ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 791 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 15801 - 15820 จากข้อมูลทั้งหมด 124270 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15801 | ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เสนอ ไปตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติควรพิจารณาในประเด็น (๑) โครงสร้างขององค์กร ควรพิจารณาจัดกลุ่มงานตามภารกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน (๒) ระบบการทำงาน ควรมีการจำกัดการใช้ดุลพินิจเพื่อป้องกันการเรียกรับสินบน และควรมีบทเพิ่มโทษสำหรับเจ้าพนักงานตำรวจที่กระทำผิด ปรับปรุงระบบการสอบสวนคดีอาญาให้มีการตรวจสอบ และถ่วงดุลระหว่างพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการอย่างเหมาะสม (๓) การบริหารงานบุคคล ควรพิจารณาให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแต่งตั้งตามชั้นยศ โดยเทียบเคียงกับการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการทหาร โดยการแต่งตั้งและโยกย้ายต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม และให้มีการร้องเรียนได้ และความเห็นของที่ประชุมร่วมระหว่างรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการปฏิรูปประเด็นด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) และผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ตรวจพิจารณาไปพลางก่อน ทั้งนี้ เพื่อรอร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับภารกิจ อำนาจหน้าที่ การบังคับใช้กฎหมายที่มีโทษทางอาญาและระบบการสอบสวนคดีอาญาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) รวมทั้งความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณเกี่ยวกับการพิจารณาปรับปรุงการเพิ่มอัตราเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว เงินเพิ่มพิเศษรายเดือน เงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่ประจำอยู่ในต่างประเทศหรือตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ และเงินเพิ่มอื่นหรือเงินช่วยเหลือ เป็นประจำทุกห้าปี จะต้องคำนึงถึงความสอดคล้องและเหมาะสมกับสภาวะทางเศรษฐกิจ การดำรงชีพที่เปลี่ยนแปลงไป และเทียบเคียงได้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทอื่น ๆ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนี่ง พร้อมกับความเห็นของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติซึ่งจะได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ในส่วนของการบริหารงานบุคคล และร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เกี่ยวกับภารกิจ อำนาจหน้าที่ การบังคับใช้กฎหมายที่มีโทษทางอาญาและระบบการสอบสวนคดีอาญาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาประกอบการพิจารณาในคราวเดียวกัน ๒. ให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เร่งรัดการจัดทำแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยด่วนต่อไป ๓. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรกำหนดให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจที่กำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัติฯ พิจารณาการปรับปรุงอัตราค่าครองชีพและเงินเพิ่มต่าง ๆ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15802 | ขออนุมัติงบกลางปี 2561 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่และภารกิจในระยะเริ่มแรกของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ | อื่นๆ | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๘๙,๙๔๗,๘๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่และภารกิจในระยะเริ่มแรกของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยรายละเอียดของแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15803 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาสะพานเครื่องหนุนมั่น) | กห | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๗๘,๗๐๗,๓๐๐ บาท ให้กองทัพบกเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาสะพานเครื่องหนุนมั่น (Modular Fast Bridge) สนับสนุนหน่วยทหารช่าง จำนวน ๒ ชุด ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15804 | การดำเนินโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 (เรื่อง สรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ครั้งที่ 2/2560) | กษ | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินงานโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง สรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐) ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ โครงการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อรับซื้อยางจากเกษตรกรชาวสวนยางและนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใช้ในหน่วยงานภาครัฐ เห็นควรให้ใช้เงินกองทุนพัฒนายางพารา วงเงิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อดำเนินการหมุนเวียนรับซื้อยางตามมติคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทยไปก่อน หากไม่เพียงพอให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในกรอบวงเงิน ๒,๐๐๐ ล้านบาท (รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๓,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อใช้หมุนเวียนรับซื้อยางพาราภายใต้กรอบวงเงินโครงการฯ จำนวน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท) โดยให้จัดทำข้อมูลความต้องการใช้ยางพารา แผนการรับซื้อและจำหน่ายยางพารา ของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จำแนกข้อมูลเป็นรายเดือน และข้อมูลอื่น ๆ เพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอน สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโครงการ วงเงินไม่เกิน ๑๕๐ ล้านบาท เห็นควรให้ กยท. จัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายการขายยางมาหมุนเวียนเพื่อรับซื้อยางพาราตามโครงการฯ เห็นควรให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังต่อไป ๑.๒ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยาง (วงเงินสินเชื่อ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท) ประกอบด้วย ค่าเบี้ยประกันภัย ในอัตราร้อยละ ๐.