ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 797 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 15921 - 15940 จากข้อมูลทั้งหมด 124270 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15921 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง "บุคลากรในกระบวนการดูแลผู้สูงอายุ" ของคณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง “บุคลากรในกระบวนการดูแลผู้สูงอายุ” โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้มีข้อเสนอแนะดังนี้ ๑) ข้อเสนอแนะด้านนโยบาย ได้แก่ ๑.๑) บุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรสนับสนุนทางการแพทย์ และ ๑.๒) ผู้ดูแลผู้สูงอายุ แบ่งออกเป็น ๑.๒.๑) มาตรฐานหลักสูตร ๑.๒.๒) มาตรฐานการประกอบอาชีพและเส้นทางอาชีพ และ ๒) ข้อเสนอแนะด้านกฎหมาย ได้แก่ ๒.๑) ผู้ดูแลผู้สูงอายุ และ ๒.๒) ผู้ประกอบอาชีพรับดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งสรุปผลการพิจารณาได้ว่า ประเด็นส่วนใหญ่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยและได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ แล้ว ยกเว้นในประเด็นการแก้ไขกฎหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ทั้งด้านการส่งเสริมดูแลและสงเคราะห์ผู้สูงอายุ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเห็นว่ากฎหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ให้อำนาจหน้าที่ในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายแต่อย่างใด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15922 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองตาก พ.ศ. .... | มท | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองตาก พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลไม้งาม ตำบลหนองบัวเหนือ ตำบลหัวเดียด ตำบลป่ามะม่วง ตำบลหนองหลวง ตำบลน้ำรึม ตำบลระแหง ตำบลแม่ท้อ ตำบลเชียงเงิน ตำบลวังหิน และตำบลหนองบัวใต้ อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้มีการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติ ควรให้มีการพิจารณาเพิ่มประเภทหรือชนิดโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ลำดับที่ ๘๘ ๑๐๑ ๑๐๕ และ ๑๐๖ ควรให้มีการจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน มีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรมบางประเภท และควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำหนดแนวเขตปฏิรูปที่ดินพร้อมทั้งสัญลักษณ์สีแดงแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแล ควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15923 | การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan) | สธ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเลื่อนการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan) ซึ่งเป็นบันทึกความเข้าใจฉบับเดียวกันกับที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๐ มีสาระสำคัญ เช่น การส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยกับภูฏาน เช่น การควบคุมโรค ความปลอดภัยของอาหาร การแพทย์แผนดั้งเดิม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษาและวิจัยทางการแพทย์ เป็นต้น ซึ่งเดิมกำหนดการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๐ เป็นกำหนดการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15924 | รายงานผลการดำเนินโครงการพัฒนาด้านการเกษตร "โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน" และขออนุมัติขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายค่าจ้างแรงงาน | กษ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินโครงการพัฒนาด้านการเกษตร "โครงการ ๙๑๐๑ ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน" ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้นตามวัตถุประสงค์ของโครงการแล้ว จำนวนทั้งสิ้น ๒๔,๑๔๗ โครงการ สามารถเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น ๑๙,๙๘๗.๐๓ ล้านบาท และมีผลประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น เกษตรกร จำนวน ๑.๕๖ ล้านราย ได้มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเกษตรของชุมชน เกิดกระบวนการเรียนรู้จากการจัดทำโครงการต่าง ๆ และเกิดการกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจฐานรากก่อให้เกิดกระแสเงินทุนหมุนเวียนในภาพรวมเพิ่มขึ้น ๕๔,๐๔๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้เปลี่ยนชื่อโครงการดังกล่าว เป็น “โครงการเกษตรยั่งยืน ๑” ๒. อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายค่าจ้างแรงงานโครงการของชุมชน จำนวน ๕ ชุมชน ในพื้นที่อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร (ชุมชนเหล่าปอแดง ๑ และ ๒ โครงการปุ๋ยหมักจากผักตบชวา ชุมชนพังขว้าง โครงการเพาะเห็ดนางฟ้าในโรงเรือนชุมชนหนองลาด โครงการเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ และชุมชนโคกก่อง โครงการทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวา) จำนวนเงินทั้งสิ้น ๔,๕๖๘,๕๙๕ บาท โดยให้ดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินโครงการในระยะต่อไป ควรนำข้อสังเกตจากการประเมินผล