกข้อห้ามการอยู่อาศัยประเภทห้องชุด อาคารชุด หรืออาคารอยู่อาศัยรวม ในที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองมีการตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง หากปรากฎว่ามีพื้นที่เขตดำเนินการปฏิรูปที่ดิน ให้กำหนดแนวเขตปฏิรูปที่ดินพร้อมทั้งสัญลักษณ์สีแดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไว้ในผังแสดงการใช้ประโยชน์ในที่ดินและให้ผู้เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎกระทรวง รวมทั้งควรจัดทำฐานข้อมูลการกำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นที่เป็นประโยชน์ที่ดินรองของการใช้ประโยชน์ที่ดินหลักในแต่ละประเภทที่เป็นปัจจุบันและเผยแพร่ต่อสาธารณชน และให้มีการสนับสนุนเจ้าพนักงานท้องถิ่นในการกำกับดูแลและอนุมัติการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16514 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวง การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการผลิตซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 พ.ศ. ....) | สธ | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการ (๑) ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการผลิตซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... (๒) ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการขายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... (๓) ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการนำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... และ (๔) ร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณวัตถุออกฤทธิ์ซึ่งสันนิษฐานว่าผลิต นำเข้า ส่งออก นำผ่าน หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อขาย พ.ศ. .... รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการผลิต การขาย การนำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ เช่น อะโมบาร์บิตาล (AMOBARBITAL) บูพรีนอร์ฟีน (BUPRENORPHINE) และบิวตาลบิตาล (BUTALBITAL) หรือประเภท ๔ วัตถุออกฤทธิ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ เช่น อัลโลบาร์บิตาล (ALLOBARBITAL) อัลปราโซแลม (ALPRAZOLAM) และบาร์บิตาล (BARBITAL) และกำหนดปริมาณวัตถุออกฤทธิ์ เช่น คาทิโนน (cathinone) อัลปราโซแลม (alprazolam) และโคลนาซีแพม (clonazepam) ที่สามารถผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองได้ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการนำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... เนื่องจากปัจจุบันกรมศุลกากรและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้เชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ National Single Window (NSW) ในรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้ในการผ่านพิธีการศุลกากร และกรมศุลกากรได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานผู้ออกใบอนุญาต/ใบรับรอง ซึ่งได้ดำเนินการตรวจร่วมสินค้าร่วมกับหน่วยงานผู้ออกใบอนุญาต/ใบรับรอง รวมทั้งได้ส่งข้อมูลใบขนสินค้าให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาทราบอยู่แล้ว จึงไม่จำต้องกำหนดให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรต้องสลักหลังสำเนาใบอนุญาตหมายเลข ๓ และส่งกลับมายังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด ประกอบกับเนื้อหาของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว ยังไม่มีรายละเอียดในส่วนของการรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงฯ ทั้ง ๔ ฉบับ ไม่ได้ระบุถึงหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขการนำผ่านวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวไว้แต่อย่างใด ดังนั้น ในขั้นต่อไปเมื่อมีการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการนำผ่านวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าว ควรพิจารณาถึงความสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐซึ่งมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการตามพระราชบัญญัติอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตลอดจนต้องไม่เป็นการขัดต่อหลักการค้าและข้อตกลงระหว่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16515 | ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยอำนาจการลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดเงินเดือน พ.ศ. .... | ศธ | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยอำนาจการลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดเงินเดือน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยอำนาจการลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดเงินเดือน พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูประบบการศึกษาที่กำหนดให้มีสำนักงานศึกษาธิการภาคและสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเป็นหน่วยงานการศึกษา และสอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบัญชีเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จากระบบขั้นเงินเดือนมาเป็นบัญชีขั้นต่ำขั้นสูงซึ่งจะต้องมีการเลื่อนเงินเดือนเป็นร้อยละ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16516 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายประพนธ์ อางตระกูล) | สธ | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายประพนธ์ อางตระกูล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์และการใช้ผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข (นักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16517 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว และให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบอัตลักษณ์ของอาวุธปืนทั้งหมด เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความมั่นคงของประเทศ และประสานกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ในการกำหนดเวลาและแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการจุดบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ หรือโคมควัน ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับสถานที่เครื่องบินขึ้นลง รวมทั้งกรณีในหลายประเทศมีการจัดตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัยในเรือและมีอาวุธปืนประจำเรือ และมีกฎหมายภายในรองรับ ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ให้กับเรือเดินทะเลที่ถือสัญชาติไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำกรณีการจัดตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัยในเรือและมีอาวุธปืนประจำเรือดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาต่อไป อาทิ การกำหนดให้มีกฎหมายเป็นการเฉพาะ หรือการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16518 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ | พม | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งที่ประชุมหารือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีในการจัดทำบันทึกความเข้าใจเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ เมื่อวันที่ ๒๖-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๙ ณ กรุงเทพมหานคร จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เห็นพ้องกันในสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการป้องกัน ปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษย์ข้ามชาติ และให้ความคุ้มครองและความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมการดำเนินงาน ๔ ด้าน คือ (๑) การป้องกันการค้ามนุษย์ (๒) การสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดีค้ามนุษย์ (๓) การคุ้มครองและช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และ (๔) การสร้างศักยภาพในด้านการป้องกัน การสืบสวนสอบสวน การดำเนินคดี และการค้าให้ความคุ้มครอง ๑.๒ ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๓. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับในขั้นการปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจฯ หากมีกรณีกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อต้านรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งมีประเด็นปัญหาด้านความมั่นคงที่เกี่ยวเนื่องกับปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ หรือมีเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ปัญหาและผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประสานหารือกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการและแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ส่วนงบประมาณปีต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16519 | รายงานผลการพิจารณาศึกษาการตั้งถิ่นฐาน การผังเมือง และการพัฒนาเมืองของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการตั้งถิ่นฐาน การผังเมือง และการพัฒนาเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาการตั้งถิ่นฐาน การผังเมือง และการพัฒนาเมืองของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการตั้งถิ่นฐาน การผังเมือง และการพัฒนาเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยกระทรวงมหาดไทยได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซี่งผลการพิจารณาที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกับผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ ๑) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับระบบการวางผังเมืองเพื่อการตั้งถิ่นฐานและการพัฒนาเมือง ๒) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับองค์กรและอำนาจหน้าที่ ๓) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกฎหมาย ๔) ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ในด้านการสนับสนุนการดำเนินการและ ๕) แนวทางการดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เช่น ระบบการวางผังเมืองเพื่อการตั้งถิ่นฐานและการพัฒนาเมือง ควรให้มีการวางและจัดผังใน ๓ ระดับ ควรแยกงานด้านผังเมืองและการพัฒนาเมือง รวมทั้งส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องออกจากกรมโยธาธิการและผังเมือง และจัดตั้งเป็นกรมการผังเมืองในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ควรแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ และตรากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการผังเมืองและการพัฒนาเมือง ควรชดเชยเยียวยาความเสียหายให้กับผู้ที่ต้องเสียสิทธิหรือได้รับผลกระทบเพื่อประโยชน์ในการวางผังเมือง และควรสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างหน่วยงานด้านการผังเมืองและการพัฒนาเมืองกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16520 | ขอความเห็นชอบร่างถ้อยแถลงระดับรัฐมนตรีสำหรับการประชุมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค ครั้งที่ 10 | คค | 21/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างถ้อยแถลงระดับรัฐมนตรีสำหรับการประชุมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค ครั้งที่ ๑๐ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคในการสนับสนุนให้เกิดความเชื่อมโยงในภูมิภาคที่ไร้รอยต่อ มีความมั่นคง ปลอดภัย ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มีการรับรองถ้อยแถลงฯ ไปแล้วในการประชุมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค ครั้งที่ ๑๐ (the 10th Asia-Pacific Economic Cooperation Transportation Ministerial Meeting : TMM10) ระหว่างวันที่ ๖-๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ ณ กรุงพอร์ตมอร์สบี ประเทศปาปัวนิวกินี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ในการนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในโอกาสต่อไป ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย
|
.....