๓๖ ต่อปี จำนวน ๓๖ ล้านบาทต่อปี ระยะเวลา ๓ ปี รวมเป็นเงิน ๑๐๘ ล้านบาท เห็นควรให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามรายจ่ายที่จะเกิดขึ้น สำหรับค่าบริหารโครงการฯ อัตราร้อยละ ๐.๑๔ ต่อปี จำนวน ๑๔ ล้านบาทต่อปี ระยะเวลา ๓ ปี รวมเป็นเงินไม่เกิน ๔๒ ล้านบาท เห็นควรให้ กยท. ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ๑.๓ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) (วงเงินสินเชื่อ ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท) โดยภาครัฐชดเชยดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ ๓ ต่อปี กรอบวงเงินไม่เกิน ๖๐๐ ล้านบาท เห็นควรให้ กยท. ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามรายจ่ายจริงที่จะเกิดขึ้นต่อไป โดยมอบหมายให้ธนาคารกรุงไทยเป็นที่ปรึกษาและแนะนำวิธีการคำนวณการชดเชยดอกเบี้ย โดยไม่รวมรายจ่ายชำระต้นเงินกู้และไม่รวมถึงการชดเชยความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับค่าบริหารโครงการฯ วงเงินไม่เกิน ๒ ล้านบาท เห็นควรให้ กยท. ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กยท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทั้ง ๓ โครงการ ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ และเป็นไปตามแนวทางของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๙ (เรื่อง โครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ) ที่ให้กำหนดมาตรการป้องกันและกำกับการดำเนินงานทุกขั้นตอนให้มีความโปร่งใส ไม่ให้เกิดการทุจริต รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรติดตามผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการดูดซับปริมาณยางออกจากระบบและด้านการรักษาเสถียรภาพราคายาง เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวบรรลุตามวัตถุประสงค์ได้อย่างแท้จริง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15805 | ขออนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการวางเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์) | กค | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม ๒๕๖๑ จำนวน ๒๕๗,๕๓๑,๖๐๐ บาท เพื่อให้กรมบัญชีกลางใช้ในการดำเนินการวางเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิสก์ (Electronic Data Capture : EDC) ภายใต้โครงการจัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้มีสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี ๒๕๖๐ เพิ่มเติมอีก ๒๐,๐๐๐ เครื่อง (ร้านธงฟ้าประชารัฐ จำนวน ๑๐,๐๐๐ เครื่อง และร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน ๑๐,๐๐๐ เครื่อง) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและข้อสังเกตของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรดำเนินการให้เป็นไปตามแผนเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประเมินความต้องการใช้เครื่อง EDC ทั้งหมดให้ชัดเจน โดยคำนึงถึงความเพียงพอในการรองรับการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายภายใต้โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และความต้องการใช้เงินงบประมาณเพื่อดำเนินการดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15806 | รายงานผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 54 | กห | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ ๕๔ ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๖ มีนาคม ๒๕๖๑ ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ดาโต๊ะ สรี ฮิซัมมูดิน บิน ตุน ฮุสเซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย เป็นประธานร่วม ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ ๕๔ ที่ประชุมได้ชื่นชมผลสำเร็จของการปฏิบัติงานที่ผ่านมา เช่น การแลกเปลี่ยนการข่าวและการปฏิบัติการร่วมด้านการควบคุมความมั่นคงชายแดน การวางแผนสำหรับการฝึกร่วม/ผสม ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ ๓ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงบริเวณชายแดน รวมทั้งได้หารือความร่วมมือในด้านอื่น ๆ เช่น เพิ่มการแลกเปลี่ยนข่าว การพัฒนาด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมตามแนวชายแดน เร่งสรุปการจัดทำระเบียบปฏิบัติประจำ และหลักนิยมเกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ และแสวงหาความเป็นไปได้ในการเชิญประเทศอาเซียนและมิตรประเทศเข้าร่วมการฝึกในฐานะผู้สังเกตการณ์หรือผู้เข้าร่วม ๒. การหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย โดยฝ่ายไทยได้แสดงความยินดีต่อความสำเร็จในการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกัน รวมทั้งความตกลงในการก่อสร้างรั้วเดี่ยวบริเวณชายแดน ขณะที่ฝ่ายมาเลเซียได้ชื่นชมการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีและความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยสันติวิธี และพร้อมที่จะกระชับความสัมพันธ์เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะทางด้าน Cyber Security ตลอดจนการปล่อยข่าวบิดเบือนความจริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกันได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการเปิด Hotline ระหว่างเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง และฝ่ายมาเลเซียเสนอให้ไทยส่งผู้แทนเข้าแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงานร่วมกัน รวมทั้งยังเห็นพ้องกันว่าการแก้ไขปัญหาโรฮีนจาจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากนานาประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15807 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายณรงค์ ศศิธร) | กต | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายณรงค์ ศศิธร ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15808 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2561) | นร | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๑ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖/๒๕๖๑ วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๑ และครั้งที่ ๑๗/๒๕๖๑ วันศุกร์ที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๑ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับข้อสังเกตไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15809 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 เรื่อง แนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ (กรณีคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย) | กค | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การดำเนินงานของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เป็นไปด้วยความรวดเร็ว เหมาะสม มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับยางพาราได้อย่างเท่าทันสถานการณ์ จึงสมควรที่จะมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์เกี่ยวข้องกับยางพาราเป็นอย่างดีเข้าร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการ กยท. ด้วย เพื่อร่วมพิจารณาและตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยบุคคลดังกล่าวควรเป็นกรรมการโดยตำแหน่งตามนัยมาตรา ๑๗ (๒) แห่งพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘ ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง แนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ) ข้อ ๘ ที่กำหนดให้กรณีกฎหมายจัดตั้งรัฐวิสาหกิจกำหนดให้มีผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ เป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ให้หน่วยงานนั้นแต่งตั้งจากบุคคลที่อยู่ในหน่วยงานเท่านั้น และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15810 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการจัดทำความร่วมมือในกรอบความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) และเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area : AFTA) ให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว รวมทั้งให้เร่งพิจารณาการเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกในความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership : TPP) ให้ชัดเจนโดยเร็วด้วย ๑.๒ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการกำหนดแนวทางพัฒนาพื้นที่และการดำเนินกิจการต่าง ๆ ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยให้พิจารณาความเหมาะสมด้านการลงทุน ทั้งการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน และการลงทุนของภาคเอกชนฝ่ายเดียว รวมทั้งการนำเรื่องที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐไปดำเนินการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษด้วย เช่น เรื่อง Smart Farmer เป็นต้น ทั้งนี้ ให้พิจารณากำหนดรายละเอียดและหลักเกณฑ์ในการดำเนินการ รวมทั้งผลประโยชน์ที่ภาครัฐและภาคเอกชนจะได้รับให้ชัดเจน และให้กระทรวงอุตสาหกรรมนำเรื่องนี้เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกในครั้งต่อไปด้วย ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) เป็นผู้รับผิดชอบหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำสรุปผลงานต่าง ๆ ของรัฐบาลที่สำคัญในรูปแบบวีดิทัศน์เพื่อใช้ในการสร้างการรับรู้แก่สาธารณชนให้ถูกต้องต่อไป โดยให้เร่งจัดทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ในการดำเนินการดังกล่าวให้หารือรายละเอียดและประสานการดำเนินงานกับรองนายกรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ ด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน รวมถึงกองทุนออมทรัพย์อื่น ๆ ที่ประสบปัญหาทางการเงินให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหรือต้องนำมาตรการทางกฎหมายมาใช้บังคับให้หารือรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ก่อนดำเนินการต่อไปด้วย ๒.๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ๒๐๑๘ ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๑ นั้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ๒.๓.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษารายละเอียดของรูปแบบการจัดการศึกษาของออสเตรเลียเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการจัดการศึกษาของไทย เช่น การจัดการศึกษาทางเลือกโดยการศึกษาอยู่กับครอบครัว (Home School) การกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้เพื่อใช้เทียบระดับกับการศึกษาปกติ การคัดแยกผู้เรียนตามความถนัดที่มีอยู่ตั้งแต่เริ่มต้นศึกษา เป็นต้น เพื่อให้สามารถสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาให้เหมาะสมสอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียนต่อไป ๒.๓.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษารายละเอียดของการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นของออสเตรเลีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่ส่วนราชการในระดับท้องถิ่น เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาด้านการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นของไทยต่อไป ๒.๓.๓ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษารายละเอียดของรูปแบบการตั้งด่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ยานพาหนะของออสเตรเลียซึ่งมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีความรวดเร็ว และประชาชนให้ความร่วมมือในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์เป็นอย่างดี เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาปรับปรุงกระบวนการดำเนินการดังกล่าวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ๒.๓.๔ ให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงแรงงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดูแลคนไทยที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย คนไทยที่ประกอบการร้านอาหารไทย และแรงงานไทยเป็นไปอย่างเหมาะสมและตอบสนองต่อข้อเรียกร้องต่าง ๆ ได้ ๒.๓.๕ ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของออสเตรเลียเพื่อจัดทำความร่วมมือด้านการค้าสินค้าทางการเกษตรให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เช่น การขายข้าวพันธุ์ กข ๔๓ เป็นต้น ๒.๓.