และข้อเสนอแนะของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรไปปรับปรุงการดำเนินโครงการให้มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืนมากขึ้น รวมทั้งพิจารณาชุมชนที่มีศักยภาพสำหรับต่อยอดการผลิตที่พัฒนาไปสู่สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มและสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนมากขึ้น เช่น การผลิตสินค้าอินทรีย์ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีเกษตร เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15925 | ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศย | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดการบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับผู้พิพากษาศาลยุติธรรมให้มีความเป็นอิสระและดำเนินการโดยคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา ๑๙๖ ประกอบมาตรา ๒๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งกำหนดให้คณะรัฐมนตรีเสนอกฎหมายในเรื่องนี้ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในหนึ่งปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ภายในวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๑) ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15926 | การเข้าเป็นภาคีพิธีสารแก้ไขอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ | คค | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีพิธีสาร ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) พิธีสารเกี่ยวกับการแก้ไขข้อ ๕๐ (เอ) ของอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (Protocol relating to an amendment to Article 50 (a) of the Convention on International Civil Aviation) ลงนาม ณ เมืองมอนตริออล เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และ (๒) พิธีสารเกี่ยวกับการแก้ไขข้อ ๕๖ ของอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (Protocol relating to an amendment to Article 56 of the Convention Civil Aviation) ลงนาม ณ เมืองมอนตริออล เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ มีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มจำนวนสมาชิกคณะมนตรี จากเดิม ๓๖ ประเทศ เป็น ๔๐ ประเทศ และเพิ่มจำนวนสมาชิกคณะกรรมาธิการการเดินอากาศ จากเดิม ๑๙ คน เป็น ๒๑ คน ตามลำดับ เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนรัฐภาคีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ที่เพิ่มขึ้นจาก ๑๖๒ ประเทศ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ และ ๑๘๕ ประเทศ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็น ๑๙๒ ประเทศ ในปัจจุบัน ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดทำสัตยาบันสาร (Instrument of Ratification) สำหรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารฯ ทั้งสองฉบับ และยื่นต่อเลขาธิการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศต่อไป ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรและสร้างแรงจูงใจในการเตรียมบุคลากรของไทยไปสู่เวทีระดับโลกด้านการบิน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15927 | ร่างกรอบความร่วมมือระหว่างไทยกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ฉบับปี ค.ศ. 2018-2021 | กษ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างกรอบความร่วมมือระหว่างไทยกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ฉบับปี ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๑ [The Kingdom of Thailand, Food and Agriculture Organization of the United Nations (FAO) Country Programming Framework (CPF) 2018-2021] และกิจกรรมหรือโครงการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าว มีสาระสำคัญเกี่ยวกับ (๑) การสนับสนุนของ FAO และผลลัพธ์ที่คาดหวังในประเทศไทยในประเด็นความปลอดภัยและมาตรฐานของอาหารได้รับการปรับปรุงเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคและเพื่อส่งเสริมการค้า สนับสนุนและเพิ่มโอกาสของการจัดการห่วงโซ่คุณค่าการผลิตสินค้าเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน (๒) การสนับสนุนความช่วยเหลือใต้-ใต้ หรือความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา และ (๓) การดำเนินการ การตรวจสอบ และรายงานความคืบหน้าของกรอบความร่วมมือ CPF ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการที่ไทยอาจใช้เครือข่าย FAO มาพัฒนาองค์ความรู้ในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ประโยชน์ในการทำเกษตร (Smart/Precision farming) สำหรับการกำหนดงบประมาณในแต่ละโครงการมีจำนวนไม่มาก ซึ่งการดำเนินงานโครงการส่วนใหญ่เป็นการดำเนินงานในเชิงลึก อาจทำให้การดำเนินงานไม่สามารถตอบสนองหรือบรรลุผลผลิตตามวัตถุประสงค์ได้ หากได้รับความช่วยเหลือจาก FAO ในการดำเนินการติดตามและตรวจสอบในรูปแบบของผู้เชี่ยวชาญ องค์ความรู้ หรือเทคโนโลยี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อขอรับความช่วยเหลือหรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในส่วนที่เกี่ยวข้อง และควรเผยแพร่ผลการดำเนินโครงการที่ได้รับความช่วยเหลือดังกล่าวด้วย