ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 28/11/2560 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่รัฐบาลได้บริหารจัดการและแก้ไขปัญหายางพารามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดูแลเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา นั้น เพื่อให้การบริหารจัดการยางพาราของประเทศเป็นระบบ และครบวงจรตั้งแต่ในขั้นตอนของการวางแผนการดูแลต้นทาง เช่น การลดพื้นที่การปลูกยางพารา กลางทาง เช่น การแปรรูปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และปลายทาง เช่น การนำยางไปใช้ประโยชน์ จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑.๑ ให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการจัดทำแผนการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบ โดยมีรายละเอียดของแผนการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ในแผนการบริหารจัดการดังกล่าวให้ดำเนินการให้ครบวงจรตั้งแต่การผลิต การตลาด และการแปรรูป โดยให้ครอบคลุมถึงเรื่องการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูก การกำหนดพื้นที่เพาะปลูก การปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน มาตรการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อการเพาะปลูก รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามแผนด้วย ตลอดจนการสนับสนุนให้โรงงานเอกชนประกอบกิจการแปรรูปให้มากขึ้น โดยในการดำเนินการให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการนำข้อเสนอของเครือข่ายชาวสวนยางในหลายจังหวัดภาคใต้ไปพิจารณาดำเนินการ และหารือประสานข้อมูลร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการบูรณาการเชื่อมโยงการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งระบบ ๑.๑.๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการลดพื้นที่เพาะปลูกยางพาราทั้งในพื้นที่สวนยางและพื้นที่บุกรุกพื้นที่ป่า โดยให้มีมาตรการในการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูก ตลอดจนการปลูกพืชเสริมหรือประกอบอาชีพอื่นแทนการเพาะปลูกยางพาราที่ชัดเจน มีเป้าหมาย/ตัวชี้วัดในการดำเนินการแต่ละปีว่าครอบคลุมพื้นที่ใด วิธีใด ผลเป็นอย่างไร และประสานส่งข้อมูลดังกล่าวให้ กยท. เพื่อใช้ประกอบการจัดทำแผนการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบ ๑.๑.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กยท. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน พิจารณากำหนดมาตรการส่งเสริมให้ภาคเอกชนรับซื้อยางพาราหรือผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางพารา เช่น ยางรถยนต์ ยางรถจักรยานยนต์ หลักกิโลเมตรบอกระยะทาง แผ่นการ์ดเรลตามแนวโค้งถนน และขับเคลื่อนให้นำยางพาราสำเร็จรูป เช่น ยางปูพื้นคอกสัตว์ ยางรองอ่างเก็บน้ำ ยางรองคอสะพาน มาใช้ในโครงการของภาครัฐ โดยกำหนดเป้าหมายให้มีการใช้ยางในภาครัฐเพิ่มขึ้น ๑ แสนตันต่อปี ทั้งนี้ ให้ กยท. นำแผนการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๓ เดือน และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ๒. ด้านสังคม มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กำกับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน เร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทยเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (TIP Report) ให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ และให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำรายงานดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ ให้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายในวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๑ ก่อนนำเสนอต่อสหรัฐอเมริกาภายในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๑ ต่อไป ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ในการแสดงผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้นำมาจัดแสดงตามสถานที่ราชการหรือการประชุมต่าง ๆ เช่น การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ให้ผู้บริหารของทุกส่วนราชการ ตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ให้ความสำคัญกับผลงานดังกล่าวและนำมาพิจารณาดำเนินการให้เกิดการต่อยอดหรือการนำไปพัฒนาในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประโยชน์กับการดำเนินงานของส่วนราชการ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์ การใช้น้ำมันปาล์มกับเครื่องจักรกลทางการเกษตร เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่นักวิจัย/นักประดิษฐ์ไทยและกระตุ้นการทำวิจัยและพัฒนานวัตกรรมไทยให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการรับฟังความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคของการดำเนินการวิจัยในเรื่องต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
.....