๖ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทางการบริหารจัดการของออสเตรเลียบริเวณอ่าวซิดนีย์ (Sydney Harbour) ที่มีการจัดระเบียบพื้นที่ริมอ่าวอย่างสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย น้ำในแม่น้ำไม่เน่าเสีย รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยว เช่น โรงอุปรากรซิดนีย์ (Sydney Opera House) และสะพานซิดนีย์ฮาเบอร์ (Sydney Harbour Bridge) ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากร้านอาหารในบริเวณดังกล่าว เพื่อนำมาพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสมกับโครงการต่าง ๆ ของรัฐ เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นต้น ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ร่วมกันอย่างเหมาะสมด้วย ๒.๔ เพื่อให้การดำเนินโครงการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับธุรกิจหลัก (SAP) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเป็นประโยชน์สูงสุด ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) เร่งนำเรื่องนี้เสนอคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างพิจารณาโดยด่วน ก่อนดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15811 | การเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐโคลอมเบีย ณ จังหวัดเชียงราย และการแต่งตั้งนางสาวกาวิดา อัยศิริ ให้ดำรงตำแหน่ง กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐโคลอมเบีย ณ จังหวัดเชียงราย (กระทรวงการต่างประเทศ) | กต | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐโคลอมเบีย ณ จังหวัดเชียงราย โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ และแต่งตั้ง นางสาวกาวิดา อัยศิริ ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐโคลอมเบีย ณ จังหวัดเชียงราย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15812 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านค้อ อำเภอโพนสวรรค์ ตำบลนาหว้า ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า และตำบลกุตาไก้ ตำบลปลาปาก อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านค้อ อำเภอโพนสวรรค์ ตำบลนาหว้า ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า และตำบลกุตาไก้ ตำบลปลาปาก อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านค้อ อำเภอโพนสวรรค์ ตำบลนาหว้า ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า และตำบลกุตาไก้ ตำบลปลาปาก อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรติดตามดูแลให้เกษตรกรสามารถรักษาที่ดินที่ได้รับให้เป็นแหล่งประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของตลาด รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการพัฒนาในพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15813 | รายงานสรุปข้อมูล ข้อเสนอแนะขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ [คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)] ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | นร05 | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานสรุปข้อมูล ข้อเสนอแนะขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ [คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)] ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการตรวจสอบของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีล่าสุด (๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑) ปรากฏว่ามีเรื่องต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมจำนวน ๑๔ เรื่อง โดยเป็นเรื่องของหน่วยงานที่รับผิดชอบการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน ๔ เรื่อง เช่น มาตรการและข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต และข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เป็นต้น และของ กสม. จำนวน ๑๐ เรื่อง เช่น รายงานการตรวจสอบที่มีข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหา (เรื่อง สิทธิพลเมือง อันเกี่ยวเนื่องกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น กรณีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงมีคำสั่งให้ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย (We Move) ยุติการจัดเวทีนำเสนอและรับฟังความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ และผลการพิจารณาคำร้อง (กรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายทุนผู้เลี้ยงหอยแครงกับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านอ่าวปัตตานี) เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ดังกล่าวในภาพรวมค่อนข้างมีความล่าช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนการพิจารณาของส่วนราชการต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ และแจ้งผลการพิจารณาไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จ และแจ้งผลการดำเนินการให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วนภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15814 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดสุขลักษณะการจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน พ.ศ. .... | สธ | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดสุขลักษณะการจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรการในการควบคุมหรือกำกับดูแลการจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชนให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสุขภาพและอนามัยของประชาชน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับการบริหารจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน การแก้ไขข้อกำหนดบางประการในร่างกฎกระทรวง และการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15815 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการอ้างบทอาศัยอำนาจ และการกำหนดตำแหน่งของผู้มีสิทธิเบิกจ่ายเงินค่ารับรองเท่าที่จ่ายจริง ยังไม่สอดคล้องกับนิยามคำว่า “ข้าราชการ” ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณในส่วนของภาระงบประมาณที่อาจเพิ่มขึ้นให้ส่วนราชการพิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้ว