นอกจากนี้การนำเสนอร่างกรอบความร่วมมือ CPF ในระยะต่อไป ควรนำเสนอผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นตามร่างกรอบความร่วมมือ CPF ฉบับปี ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๑ ให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างกรอบความร่วมมือ CPF ฉบับปี ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๑ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15928 | ขอความเห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยชีวจริยธรรม ครั้งที่ 26 [26th Session of the International Bioethics Committee of UNESCO (IBC)] และการประชุมคณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยจริยธรรมในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 11 [11th Session of the World Commission on Ethics of Scientific Knowledge and Technology (COMEST)] ในปี 2562 | วท | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยชีวจริยธรรม ครั้งที่ ๒๖ [26th Session of the International Bioethics Committee of UNESCO (IBC)] และการประชุมคณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยจริยธรรมในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ ๑๑ [11th Session of the World Commission on Ethics of Scientific Knowledge and Technology (COMEST)] ในปี ๒๕๖๒ ซึ่งการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการสะท้อนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมและกฎหมายที่เกิดจากการวิจัยทางด้านชีววิทยาศาสตร์และการประยุกต์ใช้ สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดและข้อมูลระหว่างประเทศสมาชิก รวมถึงเพื่อหารือการกำหนดโครงการทำงานเบื้องต้นในการแก้ปัญหาด้านจริยธรรมในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสร้างโอกาสในการทำงานร่วมกันระหว่างคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยชีวจริยธรรม (IBC) และคณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยจริยธรรมในความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (COMEST) และมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดการประชุมฯ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ทั้งนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาจใช้เวทีนี้ในการหารือจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับจริยธรรมด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ (Artificial Intelligence/Robotics) ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และการใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) เพื่อเสนอต่อ COMEST หรือนำไปต่อยอดในการศึกษาเชิงลึก ตามความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ในส่วนของกรอบงบประมาณการจัดประชุมฯ จำนวน ๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ภายในกรอบวงเงินดังกล่าวตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15929 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดประจำปี 2560 | ยธ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดประจำปี ๒๕๖๐ ในอัตราไม่เกิน ๘,๓๘๖ คน จากจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดทั้งหมด ๖๑๙,๓๖๑ คน โดยจัดสรรให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดในกรอบอัตราไม่เกินร้อยละ ๒.๕ ของจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง และไม่เกินร้อยละ ๐.๕ ของจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อนตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และหากไม่เพียงพอก็ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ เป็นลำดับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดในครั้งต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการโดยยึดหลักความโปร่งใสและเป็นธรรม โดยให้พิจารณากำหนดสัดส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษในส่วนกลาง ในส่วนภูมิภาค และในพื้นที่ชายแดน ให้ชัดเจน เหมาะสม และเป็นธรรม ๓. ให้ฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้มีการตรวจตราและเฝ้าระวังพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15930 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางสาวนิลเนตร วีระสมบัติ) | สธ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวนิลเนตร วีระสมบัติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) (ด้านเวชกรรม) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15931 | ร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช 2481 พ.ศ. .... | นร09 | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช ๒๔๘๑ พ.ศ. .... ของกระทรวงคมนาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ยกร่างขึ้นใหม่ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาความจำเป็นเร่งด่วนเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นกับกรณีของเรือประมง โดยแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช ๒๔๘๑ เกี่ยวกับการปรับปรุงระบบการจดทะเบียนเรือประมง สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของเจ้าของเรือหรือผู้ครอบครองเรือประมง ตลอดจนการกำหนดบทลงโทษให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำความผิดอันจะทำให้การแก้ไขปัญหาการทำประมงสามารถดำเนินการได้อย่างยั่งยืนและเป็นระบบ อันจะเป็นการยกระดับมาตรฐานการประมงของประเทศไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับสำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนและพิจารณาจัดสรรในส่วนของอัตรากำลังให้กับกรมเจ้าท่าให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจ ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15932 | ผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | กต | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๑ และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยมีนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมฯ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการประชุมฯ ไปปฏิบัติและติดตาม ซึ่งการประชุมฯ มีประเด็นสำคัญ ได้แก่ (๑) เอกสารผลลัพธ์ที่สำคัญของการประชุม โดยที่ประชุมคณะมนตรีประสานอาเซียนยืนยันว่าเอกสารฉันทามติอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของแรงงานต่างด้าว ซึ่งผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนได้ลงนามแล้วมิได้มีข้อผูกพันทางกฎหมาย และฝ่ายไทยได้แจ้งที่ประชุมว่าการลงนามในเอกสารดังกล่าวจะไม่ถือว่าเป็นการสร้างพันธกรณีทางกฎหมายให้ฝ่ายไทย และ (๒) ประเด็นหารือที่สำคัญ เช่น การย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในวิวัฒนาการของการเมืองระหว่างประเทศในภูมิภาคและการรักษาความเป็นเอกภาพของอาเซียนเพื่อรับมือกับโลกที่มีพลวัตรและความท้าทายรูปแบบใหม่ ๆ โดยเฉพาะการรับมือกับปัญหาภายในและภายนอกภูมิภาค สถานการณ์ในรัฐยะไข่ ผู้นำทุกประเทศแสดงความห่วงกังวลต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ ซึ่งเป็นสถานการณ์หนี่งในภูมิภาคที่เป็นบททดสอบสำคัญของอาเซียนในการรับมือและแก้ไขปัญหาด้านมนุษยธรรมและการให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน รวมทั้งสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ผู้นำทุกประเทศแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีและหลายประเทศเห็นพ้องกันว่าควรแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีเพื่อรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค พร้อมสนับสนุนให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากอาวุนิวเคลียร์ เป็นต้น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นควรให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการติดตามผลการประชุมฯ ในประเด็นด้านเศรษฐกิจ เรื่องการสนับสนุนให้ปฏิบัติตามวาระการดำเนินงานในการสร้างความตระหนักในเรื่องการส่งเสริมขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของสตรีในอาเซียน (Action Agenda on Mainstreaming Women’s Economic Empowerment in ASEAN) และถ้อยแถลงมะนิลาว่าด้วยการส่งเสริมขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของสตรีในอาเซียน (Manila Statement on Mainstreaming Women’s Economic Empowerment in ASEAN) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15933 | ผลการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 9 | กต | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๙ (9th Mekong-Japan Summit) ที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าร่วมการประชุมฯ ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมการเจริญเติบโตที่มีคุณภาพ และการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอุตสาหกรรมในลุ่มน้ำโขงผ่านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ (Hard Connectivity) ในเส้นทางที่สำคัญ และการพัฒนาความเชื่อมโยงที่จับต้องไม่ได้ (Soft Connectivity) โดยเฉพาะด้านกฎระเบียบ และการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ซึ่งจะช่วยให้ประเทศลุ่มน้ำโขงสามารถบูรณาการเข้าสู่ห่วงโซ่มูลค่าโลก (Global Value Chain) ได้ นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ รับทราบความร่วมมือกับญี่ปุ่นในการรับมือกับประเด็นระดับภูมิภาคและโลกต่าง ๆ เช่น ข้อริเริ่มแม่โขงสีเขียว (Free and Open Indo-Pacific Strategy) ของญี่ปุ่น เพื่อสร้างสันติสุข ความมั่นคง และการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนในภูมิภาค รวมทั้งข้อริเริ่ม Asia Health and Wellbeing Initiative ของญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านสาธารณสุขร่วมกัน เป็นต้น และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15934 | รายงานผลการทบทวนรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงในประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ (Out-of-Cycle Review of Notorious Markets) ของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) | พณ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการทบทวนรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงประจำปี ๒๕๖๐ (2017 Out-of-Cycle Review of Notorious