ไปพิจารณาดำเนินการ และรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับอัตราค่าเช่าที่พักในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาค่าเช่าที่พักท้องถิ่นในปัจจุบัน การปรับอัตราค่าเช่าที่พักสำหรับบางประเทศ และการเบิกจ่ายค่าเช่าที่พักแบบการใช้บริการห้องพักชั่วคราว (Day-Use) ระหว่างพักรอเที่ยวบินและการขอเข้าที่พักก่อนกำหนด (Early Check-in) ไปพิจารณาความเหมาะสมต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15816 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าเช่ารถยนต์พร้อมคนขับเพื่อใช้ในการปฏิบัติราชการ (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) | ตผ | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐนมตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเช่ารถยนต์พร้อมคนขับ จำนวน ๘๖ คัน ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-พ.ศ. ๒๕๖๖ ระยะเวลา ๖๐ เดือน (มิถุนายน ๒๕๖๑-พฤษภาคม ๒๕๖๖) วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑๕๗,๙๓๕,๐๐๐ บาท ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นกรณีเฉพาะราย ตามอัตราค่าเช่ารถยนต์และค่าจ้างพนักงานขับรถ ที่กระทรวงการคลังกำหนด ประกอบด้วย (๑) ค่าเช่ารถโดยสารขนาด ๑๒ ที่นั่ง (ดีเซล) พร้อมคนขับ จำนวน ๖๑ คัน ระยะเวลา ๖๐ เดือน (มิถุนายน ๒๕๖๑-พฤษภาคม ๒๕๖๖) เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๒๑,๖๙๕,๐๐๐ บาท และ (๒) ค่าเช่ารถบรรทุก (ดีเซล) ขนาด ๑ ตัน แบบดับเบิ้ลแคบ พร้อมคนขับ จำนวน ๒๕ คัน ระยะเวลา ๖๐ เดือน (มิถุนายน ๒๕๖๑-พฤษภาคม ๒๕๖๖) เป็นเงินทั้งสิ้น ๓๖,๒๔๐,๐๐๐ บาท ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายในการเช่ารถยนต์พร้อมคนขับในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ระยะเวลา ๔ เดือน (มิถุนายน-กันยายน ๒๕๖๑) ให้ใช้จ่ายจากเงินรายได้ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตามนัยมาตรา ๗๐ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15817 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จากตำรายาแผนไทยของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ และค่าธรรมเนียมคำขออนุญาต คำขอขึ้นทะเบียน และคำขอจดทะเบียน เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15818 | ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | คค | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ ๓๖๐,๐๐๐ บาท (ตามมติคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๑๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ และครั้งที่ ๑/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๑) รวมทั้งค่าตอบแทนพิเศษประจำปีและสิทธิประโยชน์อื่นที่ผู้รับจ้างจะได้รับตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่กำหนดในสัญญาจ้าง แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ และให้นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ลาออกจากการเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15819 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ครบกำหนดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 | กค | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (R-bill) ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๑ จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้าบบาท ประกอบด้วย (๑) การกู้เงินระยะสั้น โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) อายุ ๑ เดือน จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ประมูลเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๑ เบิกเงินกู้ในวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๑ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๕๐ ต่อปี และ (๒) การออก R-Bill รุ่นอายุ ๑๘๒ วัน จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ประมูลเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๑ โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ ๑.๓๓๐๐๗ ต่อปี ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการจัดส่งประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับผลการกู้เงินดังกล่าว จำนวน ๑ ฉบับ ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15820 | สรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่ภาคกลาง | กค | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่ภาคกลาง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การเร่งรัดดำเนินการเขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรี โดยให้กรมธนารักษ์เร่งรัดดำเนินการเปิดประมูลให้เอกชนเช่าที่ดิน กรมธนารักษ์ได้เปิดประมูลสรรหาผู้ลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่มีความพร้อมตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ให้ความเห็นชอบแล้ว รวม ๓ พื้นที่ ประกอบด้วย จังหวัดตาก กาญจนบุรี และนครพนม โดยกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการสรรหาและคัดเลือกผู้พัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษฯ แล้ว ๑.๒ การขอรับการสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์แปรรูปอาหารทะเลครบวงจรและจำหน่ายอาหารทะเล และขอยกเว้นระเบียบกรมธนารักษ์ในการเช่าที่ราชพัสดุ โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาลดค่าเช่าตามความเหมาะสม ซึ่งเมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วปรากฏว่า อาคารตลาดปลาและอาคารระบบบำบัดน้ำเสียปลูกสร้างบนที่ดินขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม ดังนั้น ในกรณีดังกล่าวมิได้เป็นการเช่าที่ราชพัสดุแต่อย่างใด ๒. ให้กระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) หารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเร่งรัดการพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมในการช่วยเหลือผู้ประกอบการในศูนย์แปรรูปอาหารทะเลครบวงจรและจำหน่ายอาหารทะเล จังหวัดสมุทรสงคราม โดยดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
.....