Markets) ซึ่งสหรัฐอเมริกา โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (United States Trade Representative : USTR) ได้ทบทวนรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงประจำปี ๒๕๖๐ ทั้งตลาดที่มีการขายสินค้าละเมิด (Physical Markets) และตลาดออนไลน์ (Online Markets) โดยในปีนี้ไม่ปรากฏชื่อย่านการค้าหรือศูนย์การค้าในประเทศไทยเป็น Notorious Markets ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ ให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ได้แก่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมศุลกากร กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป ทั้งตลาดที่มีการขายสินค้าละเมิด (Physical Markets) ตลาดออนไลน์ (Online Markets) รวมทั้งการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบอื่น ได้แก่ การละเมิดลิขสิทธิ์รายการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก และการผลิต นำเข้า จำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่าย หรือรับติดตั้งกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ๒.๒ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น สอดส่องดูแลไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่ของตน และหากพบการจำหน่ายสินค้าละเมิด ให้พิจารณาดำเนินมาตรการทางปกครองตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด ๒.๓ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรที่เห็นควรให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบและเจ้าของอาคารสถานที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการเฝ้าระวัง ให้ความร่วมมือในการป้องกันและปราบปราม ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่เดิมอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้มีการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้นอีก นอกจากนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา เจ้าของอาคารสถานที่ และเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาจะต้องประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิดร่วมมือกันในการป้องกันมิให้มีการซื้อขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ รวมทั้งใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15935 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด พ.ศ. .... | พณ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรยกเว้นค่าธรรมเนียม กรณีหน่วยราชการขอเชื่อมโยงข้อมูล เพื่อไปปฏิบัติงานของหน่วยงาน เช่น การดำเนินคดี เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณากำหนดมาตรการควบคุมตรวจสอบการจดทะเบียนผ่านระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ให้มีความถูกต้องและโปร่งใส เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริต รวมทั้งรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาลดขั้นตอนและระยะเวลาในการจดทะเบียนให้กระชับมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการให้ใกล้เคียงกับประเทศที่ได้รับการจัดอันดับในลำดับต้น ๆ เช่น ประเทศนิวซีแลนด์ และควรประชาสัมพันธ์มาตรการดังกล่าวให้ผู้ประกอบการโดยทั่วไปรับทราบอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรบูรณาการความร่วมมือเพื่อลดขั้นตอนและเอกสารที่ซ้ำซ้อนในกระบวนการจัดตั้งและจดทะเบียนการประกอบธุรกิจ ตลอดจนเชื่อมโยงฐานข้อมูลร่วมกันระหว่างหน่วยงาน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15936 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี) (นายปัญญาพล ศรีแสงแก้ว) | นร05 | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปัญญาพล ศรีแสงแก้ว ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15937 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม พ.ศ. .... | มท | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลดอนมะโนรา ตำบลบางนกแขวก ตำบลบางคนที ตำบลยายแพง ตำบลบางยี่รงค์ ตำบลจอมปลวก ตำบลกระดังงา ตำบลโรงหีบ ตำบลบ้านปราโมทย์ ตำบลบางกระบือ ตำบลบางสะแก ตำบลบางกุ้ง และตำบลบางพรม อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎกระทรวง ควรกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ และกำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่น ๆ ควรมีการจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน มีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรมบางประเภท และควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแลและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15938 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. .... | พณ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15939 | ข้อเสนอแนะเรื่องการครอบครองที่ดินของคนต่างด้าว | มท | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อเสนอแนะเรื่องการครอบครองที่ดินของคนต่างด้าวของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และผลการพิจารณาข้อเสนอแนะดังกล่าว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นชอบด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยข้อเสนอเร่งด่วน กรมที่ดินและกรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับที่จะนำข้อเสนอแนะดังกล่าวไปเป็นกรอบแนวทางการปฏิบัติราชการ โดยบูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดให้มีศูนย์ข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ช่องว่างของกฎหมายในการถือครองที่ดินและการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กรณีหน่วยงานมีกฎหมายและระเบียบอยู่แล้ว ให้เร่งรัด กำชับเจ้าหน้าที่ถือปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ส่วนข้อเสนอระยะยาว กรมที่ดินและกรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับไปศึกษาทบทวนแก้ไขประมวลกฎหมายที่ดิน (เรื่องเพิ่มโทษ) พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๒ (เรื่อง คนต่างด้าวมีอำนาจบริหารหรือครอบงำนิติบุคคล) และพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการพิจารณาดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีกฎหมายหลายฉบับยกเว้นให้บุคคลต่างด้าวสามารถถือครองที่ดินเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ เช่น พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. ๒๕๒๐ และร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. .... รวมทั้งมีร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ. .... ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่เห็นควรเพิ่มเงินสินบนแก่ผู้ชี้ช่องแจ้งเบาะแสกรณีคนไทยถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว หรือกรณีความผิดต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า) จะรับไปศึกษานั้น สมควรจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบให้เหมาะสม เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่และยังไม่มีกฎหมายและหลักเกณฑ์ใด ๆ รองรับ และให้แจ้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15940 | ความเห็น ข้อเสนอแนะ และสรุปปัญหาที่ประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ ประสบ ของที่ประชุมในระดับชาติ ของสภาองค์กรชุมชนตำบล ปี 2560 | พม | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. รับทราบความเห็น ข้อเสนอแนะ และสรุปปัญหาที่ประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ ประสบ ของที่ประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล ปี ๒๕๖๐ ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคมและกฎหมาย รวมทั้งการจัดทำบริการสาธารณะของหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลต่อพื้นที่มากกว่าหนึ่งจังหวัด ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย ๗ ประเด็นใหญ่ ๆ คือ ๑) สิทธิชุมชนกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ๒) ผลกระทบจากการใช้พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๖๐ ๓) ผลกระทบจากพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ และฉบับเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๐ ๔) การแก้ปัญหายางพารา ๕) การจัดการปัญหาที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรม ๖) สังคมไทยกับการพัฒนาระบบรองรับสังคมสูงวัย ๗) ความมั่นคงทางอาหารต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ๑.๒ รับทราบสรุปปัญหาที่ประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ ประสบและข้อเสนอแนะ แนวทางแก้ไขเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการ ได้แก่ ๑) การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษและระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก ๒) ปัญหาผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ ๓) ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ๔) ปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง และถนนมอเตอร์เวย์ ๒. ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์ผลและความคืบหน้าการดำเนินการให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันด้วย ๓. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม ที่เห็นว่าในประเด็นการขยายระยะเวลาการขึ้นทะเบียนแก่ประชาชนที่ยังไม่ดำเนินการขออนุญาตการจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาอนุญาต ควรกำหนดให้มีองค์ประกอบจากหลายภาคส่วน ได้แก่ เจ้าหน้าที่รัฐ ผุ้ทรงคุณวุฒิ ภาคประชาชน สภาองค์กรชุมชน ภาคประชาสังคมท้องถิ่น ท้องที่ เพื่อร่วมให้ความเห็นในการพิจารณาต่อสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ สำหรับประเด็นการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก ควรรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงแก้ไขให้เกิดความเหมาะสม และจัดทำมาตรการเพื่อผลกระทบในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป และสำหรับประเด็นปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง และถนนมอเตอร์เวย์ เห็นควรให้การรถไฟแห่งประเทศไทยกำหนดอัตราค่าชดเชยให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรมและควรคิดคำนวณรวมค่าเสียโอกาสในการประกอบอาชีพในระหว่างการรื้อย้ายให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบรวมไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
.....